ตอนที่แล้วตอนที่ 84: ห้องสมุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 86: อุบัติเหตุ

ตอนที่ 85: คุณสมบัติ


ตอนที่ 85: คุณสมบัติ

สนามแข่งแสงจันทร์ถูกสร้างขึ้นบริเวณริมทะเลที่ห่างจากค่ายฝึกมากกว่า 300 กิโลเมตร โดยมันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในดาวเฮกสตาร์และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเยียนอยู่เป็นประจำ

สนามแข่งรถถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนครอบคลุมความยาวมากกว่า 1,355 กิโลเมตร โดยมันถือได้ว่าเป็นสนามแข่งระดับเฟิร์สคลาสในภูมิภาคดาว

การแข่งขันที่แท้จริงจะถูกจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้และในวันนี้ทุกทีมจะได้เข้าร่วมการแข่งขันรอบทดสอบเพื่อเช็คประสิทธิภาพรถในสนามจริงก่อนถึงวันงาน

เมื่อทุกคนได้เห็นรันเวย์อันใหญ่โตเป็นครั้งแรกมันก็ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

สนามแห่งนี้มีส่วนที่กว้างที่สุดถึง 100 เมตรและส่วนที่แคบที่สุดก็กว้างเพียง 30 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้มันยังมีเนินคดเคี้ยวเหมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ซึ่งดูแล้วน่าสับสนเป็นอย่างยิ่ง

เซี่ยเฟยมองเห็นรถคันสีแดงของเขาจากพื้นที่ขนส่งได้ในทันที โดยทางค่ายจะเป็นฝ่ายที่ดูแลเรื่องการขนส่งรถแข่งของแต่ละทีม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตในระหว่างดำเนินการ

เมื่อมองจากระยะไกลรถสีแดงเพลิงคันนี้ก็มีรูปร่างคล้ายกับกระสวยและดูเหมือนดาบที่แหลมคม ซึ่งมันมีตัวถังที่เพรียวบาง ขณะที่ด้านหน้ามีรูปทรงแหลมและมีหมายเลข 99 พ่นสีติดบริเวณด้านข้างของตัวถังทั้งสองด้าน

เซี่ยเฟยเดินไปที่รถและเปิดฝากระโปรงเพื่อตรวจสอบกลไกของรถอย่างละเอียด ซึ่งหลังจากที่เขาแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาก็สวมอุปกรณ์แล้วเข้าไปในห้องคนขับ

ห้องคนขับมีลักษณะเหมือนกับห้องบัญชาการของยานรบ แต่พื้นที่ด้านในจะแคบมากจนแทบที่จะไม่สามารถรองรับคนคนเดียวได้ นอกจากนี้มันยังมีปุ่มควบคุมต่าง ๆ ที่อัดแน่นอยู่ทั่วทั้งแผงควบคุม

จากนั้นเซี่ยเฟยก็ส่งสัญญาณให้พวกเฉินตงแล้วกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์

บรื้น!

ทันใดนั้นมันก็ได้มีเสียงคำรามที่รุนแรงและน่าหนวกหูดังขึ้นมา ซึ่งมันก็ทำให้ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับรีบปิดหูของพวกเขาด้วยความรวดเร็ว

“โอ้ยมันจะดังเกินไปแล้ว! แก้วหูของฉันแทบแตก!!”

“รถคันนี้มันไม่มีอุปกรณ์ลดเสียงรึไง”

สมาชิกในทีมอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงเริ่มบ่นเกี่ยวกับเสียงอันดังสนั่นของรถหมายเลข 99

อันที่จริงเซี่ยเฟยได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์ลดเสียงมาแล้ว แต่เพื่อประหยัดพื้นที่สำหรับส่วนอื่น ๆ เขาจึงลดขนาดมันเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว ดังนั้นประสิทธิภาพในการลดเสียงของมันจึงไม่ได้ชัดเจนมากนัก

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ควบคุมรถเข้าสู่สนาม แล้วมันก็มีพนักงานเดินเข้ามาด้านข้างของเซี่ยเฟย

“วิ่งทั้งหมด 3 รอบ รอบที่ทำเวลาได้ดีที่สุดจะนำไปคิดเป็นลำดับของทีม เข้าใจไหม?”

ตำแหน่งเริ่มต้นของรถแข่งจะถูกจัดเรียงตามผลการแข่งขันรอบทดสอบ โดยรถที่สามารถทำเวลาได้ดีที่สุดจะได้สตาร์ทในตำแหน่งแรกของงานแข่งในวันพรุ่งนี้

ยิ่งตำแหน่งเริ่มต้นดีเท่าไหร่มันก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะครอบครองชัยชนะได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นในระหว่างการแข่งขันรอบทดสอบทุก ๆ ทีมจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแย่งชิงตำแหน่งการออกตัวที่ดีที่สุด

เมื่อได้ฟังคำอธิบายจากเจ้าหน้าที่แล้วเซี่ยเฟยก็พยักหน้ารับและเข้าสู่จุดออกตัว

เนื่องจากการวิ่งครั้งนี้เป็นรอบทดสอบ ทางค่ายจึงไม่ได้ให้รถแข่งมากกว่า 300 คันออกจากจุดสตาร์ทพร้อม ๆ กัน แต่พวกเขาจะปล่อยรถแข่งเข้าสู่สนามแข่งในทุก ๆ 15 วินาทีแทน

จากนั้นเซี่ยเฟยก็ใช้เท้าของเขาแตะคันเร่งเบา ๆ ทำให้รถแข่งคันสีแดงพุ่งตัวออกจากจุดสตาร์ทพร้อมกับส่งเสียงดังกระหึ่มทิ้งไว้เพียงภาพติดตาและเปลวไฟที่ระเบิดออกมาจากเครื่องยนต์เป็นสายยาว

ในตอนนี้มีแต่เสียงเครื่องยนต์คำรามดังกึกก้องอยู่ภายในหูของเซี่ยเฟยและทิวทัศน์บริเวณรอบ ๆ ก็พัดถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว มันจึงทำให้ชายหนุ่มมองเห็นเส้นทางข้างหน้าของเขาเพียงเท่านั้น

แม้ว่าในปัจจุบันมันจะไม่มีใครอยู่บนอัฒจันทร์ ไม่มีดอกไม้และไม่มีเสียงปรบมือจากผู้ชมข้างสนาม แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ว่าเลือดภายในกายของเขากำลังเดือดพล่านไปด้วยความตื่นเต้น

ความรู้สึกที่ได้มาจากการนั่งอยู่บนรถที่ขับด้วยความเร็วสุดขีดนี้ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ยกตัวอย่างเช่น คนที่ต้องขึ้นรถเมล์ไปทำงานในทุก ๆ วัน แต่จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนมาขับรถมอเตอร์ไซค์แทน แม้ว่ารถมอเตอร์ไซต์และรถเมล์จะเป็นยานพาหนะที่ทำให้เขาถึงจุดหมายได้เหมือนกันแต่ความรู้สึกที่เขาได้รับก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เซี่ยเฟยพยายามระงับความตื่นเต้นภายในใจและเลือกใช้ความเร็วคงที่ประมาณ 1,000 เมตรต่อวินาทีเท่านั้น เพราะในตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือการศึกษาเส้นทางและทำความคุ้นเคยกับสนามแข่งให้มากที่สุด

จากนั้นชายหนุ่มก็เลือกฟังก์ชั่นการบันทึกของไมโครคอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกรายละเอียดทุกอย่างที่เขาเห็นและรู้สึกในขณะที่กำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า แม้ว่ามันจะได้มีรถแข่งจำนวนมากขับแซงเขาไปแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจคนเหล่านี้เลยและยังคงดำเนินการตามแผนที่เขาตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่

ในมุมมองของเซี่ยเฟยความหยิ่งยโสและความอวดดีเพื่อแสดงให้เห็นถึงทักษะการขับขี่ของตัวเองในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะความแข็งแกร่งที่แท้จริงควรจะแสดงออกมาในระหว่างการแข่งขันที่แท้จริงเท่านั้น

“ทำไมเขาขับช้าขนาดนี้! นี่เขาไม่เห็นรึไงว่ามีรถแซงไปสิบกว่าคันแล้ว” เยว่เกออดไม่ได้ที่จะบ่นออกมาเมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า

“เธอจะรีบร้อนไปทำไม ก็เห็นอยู่ว่าเขากำลังสำรวจเส้นทางอยู่ เดี๋ยวเขาก็เพิ่มความเร็วในรอบที่ 2 เองนั่นแหละ” เฉินตงกล่าว

ในไม่ช้าเซี่ยเฟยก็กำลังเข้าสู่พื้นที่ส่วนที่ 3 ของสนามแข่ง โดยความยาวของพื้นที่ส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 มีระยะทางเพียงแค่ส่วนละ 400 กิโลเมตรเท่านั้น ในขณะที่ความยาวของพื้นที่ส่วนที่ 3 คือ 555 กิโลเมตรซึ่งมันเป็นส่วนที่ยาวที่สุดและยากที่สุดของสนามแข่งนี้

สนามโค้งรูปตัว S จำนวนมากเหล่านี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าโค้งปีศาจ

สนามโค้งรูปตัว S ถือได้ว่าเป็นเส้นทางการปราบเซียนของเหล่านักขับหลาย ๆ คนและถึงแม้ว่าการโค้งหักศอกบนสนามทั่วไปจะไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายเท่าไหร่ แต่ในส่วนที่ 3 ของสนามแสงจันทร์นี้กลับมีโค้งหักศอกต่อเนื่องถึง 128 โค้ง!

การเข้าโค้งต่อเนื่องของสนามแข่งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นบททดสอบที่ดีของตัวรถเท่านั้น แต่มันยังเป็นการทดสอบถึงการตัดสินใจและความสามารถของผู้ขับขี่อีกด้วย

ท้ายที่สุดแล้วการที่จะผ่านโค้งต่อเนื่องเหล่านี้ไปให้ได้ มันก็จำเป็นที่จะต้องใช้รถที่เหมาะสมและสมาธิของผู้ขับขี่ในระดับที่สูงมาก เพราะตราบใดก็ตามที่ผู้ขับขี่ประมาทแม้แต่เพียงเล็กน้อย เขาก็อาจจะสูญเสียการควบคุมรถและก่อให้เกิดหายนะขึ้นมาได้

อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่สนามแข่งรถธรรมดา แต่มันคือสนามแข่งรถสุดโหดที่มีความเร็วสูงสุดเกินกว่า 3,000 เมตรต่อวินาที!

เซี่ยเฟยตัดสินใจชะลอรถเพื่อเลี้ยวโค้งต่อเนื่อง 128 โค้งนี้อย่างระมัดระวังและทำให้เขาได้กลับไปที่จุดออกตัวอีกครั้งเพื่อเริ่มการทดสอบในรอบที่ 2

เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเฉินตง, เยว่เกอ, เป๋ยไฮ่และหมานจุนก็กำลังรอคอยการเพิ่มความเร็วของเซี่ยเฟยอย่างตื่นเต้น

ในรอบที่ 2 เซี่ยเฟยก็ไม่ได้ทำให้การรอคอยของพวกเขาผิดหวัง เพราะเขาเร่งความเร็วขึ้นจากเดิมจริง ๆ แต่ชายหนุ่มกลับเพิ่มความเร็วจาก 1,000 เป็น 1,500 เมตรต่อวินาทีเท่านั้น ซึ่งความเร็วนี้ถือได้ว่าเป็นความเร็วเพียงครึ่งเดียวสำหรับเหล่าบรรดารถแข่งในสนาม

“ไหนนายบอกว่าเซี่ยเฟยจะเร่งความเร็วในรอบที่ 2 ไง!” เยว่เกอตะโกนพร้อมกับจ้องมองเฉินตงด้วยความโมโหขณะหยิบแตงกวาออกมาจากกระเป๋าแล้วกัดมันอย่างรุนแรง

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง บางทีเขาอาจจะยังไม่คุ้นสนามก็ได้” เฉินตงตอบด้วยความสับสน

ในขณะเดียวกันมันก็ได้มีรถแข่งหมายเลข 201 ที่ขับโดยไป๋เย่แล่นผ่านเซี่ยเฟยไปและเมื่อมันได้แซงนำหน้าชายหนุ่มไปแล้วรถก็เบรกอย่างกระทันหันและหยุดรอเขาอย่างตั้งใจ แต่เมื่อชายหนุ่มได้ขับผ่านมันไปมันก็เริ่มเร่งความเร็วและแซงหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง

นี่ถือได้ว่าเป็นการยั่วยุที่ชัดเจน แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขับรถของเขาด้วยความตั้งใจโดยไม่ได้ให้ความสนใจรถแข่งคันสีขาวตรงหน้าเลย

ทันใดนั้นเยว่เกอก็ไม่สามารถระงับความโกรธของเธอได้อีกต่อไป เธอจึงหยิบเครื่องสื่อสารขึ้นมาและตะโกนใส่เซี่ยเฟยว่า

“ไอ้บ้าเซี่ย! ฉันขอสั่งให้นายแซงรถของไอ้สารเลวนั่นไปซะ แซงมันไปเดี๋ยวนี้!!!”

ในไม่ช้ามันก็ได้มีคำตอบง่าย ๆ ของเซี่ยเฟยดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของเครื่องสื่อสาร

“หุบปาก!”

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ได้ปิดการเชื่อมต่อทันที ไม่เหลือโอกาสให้เยว่เกอกล่าวตอบโต้เขาเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเธอได้ยินคำตอบจากเซี่ยเฟยใบหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียดและจ้องมองไปที่ชายหนุ่มราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

ในขณะที่สมาชิกภายในทีมก็กำลังรู้สึกสับสนว่าทำไมเยว่เกอถึงดูจงเกลียดจงชังไป๋เย่ขนาดนั้นและเธอจะอารมณ์เสียทุกครั้งเมื่อเห็นเขาอยู่ในระยะสายตา

เมื่อไป๋เย่เห็นว่าเซี่ยเฟยไม่ได้ตั้งใจที่จะตอบโต้ เขาจึงขับรถพุ่งออกไปด้วยความรู้สึกยินดี

‘ไหนใครบอกว่าเขาเป็นคนบ้า เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน เขาก็แค่คนปอดแหกคนหนึ่งเท่านั้นแหละ’ ไป๋เย่คิด

เป๋ยไฮ่เรียกดูรายการจัดลำดับของการคัดเลือกรอบทดสอบจากหน้าจอที่อยู่ข้าง ๆ ซึ่งมันก็ได้แสดงข้อมูลว่าในปัจจุบันอันดับที่ 1 คือรถแข่งหมายเลข 73 ของหนี่เว่ยจากแผนกเครื่องกล ซึ่งทำสถิติอยู่ที่ 8 นาที 2 วินาทีและมีความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000 เมตรต่อวินาที

ในขณะที่อันดับที่ 2 และ 3 คือรถแข่งหมายเลข 21 และ 194 จากแผนกเครื่องกลเช่นกันและพวกเขาก็ทำสถิติน้อยกว่า 8 นาที 30 วินาที

สำหรับรถแข่งหมายเลข 33 ของเฉียนเฟิงก็อยู่ในอันดับที่ 21 และทำสถิติที่ 8 นาที 57 วินาที

แน่นอนว่ารถแข่งหมายเลข 99 ที่เซี่ยเฟยเป็นคนขับอยู่ในอันดับสุดท้ายและทำสถิติตามหลังรองอันดับสุดท้ายมากกว่า 3 นาที

เมื่อสมาชิกภายในทีมเข้าใจได้ถึงสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างแท้จริง

ตำแหน่งออกตัวของรถแข่งถือได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากว่าคุณอยู่ในจุดสตาร์ทด้านหน้า คุณก็จะสามารถเป็นผู้นำและกำจัดการไล่ล่าหรือการสกัดกั้นของบรรดารถแข่งคันอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่รถที่อยู่ในตำแหน่งด้านหลังก็จะเสียโอกาสเหล่านี้ไปอย่างไม่ต้องสงสัย

ทันใดนั้นมันก็ได้มีเสียงคำรามดังกึกก้องของเครื่องยนต์จากบริเวณจุดสตาร์ทซึ่งเสียงของมันเลวร้ายยิ่งกว่ารถแข่งหมายเลข 99

เสียงคำรามของมันได้เรียกความสนใจจากผู้คนบริเวณรอบสนามได้เป็นอย่างดีและเมื่อทุกคนได้มองหาสาเหตุของมันก็ได้พบกับรถแข่งคันสีดำที่กำลังจะพุ่งตัวเข้าสู่สนาม

“หมายเลข 0! นั่นมันรถของทีมมังกรสองหัว” หมานจุนตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะเขาสามารถจดจำรถคันนี้ได้อย่างรวดเร็ว

รถแข่งคันนี้ไม่ได้ใช้โครงมาตรฐานแบบที่พวกเขารู้จัก แต่มันมีลักษณะที่ผอมเพรียวเกินความเป็นจริง ทำให้ตัวรถลู่ลมและพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งกว่า

นอกจากนี้เพียงแค่เสียงคำรามของเครื่องยนต์ก็สามารถรับรู้ได้ว่าการปรับแต่งของรถคันนี้มีความล้ำหน้ายิ่งกว่ารถทุกคันที่อยู่ในสนาม

บรื้น!

เมื่อรถแข่งหมายเลข 0 ออกตัวพุ่งสู่สนาม มันก็ส่งเสียงคำรามและหายลับจากสายตาของผู้ชมด้วยความรวดเร็ว

“โคตรเร็ว!” เป๋ยไฮ่อุทานหลังจากที่เขาเรียกสติตัวเองให้หลุดจากความตกตะลึง

“รถของพวกเขาไม่ใช่รุ่นมาตรฐานแต่เป็นรุ่นพิเศษสำหรับการแข่งขันขั้นสูงโดยเฉพาะ มันไม่แปลกที่รถของพวกเขาจะเร็วกว่ารถของพวกเรา” เฉินตงกล่าวพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเป๋ยไฮ่

“อย่าเอาความอวดดีของศัตรูมาทำลายศักดิ์ศรีของพวกเรา ถึงยังไงพวกเราก็จะชนะการแข่งขันในครั้งนี้!” เยว่เกอกล่าวเพื่อเรียกขวัญกำลังใจของสมาชิกภายในทีม พร้อมกับต่อยไปที่หน้าอกของเป๋ยไฮ่และเฉินตงเพื่อเรียกสติ

แต่ถึงแม้ว่าเยว่เกอจะพยายามให้กำลังใจและพูดคำที่สวยหรูให้แก่เหล่าสมาชิกภายในทีมมากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าในตอนนี้เซี่ยเฟยยังคงขับรถอย่างช้า ๆ เหมือนกับการเดินเล่นได้อยู่ดี

หลังจากที่ชายหนุ่มควบคุมรถแข่งผ่าน 128 โค้งเป็นครั้งที่ 2 เขาก็ได้เดินทางมาถึงจุดออกตัวอีกครั้ง

เมื่อรถแข่งกำลังจะเข้าสู่การทดสอบรอบที่ 3 เซี่ยเฟยก็เอียงหัวไปมาและขยับแขนขาเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

เบื้องหน้าของชายหนุ่มมีเส้นสีเหลืองที่โดดเด่นขีดอยู่บนสนาม ตราบใดก็ตามที่เขาข้ามมันไปก็แสดงว่าเขาได้เข้าสู่บททดสอบรอบที่ 3 อย่างเป็นทางการแล้ว

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็เหยียบเท้าของเขาไปที่คันเร่งและรถแข่งสีแดงเพลิงก็ส่งเสียงร้องคำรามที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม

1,800 เมตรต่อวินาที

2,100 เมตรต่อวินาที

2,400 เมตรต่อวินาที

2,700 เมตรต่อวินาที

3,000 เมตรต่อวินาที!

ในเวลาเพียง 1.21 วินาทีรถสีแดงเพลิงคันนี้ก็ได้เพิ่มความเร็วขึ้นจาก 1,500 เป็น 3,000 เมตรต่อวินาที

เนื่องจากรถคันนี้ได้รับการดัดแปลงโดยเซี่ยเฟย มันจึงทำให้อัตราเร่งของรถเร็วยิ่งกว่ารถแข่งโดยทั่วไป

แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้หยุดความเร็วไว้เพียงเท่านี้ เพราะเขายังคงเร่งความเร็วไปเรื่อย ๆ จนทำให้ในตอนนี้มันมีความเร็วเกินกว่า 3,000 เมตรต่อวินาทีแล้ว

“เยี่ยม! ในที่สุดเขาก็เอาจริงสักที!!” เยว่เกอกระโดดอย่างมีความสุขพร้อมกับดวงตาที่จับจ้องไปยังรถคันสีแดงเพลิงที่อยู่บนหน้าจอ

ในขณะเดียวกันสมาชิกของทีมอื่นก็สังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของรถหมายเลข 99

“แม่เจ้าโว้ย! ความเร็วเกิน 3,400 เมตรต่อวินาทีแล้ว!!”

“ดูนั่นสิรถหมายเลข 99 เร็วเป็นบ้าเลย!!”

เกือบจะพร้อม ๆ กันมันก็มีชายผมสั้นอีกคนอุทานขึ้นมาเสียงดัง

“เฮ้ยดูนั่น! รถหมายเลข 0 ทำความเร็วได้ถึง 3,900 เมตรต่อวินาทีแล้ว! อย่าบอกนะว่ามันจะทะลุ 4,000 เมตรต่อวินาที!!”

รถแข่งหมายเลข 0 เป็นรถแข่งของทีมมังกรสองหัว ซึ่งด้วยความเร็ว 3,900 เมตรต่อวินาทีนี้ มันจึงทำให้รถแข่งของเซี่ยเฟยไม่โดดเด่นเท่าที่ควรจะเป็น

เยว่เกอส่งเสียงเชียร์และให้กำลังใจเซี่ยเฟยอย่างสุดกำลัง ในขณะที่เฉินตง เป๋ยไฮ่และหมานจุนก็กำลังจ้องมองหน้าจออย่างตื่นเต้น

ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทั้งสี่คนก็รอช่วงเวลานี้มาอย่างยาวนานและพวกเขาก็หวังว่าเซี่ยเฟยจะสามารถคว้าอันดับที่ 1 ในรอบนี้กลับมาให้กับทีม

หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยเฟยและรถคันสีแดงเพลิงหมายเลข 99 ก็ขับเข้ามายังพื้นที่ซ่อมบำรุง หลังจากจบการทดสอบ

โดยในกระดานจัดอับดับรถหมายเลข 99 ได้ปรากฎอยู่ในลำดับ 4 ซึ่งลำดับที่ 1-3 เป็นรถหมายเลข 0 ของทีมมังกรสองหัว, รถหมายเลข 73 ของหนี่เว่ยและหมายเลข 201 ของไป๋เย่ตามลำดับ

“ไอ้บ้าเชี่ย! ทำไมนายถึงชนะไอ้สารเลวไป๋เย่ไม่ได้!” เยว่เกอตะโกนใส่เซี่ยเฟยด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง

“นี่มันเป็นเพียงรอบทดสอบ การชนะพวกเขาในตอนนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไร?” เซี่ยเฟยกล่าวตอบพร้อมกับขมวดคิ้วขณะที่กระโดดลงจากห้องคนขับ

เฉินตงพยักหน้าเพื่อเห็นด้วยกับคำตอบของเซี่ยเฟยทันที จากนั้นเขาจึงนำน้ำผลไม้แล้วใช้ความสามารถในการแช่แข็งของตนเองเพื่อทำน้ำแข็ง 4-5 ก้อนโยนลงไปในแก้ว

“ฉันเห็นด้วยกับความคิดของเขา มันไม่ใช่เรื่องดีที่จะทำตัวโดดเด่นในรอบทดสอบ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการแข่งขันในวันพรุ่งนี้” เฉินตงกล่าวพร้อมกับยื่นน้ำผลไม้ให้กับเซี่ยเฟย

“เฉินตงนายช่วยทำให้เครื่องเย็นลงที ฉันต้องดัดแปลงอะไรบางอย่างเพิ่มอีกหน่อย” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจังหลังจากที่จิบน้ำผลไม้เข้าไปเล็กน้อย

“ได้ ๆ” เฉินตงพยักหน้าพร้อมกับเปิดฝากระโปรงรถและยื่นมือข้างหนึ่งเข้าไป

ในไม่ช้ามันก็ได้มีหมอกเย็นสีขาวล้อมรอบเครื่องยนต์และทำให้เครื่องยนต์สีแดงข้างหน้าส่งเสียงหอนออกมาพร้อมกับอุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

“เกิดอะไรขึ้น! มีอะไรผิดปกติงั้นหรอ?” เฉินตงถามด้วยความกระวนกระวาย

“ในส่วนที่ 3 ตอนที่ต้องโค้ง 128 ครั้งมันมีปัญหานิดหน่อยเพราะกระแสลมจะปั่นป่วนเมื่อผ่านโค้ง ดังนั้นฉันต้องปรับระบบสมดุลย์บางอย่างให้สอดคล้องกัน” เซี่ยเฟยตอบพร้อมกับพยักหน้า

“ในส่วนที่ 2 ช่วง 70 เมตรแรกก็เพิ่งมีการซ่อมถนนไปซึ่งทำให้ระดับถนนแตกต่างจากบริเวณอื่นประมาณ 0.1 เซนติเมตรและสนามก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด ฉันจึงต้องแก้ไขระบบช่วงล่างบางอย่างด้วย…”

เซี่ยเฟยยังคงสาธยายถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่แม้แต่คนธรรมดาก็ไม่สามารถมองเห็นปัญหาเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ภายใต้ขอบเขตการพิจารณาเขายังรวมถึงการรบกวนของกระแสลมอีกด้วย

รถแข่งเอ็กซ์ตรีมไม่ได้ขับเคลื่อนบนท้องถนนเหมือนรถปกติแต่มันลอยอยู่ในอากาศตลอดเวลา ซึ่งความแตกต่างของระดับถนนบนพื้นมันก็จะส่งผลกระทบต่อการสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับเรื่องของกระแสลมยิ่งไม่ใช่ปัญหาเพราะตัวโครงรถถูกออกแบบมาเพื่อขับขี่ในความเร็วสูงอยู่แล้ว

“พี่ชายนายนี่มันสุดยอดไปเลย! นายสังเกตเห็นแม้กระทั่งความต่าง 0.1 เซนติเมตร!” เยว่เกอยกนิ้วโป้งให้เซี่ยเฟยพร้อมกับกล่าวชื่นชม

ในขณะที่เซี่ยเฟยเพียงแค่จุดบุหรี่และไม่ได้ตอบโต้ใด ๆ กลับไป

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็หยิบคีมอเนกประสงค์ที่เล็กที่สุดออกจากกล่องเครื่องมือแล้วมุ่งหน้าไปที่รถแข่งและเริ่มต้นทำงานอีกครั้ง

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด