ซวยแล้วไง! ดันไปเพิ่มอัตราการดรอปไอเท็มให้สูงสุดซะงั้น ตอนที่ 6 กำจัดนกกระจอกหลากสี
ในที่สุดก็พูดออกมาแล้ว!
หัวใจของเซียวซีเต็มไปด้วยความคาดหวัง
สิ่งที่เขากำลังรออยู่ก็คือคำพูดของอีกฝ่าย!
แต่สิ่งที่เขาแสดงให้เห็นภายนอกกลับเป็นการเกาหัวด้วยความลำบากใจ
"ที่จริงข้าก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย สิ่งที่ต้องการก็มีแค่นกกระจอกหลากสีสันเท่านั้น..."
ปากของผู้อาวุโสชิวกระตุกเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นใครบางคนทำท่าทางลำบากใจแบบสุดๆต่อหน้าเขาแต่กลับเรียกร้องสิ่งที่เขาลำบากใจที่สุด
นกกระจอกหลากสีเป็นทรัพยากรที่สำคัญของนิกาย ถึงแม้ผู้อาวุโสจะต้องการมัน เขาก็ยังต้องจ่าย 8,000 คะแนน
ไม่มีข้อยกเว้นใดๆสำหรับผู้อาวุโสที่นิกายแห่งนี้
การที่ผู้อาวุโสอย่างเขาต้องใช้จ่ายคะแนนหรือเงินจำนวนขนาดนี้นั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆเลย
“ด้วยไวน์แค่สองสามเหยือก เจ้าต้องการนกกระจอกหางวิญญาณหลากสีเลยงั้นรึ?”
ผู้อาวุโสชิวมองเขาด้วยรอยยิ้มครึ่งหนึ่ง
เซียวซีไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เกาหัวด้วยความเขินอายและยิ้มอย่างไร้เดียงสา
แต่เขารู้ดีว่าผู้อาวุโสชิวหมายความว่ายังไง...
มูลค่าของไวน์ที่เขาหยิบออกมานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในสายตาของคนทั่วไปและคนติดสุรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนติดสุราระดับอาวุโสอย่างผู้อาวุโสชิว
หากไวน์เหล่านี้มีขายในนิกาย แต่ราคาเทียบเท่ากับราคาของนกกระจอกหลากสี เขาคิดว่าผู้อาวุโสชิวคงจะซื้อโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน
แต่แน่นอนว่าเซียวซีก็ยังไม่ลืมว่าผู้อาวุโสชิวมีสถานะที่สูงกว่า
ตอนนี้ผู้อาวุโสชิวสามารถเลือกได้ว่าจะยกนกกระจอกหลากสีให้เขารึเปล่า
เพราะด้วยสถานะของผู้อาวุโสแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้ให้อะไรเลย เซียวซีก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี
ผู้อาวุโสชิวคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่นกกระจอกหลากสีด้านบน
นกกระจอกหางวิญญาณสีสันสดใสซึ่งกำลังบินอย่างมีความสุข จู่ๆก็หยุดราวกับถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นคว้าไว้และตกลงมาจากอากาศอย่างรวดเร็ว ร่อนลงตรงหน้าผู้อาวุโสชิว
"มันเป็นของเจ้าแล้ว"
ผู้อาวุโสชิวกล่าวเบาๆ
"ขอบคุณผู้อาวุโสชิว ผู้อาวุโสชิวมีจิตใจที่กว้างขวางมาก!"
เซียวซีมีความสุขมาก
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าน้ำหนักของไวน์เหล่านี้ในหัวใจของอีกฝ่ายนั้นแตกต่างจากของคนทั่วไป แต่เขาก็ไม่แน่ใจเต็มร้อยว่าอีกฝ่ายจะมอบนกกระจอกหลากสีให้เขารึเปล่า
เขาแค่รู้สึกว่าด้วยบุคลิกของผู้อาวุโสชิวแล้ว ถึงแม้ผู้อาวุโสจะไม่ให้นกกระจอกหลากสีแก่เขา แต่ผู้อาวุโสก็จะมอบอย่างอื่นให้เป็นของตอบแทนแก่เขาแน่นอน เขาจะไม่ยอมให้มันเปล่าประโยชน์ไปเฉยๆแน่
ถึงเซียวซีจะไม่มีทางขาดทุนอยู่แล้ว
แต่ยังไงการที่เขาได้นกกระจอกหลากสีมาก็ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
“เอาไวน์ทั้งหมดที่มีเหลืออยู่มาให้ข้าพรุ่งนี้ด้วย”
ผู้อาวุโสชิวหยิบเหยือกที่ด้านข้าง เทลงในแก้วไวน์แล้วกลืนลงในอึกเดียว
"อย่าลืมทำตามคำสั่ง!"
เซียวซีพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
…
ตอนเย็น
เซียวซีกลับมาที่ห้อง
นอกจากนกกระจอกหลากสีสันแล้ว เขายังมีถุงหนอนลายด่างที่จับได้มาอยู่ในมือด้วย
"หลังจากนำไวน์ไปให้ผู้อาวุโสชิวในวันพรุ่งนี้ ฉันคงต้องเช่าห้องเพื่อเก็บข้าวของซะแล้ว"
เซียวซีมองดูสิ่งของในห้องที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาหยิบน่องไก่ขึ้นมาจากโต๊ะแล้วกินมัน
นอกจากจะอร่อยแล้ว อาหารที่ดรอปมาจากการฆ่าเหล่านี้ยังจะไม่เน่าเสียและเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาอีกด้วย อาหารเหล่านี้ยังคงอุ่นร้อนราวกับพึ่งทำเสร็จใหม่ๆอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลว่ามันจะเย็นลงหลังจากเวลาผ่านไป
“ในอนาคต ถ้าเจอผู้อาวุโสที่เสพติดอาหารกับสุราอะไรแบบนั้นอีก บางทีอาจจะใช้วิธีเดิมๆแบบนี้ได้ผลก็ได้”
เซียวซีคิดอย่างมีความสุข
ครั้งนี้ด้วยเหยือกไวน์แค่สองสามเหยือก เขาก็ได้นกกระจอกหลากสีมา กำไรจริงๆ!
เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็ได้ไวน์มาจากการฆ่าหนอนลายด่างอยู่ดี
ซึ่งมันง่ายกว่าการได้รับนกกระจอกหลากสีมาก
นกกระจอกหลากสีนั้นได้มายากมาก
สำหรับสาวกภายนอกอย่างพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะทำงานหนักภายใต้สถานการณ์ที่ดีที่สุด ก็ยังต้องใช้เวลาหลายทศวรรษกว่าจะรวบรวมคะแนนผลงานได้ 8,000 คะแนน
โดยทั่วไปแล้ว คะแนนการสนับสนุนที่สามารถได้รับหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจะอยู่ระหว่าง 20-50คะแนน
การที่จะได้รับคะแนนสนับสนุน 8,000 คะแนนนั้น จะต้องทำงานให้เสร็จอย่างน้อย100อย่าง
และมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ศิษย์สายนอกจะทำงานมากมายขนาดนี้
ประการแรก ภารกิจด้านนอกนั้นมาพร้อมกับอันตรายและมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก
ยิ่งทำภารกิจมากเท่าไหร่ความเสี่ยงของการเสียชีวิตก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ตราบใดที่ใครโชคไม่ดีและเผชิญหน้ากับวิญญาณชั่วร้ายที่ทรงพลัง มันก็ยากที่จะเอาชีวิตรอด
ประการที่สอง สาวกชั้นนอกมีเวลาฝึกฝนเพียงหนึ่งปี
หลังจากหนึ่งปี สาวกภายนอกจะต้องทำหน้าที่เป็นยามกลางคืน ทำให้พวกเขาไม่มีเวลาและโอกาสมากนักในการปฏิบัติงาน
อาจกล่าวได้ว่านกกระจอกหลากสีในนิกายไม่เคยเผชิญหน้ากับสาวกของนิกายภายนอกเลยก็เป็นได้
ครั้งนี้ เซียวซีไม่ได้ทำอะไรเลย แถมยังไม่ได้เสี่ยงชีวิตอย่างหนักด้วย เขาได้นกกระจอกหางหลากสีสันมาโดยไม่ผ่านวิกฤตใดๆเลยแม้แต่น้อย
นกกระจอกสีสันสดใสซึ่งมีขนาดเท่าแม่ไก่ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยอาการวิงเวียน
เซียวซีลองเข้าไปตรวจสอบดู
ก็ยังไม่เห็นบาดแผลภายนอก
เขาคิดว่ามันต้องมีอวัยวะภายในเสียหายหรือวิญญาณบอบช้ำแน่ๆ
เซียวซียังคงตกใจเล็กน้อยกับวิธีการของผู้อาวุโสชิวที่ปล่อยให้นกกระจอกหางวิญญาณหลากสีตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้
เขารู้ว่าวิธีการแบบนี้ไม่ได้อยู่ในขอบเขตของศิลปะการต่อสู้ธรรมดาๆอีกต่อไป
มันน่าจะเป็นศิลปะการต่อสู้ด้วยลมปราณซึ่งอยู่เหนือศิลปะการต่อสู้แบบธรรมดา หรืออาจจะเป็นศิลปะการต่อสู้ด้วยเลือดซึ่งอยู่สูงกว่านั้นไปอีก!
สามวิถีแห่งศิลปะการต่อสู้นั้น…
แบ่งเป็นศิลปะการต่อสู้แบบทั่วไป ศิลปะการต่อสู้ด้วยลมปราณและศิลปะการต่อสู้ด้วยเลือด!
ซึ่งช่องว่างระหว่างสามวิถีแห่งศิลปะการต่อสู้นี้เปรียบเสมือนช่องว่างระหว่างสวรรค์และโลกเลยทีเดียว
แต่เรื่องที่ว่าจะมีวิถีแห่งศิลปะการต่อสู้ที่มีระดับสูงกว่าศิลปะการต่อสู้ด้วยเลือดหรือไม่นั้น เซียวซียังไม่รู้แน่ชัด
เพราะผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ระดับสูงสุดที่เขารู้จักในตอนนี้ก็คือระดับสายเลือด
"ด้วยความเร็วในการฝึกฝนของฉันในปัจจุบันแล้ว คงสามารถฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ได้ถึงระดับที่หกก่อนที่จะกลายเป็นยามกลางคืนแน่ๆ"
"แต่ถ้าดูจากอันตรายที่คนอื่นๆเคยเจอมา การที่ฉันจะไปเป็นยามกลางคืนทั้งๆที่อยู่แค่ระดับหกก็คงจะไม่ปลอดภัยซักเท่าไหร่..."
"คงต้องหาไอเท็มเพิ่มเติมมาพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองแล้วล่ะ พอถึงตอนนั้นจะได้ปกป้องตัวเองได้"
และไอเท็มที่ว่าก็อยู่ที่นี่แล้ว…
สายตาของเซียวซีฉายแววคาดหวังในขณะที่เขามองไปที่นกกระจอกหางวิญญานสีสันสดใส
ในฐานะสิ่งมีชีวิตระดับศิลปะการต่อสู้ นกกระจอกหางวิญญาณสีสันสดใสจะดรอปไอเท็มระดับการต่อสู้หลังจากที่มันตายแล้วอย่างแน่นอน
"เจ้านกกระจอก แกเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถปรับปรุงความแข็งแกร่งและการฝึกฝนของฉันได้เลยนะ"
เซียวซีคิดในใจ
จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปจับคอนกกระจอกหลากสีในทันที
นกกระจอกที่เคยเฉื่อยชาดูเหมือนจะรู้สึกถึงวิกฤตทำให้มันพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด
แต่การต่อสู้ของมันนั้นอ่อนแอเกินไป ทำให้ไม่สามารถหลุดจากมือของเซียวซีไปได้เลย
ฟึ่บ!
เซียวซีออกแรงบีบที่มือเพิ่มขึ้น
หลังจากนั้นนกกระจอกหลากสีก็ถูกหักคอได้อย่างง่ายดาย
ในขณะที่นกกระจอกหลากสีตาย
เซียวซีรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนของศพได้อย่างชัดเจน
แต่ขนาดของการสั่นสะเทือนนั้นมีไม่มากนักถ้าเทียบกับยุงและหนอนลายด่างที่เขาเคยฆ่ามา
ถ้าหากเกิดการสั่นสะเทือนในลักษณะนี้ขึ้นกับยุงและหนอนลายด่างแล้วล่ะก็ ร่างกายของพวกมันก็จะระเบิดในทันทีต่างกับนกกระจอกหางหลากสีที่ร่างกายยังคงอยู่แบบครบถ้วนสมบูรณ์
และเพราะสิ่งนี้จึงทำให้เซียวซีเข้าใจว่าทำไมซากศพของสิ่งมีชีวิตในระดับศิลปะการต่อสู้ถึงไม่ระเบิดเมื่อพวกมันตาย
ร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระดับศิลปะการต่อสู้นั้นแข็งแกร่งกว่าสิ่งมีชีวิตทั่วไปมาก ทำให้พวกมันสามารถทนต่อแรงกระแทกแห่งความตายได้อย่างสมบูรณ์
สิ่งมีชีวิตธรรมดาทั่วไปนั้นไม่สามารถทนรับแรงกระแทกได้ดังนั้นร่างกายของพวกมันจึงระเบิดทันทีที่ตาย
"เยี่ยมไปเลย! ถ้าศพของนกกระจอกหางหลากสีระเบิดขึ้นมาจริงๆล่ะก็ การจะเอาขนและเลือดของมันมาใช้ประโยชน์ได้คงจะเป็นเรื่องยาก แถมถ้าจะเอามากินก็คงกินไม่ได้อีก ... "
เซียวซีรู้ดีว่า
เลือดและขนของนกกระจอกหางหลากสีเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างอาวุธ
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาเองได้
แต่เขาสามารถขายขนนกและเลือดให้กับซ่งเหมินเพื่อแลกกับคะแนนความร่วมมือได้
ในขณะเดียวกันเนื้อของนกกระจอกหางหลากสีก็มีรสชาติที่อร่อยมาก หลังจากกินเข้าไปแล้วมันสามารถปรับปรุงร่างกายให้เทียบเท่ากับการฝึกฝนประมาณสิบห้าวันได้เลย!
แต่ก็เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือไอเท็มที่ถูกคลอดออกมาโดยพริสซิลลา**หลังจากที่นกกระจอกตายลง
เพราะนี่คือสิ่งที่เขาตั้งตารอมากที่สุด
เซียวซีมองดูอย่างตั้งใจหลังจากที่ไอเท็มถูกดรอปออกมาในครั้งแรก
**พริสซิลลา ชาน เป็นกุมารแพทย์และเป็นภรรยาของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซึ่งเป็นทั้งผู้ก่อตั้งและประธานบริหารเฟซบุ๊ก
//คิดว่าน่าจะเอามาเล่นคำหรือเปรียบเทียบเฉยๆค่ะ