บทที่ 37 : การมาถึงของรางวัลจากสำนักงานมณฑล
บทที่ 37 : การมาถึงของรางวัลจากสำนักงานมณฑล
ลู่หยานไม่ได้พบสิ่งผิดปกติใดๆ เมื่อเขากลับมาจากห้องน้ำ ซื่อหยูหานยิ้มและถามลู่หยานเกี่ยวกับการเลือกมหาวิทยาลัยของเขา
“สถาบันมุมทองหรอ? นั่นมันมหาวิทยาลัยสามอันดับแรกของประเทศนี่ รุ่นพี่ลู่หยาน พี่เก่งมากจริงๆ”
“หนูเองก็อยากจะเข้าเรียนที่นั่นด้วยจังเลย~”
ซื่อหยูหานมองไปที่ลู่หยานและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“นั่นก็ดีเลย ฉันจะรอเธอที่นั่นนะ” ลู่หยานมองไปที่ซื่อหยูหานและยิ้ม
ขณะที่ทั้งสองคุยกัน มันก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว
พ่อบ้านหลิวเดินเข้ามาและถามว่า “คุณลู่หยาน นี่ใกล้จะเวลาเที่ยงแล้ว คุณต้องการให้กระผมเตรียมมื้อนี้ยังไงดีครับ?”
ลู่หยานเพิ่งเข้าบ้านมาวันนี้ และพ่อบ้านหลิวก็ยังไม่รู้ว่ารสชาติที่เขาชอบเป็นอย่างไร ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงต้องมาถามเป็นธรรมดา
ซื่อหยูหานยืนขึ้นและพูดว่า “อั้ยหยา นี่มันเที่ยงแล้วหรอเนี่ย หนูคุยเพลินจนลืมเวลาไปเลย งั้นรุ่นพี่ลู่หยาน หนูขอตัวกลับไปก่อนนะ”
ลู่หยานยืนขึ้นและพูดอย่างสุภาพว่า “มันก็เที่ยงแล้ว ทำไมเธอไม่อยู่กินกับเราก่อนล่ะ?”
“จริงหรอ? เยี่ยมไปเลย พ่อแม่ของหนูไม่อยู่บ้านและหนูก็กังวลเรื่องอาหารกลางวันพอดีเลย” ซื่อหยูหานมองไปที่ลู่หยานและยิ้มขณะที่เธอนั่งลงอีกครั้ง
“เอ่อ…” ร่างกายของลู่หยานแข็งค้างไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรและปล่อยให้พ่อบ้านหลิวดูแลเรื่องอาหารกลางวัน
ความรู้สึกของลู่หยานที่มีต่อซื่อหยูหานนั้นไม่ได้มีอะไรมาก
อีกฝ่ายพูดอย่างอ่อนโยนและถามถึงพลังอันเดดเท่านั้น อย่างมากที่สุด เธอก็จะถามเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่เขาเลือกและไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง ลู่หยานจึงไม่ได้ไม่ชอบเธอ
ในไม่ช้า พ่อบ้านหลิวก็เตรียมอาหารเสร็จ
แม้ว่าลู่หยานจะบอกให้เขาทำตามที่เขาต้องการ แต่พ่อบ้านหลิวก็ยังไม่กล้าที่จะหย่อนยาน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีแขกมาอีก เขาจึงกำชับให้พนักงานในครัวเตรียมมื้ออาหารอย่างดี
ลู่หยานเลิกคิ้วเมื่อเขาเห็นอาหารมากมาย ถ้าไม่ใช่เพราะซื่อหยูหานอยู่ที่นี่ด้วย เขาก็คงจะกินพวกมันได้ไม่ถึงหนึ่งในสาม
ทั้งสองคนนั่งลงและกินกันสักพักก่อนที่โทรศัพท์ของซื่อหยูหานจะดังขึ้น
ซื่อหยูหานลุกยืนขึ้นและเดินออกจากโต๊ะอาหารไป หลังจากรับโทรศัพท์เสร็จแล้ว เธอก็กลับมาและสนทนากับลู่หยานต่อไปในขณะที่เธอรับประทานอาหาร
ไม่กี่นาทีต่อมา โทรศัพท์ของซื่อหยูหานก็ดังขึ้นอีกครั้ง
หลังจากที่ซื่อหยูหานได้รับโทรศัพท์ครั้งแรก มันก็จะมีสายเรียกเข้าดังขึ้นในอีกทุกๆ 5 นาที
เมื่อเห็นดังนี้ ลู่หยานก็พูดเบาๆ ว่า “มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า? เธอต้องการจะจัดการกับมันก่อนไหม?”
เมื่อเห็นสายเรียกเข้าจำนวนมาก ลู่หยานก็เดาว่าอีกฝ่ายน่าจะโทรหาฉีหยูหานเพราะมีเรื่องเร่งด่วน
ซื่อหยูหานยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก มันได้รับการแก้ไขแล้ว มันจะไม่มีใครมารบกวนเราจากการกินข้าวอีก”
ซื่อหยูหานเก็บโทรศัพท์ที่ปิดเครื่องไปแล้วของเธอลงไปในกระเป๋าของเธอและนั่งลงที่โต๊ะอาหารเพื่อทานอาหารกับลู่หยานต่อ
พวกเขาสองคนพูดถึงพลังอันเดดมาโดยตลอด ลู่หยานตระหนักได้ว่าแม้ว่าซื่อหยูหานจะขอคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้พลังอันเดดเป็นครั้งคราว แต่เธอก็มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพลังอันเดด
หลังจากสนทนากันแล้ว ลู่หยานก็ได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกัน
ดูเหมือนว่าซื่อหยูหานคนนี้จะชอบพลังอันเดดมาก เธอยังอ่านหนังสือเกี่ยวกับพลังอันเดดอีกหลายเล่ม
ครอบครัวของซื่อหยูหานค่อนข้างร่ำรวยอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้เธอก็ยังครอบครองหนังสือเกี่ยวกับพลังอันเดดลึกลับอยู่อีกหลายเล่ม สิ่งนี้ทำให้ลู่หยานได้เพิ่มพูนความรู้ของเขาเกี่ยวกับพลังอันเดด
ทั้งสองทานอาหารกันอย่างมีความสุข จากนั้นลู่หยานก็ไปส่งซื่อหยูหานออกจากวิลล่า
ทันทีที่เธอเดินมาถึงหน้าประตู ซื่อหยูหานก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ที่ทางเดินหน้าทางเข้าวิลล่า ชายหนุ่มหลายคนกำลังถือกระเป๋าและเดินเข้าไปในบริเวณวิลล่า
ชายหนุ่มหลายคนเองก็เห็นซื่อหยูหานเช่นกัน ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตรงเข้ามาหาเธอ
“หยูหาน เธอไม่ได้บอกว่าตอนนี้เธอรู้สึกไม่สบายหรอ? ฉันเพิ่งพาคนไปซื้อของมาให้เธอ แล้วทำไมเธอถึง…”
ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำทำให้ซื่อหยูหานและลู่หยานตกใจเล็กน้อย
ลู่หยานเลิกคิ้วขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่โทรมาหาซื่อหยูหานก่อนหน้านี้
เห็นได้ชัดว่าซื่อหยูหานโกหกอย่างชัดเจน เธอสบายดี และเมื่อกี้เธอก็ยังกินข้าวกับเขาอยู่เลย เธอจะไม่สบายได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม ลู่หยานก็ไม่ได้คิดอยากจะมีส่วนร่วมและเฝ้าดูอย่างเงียบๆ จากด้านข้างเท่านั้น
ดวงตาของซื่อหยูหานกะพริบ “โอ้ ยาที่บ้านฉันหมดน่ะ ฉันเลยมายืมจากเพื่อนบ้าน ตอนนี้ฉันดีขึ้นมากแล้ว”
“จางหงหยู ไปคุยกันที่บ้านของฉันสิ”
ซื่อหยูหานไม่ได้คาดคิดว่าจางหงหยูจะมาที่นี่โดยตรง เธอตัดสินใจพาจางหงหยูออกไปก่อน เธอไม่ต้องการให้ลู่หลานเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
จางหงหยูชำเลืองมองไปที่ลู่หยานและเขาก็ยิ้ม “ฉันชื่อจางหงหยู เพื่อนของหยูหาน ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่าคุณเป็นใคร?”
ลู่หยานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและมองไปที่จางหงหยูซึ่งอยู่ในชุดสูทและมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเขา เขาพูดด้วยสีหน้าสงบ “ลู่หยาน ตอนนี้เราเป็นเพื่อนบ้านกัน”
“ลู่หยาน?” จางหงหยูตกตะลึงก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเปิดเผยความตื่นเต้น
“คุณคือแชมป์อันดับหนึ่งของมณฑลซูฮังลู่หยานคนนั้นน่ะหรอ? ฉันได้ยินชื่อของคุณมานานแล้ว คุณยอดเยี่ยมจริงๆ ที่สามารถเป็นแชมป์อันดับหนึ่งของมณฑลในฐานะเนโครแมนเซอร์ได้”
เมื่อเห็นการแสดงออกที่ดูชื่นชมและตื่นเต้นของจางหงหยู ลู่หยานก็ตกตะลึงอีกครั้ง
มันแตกต่างจากที่เขาจินตนาการเอาไว้
ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายจะกำลังหาเรื่องเขาและจบลงด้วยการถูกทำให้ขายหน้า เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นงานพบปะกับเหล่าแฟนคลับได้
ในท้ายที่สุด ลู่หยานก็ทำเพียงแค่ยิ้มตอบเท่านั้น
รอยยิ้มบนใบหน้าของจางหงหยูกว้างยิ่งขึ้นในขณะที่เขาพูดคุยกับลู่หยาน
ถ้าหยางเว่ยอยู่ที่นี่ เขาก็จะต้องสบถออกมาแน่ๆ
หลังจากพูดคุยกันเป็นเวลานาน ในที่สุดจางหงหยู่ก็จากไปพร้อมกับคนที่อยู่ข้างหลังเขาและซื่อหยูหาน พวกเขามุ่งหน้าไปยังวิลล่าของซื่อหยูหาน
ลู่หยานถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกลับไปที่บ้านของเขาเพื่อจัดวางของก่อนจะไปที่โรงพยาบาล
หลังจากมาถึงโรงพยาบาล ลู่หยานก็ได้สอบถามแพทย์และได้ทราบว่าอาการของลั่วหลิวลี่ดีขึ้นแล้ว
ในอีกสองวัน ลั่วหลิวลี่ก็จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้
แม้ว่าออร่าดาบในร่างกายของเธอจะยังไม่สามารถลบออกไปได้ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอที่จะเคลื่อนไหวได้ตามปกติ
ลู่หยานยังให้ลั่วหลิวลี่ย้ายไปที่วิลล่าหลังจากออกมาจากโรงพยาบาล จากนั้นเขาก็ไปพบแพทย์มืออาชีพและเตรียมที่จะช่วยลั่วหลิวลี่ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเธอในวิลล่า
หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว ลู่หยานและหยางเว่ยก็ไปทานอาหารด้วยกันในคืนนั้น
คราวนี้พวกเขามากันแค่สองคน มันถือได้ว่าเป็นการเฉลิมฉลอง
ลู่หยานยังบอกหยางเว่ยเกี่ยวกับการเลือกสถาบันมุมทอง หยางเว่ยพูดทันทีว่าเขาต้องการจะไปมหาวิทยาลัยเดียวกันกับลู่หยานและขอให้ลู่หยานรอเขาก่อน
สองพี่น้องนั่งกินดื่มกันจนหนำใจก่อนกลับบ้านตอนสี่ทุ่ม
เมื่อเขามาถึงทางเข้าวิลล่า พ่อบ้านหลิวก็ยืนรอต้อนรับเขาอยู่
“คุณลู่หยาน รางวัลจากสำนักงานมณฑลได้มาถึงแล้วเมื่อตอนเย็น กระผมได้สั่งให้คนเอาไปวางไว้ที่ห้องนั่งเล่นแล้ว คุณสามารถตรวจสอบมันก่อนได้เลยครับ”
เมื่อลู่หยานได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ได้สติขึ้นมาในทันที
เขาต้องการจะดูทรัพยากรที่สำนักงานมณฑลมอบมาให้กับเขา มันน่าจะมีของดีหลายๆ อย่าง