บทที่ 60: ลงโทษลู่หลี
เมื่อหูเจียวเจียวล้างจานชามที่แม่น้ำเสร็จแล้ว เธอก็เดินตรงไปที่ประตูก่อนจะพบหลงจงกำลังก้มหน้าวิ่งหมายจะออกไปข้างนอก
จังหวะนั้นเธอเอื้อมมือไปกดศีรษะของลูกชายคนที่ 3 "เจ้าจะไปฆ่าใครอีก? เจ้าอยู่บ้านนี่แหละ แม่จะไปล้างแค้นให้หลิงเอ๋อเอง"
หลังจากที่เด็กหนุ่มวิ่งอยู่นาน ในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวว่าตนเองยังอยู่ที่เดิม เขาเลยกุมหัวถอยห่างจากผู้เป็นแม่พลางมองอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่พอใจ
“ท่านจะล้างแค้นให้หลิงเอ๋อยังไง?”
ผู้หญิงคนนี้อ่อนแอมาก ถ้านางไปที่บ้านของลู่หลี นางก็จะถูกผลักล้มอีกเหมือนเดิม
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นความไม่ไว้วางใจเด่นหลาอยู่บนใบหน้าของหลงจง เธอก็เม้มริมฝีปากก่อนจะยื่นมือไปดีดหน้าผากเด็กหนุ่มเบา ๆ พร้อมกับแสร้งทำเป็นดุ "นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เจ้าไม่ต้องกังวลหรอกหนุ่มน้อย เจ้ารอแม่อยู่ที่บ้านนี่แหละ"
พอหญิงสาวเกลี้ยกล่อมลูกชายได้แล้ว เธอก็บอกให้ลูกคนอื่น ๆ อยู่เฝ้าบ้านและคอยดูแลหลงหลิงเอ๋อ จากนั้นเธอก็เดินทางไปที่บ้านของหัวหน้าเผ่าตามลำพัง
ในเวลาเดียวกัน หลงจงลูบหน้าผากตัวเองด้วยใบหน้าแดงก่ำ และรัวหมัดตามหลังผู้เป็นแม่ไปอย่างไม่สบอารมณ์ "ให้ตายเถอะ ใครอนุญาตให้นางดีดหน้าผากของข้ากัน..."
เมื่อหลงหลิงเอ๋อที่กำลังป่วยเห็นฉากนี้ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
ส่วนพี่น้องคนอื่นที่เห็นเด็กสาวยิ้ม หัวใจอันหนักอึ้งของทุกคนก็เบาลงเรื่อย ๆ
แม้ว่าตอนที่หูเจียวเจียวกลับมาเมื่อคืนนี้จะมืดค่ำแล้ว แต่ภูตหลายคนในเผ่าก็เห็นเธอกลับมาพร้อมกับหลงหลิงเอ๋อที่หมดสติอยู่ในอ้อมแขน ทำให้พวกเขาต่างก็คาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากที่หัวหน้าเผ่าตื่นขึ้นในตอนเช้า เขาก็ได้ยินเหล่าภูตข้างนอกพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้
"เจ้าได้ยินหรือยังว่าลู่หลีมัดหลงหลิงเอ๋อแล้วโยนทิ้งไว้ในถ้ำหมื่นอสรพิษ แล้วปล่อยให้หลงหลิงเอ๋อถูกงูพิษกัด!"
“หลงหลิงเอ๋อถูกงูพิษกัดจริงหรือ ข้าเกรงว่านางคงไม่มีชีวิตรอดแล้ว”
“ถ้าถูกงูพิษกัด เด็กตัวเล็กขนาดนั้นจะรอดมาได้ยังไง แต่หูเจียวเจียวไม่ค่อยชอบลูกของตัวเองอยู่แล้ว นางคงไม่สนใจว่าเด็กจะเป็นหรือตายหรอก”
"อย่าพูดไร้สาระ เมื่อวานเจ้าไม่ได้ยินที่นางพูดหรือ นางจะให้ลู่หลีถูกฝังไปพร้อมกับลูกสาวนาง เราไปรอลุ้นดูละครสนุก ๆ กันดีกว่า..."
ในสายตาของชาวบ้านทุกคน ครอบครัวของลู่หลีนั้นน่ารังเกียจที่สุด พวกเขาไม่ต่างไปจากหูเจียวเจียวที่มักจะเอาเปรียบคนอื่น และในใจภูตในเผ่าก็อยากให้ครอบครัวของลู่หลีประสบเคราะห์บ้าง
"อะแฮ่ม!"
"เจ้ากำลังพูดถึงอะไร เกิดอะไรขึ้นกับลูกของหูเจียวเจียว?"
เมื่อชายผู้เป็นหัวหน้าเผ่าได้ยินบทสนทนาของพวกชาวบ้าน เขาก็เดินเข้าไปถามด้วยใบหน้าบึ้งตึง
พอเหล่าภูตที่กำลังซุบซิบกันเห็นชายชรากำลังเดินมา พวกเขาก็ก้มหัวลงต่ำและเล่าให้อีกฝ่ายฟังว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้
ยิ่งผู้เฒ่าได้ฟัง ใบหน้าของเขาก็ยิ่งดุดันมากขึ้น
"ลู่หลีคนนี้วัน ๆ เอาแต่สร้างปัญหา!" หลังจากที่หัวหน้าเผ่าฟังเรื่องราวทั้งหมดจบก็โกรธมากจนลืมหิว และรีบไปหาหูเจียวเจียวทันที
ทางด้านจิ้งจอกสาวก็พบกับชายแก่ระหว่างทางพอดี
“ท่านผู้เฒ่า...”
“หูเจียวเจียว ข้ารู้เรื่องลูกของเจ้ากับลู่หลีทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยเจ้าเรียกร้องความยุติธรรมเอง”
ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้พูดอะไร หัวหน้าเผ่าก็พูดปลอบเธอด้วยท่าทางเป็นผู้ใหญ่
นั่นทำให้หูเจียวเจียวกะพริบตาปริบ ๆ ในขณะที่ร่องรอยแห่งความสงสัยฉายแววในดวงตาเรียวสวยของเธอ
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าท่านผู้เฒ่ากำลังโกรธมากกว่าตัวเธอเองเสียอีก?
ทว่าชายชราผู้มีตำแหน่งสูงไม่ได้โกรธแทนจิ้งจอกสาว…เขาแค่ยังคงต้องพึ่งพาอีกฝ่ายในการเพาะปลูกผลไม้ดินเพื่อพัฒนาชีวิตของคนในเผ่า หากหูเจียวเจียวปฏิเสธไม่ยอมช่วยเหลือ อาหารในฤดูหนาวปีนี้จะเป็นปัญหาใหญ่ทันที
ถัดมา หัวหน้าเผ่ารีบพาแม่จิ้งจอกไปที่บ้านของลู่หลีแบบไม่รอช้า
การกระทำของชายชราทำให้หูเจียวเจียวรู้สึกปลื้มปีติมาก
ถ้าเธอไม่ได้อ่านนวนิยายเรื่องนี้และรู้ว่าลูกทั้ง 5 เป็นลูกของหลงโม่ เธอคงเกือบจะคิดว่าเจ้าของร่างเดิมแอบมีความสัมพันธ์ลับกับหัวหน้าเผ่าไปแล้ว
ณ บ้านตระกูลลู่
ในตอนแรก ลู่หลีรู้สึกหวั่นกลัว แต่หลังจากรอมาทั้งคืน เขาก็ไม่เห็นหูเจียวเจียวโผล่มาหน้าประตูบ้านสักที เขาเลยคิดว่านางแค่พูดข่มขู่ตัวเองเท่านั้น แล้วจู่ ๆ เขาก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ไม่มีใครทำอะไรตนได้ จึงคุยโวเกี่ยวกับ ‘ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่’ ของเขาให้คนอื่น ๆ ฟัง
"หูเจียวเจียวมันก็แค่พวกเต่าหัวหด ข้าไม่กลัวนางหรอก นังเด็กสวะหลงหลิงเอ๋อนั่น แม้ว่านางจะตายไปก็สมควรแล้ว ใครใช้ให้แม่ของนางกล้าวางแผนทำร้ายพี่เขยของข้ากันล่ะ!"
“ตอนนี้ข้ายังแค้นใจไม่หายที่นางกล้าบุกเข้ามาพูดจารุนแรงกับข้า คอยดูเถอะ ข้าจะไปทุบไอ้สวะพวกนั้นให้เละเลย! มาดูกันว่านังผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้นจะทำอะไรข้าได้”
ปัจจุบันลู่หลีถูกห้อมล้อมด้วยเด็กหลายคนในเผ่า เขายืดอกคุยโวโอ้อวดอย่างรู้สึกภาคภูมิใจ
ทันทีที่หูเจียวเจียวมาถึง เธอได้ยินคำพูดที่น่าสมเพชของกวางหนุ่มทุกคำ เธอจึงโกรธมากแล้วปรี่เข้าไปคว้าแขนของเขาเพื่อลากออกมาจากฝูงชน
“เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ เจ้าจะทำร้ายใคร!?”
“ข้าขอเตือนเจ้าไว้นะลู่หลี ต่อจากนี้ไปหากเจ้ากล้ามารังแกลูกของข้าอีก ข้าจะจับเจ้าโยนลงไปในถ้ำหมื่นอสรพิษ ให้เจ้าได้ลิ้มลองรสชาติของการถูกงูพิษกัด” เสียงที่เยือกเย็นของหญิงสาวดูเหมือนจะไม่ได้ล้อเล่นเลย
"ปล่อยข้านะ เจ้าปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!" ลู่หลีตกใจพยายามดิ้นรนหนีให้พ้นจากมือของมัจจุราช
แต่ใครจะคิดว่าหูเจียวเจียวกลับจับแขนเขาไว้แน่น ดวงตาที่ดุดันของอีกฝ่ายดูเหมือนจะอยากฆ่าเขาให้ตายเสียตรงนี้ มันทำให้เขากลัวจนแผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น
ทำไมผู้หญิงคนนี้น่ากลัวมาก!?
ในเวลาเดียวกัน เมื่อพ่อแม่ของลู่หลีได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็รีบออกมาดู ก่อนจะพบว่าลูกชายกำลังถูกแม่จิ้งจอกจับไว้จึงรีบตรงเข้าไปขวาง
“หูเจียวเจียว เจ้าทำอะไร ปล่อยลู่หลีนะ!”
“ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายลู่หลี ข้าจะตัดมือเจ้าทิ้งซะ!”
ชายหญิงชราทั้ง 2 รีบวิ่งเข้าไปพร้อมกางกรงเล็บข่มขู่อีกฝ่ายที่เข้ามาบุกรุกบ้านของตัวเอง ในระหว่างนั้น หูเจียวเจียวเองก็ปล่อยมือด้วยใบหน้าเย็นชา ทำให้ลู่หลีที่กำลังดิ้นรนหลุดจากมือของเธอไปกระแทกใส่ผู้อาวุโส 2 คนที่กำลังวิ่งเข้ามาจนพากันล้มไปกองกับพื้น
พอพ่อแม่กวางล้มลง พวกเขาก็ร้องโหยหวนไม่หยุด แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ลืมที่จะกังวลเกี่ยวกับลูกชายสุดที่รัก "ลู่หลี เจ้าเป็นอะไรไหม บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า..."
"หูเจียวเจียว เจ้ามันบ้า! วัน ๆ หาแต่เรื่องระรานคนอื่น เจ้าต้องการอะไรกันแน่!?"
แม่กวางเฒ่ายืนเท้าสะเอวชี้หน้าจิ้งจอกสาวพลางตะโกนใส่อีกฝ่าย
"หืม? ข้าต้องการอะไรงั้นหรือ?" หูเจียวเจียวเย้ยหยัน ร่องรอยของความดุดันปรากฏบนใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเธอ "ลู่หลีทำให้หลิงเอ๋อถูกงูพิษกัด แล้วมันยังมีหน้าไปบอกกับคนอื่นว่าจะไปทำร้ายลูกข้า ข้าต่างหากที่ควรถามมันว่าต้องการอะไรกันแน่!"
“ก็แค่ถูกงูพิษกัดเท่านั้น เด็กไร้ประโยชน์อย่างมันตาย ๆ ไปซะก็ดีแล้ว เอามันมาเทียบกับลู่หลีของเราไม่ได้หรอก”
ยามนี้แม่ลู่หน้ามืดตามัวพูดเข้าข้างลูกตัวเอง นางไม่รู้สึกว่าลู่หลีทำอะไรผิดเลยสักนิด
"พอ!" ในตอนนั้นเอง หัวหน้าเผ่าเดินออกมาจากฝูงชนด้วยความโกรธ ตอนแรกเขาต้องการฟังคำอธิบายจากตระกูลลู่ แต่เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะน่ารังเกียจขนาดนี้
“เจ้ามันไร้เหตุผล ถ้าเจ้าไม่ลงโทษลู่หลีในวันนี้ ข้าไม่คิดว่าเขาจะสำนึกผิด” ชายชราพูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “ใครก็ได้ จับตัวลู่หลีมาให้ข้า”
เดิมทีพวกภูตไม่พอใจกับคนในตระกูลลู่มานานแล้ว และเมื่อได้ยินคำสั่งของท่านผู้เฒ่าก็มีคนเข้าไปลากตัวกวางหนุ่มทันที
"ท่านผู้เฒ่า ท่านทำแบบนี้ไม่ได้ ครอบครัวของเรา… ลู่หลีไม่ได้ทำอะไรผิด..." แม่กวางยังคงอยากช่วยลูกชาย แต่นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกผู้ชายในเผ่า นางจึงถูกเหวี่ยงออกไปไกลก่อนจะถูกภูตหลายคนเข้ามาจับตัวไว้
จากนั้นผู้มีตำแหน่งสูงสุดของเผ่าไม่สนใจหญิงชราอีกและมองไปที่หูเจียวเจียวอย่างขอโทษด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมประกอบกับจริงจัง "หูเจียวเจียว ข้าให้สิทธิ์เจ้าในการจัดการกับลู่หลี"
จิ้งจอกสาวที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าตอบรับ
เธอรู้ว่าหัวหน้าเผ่าคงไม่ช่วยเธอโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ อาจเป็นเพราะเธอโกหกเกี่ยวกับความฝันของเทพอสูรและสามารถช่วยคนในเผ่าแก้ปัญหาเรื่องอาหารได้
ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่ลังเล แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "ข้าจะไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ ข้าจะให้เจ้าเลือกระหว่างทิ้งลู่หลีไว้ในถ้ำหมื่นอสรพิษ แล้วปล่อยให้เขาถูกงูพิษกัด หรือรับการโบย 100 ไม้ เลือกมา!”
"อะไรนะ!" ดวงตาของแม่ลู่เบิกกว้างทันที "เป็นไปไม่ได้ ถ้าลู่หลีโดนงูพิษกัด เขาจะต้องตาย หูเจียวเจียว เจ้ากำลังพยายามฆ่าลู่หลีอยู่หรือไง!? นังผู้หญิงเลวทราม!"
แม่กวางเฒ่าสบถสาปแช่งจิ้งจอกสาวไม่หยุด
ในขณะที่ลู่หลีตะโกนออกมาด้วยความสะพรึงกลัว "ข้าไม่ไป…ข้าไม่ไป!"
หากงูพิษกัดเขาเพียงครั้งเดียว มันก็ฆ่าเขาให้ตายได้เลย
หูเจียวเจียวหัวเราะเยาะครอบครัวที่น่าสมเพชแล้วริมฝีปากสีแดงก็เหยียดยิ้มออกมา "ถ้าเจ้าไม่ไปที่ถ้ำหมื่นอสรพิษ งั้นเจ้าจะเลือกโบย 100 ไม้สินะ"