บทที่119 ฟรี
นกส่งข่าวบินไปในแต่ละที่ในท้องทะเลพร้อมกับแจกใบค่าหัวใหม่ของรอน
ในทะเลอีสต์บลู ชายหนุ่มสวมหมวกฟางมองดูใบค่าหัวในมือและทำสีหน้าจริงจัง “ค่าหัวหนึ่งพันล้านเบรีแล้วยังไง ฉันจะไปช่วยมากิโนะมาให้ได้ รอก่อนนะมากิโนะ!”
ข้าง ๆเขา ชายหน้าตาเข้มจริงจังที่พกดาบสามเล่มพูดขึ้นมา “ลูฟี่ มีเกาะเล็ก ๆอยู่ข้างหน้า เราจะเข้าไปไหม?”
“เอ้อ เข้าสิ บนเรือเราอาหารมีไม่มากนี่นา เราต้องไปหาอาหารกินกัน หาอาการกินกันเถอะ!!” ลู่ฟี่ตะโกนเสียงดัง “ว่าแต่มันคือเกาะอะไรน่ะ?”
“ไม่รู้สิ แต่น่าจะเป็นเกาะที่ชื่อไซรัปล่ะมั้ง?” โรโรโนอา โซโรตอบกัปตันเรือของเขาไป
ในแกรนด์ไลน์ อลาบัสตา ราชาคอบร้ามองไปที่ใบค่าหัวในมือของเขาและมุมปากของเขาก็กระตุกอย่างหยุดไม่อยู่ “วีวีตามเขาไป ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ดีหรือเปล่า ไอ้หนุ่มอย่าทำให้วีวีบาดเจ็บเสียล่ะ!”
ภายในหุบเขาแฝด ชายชราบนเก้าอี้หน้าประภาคารมองดูหนังสือพิมพ์ในมือและเงียบไปนานก่อนที่จะพูดกับตัวเองว่า “เจ้าหนุ่มนี่ พวกกระดูกผุ ๆ อย่าประมาทเชียว เด็กนี่เหมือนโรเจอร์คนต่อไปไม่มีผิด”
บนกาะเล็ก ๆแห่งหนึ่ง หนวดดำจ้องมองหนังสือพิมพ์ในมือ ใบหน้าของเขาแสดงความโกรธอย่างชัดเจน “ไอ้เด็กนี่ สักวันฉันต้องฆ่ามันให้ได้... แต่ตอนนี้ฉันต้องเล็งเอสเป็นเป้าหมายไปก่อน!”
เจ็ดเทพโจรสลัดคนอื่นรวมไปถึงสี่จักรพรรดิเองก็ได้รับค่าหัวใหม่ของรอน แต่ละคนต่างก็มองมันด้วยสายตาที่แตกต่างกัน บางคนอิจฉา บางคนไม่ใส่ใจ
“ไอ้หน้าใหม่นี่ฆ่าพลเรือโทของศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรือ?”
“ใช่ แต่แค่นั้นฉันก็ทำได้!”
“ฉันคิดว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างโหดเหี้ยมเลยนะ กล้าฆ่าพลเรือโทได้ ดูเหมือนว่าเขาจะตกเป็นเป้าหมายของกองทัพเรือแล้วล่ะ”
ที่กองบัญชาการใหญ่กองทัพเรือ เรือรบจำนวนสามสิบลำออกเดินทางแล้วมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของรอน นำโดยลิงเหลืองคิซารุและไก่ฟ้าอาโอคิยิ
“โอ้ว... หายากนะที่พวกเราจะได้ร่วมมือกันน่ะ!” คิซารุสอดมือไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วพูดอย่างสบาย ๆ
“เฮ้อ... ฉันอยากจะพักผ่อนอีกสักหน่อยแท้ ๆ แต่ก็นะ มันคืองานนี่ จริงไหม?” อาโอคิยิพูดอย่างหมดหนทาง
“นายคิดว่าอีกฝ่ายรับรับมือได้ง่ายไหม?” คิซารุถามเล่น ๆ
“ถามอะไรแปลก ๆนะ” อาโอคิยิเปิดผ้าปิดตาขึ้นมาเหลือบมองอีกฝ่าย “ถ้ามันรับมือง่ายจะส่งพวกเรามาพร้อมกับเหรอ?”
“ก็จริง จอมพลเซ็นโกคุส่งเราไปพร้อมกันแบบนี้ ต่อให้อีกฝ่ายเก่งแค่ไหนก็คงหนีพวกเราไม่พ้นหรอกจริงไหมล่ะ?” คิซารุพูดด้วยความย่ามใจ ค่าหัวแค่หนึ่งพันล้าน เขาจับมาแล้วนักต่อนัก
“ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
*******************************************
นามิหยิบหนังสือพิมพ์มาจากนกส่งข่าว พออ่านแล้วก็ตกใจจนต้องวิ่งไปที่ด้านข้างของรอนทันที รอนตอนนี้ยังคงเพลิดเพลินไปกับการนวดของคายะจนไม่รู้สึกตัว “นายยังมีอารมณ์สบาย ๆแบบนั้นอยู่ดีนะ ดูสิว่ามันคืออะไร ค่าหัวของนายเป็นหนึ่งพันล้านเบรีแล้วนะ... ฉันล่ะอยากมัดตัวนายส่งไปให้กองทัพเรือจริง ๆ”
“ตื่นเต้นอะไรกัน” รอนรับหนังสือพิมพ์ในมือที่มีใบประกาศค่าหัวเขาเขี่ยนอยู่จากนั้นก็โยนมันลงบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ “หนึ่งพันล้านก็โอเค มันคู่ควรกับความแข็งแกร่งของฉันแล้ว”
“นายนี่มัน...” นามิปาดเหงื่อบนหน้าผากด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย “นายไม่รู้หรือไงว่าค่าหัวขนาดนี้จะดึดดูดคนมามากขนาดไหน”
“แล้วไง มันไม่ช่ปัญหาสักหน่อย”
“เหอะ ๆ ให้มันจริงเถอะ!”
“ฉันพูดจริง ๆ แค่หนึ่งพันล้าน มันไม่มีอะไรเทียบกับคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกได้เลย รู้ไหมว่าหนวดขาวมีค่าหัวเท่าไหร่”
“นายรู้เหรอ?” นามิถาม คายะเองก็กำลังฟังอยู่เหมือนกัน
“เขามีค่าหัวห้าพันสี่สิบหกล้านเบรี ฉันยังห่างไกลจากระดับนั้น ฉันจะต้องพยายามต่อไปอีกเยอะ”
“ห้า... ห้าพันกว่าล้าน!” คายะตกใจ
“ก็อย่างที่พูดไป ฉันจะนอนต่ออีกสักนิดนะ เราใกล้นะถึงเกาะแล้วใช่ไหม?” รอนเอนตัวลงนอนแล้วถามนามิ
“ใกล้จะถึงแล้ว บ่ายนี้ก็น่าจะถึง”
“อืม ถึงแล้วช่วยเรียกฉันด้วยนะ” ว่าแล้วรอนก็หลับตาลงไปนอนทันที
เห็นภาพนี้ เหล่าสาว ๆก็ได้แต่ถอนหายใจ พวกเธออดนับถือกัปตันของพวกเธอไม่ได้ รัฐบาลโลกให้ค่าหัวมาขนาดนี้แต่เขาก็ยังนอนอย่างสบายใจได้ เขาทำได้ยังไง?
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและในที่สุดก็ถึงช่วงบ่าย เรือแมรี่ได้แล่นมาถึงเกาะแห่งหนึ่งซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางของรอน นั่นคือเกาะจายา
“เฮ้ ถึงเกาะแล้ว!” นามิยิ้มร่าและตะโกนอย่างยินดี
“ในที่สุดก็ถึงที่หมายแล้วเหรอคะ” วีวีเดินมายืนข้างนามิแล้วมองดูเกาะขนาดใหญ่ด้วยควาตื่นเต้น มันอาจไม่เท่าอาณาจักรอลาบัสตาแต่ในครึ่งแรกของแกรนด์ไลน์แล้วมันก็ถือว่าเป็นเกาะที่ใหญ่มากเกาะหนึ่ง
“เรามาถึงแล้วเหรอ?” รอนลุกขึ้นอย่างมึนงง ขยี้ตาเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นสูดหายใจเข้าปอดลึก “งั้นเราก็ลงเรือกันเถอะ ไปกิน ดื่ม พักผ่อน ทำอะไรก็ได้ ถ้าอยากซื้ออะไรก็ไปเบิกเงินกับนามิแล้วกัน”
“ไม่มีเงินแล้ว!” นามิหน้าดำมืด เธอตะคอกใส่รอนทันทีที่ได้ยิน
“นามิ อย่างงกนักเลย เงินน่ะใช้ล้วก็หาใหม่ได้” รอนยิ้มให้เธอ
“นายหาเงินเหรอ?” นามิมองรอนเขม็ง “ทำไมฉันจำไม่ได้เลยว่านายเคยหาเงินได้?”
“โอ้ งั้นถ้าเราเจอกลุ่มโจรสลัดใหญ่ ๆเราจะไม่ปล้นเขากันงั้นเหรอ?”
นามิถอนหายใจ “นั่นเขาเรียกปล้น ไม่ใช่เรียกว่าหาเงินนะ”
“คุณนามิ อย่าโกรธเลยค่ะ” วีวีหัวเราะแล้วจับมือกับนามิ วีวีพูดด้วยเสียงหวานเหมือนน้ำที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจ “จริง ๆแล้วคุณรอนก็พูดถูกนะคะ ด้วยความแข็งแกร่งของคุณรอนแล้ว การจะจัดการโจรสลัดชั่วสักกลุ่มไม่ใช่ปัญหาเลย แค่พวกเขามีของดีเราก็ยังเอาไปขายได้นี่นา”
“ก็จริงแหละ เธอพูดมีเหตุผลนะวีวี” นามิเดินเข้าไปในห้องโดยสารและลากหีบเงินออกมาด้วยสีหน้าเจ็บปวดใจ มันเหมือนเธอเฉือนเลือดเนื้อตัวเองแล้วแบ่งให้กับทุกคน
สาว ๆแต่ละคนมองดูเงินอย่างมีความสุขและเตรียมตัวไปซื้อของที่เกาะ นามิได้แต่มองเงินในหีบสมบัติหายไปด้วยสายตาว่างเปล่า