บทที่ 39 : เตรียมตัวไปสถาบันมุมทอง
บทที่ 39 : เตรียมตัวไปสถาบันมุมทอง
ลู่หยานไม่ได้แปลกใจกับการมาถึงของอีกฝ่าย
ท้ายที่สุดแล้ว ข่าวที่เขาได้กลายเป็นแชมป์ระดับมณฑลนั้นก็ได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ดังนั้นหากพวกเขายังไม่ลงมืออีก พวกเขาก็คงจะทั้งหยิ่งยโสและโง่เง่า
ก่อนหน้านี้ ลู่หยานก็อาจกล่าวได้ว่าไม่มีใครให้พึ่งพา แม้ว่าผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเขาจะไม่แย่ แต่เขาก็ยังไม่ได้เป็นภัยต่อซิงก้า
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันก็แตกต่างกันออกไปแล้ว ลู่หยานได้กลายเป็นแชมป์ระดับมณฑล และอิทธิพลของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้สอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วไปจะสามารถเทียบได้
ถึงอย่างงั้น มันก็เห็นได้ชัดว่าซิงก้าไม่ได้จริงใจเลยแม้แต่น้อย พวกเขาแค่ถูกบังคับโดยสถานการณ์เท่านั้น
เมื่อหลินหยูฮังได้ยินคำพูดของลู่หยาน เขาก็ยิ้มอย่างขอโทษและพูดว่า “คุณลู่หยาน คุณกำลังล้อผมเล่นแล้วแน่ๆ ตอนนี้คุณเป็นนักศึกษาของสถาบันมุมทองแล้ว เราจะไปกล้าชวนคุณได้ยังไง?”
“ผมมาที่นี่เพื่อขอโทษคุณต่างหาก พวกเราอยากจะขอโทษสำหรับความเข้าใจผิดก่อนหน้านี้”
ลู่หยานหัวเราะเยาะ “เข้าใจผิดหรอ? ความเข้าใจผิดแบบไหนกันที่ทำให้ท่านรองประธานแห่งกลุ่มซิงก้าต้องมาขอโทษฉันเองเป็นการส่วนตัว?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินหยูฮังค้างอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะยิ้มและพูดว่า “คุณลู่หยาน ผมจะไม่ตีไม้รอบพุ่มแล้วนะ มันเป็นความผิดของซิงก้าของเราเองก่อนหน้านี้ และนี่ก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความเสียใจอย่างสุดซึ้งของเรา คุณลู่หยานโปรดรับมันไว้ด้วยเถอะ”
หลินหยูฮังรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงกับลู่หยานในขณะนี้ และเนื่องจากเขามาที่นี่เพื่อขอโทษ ดังนั้นเขาจึงควรจะทำให้มันจบอย่างถูกต้อง
ในขณะที่เขาพูด สมาชิกของกลุ่มซิงก้าที่อยู่ข้างหลังเขาก็เดินไปข้างหน้าและวางกล่องลงบนพื้นก่อนที่จะเปิดมันโชว์สิ่งที่อยู่ข้างใน
ยาบำรุงโลหิต ยารักษาระดับกลาง ยารักษาระดับสูง ม้วนคัมภีร์หนังแกะและบัตรธนาคาร
“คุณลู่หยาน นี่คือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากซิงก้าของเรา คัมภีร์หนังแกะได้บันทึกสกิลรักษาของนักบวชเลเวล 30 เอาไว้ มันยังมีเหรียญพลังงานสิบล้านในบัตรธนาคาร กรุณารับมันไปด้วยเถอะ ผมหวังว่าเราจะสามารถลืมความไม่พอใจระหว่างเราด้วยรอยยิ้มได้”
ลู่หยานเลิกคิ้วขึ้น สิ่งเหล่านี้มีความหมายสำหรับลั่วหลิวลี่ ต้องบอกว่าซิงก้าได้ใช้ความพยายามอย่างมากเช่นกัน
“ฉันจะยอมรับมันก็ได้” ลู่หยานโบกมือและให้พ่อบ้านหลิวนำสิ่งของเหล่านี้เข้าไป
อีกฝ่ายได้มามอบของขวัญให้กับเขาถึงที่แบบนี้ เขาคงจะไม่สามารถปฏิเสธมันได้หรอกจริงไหม?
สำหรับการปล่อยเรื่องในอดีตให้ผ่านพ้นไป?
นั่นคงจะเป็นไปไม่ได้
ในปัจจุบัน ลู่หยานก็ไม่เพียงแต่จะอยากโค่นซิงก้าลงเท่านั้น แต่เขายังคิดอยากจะลบอีกฝ่ายให้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินหยูฮังกว้างขึ้น “คุณลู่หยาน ฉันได้จองห้องส่วนตัวในร้านอาหารหรูเอาไว้แล้ว เราไปกินข้าวด้วยกันตอนบ่ายหน่อยดีไหม?”
ลู่หยานพูดอย่างเย็นชาว่า “เราไม่จำเป็นต้องกินอะไรกันหรอก ฉันมีนัดแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็โปรดออกไปเถอะ”
เมื่อพูดจบ ลู่หยานก็หันหลังกลับไปในทันที
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของลู่หยาน รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินหยูฮังก็หายไป และสีหน้าของเขาก็มืดมนลงในทันที
หลินหยูฮังเงยหน้าขึ้นมองและหันกลับไปพร้อมกับคนของเขา เขากดโทรศัพท์และโทรหาบอสของเขา
“บอสครับ เขารับของไปแล้ว แต่ดูจากท่าทางของเขาแล้ว เขาก็ยังคงดูไม่พอใจอยู่มาก”
“มันก็เป็นเรื่องปกติแหละที่คนหนุ่มสาวจะทำตัวแบบนี้ ไม่เป็นไร ตราบใดที่เราได้ให้ของขวัญเพื่อแสดงทัศนคติของเราแค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว”
“แต่บอสครับ ผมกังวลเล็กน้อยว่าเขาจะกลับมาแก้แค้นเราแน่ในอนาคต”
“อย่ากังวลไปเลย ซิงก้ากำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หลินอันทั้งหมดตกอยู่ในธุรกิจของเรา และนี่คือความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างเรากับคู่ต่อสู้ของเรา”
“เราได้ครอบคลุมเส้นทางเดินของเราเอาไว้ดีแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะสัมผัสกับเราได้ ยิ่งไปกว่านั้น พัฒนาการของเขาน่ะหรอจะเทียบเคียงกับซิงก้าของเราได้?”
“เพราะฉะนั้นแล้ว ทางเลือกที่ดีที่สุดของเขาในตอนนี้จึงเป็นการยอมรับคำขอโทษจากซิงก้าของเรา”
…
ตอนเที่ยง ลู่หยานไปโรงพยาบาลและมอบยาบำรุงโลหิตกับยารักษาเอาไว้ให้ลั่วหลิวลี่
ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา ลู่หยานได้ออกกำลังกายและทำภารกิจประจำวันต่างๆ ให้สำเร็จ
หลังจากผ่านไปกว่าสิบวัน ลู่หยานก็ได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติฟรีมา 30 คะแนนจากภารกิจประจำวัน และเขาก็มีคะแนนสกิลทั้งหมด 40 คะแนนแล้ว
ลู่หยานเพิ่มคะแนนค่าคุณสมบัติฟรี 30 คะแนนไปให้กับค่าร่างกายของเขา 5 คะแนนสำหรับความว่องไว และ 15 คะแนนสำหรับสติปัญญาของเขา
[ ความแข็งแกร่ง: 77 ]
[ ร่างกาย: 97 ]
[ ความว่องไว: 62 ]
[ สติปัญญา: 138 ]
หลังจากเพิ่มคะแนนค่าคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว ค่าคุณสมบัติทั้งสี่ของ ลู่หยานก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาไม่เพียงแต่จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น แต่เลเวลสกิลของเขาเองก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น สกิลระเบิดศพที่จะเพิ่มความเสียหายตามค่าคุณสมบัติความแข็งแกร่งและสติปัญญา ดังนั้นสกิลระเบิดศพในปัจจุบันของเขาจึงสามารถสร้างความเสียหายได้มากขึ้น
น่าเสียดายที่สกิลระเบิดศพไม่สามารถอัปเกรดได้ ไม่งั้นมันก็คงจะน่าสยองยิ่งกว่านี้
ลู่หยานไม่ได้แตะคะแนนสกิล 40 คะแนน หลังจากเข้าไปในมหาวิทยาลัยแล้ว เขาก็อาจจะได้รับสกิลอื่นๆ และเมื่อถึงเวลานั้น เขาก็จะแจกจ่ายมันให้กับสกิลเหล่านั้น
วันที่ 20 มิถุนายนมาถึงอย่างรวดเร็ว ลู่หยานเก็บข้าวของและเตรียมตัวไปที่สถาบันมุมทองในเมืองเทียนหนาน
ลั่วหลิวลี่ช่วยลู่หยานเก็บข้าวของและส่งเขาออกไป หลังจากรักษาตัวมากว่าสิบวัน นอกจากออร่าดาบในร่างกายของเธอแล้ว อาการบาดเจ็บอื่นๆ ของลั่วหลิวลี่ก็หายไปเป็นปกติแล้ว
ซื่อหยูหานมาหาลู่หยานด้วย ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา ซื่อหยูหานก็มักจะมาเยี่ยมลู่หยานและเริ่มสนิทคุ้นเคยกับลั่วหลิวลี่
ซื่อหยูหานยังบอกลู่หยานว่าไม่ต้องกังวลและบอกว่าเธอจะช่วยดูแลลั่วหลิวลี่เอง
ลู่หยานรู้สึกขอบคุณเธอสำหรับสิ่งนี้ ท้ายที่สุดแล้ว ลั่วหลิวลี่ก็คือคนที่ลู่หยานเป็นห่วงมากที่สุด
หยางเว่ยขับรถมาถึงที่ทางเข้าของบ้านจัดสรรเฟิงฮัวมานานแล้ว และเตรียมพร้อมที่จะขับไปส่งลู่หยานเองเป็นการส่วนตัวไปยังค่ายกลเทเลพอร์ตที่ก่อตั้งขึ้นโดยไห่หลานการค้า
แม้ว่าพวกเขาจะสามารถขึ้นเครื่องบินได้ แต่เนื่องจากพื้นที่ของโลกมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึงหลายพันเท่า ดังนั้นระยะทางระหว่างเมืองหลินอันและเมืองเทียนหนานจึงไกลขึ้นมาก ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างสถานที่ทั้งสองก็ยังมีเพียงดินแดนรกร้าง หากพวกเขาพบกับสัตว์ปีศาจบินได้เข้า พวกเขาก็จะฉิบหายแน่นอน
ด้วยเหตุนี้เอง การใช้ค่ายกลเทเลพอร์ตจึงค่อนข้างปลอดภัย แต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงกว่าด้วย
เมื่อลู่หยานมาถึงทางเข้าบ้านจัดสรรและกล่าวอำลากับทุกคน รถคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาและหยุดจอดข้างหน้าเขา
หลี่โม่ผิงซึ่งแต่งกายด้วยชุดลำลองเดินลงมาจากรถและมาถึงหน้าลู่หยาน
“ลู่หยาน ฉันมาที่นี่เพื่อพาเธอไปที่สถาบันมุมทอง” หลี่โม่ผิงมองไปที่ลู่หยานและยิ้ม
ลู่หยานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่ได้คาดคิดว่าหลี่โม่ผิงจะมารับเขาไปที่สถาบันมุมทองเองเป็นการส่วนตัว
“ไม่เลวเลยนี่ลู่หยาน นายถึงขั้นมีคนมาพาไปมหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำ การปฏิบัติต่อแชมป์ระดับมณฑลนี่มันไม่เลวเลยจริงๆ” หยางเว่ยสะกิดลู่หยานและยิ้มอย่างชั่วร้าย
ลู่หยานกลอกตาใส่หยางเว่ย จากนั้นเขาก็มองไปที่หลี่โม่ผิงและยิ้ม “ผมไม่ได้คาดคิดเลยว่าอาจารย์หลี่จะมารับผมเองเป็นการส่วนตัว”
หลี่โม่ผิงยิ้มและพูดว่า “นายเป็นแชมป์ระดับมณฑลนะ คิดหรอว่าเราจะปล่อยให้นายเดินทางไปไหนมาไหนเอง? ถ้าเสร็จแล้วก็ขึ้นรถได้เลย ฉันยังต้องสรุปเรื่องที่นายควรทราบเกี่ยวกับสถาบันมุมทองให้อีก”
ลู่หยานพยักหน้าและกล่าวลาลั่วหลิวลี่กับคนอื่นๆ ก่อนจะขึ้นรถของหลี่โม่ผิงโดยตรง
ไม่นานรถก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองไปที่ทิวทัศน์นอกรถ ลู่หยานก็เลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า “อาจารย์หลี่ พวกเราจะไม่ใช้ค่ายกลเทเลพอร์ตของไห่หลานการค้าหรอ?”
หลี่โม่ผิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดอย่างสบายๆ ว่า “ค่ายกลเทเลพอร์ตของไห่หลานการค้า? นั่นมันเล็กและก็ไม่เสถียรเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น เราก็ยังต้องไปต่อคิวกันอีก เราจะไปที่ค่ายกลเทเลพอร์ตของกองทัพแทนเลย”