ซวยแล้วไง! ดันไปเพิ่มอัตราการดรอปไอเท็มให้สูงสุดซะงั้น ตอนที่ 8 กระตือรือร้นที่จะแข็งแกร่งขึ้น
“อึก!”
การจิบซุปแสนอร่อยและกลืนมันลงไปในท้องของเขาทำให้ร่างกายของเซียวซีอุ่นขึ้น
ในเวลานี้มีน้ำซุปขนาดใหญ่ถูกวางอยู่ข้างหน้าเขา
และข้างในนั้นเป็นนกกระจอกตุ๋น
"น่าเสียดายจริงๆที่รสชาติมันธรรมดาเกินไปหน่อย... "
เซียวซีส่ายหัว
รสชาติของมันแตกต่างจากอาหารที่ถูกดรอปออกมามาก
อย่างไรก็ตาม เขารู้อยู่แล้วว่านกกระจอกหางหลากสีนั้นหากกินเข้าไปแล้วมันสามารถปรับปรุงร่างกายได้ เพราะงั้นรสชาติของมันจึงไม่ใช่กุญแจสำคัญ
เซียวซีไม่เพียงกินเนื้อสัตว์ทั้งหมดด้วยคำใหญ่ๆ แต่ยังบดและกลืนกระดูกลงไปด้วย
เขาต้องการปรับปรุงร่างกายอย่างเร่งด่วนในตอนนี้และไม่ต้องการให้มันเสียเปล่าไปแม้แต่ชิ้นเดียว
แม้ว่ายาศักยภาพจะทำให้ความถนัดของเขาเปลี่ยนไปแล้ว แต่ความถนัดส่วนใหญ่ก็ยังคงถูกกำหนดโดยความเร็วในการฝึกฝนและความเร็วของการพัฒนาอยู่ดี
ส่วนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายก็ยังต้องการระยะเวลาในการฝึกฝนเป็นเวลาหลายปี
โชคดีที่การฝึกฝนหลายสิบรอบในทุกๆวันทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ตอนนี้เขาอยู่ไม่ไกลจากศิลปะการต่อสู้ระดับที่ห้าแล้ว
เซียวซีตัดสินใจอย่างคร่าวๆ
ถ้าสถานการณ์ยังปกติอยู่แบบนี้ เขาคาดว่าใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์เขาก็จะสามารถถึงขีดจำกัดของศิลปะการต่อสู้ระดับที่สี่และก้าวเข้าสู่ศิลปะการต่อสู้ระดับที่ห้าได้
และในตอนนี้ก็ถึงเวลาของนกกระจอกหลากสีแล้ว
เขาใช้เวลาไม่นานในการกินน้ำซุปขนาดใหญ่จนหมด
เซียวซีรู้สึกถึงกระแสร้อนที่พุ่งออกมาจากหัวใจของเขาและไหลอย่างต่อเนื่องไปทั่วทั้งร่างกาย
มันรู้สึกราวกับว่าร่างกายทั้งหมดของเขากำลังแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนซึ่งนั่นมันทำให้เขารู้สึกสะดวกสบายมาก
ภายใต้การไหลของกระแสความร้อนนี้
ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถึงขีดจำกัดของศิลปะการต่อสู้ระดับที่สี่ในทันที
"เพราะมีการปรับปรุงที่ดีแบบนี้นี่เอง มันถึงได้มีราคาแพงมาก!"
ความตื่นเต้นปรากฎขึ้นในดวงตาของเซียวชี
สัปดาห์ที่ห้าของการฝึกฝนเริ่มต้นทันที
ความถนัดที่น่าทึ่งของเขาทำให้เขาเป็นอิสระจากความยากลำบากและอุปสรรคในการฝึกฝนของสัปดาห์ที่ห้า
สัปดาห์ที่ห้าของการฝึกฝนเสร็จสิ้นไปได้อย่างง่ายดาย
เขาทะลุขีดจำกัดของระดับที่สี่และก้าวเข้าสู่ศิลปะการต่อสู้ระดับที่ห้าอย่างเป็นทางการ!
ความแตกต่างในแต่ละระดับของสามวิถีแห่งศิลปะการต่อสู้นั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ความแข็งแกร่งของร่างกาย
ตอนนี้เซียวซีสามารถรู้สึกได้ถึงช่องว่างทางกายภาพระหว่างตัวเขาในตอนนี้และตัวเขาตอนที่อยู่ในระดับที่สี่ได้
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ...
ในตอนนี้เขามาถึงระดับที่ห้าของศิลปะการต่อสู้แล้ว นอกจากนี้แล้วเขายังได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขสำหรับการฝึกฝนร่างกายแล้ว นั่นจึงทำให้เขาสามารถเริ่มฝึกร่างกายได้ทันที!
แต่หลังจากที่เขาได้พิจารณาแล้วว่าการกินผลไม้ฟีนิกซ์เปลวไฟนั้นเป็นอันตราย ถึงแม้มันจะทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นได้ แต่เขาก็รู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องรีบกินมันในทันที
เป็นการดีที่สุดที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายเพื่อลดอันตรายและฝึกร่างกายเพื่อให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
"ไม่จำเป็นต้องรีบ!"
สำหรับเซียวซีผู้ซึ่งให้ความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกเสมอนั้น เขาไม่ต้องการรับความเสี่ยงใดๆทั้งสิ้น
ดังนั้นในครึ่งเดือนต่อมา
เขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในวัฏจักรของสวรรค์เพื่อเสริมสร้างร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้แล้ว
เขาก็ยังคงล่าหนอนลายด่างต่อไปเรื่อยๆ
ตอนนี้นอกจากห้องที่เขาอาศัยอยู่จะเต็มไปด้วยไอเท็มมากมายแล้ว ห้องที่เขาเช่ายังมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย
ในส่วนของคะแนนความร่วมมือเขาได้สะสมมา 500 คะแนนหลังจากกำจัดนกกระจอกแล้วนำขนและเลือดของนกกระจอกหางหลากสีไปขาย
มูลค่าของคะแนนนี้สูงกว่าการที่สาวกภายนอกหลายๆคนออกไปปฏิบัติภารกิจซะอีก
ด้วยวิธีการเหล่านี้เขาจึงสามารถฝึกฝนได้อย่างต่อเนื่องนานกว่าครึ่งเดือน
ร่างกายของเซียวซีแข็งแกร่งกว่าเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว
อันตรายของการฝึกร่างกายก็ลดลงเป็นอย่างมาก
ตัดสินจากเบื้องต้นแล้ว
เขารู้สึกว่าเวลานี้เหมาะสมสำหรับการฝึกร่างกาย
ดังนั้นเขาจึงหยิบผลไม้ฟีนิกซ์ออกมาอย่างเด็ดขาดและกลืนมันลงไปภายในอึกเดียวโดยไม่มีการลังเล
เมื่อผลไม้ฟีนิกซ์เข้าไปในท้อง
ความร้อนที่แผดเผาก็เพิ่มขึ้นทันทีในช่องท้องส่วนล่างของเซียวซีแล้วแพร่กระจายไปทั่วทั้งร่างกายของเขา ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากำลังถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟ
มันเจ็บปวดมาก
ทำให้เขามีอาการปวดอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งร่างกาย
เนื้อและกระดูกทุกชิ้น รวมทั้งเส้นลมปราณทุกเส้นราวกับถูกเผาด้วยเปลวไฟ
แม้ว่าการเผาไหม้นี้จะทำให้ร่างกายของเขาได้รับการปรับปรุงและราบรื่นไปด้วยดี
แต่กระบวนการนี้กลับทำให้เขาเจ็บปวดอย่างยิ่ง!
ถือเป็นการทดสอบเจตจำนงที่ยอดเยี่ยมมาก!
ร่างกายของเซียวชีสั่นสะเทือน ใบหน้าของเขาดุร้าย มีเสียงคำรามที่เจ็บปวดลอดออกมาจากปากของเขาเป็นครั้งคราว
เขาสามารถรู้สึกได้ถึงเปลวไฟในร่างกายของตนเอง มันไม่เพียงแค่ไม่อ่อนตัวลงตามกาลเวลา แต่ยังแข็งแกร่งและดุร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ
ภายใต้การเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง
เนื้อและกระดูกของเขาถูกปรับโครงสร้างให้กระชับอย่างต่อเนื่อง เส้นลมปราณของเขากำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้แล้ว ในทุกๆด้านก็กำลังถูกปรับปรุงอย่างรวดเร็วจากภายในสู่ภายนอก
แต่ความเจ็บปวดยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และมันก็มาถึงระดับที่ทนไม่ได้สำหรับคนธรรมดา
นี่เป็นกระบวนการที่ผู้ที่ต้องการฝึกฝนร่างกายทั้งหมดจะต้องผ่านมันไปให้ได้
หากผู้ที่ต้องการฝึกฝนร่างกายไม่มีความตั้งใจและไม่มีความแข็งแกร่งแล้วล่ะก็ แม้ว่าจะมีสมบัติแห่งสวรรค์และโลก แต่ก็ยากที่จะสานต่อการฝึกร่างกายให้สำเร็จได้
การถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟในร่างกายนั้น ทำให้ร่างกายของเซียวซีมีน้ำหนักที่น้อยลงไปมากด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า นอกจากนี้แล้วร่างกายของเขาก็เล็กลงไปไม่กี่เซนติเมตร
การปรับโครงสร้างของเนื้อและกระดูกทำให้เขาผอมลงกว่าเดิม
ถึงอย่างนั้น
ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก
เลือดและเนื้อทุกชิ้นมีพลังที่น่าอัศจรรย์เพิ่มขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไปการฝึกร่างกายก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายอย่างรวดเร็ว
เปลวไฟเหล่านั้นที่เผาไหม้ในร่างกายของเขาเริ่มละลายเข้าไปในเนื้อและเลือดของเขาและซึมลึกเข้าไปในกระดูกของเขา
และในท้ายที่สุดสัญลักษณ์เปลวเพลิงก็ถูกสร้างขึ้นที่ระหว่างคิ้วของเขา
นี่คือสัญญาณหลังจากการฝึกร่างกายที่ประสบความสำเร็จ!
อย่างไรก็ตาม เซียวซีเลือกที่จะซ่อนสัญลักษณ์นี้ไว้ใต้ใบหน้าของเขาเพื่อไม่ให้คนอื่นสัมผัสถึงมันได้
ที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อให้คนอื่นไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาฝึกร่างกายสำเร็จแล้ว
เพราะเขาไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าเขาหาสมบัติแห่งสวรรค์และโลกที่จำเป็นสำหรับการฝึกร่างกายพวกนี้มาจากที่ไหน
เซียวซีรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาหลังจากที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วนั้นมีบางอย่างเปลี่ยนไป
เขาพบว่า…
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขามาถึงขีดจำกัดของศิลปะการต่อสู้ระดับที่ห้าแล้ว และเขาก็สามารถทะลุขีดจำกัดไปยังระดับที่หกได้!
นี่มันตรงกับที่เขาคิดไว้เลย!
สิ่งนี้ทำให้เขาตื่นเต้นมาก
เดิมทีดูจากความเร็วในการฝึกฝนของเขาก่อนที่จะกลายเป็นผู้เฝ้ายามในตอนกลางคืนแล้ว เขาสามารถฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เต็มที่ได้ก็แค่ระดับที่หก
แต่ตอนนี้เขาได้รับการปรับโครงสร้างร่างกายหลังจากการฝึกร่างกายแล้ว
ทำให้เขามีโอกาสที่จะไปถึงระดับที่เจ็ดของศิลปะการต่อสู้ได้!
ไม่เพียงแค่นั้น
ความสำเร็จของการฝึกร่างกายยังทำให้ร่างกายของเขาไร้ขีดจำกัดในระดับหนึ่ง
ทำให้แม้ว่าเขาจะมาถึงระดับที่เก้าของศิลปะการต่อสู้แล้ว เขาก็ยังสามารถเสริมสร้างร่างกายของเขาต่อไปได้
“ช่างเป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆ!”
เซียวซีจับหมัดของเขาอย่างตื่นเต้น
หลังจากที่การฝึกฝนร่างกายประสบความสำเร็จ เขาก็ไม่รีรออะไรอีกต่อไป เร่งฝึกฝนต่อในสัปดาห์ที่หกทันที
เขาต้องการที่จะผ่านระดับที่ห้าของศิลปะการต่อสู้ไปจนถึงระดับที่หกของศิลปะการต่อสู้ในครั้งเดียวเลย!
โดยปกติก่อนที่สาวกภายนอกของนิกายพยัคฆ์แดงจะกลายเป็นผู้เฝ้ายามในตอนกลางคืนแล้ว พื้นฐานการฝึกฝนของพวกเขามักจะอยู่ระหว่างระดับที่สองของศิลปะการต่อสู้และระดับที่ห้าของศิลปะการต่อสู้
แต่เซียวซีในปัจจุบันได้ผ่านระดับที่คนส่วนใหญ่ฝึกฝนสำเร็จไปแล้ว
ในขณะเดียวกันประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกร่างกายก็ทำให้เขามีความคาดหวังมากขึ้นสำหรับการฝึกร่างกายในครั้งต่อไป
"ตราบใดที่ไอเท็มที่เป็นสมบัติแห่งสวรรค์และโลกยังคงถูกดรอปออกมาอยู่ ฉันก็ยังฝึกฝนร่างกายต่อไปได้!"
แม้ว่ากระบวนการฝึกร่างกายจะเจ็บปวด
แต่การปรับปรุงที่เกิดจากการฝึกร่างกายนั้นเร็วกว่าการฝึกฝนแบบปกติมาก!
อาจกล่าวได้ว่าเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการปรับปรุงความแข็งแกร่งในปัจจุบันเลยก็ได้
แต่ปัญหาในตอนนี้ก็คือไม่มีสิ่งมีชีวิตระดับศิลปะการต่อสู้ที่สามารถฆ่าได้ในตอนนี้เลยและไอเท็มระดับศิลปะการต่อสู้ก็ยังดรอปออกมาได้ยากอีกด้วย
เซียวซีสามารถฝากความหวังของเขาไว้กับหนอนลายด่างที่เขาพบเจอได้เท่านั้น
เขาจับหนอนลายด่างที่พบเห็นและฆ่าพวกมันทุกวันไปเรื่อยๆ
และแล้วเวลามากกว่าสิบวันก็ผ่านไป
ในวันนี้เซียวซีจับหนอนลายด่างมาหนึ่งถุงตามปกติ
แต่ระหว่างทางกลับห้อง เขากลับได้ยินข่าวร้าย
ฟูเชินตายแล้ว!
เขาคิดว่าระหว่างที่ปฏิบัติภารกิจฟูเชินอาจได้พบกับวิญญาณชั่วร้ายและถูกฆ่าโดยวิญญาณชั่วร้ายพวกนั้น ...
ทันใดนั้นอารมณ์ของเซียวซีก็หม่นหมองขึ้นมาทันที
ฟูเชินมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา
ตอนที่พวกเขาบอกว่าจะออกไปทำภารกิจ เซียวซีก็บอกให้อีกฝ่ายระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ แต่เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าการอำลาในครั้งนั้นจะกลายเป็นการอำลาตลอดไป
เซียวซีถอนหายใจ
นี่คือเหตุผลที่เขายืนยันว่าจะไม่ออกไปข้างนอกเพื่อทำภารกิจเด็ดขาด
โลกใบนี้มันอันตรายเกินไป
ทั้งวิญญาณชั่วร้ายทั้งภัยธรรมชาติทั้งสงครามและโจร ...
วิกฤตมีอยู่ทุกที่!
ไม่ต้องพูดถึงผู้ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ธรรมดาๆเลยด้วยซ้ำ แม้แต่ผู้ที่สำเร็จการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ด้วยลมปราณก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะสามารถหลบหนีจากอันตรายเหล่านี้ได้
การตายของฟูเชินทำให้เซียวซีรู้สึกอึดอัดใจมาก
แม้เขาจะรู้ว่านี่เป็นบรรทัดฐานในโลกใบนี้
ผู้ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เหมือนกับฟูเชินก็ตายอยู่ข้างนอกกันทุกวันอยู่แล้วก็ตาม
แต่ฟูเชินเป็นเพื่อนคนแรกของเขาในโลกใบนี้
เซียวซีรู้สึกเศร้า แต่ในขณะเดียวกันความปรารถนาของเขาที่ต้องการจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นก็พุ่งสูงขึ้น
เขารู้ว่า…
ไม่นานหลังจากกลายเป็นผู้เฝ้ายามในตอนกลางคืน เขาจะต้องเผชิญกับอันตรายเหล่านี้เช่นกัน
และหากเขาต้องการมีชีวิตรอดแล้วล่ะก็ เขาก็ต้องมีความสามารถในการป้องกันตัวเองที่มากพอซะก่อน
"ฉันต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้!"
เซียวซีกำกำปั้นของเขา
เขาไม่รู้สึกพึงพอใจและมีความสุขหลังจากที่การฝึกฝนร่างกายประสบความสำเร็จอีกต่อไปแล้ว มีเพียงความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งขึ้นและความเร่งรีบที่จะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
เขารู้ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
ยกเว้นแค่ตอนฆ่าหนอนลายด่างในทุกๆวัน เวลาที่เหลือ เขาก็ใช้ในการฝึกฝนจนหมด
หนึ่งเดือนต่อมา
เซียวซีฆ่าหนอนลายด่างได้มากถึงหลายพันตัว!
หลังจากฆ่าหนอนลายด่างจำนวนมากติดต่อกัน ในที่สุดไอเท็มระดับศิลปะการต่อสู้ก็ถูกดรอปออกมา
【ชื่อ: กระเป๋าเก็บของ】
[ประเภท: พื้นที่เก็บของ]
[เกรด: ระดับศิลปะการต่อสู้]
[เกริ่นนำ: พื้นที่กว้าง ใส่ของได้มากขึ้น]
[ข้อสังเกต: คุณไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่เก็บไอเท็มอีกต่อไป]
…
แม้จะไม่ใช่ไอเท็มเสริมความแข็งแกร่ง
แต่ถุงเก็บของนั้นมีประโยชน์มากสำหรับเซียวซี
ด้วยไอเท็มที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในตอนนี้
แม้ว่าเขาจะเช่าห้องเอาไว้เก็บมันแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถเก็บไอเท็มได้พออยู่ดี
และที่น่าลำบากใจที่สุดก็คือเมื่อเขากลายเป็นยามกลางคืนแล้ว การจะเอาไอเท็มเหล่านี้ออกไปด้วยก็คงเป็นเรื่องยาก
ตอนนี้เขามีกระเป๋าเก็บของแล้ว เขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับไอเท็มเหล่านั้นมากจนมากเกินไป
เพราะพื้นที่ภายในกระเป๋าเก็บของระดับศิลปะการต่อสู้นี้ใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอล
และใหญ่มากพอที่จะเก็บไอเท็มเหล่านี้ได้
เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สามเดือนผ่านไปในพริบตา
ที่จัตุรัสของนิกายพยัคฆ์แดง สาวกจำนวนมากจากนิกายภายนอกมารวมตัวกันที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประชุม พวกเขากำลังจะถูกส่งไปยังเมืองจินอวิ่นภายใต้การจัดการของนิกายเพื่อเริ่มต้นทำหน้าที่เป็นผู้เฝ้ายามในตอนกลางคืน!