บทที่ 65: ฝันร้ายว่าโลกล่มสลาย
กลางดึกคืนนั้น
หูเจียวเจียวสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายในสภาพที่ชุดกระโปรงหนังสัตว์ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เธอลืมตาขึ้นมาสัมผัสมือและเท้าที่ยังแข็งแรงดีของตัวเองก่อน จากนั้นก็รีบลุกขึ้นหันไปมองลูกที่กำลังหลับใหล แล้วการหายใจของเธอก็ค่อย ๆ สงบลง
มันเป็นแค่ความฝัน...
เมื่อหญิงสาวนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝัน เธอก็ขมวดคิ้วแน่น
เธอฝันว่าลู่เมี่ยนเอ๋อถูกกลุ่มภูตเร่ร่อนจับตัวไปขณะที่นางกำลังเก็บผลไม้ พออิงหยวนรู้เข้าก็โกรธมาก เขาจึงรีบมุ่งหน้าไปที่ถ้ำของอีกฝ่ายและฆ่าพวกมันทั้งหมดทิ้ง
หลังจากที่กวางสาวกลับมาในเผ่า นางรู้สึกหดหู่ใจจนในที่สุดก็ฆ่าตัวตาย!
นี่เป็นโครงเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในนิยายต้นฉบับ เมื่อลู่เมี่ยนเอ๋อเสียชีวิต โลกภูตก็เริ่มล่มสลาย แผ่นดินถล่ม พื้นดินแยก ภูเขาไฟระเบิด และสึนามิลูกแล้วลูกเล่าซัดเข้าใส่ภูเขารวมถึงป่าไม้ไปจนหมดสิ้น ในฝันครั้งนี้เธอเห็นตัวเอง ลูกของเธอ และภูตทั้งหมดตายอยู่ที่นี่...ท่ามกลางโลกที่ล่มสลาย
ยิ่งหูเจียวเจียวคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกแปลกมากขึ้นเท่านั้น ทำไมนางเอกถึงตาย?
อาจเป็นเพราะการมาถึงของเธอเองที่เปลี่ยนตอนจบของตัวละครในนิยายแล้วสร้างผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่างในวงกว้าง
และลู่เมี่ยนเอ๋อเป็นตัวเอกของโลกใบนี้ ถ้าหากนางเสียชีวิต การดำรงอยู่ของโลกก็จะไร้ความหมาย ดังนั้นมันจึงพังทลายหรือเปล่า?
สิ่งที่จิ้งจอกสาวฝันเมื่อครั้งก่อนมันเกิดขึ้นจริงแล้วครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เธอฝันในครั้งนี้ก็อาจจะ...
พอหูเจียวเจียวคิดถึงผลลัพธ์ที่กำลังจะเป็นจริง หัวใจของเธอก็เต้นเหมือนรัวกลอง
ถ้าอย่างนั้น… ตอนนี้นอกจากเธอจะต้องจัดการกับจอมวายร้ายแล้ว เธอยังต้องป้องกันไม่ให้นางเอกของโลกภูตตายอีกด้วย!
ในที่สุดเธอก็ปรับตัวเข้ากับชีวิตที่นี่ได้แล้ว อีกทั้งเธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะเอาชีวิตรอดไปให้ได้ แต่เธอไม่อยากให้สิ่งที่ตนเพียรพยายามมาตลอดต้องสูญเปล่าไปเพราะลู่เมี่ยนเอ๋อ
ตัวประกอบอย่างฉันก็มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่เหมือนกัน!
ครู่ถัดมา แม่จิ้งจอกพลิกตัวไปมาบนกองฟาง แต่เธอทำอย่างไรก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้ลง พอหญิงสาวเห็นว่านี่เป็นเวลาเช้าตรู่แล้วจึงลุกขึ้นมาทำอาหารให้ลูก ๆ กิน
ฉันกลัว…
เธอเกรงว่าคราวนี้ตัวเองจะไม่สามารถแก้ไขเรื่องของลู่เมี่ยนเอ๋อได้ และนี่จะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายสำหรับเธอแล้วก็ลูกน้อยทั้ง 5
ไม่นานเด็กทั้ง 5 คนก็ถูกปลุกด้วยกลิ่นอาหาร แม้ว่าชีวิตของพวกเขาจะดีขึ้นมาก แต่เด็กเหล่านี้ก็ยังไวต่อกลิ่นอาหารมากอยู่ดี
หลงหลิงเอ๋อขยี้ตาก่อนจะมองออกไปนอกบ้านด้วยความงุนงง "ท่านแม่ ทำไมวันนี้ท่านตื่นเร็วจัง หลิงเอ๋อจะรีบไปช่วยท่านเดี๋ยวนี้..."
ทุกวันที่แม่จิ้งจอกทำอาหาร สาวน้อยจะมาคอยเป็นลูกมือของแม่ ส่วนพวกเด็กผู้ชายจะออกไปเก็บฟืนมาให้
ต่อมา หลงหลิงเอ๋อเดินไปที่ลานบ้าน เมื่อนางตื่นเต็มตาแล้วก็ต้องตกตะลึงกับอาหารมากมายที่วางอยู่บนโต๊ะ
“โอ้โห้ กับข้าวเยอะแยะเลย ท่านแม่ เราจะกินยังไงให้หมดกันละเนี่ย?” ปากเล็ก ๆ ของเด็กสาวเปิดออกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ
“วันนี้แม่ทำเสร็จหมดแล้ว หลิงเอ๋อไปปลุกพวกพี่ ๆ มาล้างมือเตรียมกินข้าวเร็ว”
หูเจียวเจียวหันไปมองตามเสียงก่อนจะยิ้มให้ลูกสาวจาง ๆ และวางจานกับข้าวจานสุดท้ายลงบนโต๊ะ
ไม่กี่วันก่อน โหวเสี่ยวเตียวช่วยทำโต๊ะและเก้าอี้มาส่งให้ที่บ้าน แต่โต๊ะเก้าอี้พวกนี้มีรูปร่างผิดสัดส่วนไปสักหน่อย มันเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ไม่สม่ำเสมอ เก้าอี้เป็นม้านั่งสูง 2 เมตรซึ่งสูงจนนั่งกินข้าวไม่ถนัด เธอจึงเลื่อยขาพวกมันออกบางส่วน
เวลาถัดมา หลงหลิงเอ๋อเข้าไปในห้องด้วยความงุนงง และเรียกพี่น้องคนอื่น ๆ ให้ออกมาเตรียมตัวทานข้าวเช้า
แล้วครอบครัว 6 คนก็นั่งพร้อมหน้ากันอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“กินเลย ทำไมพวกเจ้าไม่ขยับมือล่ะ หรือวันนี้พวกเจ้าไม่หิวหรือเปล่า?” เมื่อผู้เป็นแม่เห็นลูกทั้ง 5 นั่งนิ่งเป็นรูปปั้น เธอก็ถามอย่างสงสัย
"ท่านเอาของมาทำอาหารหมดเลยหรือ แล้วพรุ่งนี้เราจะเอาอะไรกินกัน?" หลงอวี้เหลือบมองไปที่ลานบ้าน ก่อนจะพบว่าไม่มีอาหารเหลืออีกแล้ว
“ท่านกำลังพยายามหลอกให้เรากินอาหารให้หมดเพื่อหาข้ออ้างที่จะทิ้งเราใช่ไหม!” หลงจงพูดพร้อมกับจ้องแม่จิ้งจอกเขม็ง
ก่อนหน้านี้ หูเจียวเจียวกลัวอยู่เสมอว่าเจ้าตัวเล็กทั้งหลายจะปวดท้อง ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าทำอาหารเยอะเกินไป ด้วยเหตุนี้ เมื่อเด็กทุกคนเห็นอาหารมากมาย พวกเขาจึงสงสัยว่าเธอมีแผนอื่นหรือไม่
ส่วนหลงเหยากะพริบตามองแม่ของเขาอย่างน่าสงสาร
กรงเล็บมังกรทั้ง 2 วางอยู่บนท้องด้วยท่าทางลังเล และในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกลืนน้ำลาย ตามด้วยส่งเสียงครวญครางคล้ายคนสำนึกผิด
“แง้!”
ท่านแม่ อย่าทิ้งพวกเราไปเลย หลังจากนี้เหยาเอ๋อจะกินให้น้อยลง
หัวใจของหูเจียวเจียวพลันอ่อนยวบ เธอมองพวกเขาอย่างขบขัน และพูดขณะเสิร์ฟน้ำแกงว่า "นี่พวกเจ้าเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว ที่วันนี้แม่ทำอาหารไว้เยอะแยะเพราะพ่อของพวกเจ้ากำลังจะกลับมาในไม่ช้า เขาจะนำอาหารกลับมาด้วย ในอนาคตพวกเจ้าจะไม่ต้องทนหิวอีก”
เธอรู้ว่าลูก ๆ คิดถึงพ่อมาก
การใช้หลงโม่เป็นข้อแก้ตัวย่อมทำให้เด็กน้อยพวกนี้ไม่สงสัยอะไรมากนัก
แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่กลับมา แต่พวกเธอก็จะไม่อดตายอยู่ดี
"ท่านพ่อจะกลับมาแล้ว ดีจังเลย" เมื่อหลงหลิงเอ๋อได้ยินว่าผู้เป็นพ่อกำลังจะกลับมา ดวงตาของนางก็สว่างขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
ทว่าเด็กคนอื่น ๆ ยังคงมองแม่จิ้งจอกอย่างสงสัย
ราวกับว่าแต่ละคนกำลังค้นหาความจริงรวมถึงการหลอกลวงในคำพูดของเธอ
“เอาล่ะ ๆ รีบกินเร็วเข้า เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด หลังกินข้าวเสร็จแล้วแม่จะต้องออกไปข้างนอกอีก”
หูเจียวเจียวเอื้อมมือไปลูบหัวเด็กทีละคนแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด
ไม่นานเด็กน้อยทั้งหลายก็ถอนสายตาออกจากการจับผิดผู้เป็นแม่ ก่อนจะหันกลับไปจดจ่อกับการกินอาหารของตัวเอง
ขณะเดียวกัน รอยยิ้มบนใบหน้าของจิ้งจอกสาวเจือด้วยความเศร้า หากนับวันแล้ว หลงโม่อาจจะกลับมาในอีก 2 วัน แต่เธอยังไม่เคยเห็นว่าเจ้าจอมวายร้ายหน้าตาเป็นแบบไหน!
เธอควรทำอย่างไรหากเขามีหน้าตาน่าเกลียดและน่ากลัวมาก?
ระหว่างที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หูเจียวเจียวไม่ได้กินอะไรสักคำ เวลาผ่านไปไม่นาน ภูตคนหนึ่งก็มาเรียกให้เธอออกไปกับกลุ่มเก็บเกี่ยว
ต่อมา หญิงสาวรีบตักข้าวลงท้องไป 2 คำแล้วลุกออกไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกัน เด็กทั้ง 5 เงยหน้าขึ้นจากชามข้าว ดวงตาที่งุนงงมองตามหลังคนเป็นแม่ไปจนลับตา
หลงจงพูดขึ้นมาพร้อมขมวดคิ้ว "พวกเจ้าคิดว่าวันนี้นางแปลกไปหรือเปล่า?"
หลงหลิงเอ๋อก็รู้สึกทุกข์ใจกับเรื่องนี้มากเช่นกัน "ท่านแม่คงไม่อยากให้ท่านพ่อกลับมาแน่เลย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านแม่ไม่มีความสุข"
หลงอวี้พยักหน้าเห็นด้วย "นางไม่เคยชอบท่านพ่อเลย"
"งั่ม งั่ม..."
อร่อย ถ้าไม่มีใครกิน ข้าจะกินเอง
เมื่อเด็กทั้ง 3 คนรู้สึกตัวอีกครั้งก็เห็นว่าชามข้าวของตัวเองถูกเจ้ามังกรตัวเล็กแย่งกินหมดจนไม่เหลือน้ำมันสักหยด
“น้องห้า!”
แล้วเสียงคำราม 3 เสียงก็ดังขึ้นพร้อมกัน
หลงเหยานั่งตัวตรงที่โต๊ะพร้อมกับเม้มริมฝีปาก ขณะที่ใบหน้ามังกรครุ่นคิดเหมือนไม่รู้ว่าตนทำอะไรผิด?
...
ในตอนนี้หูเจียวเจียวและผู้หญิงในเผ่ามาถึงสถานที่ที่จะต้องมาเก็บผลไม้
ครั้งนี้พวกเธอไม่ได้เก็บผลไม้ดินเหมือนเดิม แต่เป็นผลไม้อื่น ๆ
เส้นทางในป่าบนภูเขานั้นขรุขระยากลำบาก กลุ่มเก็บเกี่ยวต้องใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนจะถึงจุดหมาย
ครั้งนี้มีพืชพันธุ์หลากหลายชนิดให้เก็บโดยที่ในนั้นมีส้มโอกับลูกพลับเป็นหลัก
ส้มโอสามารถเก็บไว้ได้นานตอนฤดูหนาวโดยที่มันไม่เสียไปก่อน ส่วนลูกพลับสามารถนำมาตากแห้งเป็นลูกพลับแห้งได้ แม้ว่าภูตจะไม่รู้วิธีทำผลไม้อบแห้ง แต่หลังจากการลองผิดลองถูก พวกเขาก็รู้ว่าลูกพลับยังสามารถรับประทานได้แม้ว่าจะตากจนแห้งแล้วก็ตาม
ขอแค่พวกเขามีผลไม้ที่สามารถเก็บไว้ได้จนถึงฤดูหนาว มันก็จะเป็นอาหารสำรองของพวกภูต
ทางด้านหูเจียวเจียวมองสำรวจไปรอบ ๆ และพบผลไม้หลายชนิดที่เธอคุ้นเคย แต่ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจที่จะเก็บผลไม้เลย เนื่องจากความคิดทั้งหมดของเธอเพ่งไปที่ลู่เมี่ยนเอ๋อ
ในครั้งนี้มีผู้หญิงหลายคนในเผ่าออกมาเก็บผลไม้ยกเว้นหูหมิน ดังนั้นหญิงสาวจึงถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว
แต่เธอไม่สนใจเรื่องนี้เลย เธอยังคงติดตามนางเอกของเรื่องไปพร้อมกับกระเป๋าหนังสัตว์ ราวกับว่าเธอจะติดตามไปทุกที่ที่อีกฝ่ายไป
ส่วนหู่จิงที่ตัวติดกับลู่เมียนเอ๋อเป็นตังเมโมโหจนโยนถุงหนังสัตว์ในมือของนางทิ้ง แล้วหันกลับมาจ้องจิ้งจอกสาวเขม็ง
“หูเจียวเจียว เจ้าไปไกล ๆ เลย อย่ามาตามเราตลอดแบบนี้”