ตอนที่ 121 เหนือระดับ 9
ตอนที่ 121 เหนือระดับ 9
"ผู้ฝึกตนจากเมืองโม่หยวน?"
หลิน ยู ตกใจเมื่อได้ยิน
"ใช่ขอรับ เมื่อก่อนหน้านี้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นภายในเมืองโม่หยวน ทำให้มีผู้ลี้ภัยจำนวนมากหนีมายังเมืองหวงซา ท่านผู้การเซียวกำลังยุ่งกับการจัดการพวกเขาเหล่านั้นอยู่"
ขณะที่ ซู่จง พูดนั้นเขาก็สังเกตการแสดงออกของ หลิน ยู ไปด้วย เพราะกลัวว่าการกระทำโดนพลการของพวกเขาจะทำให้หลิน ยู ไม่ปลื้ม
โชคดีที่หลิน ยู นั้นไม่ได้โกรธเขา รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาทันที "ทำได้ดีมาก เมืองหวงซาตอนนี้นั้นกำลังขาดแคลนกำลังคน คุณสามารถไปขอรับรางวัลจากผู้การเซียวได้เลย ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาทรัพยากร "
ซู่จง ตกตะลึงทันทีที่ได้ยินคำพูดของเขา เขารีบพูดอย่างตื่นเต้น "ขอบพระคุณขอรับ ข้าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด!!"
หลิน ยู พยักหน้าให้กับเขาออกจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ รีบมุ่งหน้ากลับไปยังดินแดนทันที
ในตอนนี้เขาได้สร้างฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เสร็จแล้ว ในตอนนี้จำเป็นต้องขยายพันธุ์เจ้าหมูป่าทั้ง 2 ตัวนี้ แล้วจึงค่อยๆขยายฟาร์มออกไป
เขาเชื่อว่ามันใช่เวลาเพียงไม่นานในการเพาะพันธุ์หมูระดับ 3 เป็นจำนวนมาก อีกทั้งไม่น่ามีปัญหาในการจัดหาเนื้อให้กับเมืองหวงซา
ชิ้นส่วนของมันสามารถทำไปทำอาหารได้หลากหลาย และขายให้กับพ่อค้าและผู้ฝึกตนที่ผ่านไปมา นี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำเงิน
ดังนั้นในตอนนี้
สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือการรวบรวมทรัพยากรให้เร็วที่สุดเพื่ออัพเกรดสิ่งก่อสร้าง
ยิ่งสิ่งก่อสร้างมีระดับสูงเท่าใดประสิทธิภาพก็ยิ่งมากขึ้นตามเท่านั้น ทำให้เกิดผลผลิตตามมา เมื่อถึงตอนนั้นพลังเวทย์จำนวนมากจะไหลเข้ามาหาเขาอย่างไม่ขาดสาย
ยิ่งคิดถึงตอนนั้นมากเท่าไหร หลิน ยู ก็ยิ่งตั้งหน้ารอคอย
ในขณะที่เขากำลังรีบกลับไปที่ดินแดนอยู่นั้น ก็เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในหัวของเขา
[ขอแสดงความยินด้วย จิตวิญญาณพฤกษาคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดในการอัพเกรดเป็นระดับ 7 คุณต้องการอัพเกรดหรือไม่?]
"มีทหารอัพเกรดอีกงั้นเหรอ?"
หลิน ยู มีความสุข เขาเดินทางผ่านป่าเถาวัลย์กลับไปยังดินแดน
แน่นอนว่าเขาได้พบกับวิญญาณพฤกษาระดับ 6 ที่มีแสงสว่างกว่าตัวไหนๆ
หลิน ยู จำได้ทันที
นี้เป็น 1 ใน 5 ของจิตวิญญาณพฤกษาที่เขาเหลือเอาไว้มันยังสืบทอดสกิลควบคุมธรรมชาติ แถมมันยังเป็นทหารชุดที่ 2 ที่เขาอัญเชิญเมื่อมาถึงทวีปดึกดำบรรพ์อีกด้วย
เขาเลือกที่จะอัพเกรดมันโดยไม่ลังเล
ชั่วพริบตา ก็มีลำแสงเข้ามาห่อหุ้มจิตวิญญาณพฤกษา มันเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่ทำให้ หลิน ยู ประหลาดใจ จิตวิญญาณพฤกษาตัวนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นแบบ หลิง ซี มันมีผีเสื้อตัวเล็กๆอยู่ข้างๆราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆที่ค่อยปกป้องเขา
พวกมันกลายเป็นเกราะแสงสีเขียว ปกคลุมร่างกายทั้งหมด แม้แต่ไม้เท้าในมือของมัน ก็ค่อยๆ งอกกิ่งก้านออกมาดูหรูหรา
[ชื่อ : เอลฟ์ผู้ส่งสาส์นธรรมชาติ]
[เผ่าพันธุ์ : พฤกษา]
[ระดับ : ระดับ 7 (0/2500)]
[ความแข็งแกร่ง : 770]
[ร่างกาย : 770]
[ความว่องไว : 845]
[วิญญาณ : 886]
[สกิล : พลังควบคุมธรรมชาติ(ขั้นสูง) , ลมหายใจแห่งธรรมชาติ (การฟื้นฟู) , หนามจตุรธาตุ , ลำแสงเยี่ยวยา (ระเบิดพลังธรรมชาติ รักษาพันธมิตรแบบกลุ่ม)]
[หมายเหตุ : ราชวงศ์แห่งเอลฟ์พฤกษา หนึ่งในสุดยอดเผ่าพันธุ์ของจิตวิญญาณพฤกษาหลังจากได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับ 7 สายสัมพันธุ์กับธรรมชาติก็เพิ่มมากขึ้น เก่งในการฟื้นฟู รักษา ถูกเรียกผู้ส่งสาส์นธรรมชาติร่วมกับก๊อบลิน]
"ทหารสายสนับสนุน!!"
ดวงตาของหลิน ยู เปล่งประกายทันที
เขาไม่คิดมาก่อนว่า อีกสายหนึ่งของจิตวิญญาณพฤกษาระดับ 7 จะเป็นทหารสายสนับสนุน แถมยังมีสกิลรักษาที่ทรงพลังอีกด้วย!
หลังจากเสร็จสิ้นการเปลี่ยนร่าง เอลฟ์ผู้ส่งสาส์นธรรมชาติที่มีขนาดเท่ากับหลิงซี บินขึ้นไปในอากาศ ละอองแสงสีเขียวกระจายออกมา เธอราวกับผีเสื้อตัวน้อยๆที่เต้นรำอยู่บนทุ่งหญ้า
หลิน ยู พอใจกับทหารตัวใหม่ของเขามาก
ทหารพืชอาจจะดูไม่แข็งแกร่งเท่ากับทหารเผ่าอื่นๆ แต่มันมีพลังในการรักษาเยี่ยวที่เผ่าอื่นนั้นไม่มี
ด้วย สกิลรักษาแบบหมู๋นี้ ทำให้กองกำลังของเขาราวกับเป็นอมตะ พลังของพวกมันยกระดับไปสู่อีกระดับทันที
ตราบใดที่ร่างกายยังไม่ถูกทำลายทั้งหมด มันก็ยังสามารถคืนชีพกลับมาได้
เป็นเครื่องจักสังหารอย่างสมบูรณ์
หลังจากนั้นไม่นาน หลิน ยู ละทิ้งอารมณ์ทีเกิดขึ้นเขาเดินไปยังต้นไม้แห่งชีวิต
วันนี้เขาเดินทางไปหลายที่ แทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย เขาสามารถใช้เวลานี้ในการพักผ่อนได้แล้ว
นั่งลงข้างๆ ต้นไม้แห่งชีวิต ตรวจดูช่องแชทภูมิภาคขณะกินอาหาร
เขาพบว่าราชันระดับสูงกับพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของ กษัตริย์เซิ่งเหยา
"นี้คิดว่า กษัตริย์เซิ่งเหยาจะรอดกลับจากโลกหยวนซาไหม?"
"เจ้ากล้าพูดแบบนี้ แสดงว่าอยากตายงั้นเหรอ?"
"ด้วยความแข็งแกร่งของ กษัตริย์เซิ่งเหยา มันคงเป็นเรื่องง่ายๆที่จะกลับมา"
"แต่...ที่นั้นมีราชันระดับ 10 มากมาย การที่เขาไปเผชิญกับพวกนั้นคนเดียวมันไม่อันตรายงั้นเหรอ?"
"ฮ่าๆ เจ้าใหม่ นี้คิดจริงๆเหรอว่าราชันระดับ 10 ทั่วไปจะสามารถทำอะไร กษัตริย์เซิ่งเหยาได้!"
"ฮ่าๆ นี้เป็นเรื่องตลกที่สุดที่ฉันเคยได้ยินมาเลย"
หลิน ยู งุนงง
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของราชันใหม่ คนนั้นเหล่าราชันเก่าต่างพากันหัวเราะเยาะเย้ยเขา
นี้ถึงกับทำให้เขางุนงงหนักเข้ามาไปอีก
มันไม่มีทางที่ราชันระดับ 10 จะสู้กับ กษัตริย์เซิ่งเหยาได้?
นี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน?
อย่างไรก็ตามก่อนที่ เขาจะทันได้คิด ก็มีข้อความหนึ่งแสดงขึ้นมาทันที
"เจ้าน้องใหม่ นี้เจ้าไม่รู้จริงๆงั้นเหรอว่าราชันและกองกำลังแต่ละระดับมันมีกำแพงกั้นอยู่ในทุกๆ 3 ระดับ? แล้วนายไม่คิดหรอว่าเหนือระดับ 9 ไปนั้นมันไม่ได้มีเพียงระดับ 10 ระดับเดียว"
เหนือกว่าระดับ 9 ไปงั้นเหรอ
หรือว่ามันจะมีมากกว่าระดับ 10
หลิน ยู ตกใจจนหยุดกินไป
เขาคิดเสมอว่าระดับ 10 คือจุดสูงสุดของราชัน มันเป็นพลังที่เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งบนโลกใบนี้
แต่ดูจากสิ่งที่ราชันหน้าเก่าเหล่านั้นพูดดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น
ด้วยความตกตะลึง เขาวางอาหารที่อยู่ในมือทันทีจ้องไปที่ช่องแชท กลัวว่าจะพลาดอะไรไป
เป็นอย่างที่คิดไว้
เมื่อเผชิญหน้าข้อสงสัยของราชันหน้าใหม่ ก็มีข้อความหลายข้อความตอบกลับมาทีละคน
"ไม่ต้องคิดเลย เมื่อระดับเพิ่มขึ้นของราชันและทหารมันจะมีอุปสรรคในทุกๆ 3 ระดับ เหนือกว่าระดับ 9 มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเพียงแค่ 1 ระดับจากระดับระดับ 10 มันควรมีอีก 3 แต่สิ่งนี้ห่างไกลจากพวกเราเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่สมควรพูดถึง"
"เมื่อราชันระดับ 9 ก้าวข้ามไปยังระดับ 10 ความแข็งแกร่งของเขาจะผ่านการเปลี่ยนแปลงที่สั่นสะเทือนโลก เขาจะไม่ถูกผูกมัดด้วยกฏอีกต่อไป พวกเราเรียกระดับนี้ว่าระดับศักดิ์สิทธิ์"
"เหนือไปกว่านั้น คือระดับ 11 ซึ่งมันถูกเรียกว่ากึ่งเทพ ในปัจจุบันระดับของกษัตริย์เซิ่งเหยานั้นคือระดับ 11 ซึ่งแม้ว่าราชาจากอาณาจักรอื่นๆนั้น ทั้งหมดจะมีระดับ 10 แต่อย่าลืมว่า เขานั้นเป็นราชาแห่งจักวรรดิที่ปกครองอาณาจักรอยู่มากมาย"
"ตอนนี้นายน่าจะเข้าใจแล้วนะ ว่าทำไมพวกเราถึงบอกกษัตริย์เซิ่งเหยาสามารถเดินทางไปกลับระหว่าง 2 โลกได้อย่างง่ายดาย"
....
....
ช่องแชททั้งหมดกลายเป็นเงียบงัน
ราชาหน้าใหม่ที่ถามออกมาหยุดลงทันที
ทุกคนต่างตกตะลึงกับความจริงที่เปิดเผยออกมา รวมถึงตัว หลิน ยู ด้วย
แม้เขาจะคิดไว้อยู่แล้ว ระดับของราชานั้นไม่ง่ายอย่างที่ตาเห็น
แต่พอได้รับการยืนยันแล้ว เขาถึงกลับใจสั่นทีเดียว
ระดับ 11 กึ่งเทพ..!
มันจะทรงพลังขนาดไหนกัน?
เขาไม่สามารถจินตนาการมันออกมาได้เลย
แค่ราชาแห่งอาณาจักรระดับ 10 ก็เกินเอื้อมแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดถึงระดับ 11 เลย
สำหรับระดับ 12 นั้นมันเป็นสิ่งที่เหนือไปกว่านั้น....
ราชันเก่าคนนั้นไม่ได้พูดอย่างชัดเจนแต่ หลิน ยู ก็สามารถเดาได้ มันทำให้ใบหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม
แต่เมื่อคิดดูแล้ว
อย่างที่ราชันเมื่อกี้พูดขึ้น
ระดับเหล่านั้นยังห่างไกลจากเขาในตอนนี้
ในตอนนี้นั้นเขาลำบากแทบลากเลือดเพียงเพื่อเลื่อนขั้สู่ระดับ 7 เขาจะกล้าคิดไปไกลถึงขนาดนั้นได้อย่างไรกัน?
ในไม่ช้า หลิน ยู ก็อารมณ์ดีขึ้นเขากินอาหารที่เหลือให้เสร็จ
ขณะที่ดูการพูดคุยในช่องแชท เขาก็ยุ่งกับดูแลอาณาเขตและพื้นที่เพาะปลูก