บทที่ 62: ผลไม้ดินตายแล้ว
ในขณะนี้ลู่เมี่ยนเอ๋อกำลังซักกระโปรงหนังสัตว์ของอิงหยวนอยู่ที่ริมแม่น้ำ ทันใดนั้นนางก็เห็นเท้าเล็ก ๆ คู่หนึ่งปรากฏขึ้นข้างตัว
"ซุยซุย? เจ้ามาทำอะไรที่นี่?"
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย และเห็นลูกพี่ลูกน้องยืนอยู่ข้าง ๆ นางด้วยใบหน้าที่โศกเศร้า
นับตั้งแต่ที่อีกฝ่ายถูกหูเจียวเจียวเปิดโปงครั้งล่าสุด นางก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กับลู่ซุยซุยอีกต่อไป
"พี่เมี่ยนเอ๋อ ข้ารู้ว่าเรื่องครั้งก่อนข้าผิดเอง ได้โปรดท่านอย่าโกรธข้าเลย ข้าแค่หลงผิดไปเท่านั้น..."
ยามนี้ดวงตาของคนสำนึกผิดมีน้ำตาคลอหน่วยเมื่อได้ยินคำพูดของลู่เมี่ยนเอ๋อ แล้วนางก็ก้าวไปจับแขนของอีกคนพลางอ้อนวอน
แววตานั้นแสดงถึงความเสียใจออกมาจากก้นบึ้นของหัวใจ
พอลู่เมี่ยนเอ๋อได้เห็นท่าทางน่าสงสารของน้องสาวก็อดถอนหายใจไม่ได้
"ซุยซุย ข้าดีใจที่เจ้าสำนึกผิด ต่อจากนี้ไปเจ้าก็อย่าคิดที่จะทำร้ายคนอื่นอีกเลย มิฉะนั้นท่านผู้เฒ่าคงจะลงโทษเจ้าอย่างหนัก" ท่าทางที่ทำเป็นตีตัวออกห่างค่อย ๆ จางหายไป
"พี่เมี่ยนเอ๋อสั่งสอนได้ถูกแล้ว ต่อไปนี้ข้าคงไม่กล้าทำผิดซ้ำอีก"
ลู่ซุยซุยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
แต่ในตอนที่นางหลุบตาลงต่ำ ความอิจฉาก็แล่นผ่านนัยน์ตาคู่นั้น
เหตุใดที่ลู่เมี่ยนเอ๋อถึงได้ครอบครองอิงหยวน และหูเจียวเจียวสามารถรบกวนอิงหยวนได้อย่างโจ่งแจ้ง ครั้งนี้นางต้องการกำจัดผู้หญิง 2 คนในคราวเดียว
จากนั้นอินทรีหนุ่มก็จะตกเป็นของนาง
เวลาถัดมา ลู่ซุยซุยเห็นกระโปรงหนังสัตว์ในมือของลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งมันใหญ่เกินขนาดของเจ้าตัว นางจึงรู้ได้ทันทีว่ามันเป็นของผู้ชาย
แล้วหญิงสาวก็รีบก้าวเข้าไปตั้งใจจะช่วยอีกฝ่ายทำงาน "พี่เมี่ยนเอ๋อ เดี๋ยวข้าช่วยซักกระโปรงหนังสัตว์ให้ท่านเอง"
นี่คือกระโปรงหนังสัตว์ของอิงหยวน...
แต่กวางสาวไม่คาดคิดว่าลู่เมี่ยนเอ๋อจะขยับหลบมือของตนเอง
"ไม่จำเป็น ข้าจะทำเอง" หญิงสาวรูปร่างบอบบางยิ้มจาง ๆ และอธิบายว่า "อิงหยวนไม่ชอบให้คนอื่นมาแตะต้องของ ๆ เขา"
นั่นทำให้รอยยิ้มของลู่ซุยซุยแข็งทื่อไปทันที ต่อมานางก็แอบกัดฟันแน่น
คอยดูเถอะ หลังจากนี้เจ้าจะยังกล้าอวดดีต่อหน้าข้าอีกไหม!
ครู่ถัดมา คนเป็นน้องสาวก็เผยรอยยิ้มอีกครั้ง "พี่เมี่ยนเอ๋อ ข้าไม่ได้คุยกับท่านนานแล้ว ข้าขอไปเล่นที่บ้านท่านได้ไหม?"
ในช่วงเวลานี้ นางไม่มีข้อแก้ตัวที่จะพบกับลู่เมี่ยนเอ๋อ อีกทั้งนางไม่มีโอกาสได้เจอหน้าอิงหยวนเลย
“ได้สิ ข้าซักผ้าเสร็จแล้ว งั้นเรากลับกันเถอะ”
ในขณะนั้น ลู่เมี่ยนเอ๋อไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของอีกฝ่ายเลย นางมัวแต่สะบัดน้ำบนกระโปรงหนังสัตว์ออก แล้วลุกขึ้นเดินนำลูกพี่ลูกน้องกลับบ้าน
เมื่อทั้ง 2 คนกลับมาถึงบ้าน อิงหยวนก็ยืนเปลือยกายท่อนบนเผยให้เห็นกล้ามเนื้ออันแข็งแรงพลางฉีกเหยื่อด้วยกรงเล็บอยู่ในลานบ้าน
ลู่ซุยซุยที่ได้เห็นภาพนั้นก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปด้วยดวงตาสีแดงก่ำ "พี่อิงหยวน ไม่เจอกันนานเลยนะ ข้า—"
“เมี่ยนเอ๋อ เจ้ากลับมาแล้ว ข้าบอกว่าข้าจะไปซักผ้าที่ริมแม่น้ำเองไม่ใช่หรือ? เจ้าจะเอาไปทำเองทำไม?”
ก่อนที่หญิงสาวจะพูดจบ อินทรีหนุ่มก็วางเหยื่อในมือลงแล้วเดินผ่านนางไปหาภรรยาสาวซึ่งอยู่ข้างหลังนางโดยไม่แม้แต่จะชายตามองนางเลยสักนิด
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ลู่ซุยซุยแทบคลั่งเพราะความอิจฉา นางใช้มือบิดกระโปรงหนังสัตว์แน่นด้วยท่าทางคล้ายอยากจะขย้ำมันให้เละ
ในขณะที่ทั้ง 2 กำลังคุยกัน กวางสาวก็เข้าไปในห้องอย่างเงียบเชียบ พอมองไปรอบ ๆ ในที่สุดนางก็จับจ้องไปที่ขนนกสีขาวบนเตียง
จากนั้นนางก็แอบซ่อนขนนกไว้ในตัวแล้วเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
...
เช้าวันต่อมา ก่อนที่หูเจียวเจียวจะตื่น เธอได้ยินเสียงภูตมาเรียกเธอจากหน้าประตู
“หูเจียวเจียว แย่แล้ว ออกมาเร็วเข้า หัวหน้าเผ่ากำลังตามตัวเจ้าด่วน!”
ฝ่ายที่ถูกเรียกตื่นเต็มตาทันที
เสียงที่เรียกนั้นดังมากจึงทำให้ลูก ๆ ตื่นขึ้นมาด้วยเช่นกัน หูเจียวเจียวพลิกตัวลุกขึ้นและไม่ลืมที่จะบอกพวกเขาว่า "แม่จะออกไปข้างนอกสักพักนะ เดี๋ยวก็กลับมา ถ้าพวกเจ้าหิวก็ย่างเนื้อกินกันไปก่อนได้เลยนะ"
ด้วยความที่เด็กชายทั้ง 3 ดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว พวกเขาจึงสามารถทำเนื้อย่างง่าย ๆ กินเองได้
ก่อนที่เจ้าตัวเล็กทั้งหลายจะทันได้พูดอะไร ทุกคนก็เห็นแม่จิ้งจอกรีบวิ่งออกจากบ้านไปแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น ท่านผู้เฒ่าต้องการพบข้าทำไม?” เมื่อหูเจียวเจียวออกมาข้างนอก เธอเห็นชายร่างกำยำยืนอยู่หน้าประตูด้วยท่าทางวิตกกังวล
“ผลไม้ดินตายแล้ว ท่านผู้เฒ่าบอกให้เจ้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น”
หลังจากที่หญิงสาวได้ยินคำพูดของชายคนนั้น เธอก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
เธอเพิ่งบอกหัวหน้าเผ่าเกี่ยวกับข้อควรระวังในการปลูกมันฝรั่งไปเมื่อวานนี้เอง แต่วันนี้กลับมีบางอย่างเกิดขึ้นกับต้นกล้ามันฝรั่ง มันเป็นเรื่องที่บังเอิญเกินไป
"ไปกันเถอะ ข้าจะไปดูสักหน่อย"
ภูตชายพยักหน้าแล้วหันหลังกลับเพื่อแปลงร่างเป็นจิ้งจอก พอหญิงสาวหันกลับมาอีกครั้งก็เห็นว่าชายคนนั้นวิ่งไปไกลแล้ว
เมื่อหูเจียวเจียวกับภูตชายอีกคนมาถึงที่ทุ่งปลูกมันฝรั่ง เธอก็พบว่าที่นั่นมีชาวบ้านมากมายยืนล้อมไว้จนมองไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นข้างใน
"หลีกทาง หลีกทางหน่อย"
ต่อมา ภูตผู้ชายช่วยจิ้งจอกสาวผลักผู้คนที่ยืนขวางทางออกไปเพื่อพาเธอไปยังทุ่งด้านใน
เนื่องจากหูเจียวเจียวมีรูปร่างเพรียวบางจึงสามารถเบียดเสียดคนอื่นเข้าไปได้ในเวลาไม่นาน จากนั้นเธอกวาดสายตาเพียงครู่เดียวก็เห็นผู้เฒ่ากำลังยืนอยู่ข้างทุ่งใกล้กับแม่น้ำด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมปนเศร้าหมองราวกับว่าเขากำลังจะร้องไห้
"หูเจียวเจียว ในที่สุดเจ้าก็มาสักที"
ยามที่หัวหน้าเผ่าเห็นหูเจียวเจียว ประหนึ่งว่าเขาได้พบกับผู้ช่วยชีวิต เธอจึงรีบเดินไปหาเขา "ท่านผู้เฒ่า มันเกิดอะไรขึ้น?"
แน่นอนว่าเมื่อวานนี้ผลไม้ดินยังปกติดี แต่เวลาผ่านไปแค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น แล้วทำไมต้นกล้าผลไม้ดินถึงตาย!
พวกเขาจะยังสามารถเก็บเกี่ยวผลไม้ดินได้ก่อนฤดูหนาวหรือไม่?
ตอนนี้ชายผู้มีตำแหน่งสูงสุดร้อนรนมาก หากพืชเหล่านี้พูดได้ เขาคงจะเอ่ยถามมันอย่างแน่นอน
“ท่านผู้เฒ่า อย่ากังวลไปเลย ให้ข้าดูก่อน” หูเจียวเจียวยิ้มบาง ๆ พลางส่งสัญญาณให้ชายชราผ่อนคลายความเครียดลง
เธอเตรียมการทุกอย่างไว้หมดแล้ว มันฝรั่งที่ปลูกใกล้แม่น้ำไม่ใช่มันฝรั่งที่เอามาจากมิติ แม้ว่าต้นกล้ามันฝรั่งจะเสียหายไปบางส่วนก็ไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตมากนัก
"ตกลง ๆ เจ้าลองดูก่อน" คนเป็นหัวหน้าเผ่าพยักหน้าซ้ำ ๆ ก่อนจะหลีกทางให้เธอเพราะเขาไม่อยากไปขวางอีกฝ่ายให้เสียเวลา
ถัดมา หูเจียวเจียวมองไปรอบบริเวณและสังเกตเห็นว่าต้นอ่อนมันฝรั่งในทุ่งที่ใกล้กับแม่น้ำที่สุดห้อยอยู่บนพื้นอย่างไร้ชีวิตชีวา
ส่วนในแปลงอื่น ๆ ที่ห่างไกลจากแม่น้ำ มันฝรั่งยังคงเติบโตอย่างแข็งแรงโดยไม่มีผลกระทบใด ๆ
ครู่ต่อมา เธอเดินไปคุกเข่าก้มลงมองดูต้นกล้ามันฝรั่งอย่างระมัดระวัง ก่อนจะใช้นิ้วเรียวยาวกดดิน ไม่นานเธอก็รู้สึกถึงความชื้นที่อยู่ในดิน
สิ่งนี้ทำให้ดวงตาของหูเจียวเจียวหม่นลงเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
“ว่าไง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
เมื่อหัวหน้าเผ่าเห็นจิ้งจอกสาวยืนขึ้น เขาก็ถามออกมาอย่างกระวนกระวาย
หูเจียวเจียวพยักหน้าและพูดด้วยเสียงทุ้มว่า "ท่านผู้เฒ่า ต้นกล้าพวกนี้ตายเพราะได้น้ำมากเกินไป"
“ได้น้ำมากเกินไปรึ?” ชายชราส่ายหัวด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน “เป็นไปไม่ได้ ข้าเพิ่งส่งภูตไปตรวจสอบวันนี้เอง และข้าไม่ได้ให้ใครมารดน้ำเลย”
นอกจากนี้เขายังจงใจมาขวางทางพวกภูตเพื่อไม่ให้พวกเขามารดน้ำตามอำเภอใจ
แล้วผลไม้ดินจะได้น้ำเยอะเกินไปได้อย่างไร?
แม่จิ้งจอกเม้มริมฝีปากก่อนจะเตือนอย่างสงบนิ่งว่า "ท่านผู้เฒ่า บางทีอาจมีคนแอบรดน้ำต้นกล้าผลไม้ดินก่อนที่ภูตลาดตระเวนจะมาถึง คน ๆ นั้นจงใจทำลายต้นกล้าพวกนี้"
ทันทีที่เธอพูดจบ ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาที่ด้านข้างหัวหน้าเผ่า
“ท่านผู้เฒ่า เราพบสิ่งนี้ที่ริมแม่น้ำ ท่านลองดูสิ” ชายผู้นั้นยื่นสิ่งที่อยู่ในมือให้ผู้นำสูงสุดของเผ่าด้วยความเคารพ
หูเจียวเจียวก็หันไปมองเช่นกัน เธอพบว่าชายคนนั้นถือขนนกบาง ๆ ไว้ในมือ มันเป็นขนนกสีขาวราวกับหิมะ ซึ่งดูเหมือนขนนกหรือขนของสัตว์ปีก
เมื่อชายชราเห็นขนนกนั้น ใบหน้าของเขาก็ขุ่นมัวลง
ส่วนภูตที่อยู่รอบ ๆ ก็เห็นขนนกปริศนาเหมือนกัน พวกเขาทุกคนจึงแสดงสีหน้าประหลาดใจ
“พี่เมี่ยนเอ๋อ นั่นมันขนนกที่ท่านพกติดตัวทุกวันไม่ใช่หรือ?” ในตอนนั้นเอง ลู่ซุยซุยปิดปากอุทานด้วยความตกใจ