ตอนที่แล้วตอนที่ 58 : มาถึงจินหลิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 60 : ยืนยันที่ตั้งร้านทั้งสามสาขา

ตอนที่ 59 : เลือกที่ตั้งร้านค้า


ในวันที่ 1 กันยายน ฉินหยุนจะเปิดร้านค้าเพิ่มอีกสามแห่ง และหลังจากวันที่ 1 ตุลาคม ก็จะเปิดเพิ่มอีกสามแห่งเช่นกัน รวมแล้วมีร้านค้าทั้งหมดหกร้าน และทุกๆเดือนหลังจากนั้น ร้านค้าจะก็ถูกเปิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับเขตชิงอู๋ที่มีร้านค้าไม่กี่ร้านเขาสามารถปล่อยให้ทางครอบครัวของเขาจัดการได้ แต่ที่นี่ ถ้าฉินหยุนต้องการจัดการกับร้านค้าจำนวนมาก เขาอาจจะต้องทุ่มเทพลังงานทั้งหมดที่มีไปกับพวกมัน และพลังงานที่เขามีก็อาจจะไม่เพียงพอ

ดังนั้น ผู้จัดการที่ดีจะต้องได้รับการคัดเลือกมาตั้งแต่ตอนเริ่มต้น และในภายหลังค่อยรับสมัครมาเพิ่ม

‘ฉันหวังว่าจะได้คนที่เก่งๆ’ ฉินหยุนคิดกับตัวเอง

เขามีฉินเสี่ยวเทาอยู่ข้างๆก็จริง แต่ตอนนี้ฉินหยุนยังไม่สามารถปล่อยให้เขาอยู่ในตำแหน่งระดับสูงในร้านขายเสื้อผ้าได้ เพราะเขายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้สักเท่าไร

หลังจากออกจากบริษัทตัวกลาง ฉินหยุนก็ไปที่เขตเจียงหนิง เมืองจินหลิง และเริ่มมองหาร้านค้าเช่า

สำหรับเขาที่มีค่ายกลรวบรวมโชคลาภอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนเขาก็สามารถเปิดร้านได้ ขอแค่มีการสัญจรของผู้คน

ถ้าการสัญจรของผู้คนคนมากพอธุรกิจก็จะเฟื่องฟูอย่างแน่นอน

และมหาลัยของฉินหยุนก็ตั้งอยู่ในเขตเจียงหนิงด้วยเช่นกัน ดังนั้นมันจึงสะดวกมากกว่าที่จะเปิดร้านที่นี่

หลังจากขยายสาขาที่นี่จนเป็นที่น่าพอใจแล้ว เขาจะเริ่มขยายสาขาต่อไปไปยังอีกสองเขตที่มีมหาลัยอีกสองแห่งตั้งอยู่ และบริเวณโดยรอบเมืองจินหลิง

ที่นี่มีผู้คนมากกว่าเจ็ดล้านคน ตลาดขนาดใหญ่เช่นนี้ คงไม่เป็นที่น่าพึงพอใจหากเปิดร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุนเพียงไม่กี่แห่ง

การค้นหายังคงดำเนินต่อไป แม้แต่ในเมืองที่พัฒนาแล้วเช่นจินหลิง ก็ยังมีร้านค้าจำนวนมากมายที่ไม่สามารถเปิดกิจการต่อไปได้ ใช้เวลาไม่นานสำหรับฉินหยุนในการค้นหาร้านค้าที่มีทำเลดี

แต่เขาแค่โทรไปสอบถามข้อมูลแค่นิดหน่อยและเริ่มค้นหาร้านต่อไป

เขาจะอยู่ที่จินหลิงอีกสักพักเลย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับที่ตั้งร้านค้าเหล่านี้มากเกินไป เขาสามารถไปเยี่ยมชมได้อีกสองสามแห่ง

ตกเย็น ฉินหยุนได้เห็นร้านค้าหลายแห่งที่เหมาะสำหรับการเช่า ซึ่งทั้งหมดมีขนาดประมาณ 40 ตารางเมตร

ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวใกล้เคียงกับจุดอิ่มตัวของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง

"สองร้านแรกถือว่าเลือกได้แล้ว แต่อีกร้านต้องเลือกพื้นที่ขนาดเท่าไร?" ในเวลานี้ฉินหยุนกำลังคิดกับตัวเอง

ในวันที่ 1 กันยายน เขาจะไม่เพียงแต่จะได้รับค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง 2 จุดเท่านั้น แต่ยังมีค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองอีก 1 จุดด้วย

แต่ตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าความสามารถในการรวบรวมโชคลาภของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองนั้นเป็นยังไง

หากคุณยังคงใช้ร้านค้าขนาด 40 ตารางเมตร คาดว่าลูกค้าทั้งหมดคงจะเข้ามากระจุกกันอยู่ในร้านและอาจทำให้เกิดความแออัดได้ ในกรณีนี้ ลูกค้าบางส่วนก็จะออกจากร้านไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้ยอดขายไม่เป็นไปตามที่มันควรจะเป็น

ฉินหยุนเคยทดลองกับร้านขายชานมมาก่อน แม้ว่าร้านชานมที่มีพื้นที่ 10 ตารางเมตรแห่งนั้นจะมีค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่ 1 เป็นตัวเสริม แต่เนื่องจากร้านค้ามีขนาดเล็กเกินไป ลูกค้าที่มาซื้อชานมจึงต้องต่อแถวเพราะมีคนเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็มีลูกค้าบางส่วนที่ต้องการรอและก็มีบางส่วนที่จากไปทันที ส่งผลให้เวลาสามชั่วโมงกลับได้ยอดขายไม่มากเท่าที่มันควรจะเป็น เห็นได้ชัดว่าพื้นที่แค่นั่นไม่สามารถใช้บทบาทของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งได้อย่างเต็มที่

"ระบบ ความสามารถของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองมากกว่าค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งกี่เท่า?" ฉินหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยายามถามจากระบบ

หลังจากที่เขากล่าวจบ เสียงระบบก็ดังขึ้น "ค่ายกลรวบรวมโชคลาภมีหลายระดับ สำหรับหน้าที่หรือผลลัพธ์ของมัน โฮสต์สามารถสำรวจมันได้ด้วยตัวเอง"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็เม้มริมฝีปากของเขา ระบบก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม มันไม่เต็มใจที่จะเผยข้อมูลให้เขาเลยสักนิด

เขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสามารถของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง และเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้ร้านที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เท่าไร

ในสถานที่เช่นจินหลิงซึ่งที่ดินทุกตารางนิ้วมีราคาแพงหูฉี่ ค่าเช่าก็แพงอย่างน่าตกใจ ถ้าหากเขาเช่าร้านขนาดเล็กเกินไปแล้วได้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่มันควรจะเป็น เขาก็ต้องเปลี่ยน และถ้าหากเช่าร้านใหญ่เกินกว่าที่ค่ายกลแสดงผลลัพธ์ออกมา ก็ถือว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุอีก

หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว ฉินหยุนก็นึกถึงโชคของตัวเอง

"ระบบรวบรวมโชคลาภไม่ได้มีดีแค่การรวบรวมโชคลาภเท่านั้น แต่โชคของฉันก็ยังดีมากด้วย แม้ว่าฉันจะสุ่มเดา มันก็น่าจะถูกต้อง"

ฉินหยุนคิดกับตัวเอง "ในเมื่อฉันไม่มั่นใจ งั้นตอนนี้ฉันจะลองมองหาร้านค้าขนาดใหญ่กว่าปกติสักสามหรือสี่เท่า เอาเป็นพื้นที่ขนาดประมาณ 150 ตารางเมตร!"

ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองต้องการยอดคงเหลือหนึ่งล้านหยวนในการเปิดใช้งาน และผลลัพธ์ของมันไม่ควรจะด้อยกว่าหรือเท่ากับค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งรวมกัน 2 จุดแน่นอน อย่างน้อยก็น่าจะสัก 3 จุด ดังนั้นฉินหยุนจึงเพิ่มตัวเลขพื้นที่ขึ้นอีกนิดหน่อย

หลังจากตัดสินใจแล้ว ฉินหยุนก็เริ่มค้นหาต่อไป แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาพื้นที่ขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ พอตกตอนเย็น ฉินหยุนพบร้านเพียงแห่งเดียวที่มีขนาด 140 ตารางเมตร และเจ้าของที่ก็เสนอค่าเช่าปีละ 300,000 หยวน หรือก็คือ 25,000 หยวนต่อเดือน

ทำเลที่ตั้งของร้านนี้ดี พื้นที่ก็กว้าง และเนื่องจากค่าเช่าค่อนข้างสูง ดังนั้นในตอนแรกเขาต้องจ่ายค่าเช่าของสามเดือนแรกก่อน และหลังจากนั้นหนึ่งเดือนเขาถึงจะเริ่มจ่ายเป็นรายเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนที่สี่เป็นต้นไป แน่นอน เขาสามารถจ่ายทั้งหมดทีเดียวก็ได้

อย่างไรก็ตาม ฉินหยุนรู้สึกว่ามันยังแพงเกินไป ดังนั้นเขาจึงยังไม่ได้ตัดสินใจ

ในตอนเย็นเขาหาโรงแรมเจออย่างรวดเร็วและเข้าพักอยู่กับฉินเสี่ยวเทาชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งคืน จากนั้นในวันรุ่งขึ้นเขาก็เริ่มค้นหาต่อ และหลังจากเปรียบเทียบกันแล้ว ในที่สุดเขาก็ได้ตกลงเช่าร้านค้าขนาด 40 ตารางเมตรก่อนสองร้าน

หลังจากค้นหามานานถึงครึ่งวัน ฉินหยุนก็ยังไม่พอใจ

"เสี่ยวหยุน นายกำลังมองหาร้านค้าที่มีพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตรเพื่อเปิดร้านขายเสื้อผ้างั้นเหรอ?" ขณะเดินอยู่บนถนนฉินเสี่ยวเทาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา

เขาติดตามอยู่ข้างกายฉินหยุนอยู่ตลอด มองดูฉินหยุนเจรจาเรื่องธุรกิจกับร้านค้าต่างๆ

ก่อนหน้านี้ฉินหยุนเปิดร้านด้วยพื้นที่ 40 ตารางเมตร แต่ตอนนี้เขาน่าจะต้องการพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตร

"ใช่ ถึงยังไงเราก็ไม่สามารถมองหาแต่สิ่งเล็กๆได้ตลอดไปหรอก" ฉินหยุนพยักหน้าพลางอธิบาย

ขณะที่กำลังเดินอยู่ที่ถนนย่านการค้า โทรศัพท์มือถือของฉินหยุนก็ดังขึ้นและเขาก็กดรับสายมัน

"โอเค ผมเข้าใจแล้ว คุณสามารถส่งข้อมูลมาที่วีแชทของผมได้เลย"

หลังจากพูดอีกสองสามคำ เขาก็วางสาย ฉินหยุนรออยู่สักครู่ จากนั้นก็กดเข้าไปดูข้อความที่ถูกส่งมาบนวีแชท และพาฉินเสี่ยวเทาเดินทางไปอีกที่ทันที่

เป็นเรื่องง่ายที่จะหาร้านค้าที่มีขนาด 40 ตารางเมตร ดังนั้นเขาจึงไม่ไปหาบริษัทตัวกลาง แต่มันเป็นเรื่องยากมากในการค้นหาร้านค้าที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ให้พบ แถมค่าเช่าก็ยังแพงมาก

หลังจากค้นหาไปเมื่อวานนี้ ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะโทรหาบริษัทตัวกลางเพื่อขอให้พวกเขาช่วยหามัน และตอนนี้บริษัทตัวกลางก็พบแล้วหลายที่

...

เจ้าอ้วนหวังอายุแค่ 30 ปี แต่เนื่องจากรูปร่างที่อ้วนท้วนของเขา จึงไม่ค่อยมีใครเรียกเขาด้วยชื่อจริง ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเรียกเขาว่า ‘เจ้าอ้วนหวัง’ จนติดปาก

เขายังมีใจอยากเป็นนักธุรกิจและสภาพครอบครัวของเขาก็ไม่เลว เขาเปิดร้านเสื้อผ้าแบรนด์ใหญ่หลายแห่งที่บ้านเกิดของเขา ซึ่งใช้โมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ โดยอาศัยความสัมพันธ์ของพ่อแม่ เขาทำมาหลายปีแล้ว และพอทำเงินได้บ้าง ครั้งนี้เขามาที่จินหลิงเพื่อทดสอบกระแส และเตรียมเปิดตลาดที่เมืองใหญ่แห่งนี้

เขากำลังทุ่มเทพลังงานทั้งหมดเพื่อจัดการเรื่องนี้ แต่หลังจากเปิดร้านได้เพียงครึ่งเดือน จู่ๆภรรยาของเขาก็โทรมาบอกว่าเธอตั้งท้อง และเธอก็ท้องได้เดือนกว่าแล้ว

พระเจ้าช่วย! เขาและภรรยาแต่งงานกันมา 5 ปีแล้ว ระหว่างนั้นพวกเขาทั้งออกกำลังกาย ทั้งพักฟื้นร่างกาย กินสมุนไพรจีนต่างๆ พยายามเพื่อที่จะตั้งครรภ์ให้ได้ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาทำไม่สำเร็จ

เขาไม่รู้ว่าตัวเองตื่นเต้นมากแค่ไหนเมื่อรู้ว่าภรรยาตั้งท้อง และหัวใจของเขาก็ได้โบยบินกลับบ้านไปโดยสมบูรณ์แล้ว

อย่างไรก็ตาม ร้านขายเสื้อผ้าที่นี่ก็ต้องจัดการ และเขาก็จ่ายค่าเช่าไปแล้ว 1 ปี ก่อนหน้านี้เขาไปหาเจ้าของที่เพื่อขอค่าเช่าคืน ซึ่งเขาก็เตรียมใจที่จะขาดทุนแล้ว ขอแค่ได้กลับมาสักครึ่ง แต่เจ้าของที่ไม่ได้มีความคิดที่จะคืนให้เขาเลย และบอกให้เขาหาคนมารับช่วงต่อเอง

เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาก็กำลังโต้เถียงกับเจ้าของที่ และก็ไม่รู้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะเรื่องจะจบ ดังนั้นเจ้าอ้วนหวังจึงปล่อยเซ้งร้าน

น่าเสียดายที่เวลาผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว แต่กลับมีคนเข้ามาสอบถามเพียงหนึ่งคน หลังจากพูดคุยกันสักพักคนๆนั้นก็จากไปทันที โดยที่เขาไม่เต็มใจจะเช่าที่นี่เลย

ท้ายที่สุดแล้วร้านค้าแห่งนี้ก็ใหญ่มาก มันมีพื้นที่ถึง 200 ตารางเมตร ก่อนหน้านี้เขาก็ต้องจ่ายค่าเช่า 400,000 หยวนต่อปีเพื่อให้ได้ที่แห่งนี้มา ซึ่งราคาค่าเช่าก็เพียงพอที่จะทำให้คนส่วนใหญ่ตกใจได้เลยทีเดียว

(จบตอน)

5 2 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด