ตอนที่แล้วอารัมภบท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอารัมภบท (3)

อารัมภบท (2)


หลังจากนั้นมาการกลั่นแกล้งก็ได้สิ้นสุดลง แต่ดีเร็กก็ยังไม่สามารถเข้าสังคมได้เหมือนเดิม เขาจะหาเพื่อนได้อย่างไรในเมื่อเขามีชีวิตส่วนตัวที่น่าอับอายขนาดนี้?

เขาต้องซ่อนรอยฟกช้ำด้วยเสื้อแขนยาวและเขาก็ไม่มีอะไรมาแก้ตัวให้กับรอยม่วงที่ขอบตาของเขาเมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อนร่วมชั้นและอาจารย์ของเขาแกล้งทำเป็นไม่รู้เกี่ยวกับการบูลลี่ที่เขาโดน เขาจึงแสร้งทำเป็นเชื่อว่าเขานั้นเป็นคนโกหกเก่ง

แม้ว่ามันจะเจ็บปวดแต่เขาก็สามารถรับมือกับมันได้ แถมดีเร็กยังมีน้องชายของเขาที่มาร่วมแบ่งปันความเจ็บปวดนี้ด้วยกัน คาร์ลคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา คาร์ลเป็นทั้งครอบครัว เป็นทั้งเพื่อน และก็เป็นคู่หูของเขา เขาจึงเป็นเหมือนกับโลกทั้งใบของดีเร็ก

แต่เมื่อดีเร็กเริ่มโตขึ้นเขาก็เริ่มที่จะแอบชอบผู้หญิงในโรงเรียนของเขาและมีความรัก มันจึงเป็นอีกครั้งที่ดีเร็กรู้สึกทำอะไรไม่ถูก

เขาไม่สามารถบอกใครเกี่ยวกับปัญหาของเขาได้ และเขาก็ไม่ให้ยอมให้คนอื่นมาสนิทกับเขาด้วยไม่อย่างนั้นเขาจะต้องสร้างเหตุผลที่ไม่สามารถพาเพื่อนไปบ้านได้ นับประสาอะไรกับผู้หญิงที่เขาชอบ

ดีเร็กถูกทรมานด้วยความคิดที่โหดร้ายเช่นนี้ บ่อยครั้งที่เขาถามสวรรค์ว่าทำไมสิ่งที่คนอื่นมีมันถึงเป็นเพียงความฝันที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขา

จากเนื่องจากฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านความแค้นของดีเร็กก็เติบโตขึ้นอย่างไม่ลดละ เขาเริ่มมีปัญหาในการนอนหลับตอนกลางคืน เขามักจะคิดถึงความรักที่แสนโรแมนติกเหล่านั้น

ดีเร็กรู้ว่าเขาแตกต่างจากพวกเขา ข้อบกพร่องของเขาไม่ใช่ที่เป็นคนขี้อายหรือเพราะมีสิว ปัญหาของเขาไม่สามารถรักษาได้เพราะมันมีสาเหตุมาจากชื่อและนามสกุลที่เขาใช้ ซึ่งมันมาจาก เอซิโอ แมคคอย พ่อของเขาที่ไม่ต่างอะไรไปจากขยะ

ดีเร็กเริ่มมีความคิดที่จะวางแผนกำจัดพ่อของเขาแม้ว่าจะต้องฆ่าเขาก็ตาม ในเวลากลางคืนเขาจะสร้างสถานการณ์ที่ซับซ้อนบางอย่างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันเพื่อที่จะทำให้พ่อของเขาจะได้ทรมานอย่างยาวนาน

ความตายนั้นมันง่ายเกินไป ดีเร็กต้องการให้เอซิโอต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนอย่างที่เขาต้องเผชิญในตลอดหลายปีที่ผ่านมา

แต่เมื่อตอนเช้ามาถึงเขาก็มักจะรู้สึกว่านั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาแต่มันก็เป็นสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุด

ดีเร็กขาดวิธีการและไม่มีความโหดเหี้ยมมากพอที่จะกำจัดเอซิโอ ไม่ว่าเขาจะเกลียดเอซิโอมากแค่ไหน เอซิโอก็ยังเป็นพ่อของเขาอยู่ดี และดีเร็กก็เป็นแค่วัยรุ่นที่มีอารมณ์แปรปรวนเท่านั้น

ฆ่าเอซิโอ? แล้วยังไงต่อ? ใช้ชีวิตต่อไปด้วยความรู้สึกผิด? หนีออกจากบ้านเพื่อหลบหนีการถูกจับ? แล้วเขาจะเอาเงินจากไหนมาใช้?

การฆ่าเอซิโอจะหมายถึงการละทิ้งคาร์ลไปชั่วนิรันดร์ และทำลายโอกาสที่เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะมีความสุขในอนาคต

ดังนั้นทุก ๆ เช้าดีเร็กจะกลืนแผนล่าสุดของเขาลงท้องไปพร้อมกับโจ๊กและใช้ชีวิตต่อไปตามปกติ โอกาสที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวของเขาก็คือการเรียนอย่างบ้าคลั่ง เพื่อให้ได้รับทุนการศึกษาและหนีออกจากนรกนี้โดยเร็วที่สุด

เวลาผ่านไปราวกับกะพริบตา มันเป็นช่วงฤดูร้อนก่อนที่จะถึงปีแรกในชั้นมัธยมปลายของดีเร็ก แม้ว่าอากาศจะร้อนแต่หัวใจของเขาก็เย็นยะเยือกเหมือนกับน้ำแข็ง

ดีเร็กได้เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นั่นรวมถึงศิลปะการต่อสู้และกล้ามเนื้อของเขาด้วย มันทำให้เขาดูร้ายกาจมากขึ้น

เอซิโอตระหนักถึงสิ่งนั้นและกลายเป็นขี้ขลาด เขาจึงตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงการทุบตีดีเร็กและหันมาหาเป้าหมายใหม่ของเขานั่นก็คือคาร์ล

ดีเร็กได้พยายามยืนหยัดในฐานะพี่ชายของเขาแล้ว แต่ผลลัพธ์ก็คือเอซิโอได้ไปซื้อกระบองสั้นมาจากกองทัพท้องถิ่น จากนั้นเอซิโอก็เริ่มทุบตีดีเร็กด้วยไม้กระบองแทนมือเปล่าของเขา

เขาช่วยคาร์ลจากความทุกข์ทรมานจากชะตากรรมเดียวกันด้วยการอ้อนวอนและร้องไห้แต่มันก็ไม่ได้ผล สิ่งที่เดียวที่ได้ผลก็คือการทำให้มีเสียงอึกทึกครึกโครมจนทำให้เพื่อนบ้านของพวกเขาได้ยิน

ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เอซิโอเอาความโกรธมาลงหนึ่งในพวกเขา ดีเร็กก็จะทำเพียงได้เพียงแค่มองดูน้องชายของเขาโดนทุบครั้งแล้วครั้งเล่า

ในเช้าวันหนึ่งเอซิโอได้รับค่าคอมมิชชั่นครั้งใหญ่ในรอบหลายปี เขาสวมสูทที่ดีที่สุดของเขาแม้ว่ามันอากาศจะร้อนก็ตาม และดีเร็กก็ช่วยเตรียมกระเป๋าเอกสารและแล็ปท็อปให้เขา

เอซิโอนั้นรีบร้อนมากเพราะเขาไม่ต้องการให้คู่แข่งของเขาฉกวาฬตัวนี้ไป และไม่ต้องเดาเลยอาชีพของเขานั้นก็คือนายหน้า!

ดีเร็กรีบไปที่ประตูที่เอซิโอรออยู่และช่วยเขาจัดกระเป๋าแล็ปท็อป

เอซิโอรีบวิ่งไปที่ลิฟต์และกดปุ่มราวกับคนบ้าแต่ปุ่มก็ยังคงเป็นสีแดง

เขาสาปแช่งคอนโดของเขา สาปแช่งผู้จัดคอนโด และสาปแช่งให้กับความโชคร้ายของเขา จากนั้นเอซิโอก็รีบวิ่งไปที่บันได

ในตอนนั้นเองที่ดีเร็กสังเกตเห็นอะไรบางอย่างในขณะที่เขาหันหน้าไปมองที่พ่อของเขา ดีเร็กเห็นว่ามีแสงสว่างสะท้อนบนพื้นห้องโถงมากกว่าปกติ

เอซิโอพึ่งจะเดินผ่านหน้าเขาไปในตอนที่ดีเร็กตระหนักได้ว่าแม่บ้านพึ่งจะทำความสะอาดบันไดไปแต่พวกเขาลืมวางป้ายเตือนว่าพื้นเปียก

ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา เอซิโอรีบก้าวลงบันไดซึ่งเขาได้ลงน้ำหนักทั้งหมดไปที่เท้าหน้าและทันใดนั้นเท้าของเขาก็ลื่น

ดีเร็กสามารถเตือนเขาได้ เขาสามารถขยับแขนเพื่อมากันไว้ไม่ให้เขาลื่นลงไปได้ แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่เฉย ๆ

เอซิโอลื่นลงจากบนบันไดแล้วกระเด้งไปเรื่อย ๆ ตามขอบของบันไดจากนั้นก็ร่วงลงไปถึงชั้นล่าง กระดูกตามร่างกายของเขาแตกหัก ในขณะที่แขนขาทั้งหมดของเขานั้นหักงออยู่ในมุมที่ดูผิดธรรมชาติ

เหมือนกับวัยรุ่นทุก ๆ คนดีเร็กเองก็มีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือของเขา ดังนั้นเขาจึงถ่ายรูปเก็บไว้หลายรูปเพื่อเป็นหลักฐานว่าที่พื้นมันเปียกจริง ๆ และมันก็ไม่มีป้ายเตือนอะไรเลย

ตอนนี้ในสมองของเขากำลังวางแผนจ้างทนายความมือดีที่ดีที่สุดที่เขาสามารถหาได้ และฟ้องผู้จัดการคอนโดที่รับผิดชอบคอนโดของพวกเขา

หลังจากนั้นก็เขาเดินลงบันไดไปอย่างระมัดระวังเพื่อยืนยันการตายของเอซิโอ ดีเร็กพบว่าเขายังมีชีวิตอยู่แต่เขาไม่แม้แต่จะสามารถส่งเสียงโอดโอยหรือร้องขอความช่วยเหลือได้ ดวงตาของเขาจับจ้องมาที่ดีเร็กและขอร้องความเมตตาจากเขา

ดีเร็กแสยะยิ้มให้เขาและพูดว่า: “แกคิดว่าฉันโง่งั้นหรอที่ไม่เคยเรียนรู้อะไรจากแกเลย? ฉันคิดว่าแกคิดผิดแล้วล่ะ แกเคยสอนฉันว่าอะไรนะ อ้อ อย่าผลักภาระของตัวเองให้คนอื่น! ถ้าแกต้องการอะไรก็ทำมันด้วยตัวเอง! โทรศัพท์ของแกอยู่ในกระเป๋านี่ หยิบมันออกมาแล้วโทรหา 911”

“ฉันเป็นแค่ลูกชายที่ไม่ได้เรื่อง ดังนั้นฉันจึงไม่อยากไปจุ้นเรื่องของคุณหรอกนะคุณพ่อ”

ดวงตาของเอซิโอเต็มไปด้วยความโมโหและความเกลียดชัง แต่มันก็เพียงแค่ครู่เดียวก่อนที่ศีรษะของเขาพับลงไปและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความว่างเปล่า

ดีเร็กแทบจะกลั้นเสียงหัวเราะของเขาเอาไว้ไม่อยู่ แต่เขาก็ต้องระงับมันไว้ก่อน จากนั้นเขาจึงเริ่มตะโกนเพื่อขอความช่วยเหลือ เพื่อสร้างภาพลูกชายที่กำลังขวัญหนีดีฝ่อ

และเหมือนก็เหมือนกับที่ผ่านมา แม่ของดีเร็กหมกมุ่นอยู่แค่กับปัญหาของเธอเธอรำคาญที่จะมองหาทนายความเพื่อมาฟ้องคอนโด เธอได้ทิ้งทุกอย่างไว้ให้ดีเร็กจัดการ

ฆ่านกสามตัวด้วยหินเพียงก้อนเดียว หลังจากทำการค้นคว้าอย่างระมัดระวัง เขาก็ได้ติดต่อและจ้างทนายความที่ดีที่สุดที่พวกเขาจ้างได้ เพื่อที่ดีเร็กจะได้เป็นลูกค้าของทนายแทนที่จะเป็นแม่ของเขา

เขาบอกทนายทุกอย่างที่เกี่ยวกับพ่อของเขาทั้งการใช้ความรุนแรงในครอบครัวและเรื่องอื่น ๆ และบอกถึงข้อกำหนดที่ต้องทำเพื่อให้ได้รับเงินที่จะได้มาแบ่งกันสามคนแม่ลูก

ทั้งดีเร็กและคาร์ลมีความหนักแน่นมากในจุดยืนของพวกเขา พวกเขานั้นต้องการให้ทนายความเริ่มกระบวนการเพื่อให้พวกเขาได้รับมรดก และด้วยเงินจากการชดเชยและจากมรดกของพวกเขา พวกเขาก็ควรจะมีเงินเพียงพอที่จะให้พวกเขาสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้จนกว่าดีเร็กจะสามารถหาเงินมาเลี้ยงดูพวกเขาทั้งคู่ได้

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของพวกเขา ในตอนแรกนั้นพวกเขาได้รับมรดก และหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้รับอิสรภาพ และในท้ายที่สุดพวกเขาก็ย้ายออกจากที่อยู่ของแม่ได้

ไม่ถึงเดือนต่อมาพวกเขาก็ได้รับข้อตกลงอย่างใจกว้างจากผู้จัดการอาคารแห่งหนึ่ง พวกเขาใช้ที่แห่งนี้เพื่อปักหลักอยู่อาศัยและเพื่อวางแผนการใช้ชีวิตในอนาคตของพวกเขา

ในช่วงหลายปีที่ต่อมาพวกนักเลงก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาอีกต่อไป ตอนนี้ดีเร็กและคาร์ลได้ฝึกศิลปะการต่อสู้และพวกเขาก็คอยระวังหลังให้กันและกัน ตอนนี้ฝันร้ายของพวกเขาก็ได้จบลงแล้ว พวกเขามีโอกาสได้มีเพื่อนและมีแฟน

แต่พวกเขาก็ต้องเจอกับความผิดหวังอีกครั้ง เนื่องจากคนที่พวกเขาเรียกว่าเพื่อนนั้นกลายเป็นเหล่าคนที่ต้องการใช้บ้านของพวกเขาเป็นที่จัดงานปาร์ตี้ เนื่องจากบ้านของเขาไม่มีผู้ปกครองอยู่

นอกจากนี้พวกเขายังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการหาว่าการเป็นวัยรุ่นปกติควรจะเป็นอย่างไร ในขณะที่เพื่อนของพวกเขาดูเหมือนจะสนใจและสนุกไปกับการโดดเรียน ส่วนพวกเขานั้นกลับโฟกัสไปที่การเรียนและการประหยัดเงินให้ได้มากที่สุด

ดีเร็กและคาร์ลจะใช้เวลาช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์และช่วงปิดเทอมเพื่อทำงานพาร์ทไทม์เพื่อชะลอการพลาญเงินในบัญชีของพวกเขา เนื่องจากพวกเขาไม่ได้จนแต่ก็ไม่รวยเช่นกัน

พวกเขารู้ว่าพวกเขาควรจะประหยัดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในเผื่อมีเหตุจำเป็น แต่ถึงแม้จะกล่าวมาอย่างนั้นแต่พวกเขาก็มีชีวิตที่ดี

ดีเร็กได้รับทุนการศึกษาและเรียนจบปริญญาตรีสาขาเคมีตามด้วยปริญญาโทสาขาชีวเคมี คาร์ลก็ทำได้ดีเช่นกันเรียนจบปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์และในตอนนี้เขาก็กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโท อีกทั้งตอนนี้เขาก็ยังมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับแฟนของเขา

แม้ว่าเขาจะมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องชายของเขา แต่ในขณะเดียวกันดีเร็กก็รู้สึกเจ็บปวด เขามักจะไม่เหมาะกับการเข้าสังคม และเขาก็ไม่เคยได้คบกับใครเลยแม้แต่ในตอนที่อยู่ในมหาลัย

ดีเร็กไม่ได้มีปัญหาในการพูดคุยกับผู้หญิง ปัญหาของเขาคือเขาเป็นคนขี้จู้จี้จุกจิกและจบลงด้วยการไม่ไว้ใจกัน เขาเคยแอบชอบอยู่หลายคนแต่ก็ไม่เคยตกหลุมรักใครจริง ๆ ซักคนเลย

ในตอนแรกเขาโทษความโชคร้ายของเขาที่เขามักจะได้พบกับผู้หญิงที่มีสมาธิสั้นหรือผู้หญิงงี่เง่า ๆ อยู่เสมอ แต่หลังจากที่เขาได้พบกับผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่ง เขาก็ได้เปลี่ยนมาโทษอดีตอันมืดมนของเขา

แต่เมื่อเขามองไปที่ความสัมพันธ์ของคาร์ลที่ดูมีความสุขดี เขาก็ได้แต่ต้องโทษตัวเองเท่านั้นไม่ใช่ไปโทษความโชคร้ายหรือโทษอดีตของเขา ในขณะที่คาร์ลได้ผ่านเรื่องราวเลวร้ายต่าง ๆ มาเหมือนกันกับเขา แต่คาร์ลก็เข้มแข็งและใสซื่อกว่าดีเร็กมาก

ดีเร็กกลัวที่จะต้องเจ็บปวดอีกครั้งเขาจึงไม่กล้าที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ของเขากับใคร และนั่นเป็นสิ่งที่เขายังไม่สามารถก้าวผ่านไปได้

เป็นครั้งแรกที่ดีเร็กได้งานที่มีค่าตอบแทนที่ดี มันเป็นงานกะกลางคืนที่แผนก QA ในบริษัทเคมีขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

คาร์ลบอกกับดีเร็กว่าเขาจะแต่งงานกับแฟนสาวของเขาทันทีที่เขาเรียนจบปริญญาโท ดังนั้นดีเร็กจึงต้องการเงินเพราะเขามีเวลาเพียงแค่สองปีที่จะช่วยให้น้องชายของเขามีงานแต่งงานที่ดี

ดีเร็กไม่ชอบงานในปัจจุบันของเขา แต่มันก็เป็นวิธีเดียวที่จะได้เริ่มต้นอาชีพการทำงานที่ตรงกับหลักสูตรที่เขาเรียนมา นอกจากนี้เขายังได้รับค่าตอบแทนที่ดี จากนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะใช้ประกันสุขภาพของบริษัทเพื่อไปขอคำปรึกษาด้านปัญหาสุขภาพจิต

เขารู้ว่าเขามีปัญหาและก็ต้องหาวิธีแก้ไขมัน ดีเร็กได้ปรึกษาแพทย์หลายคนก่อนที่เขาจะเจอคนที่เขาต้องการปรึกษาด้วย และหลังจากผ่านไปหลายเดือนเขาก็รู้สึกว่าเริ่มเห็นผลบางอย่าง

อนิจจา ความสุขเช่นนี้ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป

---

ดีเร็ก - ตรีสาขาเคมี โทสาขาชีวเคมี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด