บทที่ 66: ลู่เมี่ยนเอ๋อตกตะลึง
“ข้าไม่ได้ตามเจ้า ข้ามาที่นี่เพราะผลไม้แถวนี้ลูกใหญ่กว่า เจ้าคิดมากไปเอง”
หูเจียวเจียวหยิบส้มโอขนาดเท่าลูกฟุตบอลมาถือไว้ข้างหน้าด้วยมือทั้ง 2 ข้างเพื่อพิสูจน์คำพูดตัวเอง
"เห็นชัด ๆ ว่าเจ้าตามมา! เจ้า..." หู่จิงโกรธจัดและกำลังจะบ่นจิ้งจอกสาวต่อ แต่ลู่เมี่ยนเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ จับแขนนางเพื่อห้ามปรามและส่ายหัวเบา ๆ
“หู่จิง ช่างเถอะ เราไปเก็บตรงนั้นแทนก็ได้”
ปกติแล้วกวางสาวมีบุคลิกที่อ่อนแอ และจะไม่ต่อสู้หรือแย่งชิงสิ่งใดกับคนอื่น
"เมี่ยนเอ๋อ เจ้ามักจะถูกนางรังแกเพราะเจ้ายอมง่ายแบบนี้แหละ" เสือสาวพูดด้วยความไม่พอใจ แต่นางก็ยังคงถือกระเป๋าหนังสัตว์ย้ายไปที่อื่นกับลู่เมี่ยนเอ๋อ
ทางด้านหูเจียวเจียวทำเป็นหันไปเก็บผลไม้ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยไม่สนใจสายตาขุ่นเคืองของหู่จิง
หลังจากที่ทั้ง 2 คนเปลี่ยนตำแหน่งแล้ว จิ้งจอกสาวก็ย้ายไปด้านข้างพร้อมกับกระเป๋าหนังสัตว์อีกครั้ง
"อะแฮ่ม ผลไม้ที่นี่ดูเหมือนจะใหญ่กว่า..."
“หูเจียวเจียว!” หู่จิงที่เห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอดรนทนไม่ไหวจนต้องคำรามออกมาด้วยความโกรธ
แม่จิ้งจอกคนนั้นต้องตั้งใจตามพวกนางมาอย่างแน่นอน!
“ทำไมล่ะ ข้าแค่เก็บผลไม้ ทำไมเจ้าดุจัง ข้าไม่ได้กัดเจ้าสักหน่อย ที่นี่มีผลไม้มากมายให้เจ้าเก็บได้เท่านั้นหรือ แล้วทำไมข้าจะมาเก็บไม่ได้?”
หูเจียวเจียวเหล่ตามองภูตเสือขี้โมโหด้วยใบหน้าใสซื่อ
หู่จิงสมกับเป็นเสือมาก ทักษะการคำรามของนางได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเยี่ยม
"เกิดอะไรขึ้น?"
เมื่อหัวหน้าเผ่าได้ยินเสียงทะเลาะกัน เขาก็เดินเข้ามาถามทันที
“ท่านผู้เฒ่า ข้าเก็บผลไม้ของข้าอยู่ดี ๆ หู่จิงกลับมาหาเรื่องตวาดข้าตลอดเลย” หูเจียวเจียวรีบบ่นให้อีกฝ่ายฟังก่อน
เธอไม่ได้โกหก ตอนนี้เธอกำลังเก็บผลไม้อย่างขยันขันแข็ง!
หู่จิงเป็นคนที่มีอคติกับจิ้งจอกสาว และมักจะดุด่าเธอเมื่อเห็นเธอเข้ามาใกล้ทั้งที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด
พอหัวหน้าเผ่าได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วมองไปที่เสือสาว "หู่จิง การเก็บผลไม้เป็นหน้าที่ของทุกคน เจ้าต้องตั้งใจเก็บให้ดี แล้วก็อย่าไปรบกวนหูเจียวเจียว"
"ข้า! …" หญิงสาวดูไม่พอใจแต่ก็หาข้อแก้ตัวไม่ได้อยู่พักหนึ่ง
"ช่างเถอะหู่จิง ไม่ต้องไปสนใจหูเจียวเจียว เราไปเก็บผลไม้ต่อกันเถอะ..." ลู่เมี่ยนเอ๋อคว้าเสื้อผ้าของเพื่อนสาวแล้วกระซิบเสียงเบา
หู่จิงหันกลับมามองเพื่อนของตัวเองทั้ง ๆ ที่รู้สึกโกรธและรู้สึกผิด "เมี่ยนเอ๋อ ข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่นะ"
นี่มันอะไรกัน ไม่เพียงเมี่ยนเอ๋อจะไม่ช่วยข้า แต่นางยังพยายามห้ามปรามข้าอยู่เรื่อย
"เอาเถอะ เรามาตั้งใจเก็บผลไม้กันดีกว่า" ผู้นำสูงสุดของเผ่าออกคำสั่ง และในที่สุดบรรยากาศโดยรอบก็กลับสู่ความเงียบสงบ เหลือเพียงเสียงของใบไม้ที่ร่วงหล่นประกอบกับเสียงผลไม้กระทบพื้น
แต่ถ้าผลไม้อยู่บนที่สูงตรงที่พวกผู้หญิงเก็บไม่ถึง ผู้ชายที่มาด้วยก็จะกลายร่างเป็นสัตว์เพื่อปีนขึ้นไปเขย่าผลไม้ให้ตกลงมาให้ผู้หญิงคอยเก็บอยู่ใต้ต้นไม้
แค่เวลาผ่านไปครึ่งวัน กลุ่มเก็บเกี่ยวก็สามารถเก็บผลไม้ได้เต็มตะกร้า
วันนี้พวกเขาเก็บส้มโอกับลูกพลับมาได้หลายร้อยลูก
แต่ถึงกระนั้น ผลไม้เหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านแต่ละครัวเรือนกินในฤดูหนาว
“เอาล่ะ วันนี้พอกันแค่นี้เถอะ ทุกคนพักผ่อนก่อน แล้วเราจะกลับไปที่เผ่าในอีกสักครู่”
ชายผู้เป็นหัวหน้าเผ่าควบคุมเวลาอย่างเคร่งครัดเพราะไม่อยากปล่อยให้ภูตหญิงตกอยู่ในอันตรายนอกเผ่า
หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของท่านผู้เฒ่าแล้ว กลุ่มผู้หญิงก็นั่งพักพลางซับเหงื่ออยู่ใต้ต้นไม้ ในขณะที่บางคนก็หยิบผลไม้ออกมากินดับกระหาย
ส่วนภูตชายกำลังง่วนอยู่กับการจัดเรียงผลไม้ในถุงหนังสัตว์และตระกร้าหวาย ผู้ชายทั้ง 4 รวมถึงคนที่พอมีแรงจะต้องแบกผลไม้หลายร้อยลูกกลับบ้าน
ในเวลานั้นหูเจียวเจียวหยิบลูกพลับมานั่งกินถัดจากลู่เมี่ยนเอ๋อ
ลูกพลับหลากหลายพันธุ์ของที่นี่พอกัดเข้าไปจะมีทั้งสัมผัสที่แข็งกรุบกรอบ ยกเว้นผลที่มีผิวสีส้มสด ซึ่งเนื้อข้างในจะหวานอร่อยมาก
ระหว่างที่หญิงสาวกำลังเพลิดเพลินกับลูกพลับ เธอก็แอบสงสัยอยู่ในใจ
ทำไมฉันยังไม่เห็นภูตเร่ร่อนเลย เป็นไปได้ไหมว่าความฝันของฉันเป็นเพียงฝันร้ายธรรมดา ๆ?
นี่เป็นเพราะฉันคิดมากไปเองหรือเปล่า?
ในขณะที่จิ้งจอกสาวกำลังสงสัย จู่ ๆ ผู้เป็นนางเอกของเรื่องก็ลุกขึ้นและเดินไปทางป่าที่ห่างไกล
นั่นทำให้หูเจียวเจียวฟื้นคืนสติทันที เธอรีบกัดลูกพลับคำสุดท้ายแล้วโยนแกนตรงกลางทิ้ง ก่อนจะตามอีกฝ่ายไปโดยไม่กล้าที่จะผ่อนคลายความระมัดระวังเลยแม้แต่น้อย
ทว่า…
เธอไม่มีทักษะในการแอบสะกดรอยตามผู้อื่นมากนัก
ทันใดนั้น ลู่เมี่ยนเอ๋อที่อยู่ไม่ไกลก็ปรากฏตัวพร้อมกับรัศมีของตัวเอก
"หูเจียวเจียว เจ้า..." กวางสาวมองจิ้งจอกสาวอย่างสงสัย
"ข้าปวดฉี่! แต่จะให้ไปคนเดียวก็กลัว เราไปด้วยกันเถอะ!"
ช่วงเวลาปุบปับนั้น มีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวของหญิงสาวพอดี เธอจึงรีบโพล่งข้อแก้ตัวออกมา และหลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เดินตัวตรงไปอยู่เคียงข้างอีกฝ่าย
"อืม" ลู่เมี่ยนเอ๋อพยักหน้าตอบเสียงเรียบ
ตามปกติพวกภูตไม่ได้เหนียมอายเหมือนมนุษย์มากนัก บางครั้งเพื่อความปลอดภัย ผู้ชายและผู้หญิงจะขับถ่ายร่วมกัน กวางสาวจึงไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาใหญ่
เมื่อทั้งคู่ใช้เวลาเดินไปสักพัก พอแน่ใจว่ากลิ่นจะไม่ลอยไปถึงกลุ่มคนที่พักผ่อนอยู่ ในที่สุดพวกนางก็พบพุ่มไม้มิดชิด
ลู่เมี่ยนเอ๋อถกกระโปรงหนังสัตว์ของตัวเองขึ้นแล้วนั่งย่อตัวอยู่ในพุ่มไม้
เมื่อนางเห็นหูเจียวเจียวยืนนิ่งอยู่ในจุดเดิมพลางคอยหันมองไปรอบ ๆ นางก็ทำสีหน้างุนงง
“หูเจียวเจียว เจ้าไม่อยากฉี่แล้วหรือ?”
"อ่า... ข้ากำลังมองหาที่เหมาะ ๆ อยู่น่ะ เจ้าฉี่ไปก่อนเถอะ ไม่ต้องรอข้า..."
จิ้งจอกสาวยิ้มออกมาอย่างเชื่องช้าแล้วก้มหน้ามองหาอะไรบางอย่างตามพื้น ก่อนจะพบพุ่มไม้หนาทึบ เธอมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครเห็นตน จากนั้นเธอก็ย่อตัวลงพร้อมกับถกกระโปรงหนังสัตว์ขึ้น
ในระหว่างนั้นเธอมองไปรอบบริเวณแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร
เธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนว่าความฝันเป็นเพียงเรื่องที่เธอคิดมากเกินไป ที่นี่ไม่มีภูตเร่ร่อน ดังนั้นลู่เมี่ยนเอ๋อที่อยู่ในฐานะนางเอกจะตายได้อย่างไร!
เมื่อหูเจียวเจียวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกอยากจะปัสสาวะขึ้นมาจริง ๆ
ถัดมา เธอเหลือบมองกวางสาวที่ยังจัดการธุระไม่เสร็จ ทันใดนั้นก็มีเสียงกรอบแกรบดังมาจากพุ่มไม้ใกล้ ๆ
เสียงปริศนาทำให้ร่างของจิ้งจอกสาวแข็งทื่อ เมื่อมองย้อนกลับไป เธอเห็นงูหลามสีดำขนาดยักษ์กำลังยกลำตัวท่อนบนขึ้นจากพุ่มไม้ พลางจ้องตรงมาที่เธอด้วยดวงตารูปสามเหลี่ยมคว่ำสีแดง แล้วแลบลิ้นงูออกมาเป็นระยะ ๆ
หญิงสาวกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอในขณะที่จิตใจของเธอว่างเปล่า
งูหลามยักษ์สีดำตัวนี้เหมือนกับภูตเร่ร่อนที่เธอเห็นในความฝันทุกประการ...
"ฟ่อ~"
ที่นี่มีผู้หญิงอยู่จริง ๆ ด้วย ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่ได้โกหกเรานะ!
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของงูหลามตัวใหญ่
ไม่นานสัตว์อีก 2 ตัวก็พุ่งออกมาจากพุ่มไม้ มันเป็นเสือโคร่งตัวใหญ่ที่หูหายไปข้างหนึ่ง และหมาป่าสีเทาที่ตาบอดข้างหนึ่ง
“โฮกกก!”
สาวน้อยคนนี้ช่างน่าทะนุถนอม นางสวยมาก!
"บรู้ววว!"
นางสวยกว่าผู้หญิงเมื่อวานเยอะเลย ข้าชอบ ฮี่ ๆ...
เมื่อกลุ่มภูตเร่ร่อนเห็นผู้หญิง 2 คนอยู่ในพุ่มไม้ พวกเขาก็ตื่นเต้นจนน้ำลายไหลออกมาจากมุมปาก
"กรี๊ดดดดดดดดด!" ในตอนนั้นเอง ลู่เมี่ยนเอ๋อหันไปเห็นสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัว 3 ตัว นางตกใจมากจนล้มลงกับพื้น
ตามปกติจะมีแค่สัตว์กินพืชเท่านั้นที่เข้ามาเก็บผลไม้ในป่า และโดยทั่วไปพื้นที่บริเวณนี้จะปลอดภัย หญิงสาวจึงไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นสัตว์กินเนื้อที่น่ากลัวเช่นนี้ ส่งผลให้นางชะงักค้างอยู่กับที่ชั่วขณะหนึ่ง
ในช่วงเวลานี้ หูเจียวเจียวกลับมามีสติสัมปชัญญะก่อนใคร
“ลู่เมี่ยนเอ๋อ พวกมันคือภูตเร่ร่อน หนีไป!”
จิ้งจอกสาวกระโดดขึ้นจากพุ่มไม้ราวกับติดสปริงแล้ววิ่งไปคว้าแขนของนางเอก ก่อนจะพากันวิ่งไปทางที่คนอื่น ๆ พักผ่อนอยู่
แม้ว่าภูตเร่ร่อนจะดุร้ายและน่ากลัว แต่พวกมันล้วนไม่สมประกอบและไม่ทรงพลังเท่าภูตในเผ่า ตราบใดที่พวกเธอวิ่งไปยังที่ที่หัวหน้าเผ่าอยู่ พวกเธอก็จะปลอดภัย
ขณะนี้ภูตจอมป่าเถื่อนทั้ง 3 หัวเราะพลางไล่ตามเหยื่อไปทันที
"โอ๊ย…"
ทันใดนั้น ลู่เมี่ยนเอ๋อก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและล้มลงกับพื้น
"หูเจียวเจียว ข้าข้อเท้าแพลง..." เสียงสั่นของหญิงสาวเต็มไปด้วยความกลัว
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: จังหวะละครไทยสุด ๆ นางเอกล้มระหว่างวิ่งหนีโจร 5555