ตอนที่ 15 ทุกอย่างเป็นฝีมือของโอโรจิมารุ
หมู่บ้านโคโนฮะเกิดคลื่นใต้น้ำ
หลายตระกูลและนินจาระดับสูงของหมู่บ้านต่างพากันกลืนน้ำลายตอนที่มองไปยังตระกูลอุจิวะ
เป็นไปไม่ได้
นัตสึฮิโกะโปรยเงินจนคลุ้มคลั่งไปแล้ว ไม่เพียงชักชวนนินจาสาวน้ำดีของโคโนฮะเท่านั้น แต่ยังชักชวนสายตาของพวกสอดรู้สอดเห็นที่อยากยื่นมือเข้ามาอีกด้วย
อันที่จริง มีตระกูลที่ร่ำรวยมากมายเหมือนตระกูลอุจิวะ แต่ในฐานะนินจา พวกเขาจะทุ่มเงินมหาศาลได้ยังไง?
ทำอย่างนั้นก็จะดึงดูดความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วนทันที
ประกอบกับสถานการณ์ของตระกูลอุจิวะในตอนนี้ มันก็เหมือนกับเด็กที่ถือก้อนทองเดินอยู่ในเมืองที่วุ่นวายนั่นแหละ...
ดันโซถูกล่อลวง!
มีเงินแต่ไร้พลัง
ตัวอย่างเช่น ตระกูลอุจิวะมีเงินมากมาย แต่ไม่สามารถซื้อชีวิตของผู้คนในตระกูลได้ ส่วนโคโนฮะก็มีเงินมากมาย แต่กลับไม่สามารถหยุดการโจมตีของนางาโตะได้
แต่บางครั้งเงินก็คือพลังเช่นกัน!
ด้วยความมั่งคั่งของตระกูลอุจิวะ ดันโซสามารถยกระดับหน่วยรากของเขาได้ถึงสองเท่า!
เมื่อพลังแข็งแกร่งขึ้น สิทธิเสียงก็ย่อมสูงขึ้น...
ไม่ต้องพูดถึงดันโซ แม้แต่ซารุโทบิ ฮิรุเซ็นก็ยังถูกล่อลวง - ตอนที่ตระกูลอุจิวะถูกฆ่าล้าง หากไม่กังวลเรื่องปฏิกิริยาของตระกูลใหญ่ในหมู่บ้าน เขาคงเริ่มลงมือไปนานแล้ว
หรือหากนัตสึฮิโกะไม่กลับมาล่ะก็ เสร็จโจร!
ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว ความหวาดกลัวของตระกูลใหญ่ค่อย ๆ ลดลง
ถึงเวลาพร้อมลุย!
จากนั้นซารุโทบิ ฮิรุเซ็นก็อดไม่ได้ที่จะสั่งให้ตระกูลซารุโทบิเริ่มเข้าบท
ทันใดนั้น!
ข่าวหนึ่งมาถึงโคโนฮะ!
ในเมืองหลวงของแคว้นแห่งไฟ ขุนนางที่สืบทอดมาหลายร้อยปีสามคนถูกกำจัดในชั่วข้ามคืน
ตระกูลพ่อค้าทั้งเจ็ดที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น
พวกนินจาที่ถูกส่งมาจากตระกูลใหญ่เพื่อมุ่งเป้าไปยังธุรกิจทั้งหมดของตระกูลอุจิวะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ในนั้นหลายคนเป็นนินจาระดับโจนิน...
ชั่วขณะหนึ่ง เจ้าของสายตาละโมบทั้งหลายก็ต่างพากันตกใจ รีบหดมือที่ยื่นออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นมองไปยังตระกูลอุจิวะด้วยแววตาหวาดกลัว
"ตระกูลใหญ่ที่สืบทอดมาจากยุคสงครามแห่งแคว้น ถึงเสื่อมถอยลง ก็ยังมีพลังที่จะทำแบบนี้ได้..."
ตระกูลอุจิวะ...น่าสะพรึงกลัว!
แต่ซารุโทบิ ฮิรุเซ็นและดันโซรู้อยู่แก่ใจ
“เกรงว่าอิทาจิจะลงมือ” ซารุโทบิคิดกับตัวเองว่า "เขายังไม่ปล่อยวางจากตระกูลอุจิวะ"
ดวงตาของดันโซเต็มไปด้วยความหวาดกลัว: "อิทาจิ...นี่เหรอคือพลังของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา?"
ตระกูลใหญ่และพ่อค้ารายใหญ่ล้วนมีผู้คุ้มกันที่ทรงพลัง!
…
การลงมือของอุจิวะ อิทาจิสร้างความตกใจและความหวาดกลัวแผ่ซ่านไปทั่ว
นินจาหลายคนรวมถึงดันโซทยอยกันถอนมือ
เงินที่หลายคนอยากได้
แต่พวกเขาอยากได้ชีวิตมากกว่า!
ทำให้นินจาระดับสูงและตระกูลใหญ่ต่างพากันวางมือจากเรื่องนี้
อิทาจิไม่ได้เอาจริงนัก ฆ่าล้างบางไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ที่ยากกว่าน่าจะเป็นการกลับไปที่แสงอุษา
“อิทาจิ นายทำได้ดีมาก”
นางาโตะอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองด้วยสายตาแปลก ๆ
"จริงสิ" นางาโตะพูดด้วยสีหน้านิ่ง "คราวนี้นายฆ่าคนไปเยอะมาก พวกนินจาเก่ง ๆ จะต้องจับได้ไม่ยากแน่ว่าเราเป็นคนลงมือ เพราะนายเล่นใหญ่เกินไป มันจะไปกระตุ้นความหวาดกลัวของคนอื่น"
"ไม่ใช่ฝีมือฉัน" สีหน้าของอิทาจินิ่งเฉยแล้วต่อสู้กับหุ่นเชิดมรณะยาฮิโกะ: "เป็นฝีมือของโอโรจิมารุ"
“โอโรจิมารุ?” ทุกคนตกตะลึง
"ใช่" อิทาจิพยักหน้า: "หลังจากที่เขาลอบทำร้ายฉันล้มเหลว ฉันก็ไล่ตามเขาไป และพอฉันไปถึง โอโรจิมารุก็ฆ่าคนพวกนั้นหมดแล้ว"
“บางทีเขาอยากใช้วิธีนี้เพื่อซื้อความอดทนของแสงอุษา?”
"ทำไมถึงฆ่าคนจำนวนมาก... อาจเป็นเพราะอยากทำให้ฉันร้อนใจเพื่อเอาชนะฉัน เพราะฉันรู้จักธุรกิจของตระกูลอุจิวะ จึงยอมฆ่าคนเป็นพันโดยไม่เหลือแม้แต่คนเดียว"
“อีกอย่าง เป็นไปได้ว่าเขาใช้วิธีนี้ก็เพื่อเปิดเผยการมีอยู่ของแสงอุษา โดยดึงให้ทุกคนหันไปโจมตีเขา เพื่อกันไม่ให้เราตามไล่ฆ่าเขา”
“ส่วนเหตุผลพิเศษคืออะไรนั้น ฉันไม่รู้”
นั่นเป็นเรื่องของโอโรจิมารุแล้ว!
ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน อุจิวะ อิทาจิ
หากมีคำถาม ขอแนะนำให้ถามเขาเองเถอะ
ทุกคนคิดว่าอิทาจิหลอก แต่ก็ไม่มีหลักฐาน
อุจิวะ อิทาจิไม่มีพิรุธ แม้นว่าเหตุการณ์นี้จะเพิ่มความสุ่มเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผย แต่อันที่จริง เขาและโอบิโตะได้ตกลงกันแล้วว่า "ฉันจะเป็นสมาชิกของแสงอุษาเพื่อแลกกับการที่แกไม่โจมตีโคโนฮะ" อีกฝ่ายรู้ว่าเขาจริงจังมาก และยังรู้ว่าเขาอาจจะเป็นสายลับจากฝั่งโคโนฮะ
อันที่จริง ด้วยไอคิวของอิทาจิ เขาฉลาดและเต็มไปด้วยเลห์เลี่ยม แต่จนกระทั่งเขาตาย เขากลับไม่ได้ขุดคุ้ยความลับสำคัญอันใด
จะเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นสายลับที่ไร้สาระมาก
ไม่มีอะไรต้องสงสัยเลย
"งั้นก็สมมติเสียว่าโอโรจิมารุเป็นคนทำ" สุดท้ายนางาโตะก็จบหัวข้อแล้วพูดต่อ: "แต่ คราวนี้ผู้ว่าจ้างงานพอใจกับภารกิจนี้มาก"
"และเพิ่มภารกิจให้เราอีกหนึ่ง จ้างนินจาจากแสงอุษาปกป้องสมาชิกของตระกูลอุจิวะ..."
"นี่คือภารกิจคุ้มกันระยะยาว ซึ่งคำนวณตามภารกิจระดับ S สามภารกิจต่อเดือน"
อีกภารกิจเหรอ?
สีหน้าของทุกคนดูแปลกไปในทันที
แม้แต่สีหน้าของอุจิวะ อิทาจิก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ในทางกลับกัน นางาโตะยังคงไม่แสดงสีหน้าแล้วพูดต่อว่า "ใครอยากไป?"
"ฉัน!"
น้ำเสียงที่แผ่วเบาแต่หนักแน่นดังขึ้น
ทุกคนหันวับไปตามเสียง
"เจ้าคาคุซึ"
"ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะไม่ละทิ้งภารกิจที่คุ้มค่านี้"
“ว่าแต่ คาคุซึ นายกลายเป็นแบบนี้ได้ไง”
สีหน้าของทุกคนค่อย ๆ แปลกไป
คนอื่นยืน มีแต่คาคุซึเท่านั้นที่นอนซมเป็นแอ่งโคลนอยู่บนพื้น
นอนซมทำไม?
บาดแผลจากรองหัวหน้ายังไม่หายดีเหรอ?
"อ๋อ เป็นอย่างนี้" ฮิดัน เพื่อนร่วมทีมที่ห่วงใยของคาคุซึหัวเราะแล้วพูดว่า "อันที่จริง ช่องทางของตระกูลอุจิวะที่ติดต่อกับแสงอุษาในครั้งนี้ผ่านคาคุซึ"
"ตระกูลอุจิวะต้องการเพิ่มภารกิจ 'จับนินจาสาวระดับคาเงะ' และต้องเป็นระดับคาเงะที่อวบอิ๋มเจริญพันธุ์ด้วยราคาหนึ่งพันล้านเรียว"
"เพราะอย่างนั้น คาคุซึจึงอดไม่ได้ที่จะมองโคนันอีกรอบ... ทำให้ตอนนี้เขาลุกจากเตียงไม่ได้เลย"
ทุกคน: "..."
"นายได้รับบาดเจ็บแบบนี้ไม่ต้องเข้าร่วมการชุมนุมก็ได้" นางาโตะรู้สึกเพลียสมอง: "เราไม่อยากกดขี่พนักงาน"
“งั้นหัวหน้า หากไม่เข้าร่วมการชุมนุม ฉันยังรับภารกิจนี้ได้อยู่ไหม?”
ดวงตาของคาคุซึลุกเป็นไฟ เสียงของเขาดังฟังชัดขึ้น: "หัวหน้า ฉันอยากรับภารกิจนี้ ครั้งที่แล้วฉันไม่ได้รับภารกิจ ครั้งนี้อย่าพยายามแย่งฉัน!"
“ใครหน้าไหนกล้าแย่ง ฉันจะฆ่ามันซะ!”
จากนั้นคาคุซึก็รู้สึกเจ็บแล้วทรุดตัวลงกับพื้น
แต่เขายังชูมือที่สั่นเทาขึ้นด้วยความแน่วแน่ เหมือนกับเด็กประถมที่ยกมือตอบคำถามด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง
ทุกคน: "..."
…
แฟนเพจ: Fanfiction Translate