บทที่ 63: ลู่ซุยซุยถูกขับไล่ออกจากเผ่า
ทันทีที่คำพูดของลู่ซุยซุยหลุดออกมา ภูตคนอื่นก็ส่งเสียงคุยกันเซ็งแซ่
"ใช่ ข้าเคยเห็นมาเหมือนกัน นี่คือขนนกแทนใจที่อิงหยวนมอบให้ลู่เมี่ยนเอ๋อ เพราะว่านางคือคนสำคัญของเขา!"
"ทำไมของของลู่เมี่ยนเอ๋อถึงมาอยู่ที่นี่ เป็นไปได้ไหมว่านางเป็นคนทำต้นกล้าตาย"
"ข้าคิดว่าเป็นไปได้ เจ้าจำไม่ได้แล้วหรือว่านางกับหูเจียวเจียวแย่งอิงหยวนกันมาตลอด บางทีนางอาจจงใจแก้แค้นหูเจียวเจียว!"
ในตอนนั้นเอง หัวหน้าเผ่ามองกวางสาวด้วยใบหน้าบึ้งตึง เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าลู่เมี่ยนเอ๋อซึ่งปกติประพฤติตัวดีและมีเหตุผลจะทำเช่นนี้
"ลู่เมี่ยนเอ๋อ ทำไมขนนกของเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ การที่ผลไม้ดินตายเกี่ยวข้องกับเจ้าหรือไม่?" เขาถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
หญิงสาวตกใจมากจนหน้าซีด นางรีบอธิบายว่า "ท่านผู้เฒ่า ขนนกเป็นของข้าจริง แต่เรื่องที่ผลไม้ดินตายนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้า เมื่อวานข้าก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าขนนกหายไป แต่ข้าไม่ได้ทำ...”
“ถ้าเจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้ทำ เราต้องเชื่อเจ้าเลยหรือ?”
“ใช่! เจ้าโกหก ข้าคิดว่าเจ้านั่นแหละที่เป็นคนทำต้นกล้าผลไม้ดินตาย!”
ในบรรดาชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ มีผู้หญิงหลายคนที่ไม่ชอบลู่เมี่ยนเอ๋ออยู่แล้ว พวกนางจึงพูดแทรกขึ้นมาด้วยเสียงสูง
ตามปกติแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันในเผ่าคือการแข่งขัน ดังนั้นผู้หญิงส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยลงรอยกันนัก และเป็นเรื่องปกติที่พวกนางจะสร้างปัญหาให้กันและกันในยามที่มีใครพลาดท่า
"ไม่ ข้าไม่ได้ทำจริง ๆ..." ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาส่ายหัว ในขณะที่ใบหน้าซีดเซียวของนางทำให้คนอื่นรู้สึกสมเพช
แต่ผู้ชายหลายคนกลับรู้สึกเป็นทุกข์เมื่อเห็นนางเป็นเช่นนั้น บางคนถึงขั้นก้าวเข้ามาโต้เถียงแทนกวางสาว
"ลู่เมี่ยนเอ๋อเป็นคนใจดี นางจะทำลายต้นกล้าผลไม้ดินได้ยังไง?"
“ข้าเชื่อในตัวลู่เมี่ยนเอ๋อ นางไม่ได้ทำ ลู่เมี่ยนเอ๋อเป็นผู้บริสุทธิ์ ท่านผู้เฒ่า ท่านต้องสืบหาความจริงเรื่องนี้!”
เวลานั้นหัวหน้าเผ่ากำลังจะอารมณ์เสีย แต่จู่ ๆ หูเจียวเจียวก็ยืนขึ้นและพูดอย่างใจเย็นว่า "ท่านผู้เฒ่า ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เรามาลองเปรียบเทียบรอยเท้าบนพื้นกันก่อนเถอะ"
จิ้งจอกสาวเสนอความคิดพร้อมกับชี้ไปที่ถนนเส้นหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำกับทุ่งปลูกมันฝรั่ง
“นอกจากท่านผู้เฒ่ากับข้า ในช่วงไม่กี่วันมานี้ไม่มีภูตคนไหนเข้ามารดน้ำ ข้าเพิ่งค้นพบว่ามีรอยเท้าแปลก ๆ อยู่ตรงนั้นมากมาย ซึ่งน่าจะเป็นรอยเท้าของคนที่แอบมารดน้ำเมื่อวานนี้ มาดูกันว่ารอยเท้านี้เป็นของใคร และใครคือคนที่ทำลายต้นกล้าผลไม้ดินตัวจริง”
"อืม นั่นเป็นความคิดที่ดีมาก" ผู้นำสูงสุดของเผ่าลูบคางพลางพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะมองไปที่ลู่เมียนเอ๋อ "เจ้าคิดว่ายังไง?"
"ท่านผู้เฒ่า ข้าสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้าได้" หญิงสาวพยักหน้ารับแบบซื่อตรง
ภายใต้สายตาที่จับจ้องมาของทุกคน ลู่เมี่ยนเอ๋อเดินไปที่ริมฝั่งแม่น้ำเพื่อเปรียบเทียบรอยเท้า
จากนั้นเหล่าภูตเห็นว่ารอยเท้าบนพื้นมีลักษณะเรียวยาว แต่เท้าของกวางสาวนั้นสั้นและกว้างกว่า แค่มองแว้บแรก ทุกคนก็บอกได้ว่ามันไม่ใช่รอยเท้าของคน ๆ เดียวกัน
ผลลัพธ์นี้อยู่ในความคาดหมายของหูเจียวเจียว
ในฐานะนางเอกของนิยาย ลู่เมี่ยนเอ๋อจะไม่ทำอะไรที่จะเป็นอันตรายต่อเผ่า
“ท่านผู้เฒ่า ในเมื่อทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่พอดี ทำไมเราไม่เปรียบเทียบรอยเท้าของทุกคนดูล่ะ บางทีเราอาจจะพบผู้กระทำความผิดที่แท้จริงก็ได้” จิ้งจอกสาวหันไปแนะนำผู้มีอำนาจสูงสุดของเผ่า
“ใช่ ต้องหาคนร้ายตัวจริงให้ได้!” หัวหน้าเผ่าพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
ที่มุมถนน เมื่อลู่ซุยซุยได้ยินทั้ง 2 คนคุยกัน ใบหน้าของนางก็ซีดเผือดลงเพราะความประหม่า
เปรียบเทียบรอยเท้า? หากทำแบบนั้น ข้าจะไม่โดนเปิดโปงหรือไง!
"หูเจียวเจียว ที่นี่มีคนตั้งมากมาย ถ้าให้ลองทีละคน ข้าต้องรอนานแค่ไหน ข้าคิดว่าเจ้าแค่ไม่รู้วิธีปลูกผลไม้ดิน ดังนั้นเจ้าเลยตั้งใจหาข้อแก้ตัวมาโยนความผิดให้คนอื่น!" ลู่ซุยซุยกล่าวหาอีกฝ่ายด้วยความโกรธ
"ถูกต้อง ขอบใจเจ้าที่เตือนข้า" หูเจียวเจียวมองไปที่คนพูดด้วยรอยยิ้มเต็มเปี่ยม "ผู้ชายไม่ได้มีเท้าที่เล็กขนาดนั้น ฉะนั้นมันต้องเป็นผู้หญิง งั้นก็ให้ผู้หญิงในเผ่าทุกคนมาเทียบรอยเท้าอันนี้"
เธอพูดจบแล้วก็ยิ้มให้ลู่ซุยซุยด้วยดวงตาที่หรี่ลง "ลู่ซุยซุย ขอบใจเจ้านะที่เตือนสติข้า"
"..."
หญิงสาวโกรธมากจนกัดฟันแน่น
การกระทำของนางคือการสะดุดเท้าตัวเองล้มของจริง
ในไม่ช้าหัวหน้าเผ่าก็สั่งให้ภูตคนอื่นเรียกผู้หญิงทั้งหมดมาที่ริมแม่น้ำ
เวลาต่อมา ผู้หญิงทุกคนก็เข้าแถวเปรียบเทียบรอยเท้าทีละคน
ระหว่างนั้น ลู่ซุยซุยที่ยืนอยู่ปลายแถวกัดเล็บในขณะที่แถวขยับมาจนถึงคราวตัวเอง ทันทีที่นางเทียบรอยเท้าต้องสงสัย เหมือนกับว่านางทำระเบิดหล่นลงกลางฝูงชน จากนั้นทุกคนก็ตกตะลึง
“ลู่ซุยซุย!!”
“เท้าของนางพอดีกับรอยเท้าบนพื้นเลย นางเป็นคนทำลายต้นกล้าผลไม้ดิน!”
เมื่อลู่เมี่ยนเอ๋อได้รู้อย่างนี้ นางก็เบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ
“ซุยซุย เจ้าขโมยขนนกของข้าไปเมื่อวานใช่ไหม?” นางถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
ทีแรกนางยังแอบสงสัยว่าทำไมจู่ ๆ ลูกพี่ลูกน้องจึงมาขอโทษตนเมื่อวานนี้ ปรากฏว่านางโดนผู้หญิงคนนี้หลอกอีกแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของลู่ซุยซุยสั่นสะท้าน จากเดิมนางก้มหัวด้วยความอับอายที่ถูกจับได้แล้วก็เงยหน้าขึ้นทันทีเผยให้เห็นดวงตาสีแดงก่ำ
"พี่เมี่ยนเอ๋อ ท่านกำลังพูดถึงอะไร ท่านให้ขนนกนั้นกับข้าเองและบอกให้ข้าทำแบบนี้ ท่านเป็นคนบอกให้ข้าทำเอง... "
น้ำเสียงแห่งความคับแค้นใจเหมือนคนร้องไห้ของกวางสาวพึมพำขึ้นมา
"ข้าให้ขนนกแก่เจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่! ลู่ซุยซุย ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทำแบบนี้—" ลู่เมี่ยนเอ๋อต่อว่าพร้อมชี้ไปที่ลูกพี่ลูกน้องด้วยความเศร้าโศก
ก่อนที่นางจะพูดจบ ลู่ซุยซุยก็ขัดจังหวะนางด้วยเสียงร้องไห้ระงม
"ฮือๆๆ พี่เมี่ยนเอ๋อ ท่านควรยอมรับเสียตอนนี้ ข้าเก็บเป็นความลับให้ท่านไม่ได้จริง ๆ"
"นี่เจ้า!"
ชั่วขณะหนึ่ง สายตาของชาวบ้านทุกคนจับจ้องไปที่ทั้งคู่โดยไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใครดี
นี่เป็นการแสดงที่น่าปวดหัวจริง ๆ!
ในตอนนั้นเอง เสียงที่นุ่มนวลและคมชัดก็ดังขึ้นมา "เมื่อวานนี้ หัวหน้าเผ่ากับข้าคุยกันอยู่ที่นี่ ถ้าพวกเจ้าอยากรู้ว่าใครคือผู้ร้ายตัวจริง ก็แค่ไปดูว่ามีรอยเท้าที่คล้ายกันในบริเวณรอบ ๆ หรือไม่"
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากจิ้งจอกสาว เหล่าภูตทั้งหลายก็กระจายตัวกันไปตามหารอยเท้าทันที
"นี่มันเหมือนกับรอยเท้าของลู่ซุยซุย!" ในไม่ช้าชายคนหนึ่งก็ชี้ไปที่รอยเท้าหลังต้นไม้
การค้นพบของเขาทำให้ใบหน้าของลู่ซุยซุยซีดลง ในขณะที่นางกำลังจะอธิบาย หูเจียวเจียวก็มองนางด้วยรอยยิ้ม "ลู่ซุยซุย เจ้าได้ยินว่าการรดน้ำมากเกินไปจะสามารถทำให้ต้นกล้าผลไม้ดินตายได้ ลู่เมี่ยนเอ๋อไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย แล้วนางจะไปหลอกให้เจ้าทำเรื่องนี้ได้ยังไง?”
"ทั้งหมดนี้เป็นเจ้าที่กุเรื่องขึ้นมาเอง!"
"ข้า…"
ฝ่ายถูกจับได้กระวนกระวายมากจนคิดอะไรไม่ออก ส่งผลให้เจ้าตัวพูดอึกอักอยู่นาน
แต่อีกด้านหนึ่ง ใบหน้าของหัวหน้าเผ่าไม่มีแววใจดีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
พอชาวบ้านทุกคนได้เห็นสีหน้าของชายชราก็พากันเงียบเสียงลงโดยพร้อมเพรียงกัน
"ลู่ซุยซุย เจ้าเอาเรื่องสำคัญของเผ่ามาล้อเล่นหลายครั้งแล้ว ข้าคงไม่สามารถให้เจ้าอยู่ในเผ่าได้อีกต่อไป วันนี้เจ้าและคู่ของเจ้าจะต้องย้ายออกจากเผ่า หากไม่ได้รับการยินยอมจากข้า เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวเข้ามาในเผ่าแม้แต่ก้าวเดียว!"
!!!
บัดนี้ชายผู้มีอำนาจสูงสุดโกรธมาก เขาขับไล่ลู่ซุยซุยออกจากเผ่าไปทันที
ดวงตาของกวางสาวเบิกกว้างหลังจากที่ได้ยินคำตัดสินของอีกฝ่าย "ไม่! ไม่ ข้าไม่อยากออกจากเผ่า..."
ผู้หญิงที่ถูกไล่ออกไม่สามารถกลับมาอาศัยอยู่ในเผ่าได้อีกต่อไป และลูกที่พวกนางให้กำเนิดนั้นจะไม่มีสิทธิ์เลี้ยงดูด้วยตัวเอง เด็กพวกนั้นจะต้องถูกส่งกลับมาที่เผ่าหลังจากคลอด
นอกจากนี้นางจะต้องสูญเสียสถานะทุกอย่างในเผ่าไป
ถึงแม้โทษทัณฑ์นี้จะไม่ถึงตาย แต่มันก็ทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตายเสียอีก
ยามนี้หัวใจของหัวหน้าเผ่าแข็งกระด้าง และเขาหันกลับมาด้วยใบหน้าเย็นชา "พาตัวนางไปและขับไล่นางออกจากเผ่าทันที เผ่านี้ไม่สามารถทนรับผู้หญิงอย่างนางได้อีก"
"ท่านผู้เฒ่า ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย... ได้โปรด ท่านผู้เฒ่า ข้าออกจากเผ่าไม่ได้..."
กวางสาวคร่ำครวญอย่างสิ้นหวัง แต่ไม่มีภูตคนไหนเห็นอกเห็นใจนางแม้แต่คนเดียว
หลังจากนั้นไม่นาน ลู่ซุยซุยและคู่รักของตนก็ถูกขับออกจากเผ่า
โดยภูตที่มาส่งโยนสัมภาระของพวกนางลงบนพื้นลวก ๆ แล้วหันหลังกลับไปแบบไม่ไยดี
ถัดมา หญิงสาวมองไปยังถ้ำที่ทั้งมืดและชื้น ก่อนจะทรุดตัวลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง
จบแล้ว มันจบสิ้นแล้ว!