บทที่ 64: แอบฟังบทสนทนาของภูตเร่ร่อนก่อนจะถูกค้นพบ
"ซุยซุยไม่ต้องกลัวนะ ข้า...ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดีเอง"
ขณะนี้สามีของลู่ซุยซุยพูดตะกุกตะกักอยู่ข้าง ๆ เพื่อปลอบโยนนาง
ครั้งสุดท้ายที่หญิงสาวทำให้หัวหน้าเผ่าโกรธ เขาได้สั่งให้นางหาคู่ครองเพื่อรักษาสถานะของตัวเองในเผ่า ดังนั้นนางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหาภูตชายมาใช้ชีวิตร่วมกัน
พอเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วัน นางกับสามีก็ถูกไล่ออกจากเผ่า ต้องบอกว่าผู้ชายคนนี้ช่างโชคร้ายมากจริง ๆ ที่ต้องมาโดนหางเลขไปด้วย
ทว่าโชคดีที่ภูตส่วนใหญ่ภักดีต่อคู่ครองของตัวเองมาก แม้ว่าชายหนุ่มจะถูกขับไล่ออกจากเผ่า แต่เขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะละทิ้งลู่ซุยซุยเลย
ต่อมา กวางสาวทำสีหน้าไม่ดีใส่เขา ก่อนจะคว้าหนังสัตว์บนพื้นมาขว้างใส่หน้าอีกคน
"ออกไป! ออกไปให้พ้น! ไอ้คนไร้ประโยชน์ เจ้ามันจะทำอะไรได้"
ผู้เป็นสามีเอียงศีรษะใช้ความคิด ไม่นานเขาก็ก้มลงเก็บหนังสัตว์ไปวางไว้อีกที่ แล้วพูดขณะเดินออกจากถ้ำว่า "งั้นข้าจะไปล่าสัตว์ เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่—"
"จะไปไหนก็ไป!"
สิ่งที่ตอบกลับชายหนุ่มมาก็ยังคงเป็นเสียงแข็งกร้าวของภรรยาสาว
นั่นทำให้คู่ครองของนางเกาหัวด้วยความงุนงง จากนั้นเขาก็กลายร่างเป็นเสือชีตาห์วิ่งหายไปในป่า
…
ยามที่ความมืดมิดคืบคลานมาบดบังแสงที่อยู่โดยรอบไปจนหมด ในถ้ำก็ยิ่งมืดมากขึ้นทุกที แล้วลู่ซุยซุยที่ค่อย ๆ หายจากอาการโกรธก็เปลี่ยนมารู้สึกกลัวสภาพแวดล้อมดังกล่าวแทน
"ไอ้คนไร้ประโยชน์นั่นยังไม่กลับมาอีกหรือ นี่มันก็ออกไปนานมากแล้วนะ!"
กวางสาวลุกขึ้นมาสบถพลางเดินออกจากถ้ำ
ตอนนี้พระจันทร์กลมโตลอยเด่นบนท้องฟ้ายามราตรีโดยส่องแสงจันทร์อ่อน ๆ ซึ่งอย่างน้อยก็ยังดีกว่าการอยู่ในถ้ำที่มืดสนิทมาก
ลู่ซุยซุยกอดอกให้ความอบอุ่นแก่ตัวเอง ในขณะที่ท้องของนางร้องเพราะความหิว และนางกำลังจะมองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่ามีผลไม้ที่กินได้หรือไม่
ทันใดนั้น นางก็ได้ยินเสียงภูตกำลังพูดคุยกันอยู่ไม่ไกล
"โอ้โห วันนี้โชคดีไม่น้อยเลย ข้าไม่คิดว่าจะมีภูตออกมาเดินเตร่อยู่ข้างนอกในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงแบบนี้"
"พี่น้องของเราไม่ได้กินเนื้อภูตมานานแล้ว มันอร่อยกว่าเนื้อแห้ง ๆ เสียอีก! ฮ่าๆๆ..."
ขณะนี้ร่างสูงใหญ่ 2-3 คนกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ในป่า
ลู่ซุยซุยชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะซ่อนตัวในพุ่มไม้เพื่อแอบฟังคำพูดของกลุ่มคนแปลกหน้าอย่างระมัดระวัง
แต่ระยะห่างระหว่างพวกนางมันไกลเกินไป นางจึงได้ยินไม่ชัดเจน
ภายใต้แสงจันทร์ กวางสาวเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่กำยำซึ่งดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าผู้ชายในเผ่ามาก
ดวงตาของลู่ซุยซุยพลันลุกวาวด้วยความสุขเพราะคิดว่าตัวเองได้พบกับภูตจากต่างแดน หากนางเข้าไปอยู่ในเผ่าอื่นได้ นางก็จะสามารถหาผู้ชายที่แข็งแกร่งกว่ามาเป็นคู่ครองได้แน่นอน อย่างน้อยนางก็ไม่ต้องอาศัยอยู่ในป่าที่น่าขนลุกอีก
เมื่อหญิงสาวนึกถึงสิ่งนี้ก็ฉีกยิ้มกว้าง
ทีแรกนางคิดจะออกไปทักทายอีกฝ่ายและผู้ชายหลายคนที่อยู่ไม่ไกลก็กำลังมุ่งหน้ามาทางตน ทันใดนั้น ภายใต้แสงจันทร์สีซีดจาง นางก็เห็นว่าผู้ชายคนหนึ่งกำลังถือร่างของเสือชีตาห์ไว้ในมือ
ภาพตรงหน้าทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่ซุยซุยแข็งทื่อไปทันทีแล้วถูกแทนที่ด้วยความตื่นตระหนกจนร่างกายสั่นสะท้าน
เสือชีตาห์ตัวนั้นไม่ใช่สัตว์ป่า แต่เป็นภูตซึ่งดูเหมือนสามีของนางทุกประการ!
หญิงสาวปิดปากตัวเองแน่นพร้อมกับเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้ชายพวกนี้ไม่ได้มาจากเผ่าอื่นเลย พวกเขาเป็นภูตเร่ร่อน!
ในฐานะผู้หญิง นางรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนหากนางตกอยู่ในเงื้อมมือของภูตเร่ร่อน และร่างบอบบางที่หดตัวอยู่ในพุ่มไม้ก็อดสั่นสะท้านไม่ได้
"ใครน่ะ ออกมา!"
ขณะที่ลู่ซุยซุยรู้สึกหวาดกลัว ผู้ชายคนหนึ่งก็จ้องมองมาทางนางอย่างดุดัน
"ฮือ…"
กวางสาวร้องออกมาด้วยความตกใจแล้วลนลานถอยหนีไปแบบไม่คิดชีวิต แต่นางก็ล้มจ้ำเบ้าลงกับพื้นไปเสียก่อน
ทางด้านภูตเร่ร่อนหลายคนวิ่งตามไปทันทีที่ได้ยินเสียง และเมื่อทุกคนเห็นรูปร่างหน้าตาของลู่ซุยซุยอย่างชัดเจน พวกเขาก็หัวเราะออกมา
"ฮ่าๆๆ! เป็นผู้หญิงจริง ๆ!"
“วันนี้โชคดีสุด ๆ ไปเลย ไม่ใช่แค่ข้ามีเนื้อภูตให้กินเท่านั้น แต่ข้ายังได้เมียอีกด้วย”
"ฤดูหนาวปีนี้จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ฮ่าๆๆ!"
ภูตเร่ร่อนกลุ่มนั้นชกกำปั้นเข้าด้วยกันพลางแสยะยิ้มออกมา
"ไม่! อย่าเข้ามานะ ถ้าเจ้าจับข้าไป พวกภูตในเผ่าของข้าจะมาตามล่าพวกเจ้า..."
ลู่ซุยซุยกลัวมากจนขาอ่อนแรงและไม่สามารถยืนขึ้นได้เลย
ในเวลานั้นชายป่าเถื่อนคนหนึ่งกำลังจะจับตัวนาง แต่จู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นเหม็นก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความขยะแขยง
ครู่ต่อมา เขาเห็นคราบน้ำใต้บั้นท้ายของหญิงสาว
"ผู้หญิงคนนี้น่าขยะแขยงเสียจริง นางกลัวจนฉี่รดตัวเองด้วย..."
"เฮ้ย! เจ้าก็ปากเสีย ผู้หญิงก็ต้องมีขี้อายกันบ้าง อย่าทำให้นางตกใจสิ ไม่งั้นเจ้าจะไม่ได้เล่นกับนางในฤดูหนาวนี้!"
“ปีหน้าข้าจะได้เห็นลูกงูเลื้อยอยู่เต็มบ้านแน่นอน!”
ถัดมา ภูตเร่ร่อนที่ผอมราวกับต้นไผ่ก้าวไปอุ้มลู่ซุยซุย "ข้ารอไม่ไหวแล้ว หึๆๆ"
เขาพูดจบแล้วก็วางกวางสาวลงบนพื้นสะอาด ตามด้วยถกกระโปรงหนังสัตว์ที่นางสวมอยู่ออก
เมื่อหญิงสาวได้ยินสิ่งที่ภูตน่ารังเกียจเหล่านี้พูด ร่างกายของนางก็สั่นสะท้าน
นางเคยได้ยินภูตในเผ่าเล่าลือกันว่าผู้หญิงที่ภูตเร่ร่อนจับตัวไปนั้นมีสภาพเลวร้ายยิ่งกว่าตาย ไม่เพียงแค่พวกนางต้องทำงานหนักทุกวัน พวกนางยังถูกทารุณจนเสียชีวิตอีกด้วย
ข้าไม่อยากมีสภาพแบบนั้น!
"ได้โปรด ปล่อยข้าไปเถอะ..."
ลู่ซุยซุยน้ำตาไหลพรากอาบแก้ม บัดนี้ทั้งความกลัวและความเกลียดชังแสดงชัดอยู่บนใบหน้าที่เศร้าหมอง
ทำไมกัน! ทำไมข้าถึงต้องถูกภูตเร่ร่อนพวกนี้จับตัวด้วย ในขณะที่นังลู่เมี่ยนเอ๋อกับหูเจียวเจียวกลับได้เสวยสุขอยู่ในเผ่า!
ทางด้านภูตเร่ร่อนที่อยู่ด้านข้างคุ้นเคยกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น พวกเขายังคงมองดูฉากตรงหน้าอย่างตื่นเต้น
“ช้าก่อน! พวกเจ้าต้องการผู้หญิงใช่ไหม? ในเผ่าเรามีผู้หญิงหลายคนเลย พวกนางสวยกว่าข้าอีก ข้าสามารถช่วยพวกเจ้าได้นะ!”
หญิงสาวผลักชายป่าเถื่อนคนนั้นออก และตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนรน
ส่งผลให้ฝ่ายที่คร่อมอยู่บนร่างของนางชะงักไปชั่วครู่
“แม่นาง ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงหรือ?” ภูตเร่ร่อนหรี่ตาดุดันถาม
ลู่ซุยซุยพยักหน้าตอบรับอย่างเร่งรีบ "จริง ๆ แล้วพวกนางจะออกจากเผ่าในวันพรุ่งนี้พร้อมกับผู้ชายเพียงไม่กี่คน แค่พวกเจ้าล่อพวกเขาออกไป พวกเจ้าก็สามารถจับพวกนางได้แล้ว"
แม้ว่านางจะต้องตาย นางก็จะลากลู่เมี่ยนเอ๋อกับหูเจียวเจียวตามนางไปด้วย!
“ในเผ่าเจ้ามีของดีขนาดนั้นเลยหรือ บอกเรามาสิว่าที่นั่นอยู่ที่ไหน?” ภูตชายคนหนึ่งถามด้วยความตื่นเต้น
ตั้งแต่ที่พวกเขากลายเป็นภูตเร่ร่อน พวกเขาก็ไม่ค่อยได้เห็นผู้หญิงมากนัก ถ้ากลุ่มของตนสามารถจับผู้หญิงมาได้มากกว่านี้ พี่น้องของตัวเองก็จะได้ครอบครองสาวงามกันทุกคน
"ข้าไม่ได้โกหกแน่นอน"
ลู่ซุยซุยยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาทาบอกตัวเองราวกับว่ากำลังให้คำมั่นกับกลุ่มคนแปลกหน้า
“ข้าบอกเจ้าได้ แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะไม่แตะต้องข้า”
คำพูดนั้นทำให้ภูตเร่ร่อนหลายคนมองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้าพลางหัวเราะร่า
พวกเขาตอบตกลงโดยไม่แม้แต่จะคิด
“ได้ ไม่มีปัญหา บอกข้ามาว่าผู้หญิงพวกนั้นอยู่ที่ไหน”
เมื่อกวางสาวเห็นว่าอีกฝ่ายตอบตกลงง่าย ๆ นางก็คิดว่าตัวเองสามารถจัดการกับคนกลุ่มนี้ได้อย่างง่ายดายจนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง
ภูตเร่ร่อนพวกนี้ช่างโง่เขลาจริง ๆ ข้าจะยืมมือพวกมันมาจับตัวลู่เมี่ยนเอ๋อ!
ในเมื่อนางกลับไปในเผ่าไม่ได้แล้ว นางก็จะไม่ยอมปล่อยให้ศัตรูหัวใจได้อยู่เป็นสุข
ต่อมา ลู่ซุยซุยยืดอกอย่างพึงพอใจแล้วบอกภูตเร่ร่อนว่ากลุ่มเก็บเกี่ยวจะไปเก็บผลไม้ที่ไหน
"เอาล่ะ พรุ่งนี้เราไปจับผู้หญิงกันเถอะ!"
ขณะนี้เหล่าชายป่าเถื่อนกำลังคึกคะนอง หลังจากที่พูดคุยกันจบ ภูตชายร่างเพรียวก็กระโจนเข้าใส่กวางสาวอีกครั้ง
“กรี๊ดดดด!! เจ้ากำลังจะทำอะไร! เจ้าเพิ่งสัญญากับข้าเองว่าจะไม่ยุ่งกับข้า!” ฝ่ายที่ถูกคุกคามตะโกนพร้อมกับเตะขาใส่อีกฝ่ายรัว ๆ
ส่วนภูตเร่ร่อนที่อยู่ใกล้ ๆ หัวเราะอย่างมีชัย ประหนึ่งว่าพวกเขากำลังดูละครตลก
“ฮ่าๆๆ แม่นาง ภูตในเผ่าของเจ้าไม่ได้บอกเจ้าหรือว่าไม่ควรเชื่อถือคำพูดของภูตเร่ร่อนน่ะ”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ผู้หญิงไม่สมควรมาโดนพวกป่าเถื่อนทำอะไรแบบนี้ โลกภายนอกนี่มันน่ากลัวจริง ๆ T_T