ตอนที่ 1011 ให้ตายเถอะ นี่.. หัว อี้อู่?

นอกประตูของ สถานีโทรทัศน์เจียงหนาน หลินฟาน ได้นั่งอยู่บนรถ Rolls-Royce คนเดียว เขาเพิ่งมาส่ง หนิง เสี่ยวเยว่ มาที่สถานีโทรทัศน์.. อย่างรวดเร็ว และยิ่งขับรถในตอนกลางคืนเช่นนี้ด้วยความเร็ว มันก็ดูค่อนข้างน่าตื่นเต้นไม่ใช่น้อยๆ

แต่.. แน่นอนว่าสิ่งที่น่าตื่นเต้นกว่านั้น มันยังมาไม่ถึง

หลินฟาน ได้หลับตาลง เขากำลังพักสมอง และกำลังรอคอยเวลา..

ในเวลานี้ ห้องถ่ายทอดสดของ สถานีโทรทัศน์เจียงหนาน และเนื่องจากการปรากฏตัวของ หนิง เสี่ยวเยว่ รูปแบบการแสดงความคิดเห็นจึงได้เปลี่ยนไป ชาวเน็ตที่ได้ใช้คำพูดไปในทางรุนแรงบนโลกออนไลน์ ต่างก็ได้ถูกตบหน้า และหยุดความคิดเห็นกันไปทีละคนๆ มาตอนนี้ความคิดเห็นก็ได้ถูกปัดขึ้นโดยเหล่าแฟนคลับของ หนิง เสี่ยวเยว่..

ก่อนหน้านี้เนื่องจาก หนิง เสี่ยวเยว่ ไม่ปรากฏตัว แฟนคลับของเธอจึงได้พากันเป็นกังวลมาก แต่ก็ไม่มีทางใดที่จะช่วยได้ เพราะเหล่าแฟนคลับเองก็ไม่รู้ว่า หนิง เสี่ยวเยว่ ได้ไปอยู่ที่ไหน หรือได้เกิดอะไรขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่วิ่งไปดุด่าเจ้านายของเธออย่าง หวาง เซียงเฉียน แต่ หวาง เซียงเฉียน ก็ไม่มีการตอบสนอง และไม่ได้ตอบกลับอะไรมาเลย…

แฟนคลับได้แต่มองดูข่าวลือบนโลกออนไลน์ แต่พวกเขาก็ไม่มีอะไรไปหักล้างได้..

มาตอนนี้เมื่อ หนิง เสี่ยวเยว่ ได้ปรากฏตัวแล้ว ข่าวลือทั้งหมดก็ได้พังทลายลงไป!

“พี่เสี่ยวเยว่ อยู่ที่นี่แล้ว พวกเกรียนก็หุบปากไปซะ!”

“แล้วก็ไอพวกเกรียน รีบออกมาขอโทษซะ!”

“น้องเสี่ยวเยว่ มาถึงก็ดีแล้ว”

พิธีกรเหอฮว่า ได้ฉวยโอกาสนี้ในทันที : “เนื่องจาก เสี่ยวเยว่ ได้มาถึงแล้ว ถ้างั้นการถ่ายทอดสดของเราในวันนี้ ก็เข้าสู่หัวข้อหลักอย่างเป็นทางการแล้ว ต่อไปฉันจะถามคําถามกับน้องสาว….”

ต้องบอกว่าพิธีกรค่อนข้างที่จะเข้าควบคุมจังหวะได้อย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากการปรากฏตัวของ หนิง เสี่ยวเยว่ ทำให้ผู้คนที่กำลังทำการโจมตี ได้ตั้งตัวไม่ทัน เมื่อนั้นข่าวลือบน เวยป๋อ ก็ได้หยุดลงไปชั่วขณะหนึ่ง แต่นักเลงคีย์บอร์ดเหล่านี้ที่เต็มไปด้วยเจตนาร้ายต่อ หนิง เสี่ยวเยว่ ก็ไม่คิดที่จะปล่อย หนิง เสี่ยวเยว่ ไป พวกเขากําลังรอการพัฒนาต่อไปของสถานการณ์…

นั่นเพราะ.. มันยังคงเป็นปริศนาอยู่ที่ว่า ทำไม หนิง เสี่ยวเยว่ ถึงได้มาสาย

หาก เว่ย เจี้ยนเซิง ยืนยัน และได้ปล่อยคลื่นกระแสสีดำของ หนิง เสี่ยวเยว่ เมื่อนั้นพวกเขาก็ยังสามารถละเลงบทความในเรื่องนี้ได้

เพียงแต่ว่า หลินฟาน ไม่คิดที่จะให้โอกาส เว่ย เจี้ยนเซิง อีกครั้ง..

ในเวลานี้ บน เวยป๋อ ก็ได้มีการค้นหาที่ร้อนแรงเกิดขึ้น : หัว อี้อู่ ได้ร้องเพลงที่ราบสูงทิเบต

เมื่อคลิกกดเข้าไปข้างใน มันก็จะมีคลิปวิดีโอของ หัว อี้อู่ ที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวที เพลงที่ร้องก็คือ เพลง ที่ราบสูงทิเบต หัว อี้อู่ ร้องเพลงได้แย่เกินไปมาก โทนเสียงผิดเพี้ยน จนแทบทนฟังไม่ได้

เพราะโดยปกติแล้วเวลา หัว อี้อู่ ร้องเพลง เขาก็จะใช้ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วย แถมยังแสร้งแกล้งทำเป็นบังคับเป็นพิเศษ เหล่าแฟนคลับเองก็ได้ช่วยกันเข้าควบคุมคอมเมนต์ ทั้งยังแสดงความคิดเห็นไปในทางคุยโวโอ้อวด ไม่หมดแค่นั้นเหล่าแฟนคลับยังช่วยกันเป่าทำราวกับว่า หัว อี้อู่ เป็นเทพเจ้านักร้องแห่งเพลงยุคใหม่ และไม่ว่ายังไง หัว อี้อู่ ก็เป็นคนที่เก่งอยู่แล้ว

หากมีเสียงความสงสัยเกิดขึ้น เหล่าแฟนคลับก็จะพากันทักเข้าไปทั้งครอบครัว และพร้อมกับส่งคำสบประมาทไปในข้อความส่วนตัว ทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะพูด…

มาที่นี้ ในวิดีโอนี้ หัว อี้อู่ ก็ร้องเพลงได้แย่มาก และข้อบกพร่องทั้งหมดก็ได้ถูกเปิดเผย แฟนคลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ต้องล้างพื้นยังไงเลยด้วยซ้ำ ทั้งมันยังตรงกันข้ามกับการคุยโวโอ้อวดในยามสงบอย่างสิ้นเชิง และมันก็ได้ดึงดูดเหล่าผู้ชมให้แห่กันเข้ามาในทันที

กระแสการค้นหาที่ร้อนแรงได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และขึ้นไปสู่อันดับต้นๆ ของรายการที่มีการค้นหามากที่สุดใน เวยป๋อ

ชาวเน็ตได้แห่กันเข้ามา และได้แชร์ออกไปกันกระหึ่ม!

“ให้ตายเถอะ นี่.. หัว อี้อู่?”

“ร้องเพลงได้แย่มาก มันแย่เกินไป!”

“ฉันอยากที่จะหัวเราะจนตายจริงๆ อย่างงี้.. เรียกว่านักร้องได้ด้วย?”

“นี่.. มันน่าอายเกินไปแล้ว!”

คอมเมนต์เย้ยหยันเหล่านี้ บวกกับยอดไลค์ที่กำลังพุ่งพรวด มันก็ได้ติดอันดับหนึ่งไปได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเหล่าแฟนคลับของ หัว อี้อู่ จะพยายามเข้าควบคุมคอมเมนต์ และพยายามล้างพื้นให้กับ พี่ชาย แต่ครั้งนี้จํานวนของพวกเขายังห่างไกลจากคนกินแตง และถูกคอมเมนต์วิจารณ์ว่าร้ายกลบไป อย่างรวดเร็ว..

มาตอนนี้พวกเขาควบคุมมันไม่ได้.. อีกต่อไปแล้ว

แฟนคลับของ หัว อี้อู่ แทบกำลังจะร้องไห้แล้ว

ชั่วขณะหนึ่ง วิดีโอของ หัว อี้อู่ ก็ได้รับความนิยม และได้รับความสนใจจากชาวเน็ต และไม่มีใครมาสนใจเรื่องที่ หนิง เสี่ยวเยว่ ได้มาสายอีกต่อไป

คฤหาสน์ตระกูลเว่ย

เนื่องจาก หนิง เสี่ยวเยว่ ได้มาถึงสถานที่ถ่ายทอดสด จังหวะของ เว่ย เจี้ยนเซิง จึงได้ปั่นป่วนไปทันที เขาเองกำลังจะขอให้ใครสักคนส่งคลื่นกระแสสีดำของ หนิง เสี่ยวเยว่ ออกไป แต่เมื่อ หนิง เสี่ยวเยว่ มาถึง หากให้ส่งคลื่นกระแสสีดำของเขาออกไปอีก มันก็จะกลายเป็นแค่ข่าวลือไปในทันที และไม่ใช่เพียงแต่จะไม่ส่งผลเสียต่อ หนิง เสี่ยวเยว่ แต่มันกลับจะพิสูจน์ได้ว่า มีคนจงใจโจมตี หนิง เสี่ยวเยว่ และในทางกลับกัน มันก็เท่ากับเป็นการล้างพื้นให้กับ หนิง เสี่ยวเยว่!

“นี่มัน.. ไปมีเหตุผลที่ไหนกัน!”

เว่ย เจี้ยนเซิง รู้สึกไม่เต็มใจ เขาต้องการที่จะทำลาย หนิง เสี่ยวเยว่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะล้มเหลวอย่างสมบูรณ์ แหย็ดแหม่ม หมดเงินไปโดยเปล่าประโยชน์อีกแล้ว!

ขณะที่เขากําลังคิดว่าจะทําอย่างไรต่อไป ทันใดนั้น การค้นหาที่ร้อนแรงของ หัว อี้อู่ ก็ได้มาถึง…

“พูดเรื่องบ้าอะไร?”

เมื่อนั้น เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้เปิดคลิปวิดีโอของ หัว อี้อู่ ที่กำลังร้องเพลง และมันก็ได้ทำให้เขาตกตะลึง สิ่งนี้.. มันได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาในฐานะเจ้านายของ หัว อี้อู่ ทำไมเขาถึงได้ ..ไม่รู้

“เจี้ยนเซิง เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เว่ย เทียนเฉิง ได้ถามจากด้านข้าง

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้กล่าวว่า : “เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับศิลปินคนหนึ่งของผมครับ”

เว่ย เทียนเฉิง พูดถามไปว่า : “มันเรื่องอะไร?”

เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวไปว่า : “คือ.. เขาได้ร้องเพลง และถูกโพสต์ลงไปบนอินเทอร์เน็ต และตอนนี้มันก็กำลังกลายเป็นที่นิยม มาตอนนี้ชาวเน็ตต่างก็ได้พากันหัวเราะเยาะเขา…”

เว่ย เทียนเฉิง ได้ร้องโอ้ และพูดว่า : “ไหนลองเอามาเปิดให้ฉันฟัง”

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้กดปุ่มเพิ่มเสียง และเมื่อนั้นก็ได้ยินเสียงของ หัว อี้อู่ ที่ได้ร้องเพลง ที่ราบสูงทิเบต ดังออกมา

เว่ย เทียนเฉิง ได้ขมวดคิ้วทันที เมื่อได้ยิน และเขาได้พูดทันทีว่า : “ปิดไปเลย! ปิดเร็วๆ ร้องเพลงได้แย่มากจริงๆ”

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้หน้าแดง และรีบปิดคลิปวิดีโออย่างรวดเร็ว..

เว่ย เทียนเฉิง ได้กล่าวว่า : “เจี้ยนเซิง นี่ฉันไม่ได้พูดกับแกไปแล้วหรือยังไง? ในตอนแรกแกบอกว่าแกจะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ฉันก็ได้เตือนแกไปแล้วว่าให้หาศิลปินที่มีความสามารถ อย่าคิดแต่จะทำเงิน แล้วดู แกลองดูสิ่งที่แกหามา , นี่มันอะไร? ร้องเพลงได้น่าเกลียดมาก นี่มันยังเรียกได้ว่าเป็นศิลปิน? เอาล่ะตอนนี้ การที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ มันก็ถือว่าสมควรแล้ว!”

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้หน้าแดงมาก : “คุณพ่อ ได้กล่าวสอนแล้ว แต่ตอนนี้มันก็เป็นยุคของการสร้างกระแส แล้วความแข็งแกร่งมันก็ไม่มีความสำคัญมากพอ ในตอนนี้ตราบใดที่ยังเป็นที่นิยมได้ และเสี่ยวหัว เองในตอนนี้ก็ได้รับความนิยมมาก และเขาก็เป็นศิลปินที่ทำกำไรได้มากที่สุดในบริษัท ต่อไปผมจะให้ความสนใจเขา และพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาในอนาคต และก็จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ศิลปินของผมเท่านั้นที่เป็นแบบนี้ หนิง เสี่ยวเยว่ ของ หลินฟาน ตัวน้อย มันก็ยิ่งแย่ไปกว่านั้นอีกครับ”

เว่ย เทียนเฉิง กล่าวว่า : “หลินฟาน มันยังเด็กเกินไป และสายตาสั้นเกินไป ดังนั้นการที่เขาจะแย่กว่า มันก็นำมาเทียบกับแกไม่ได้ ..เพียงแต่ ทำไมวิดีโอของศิลปินของแก ถึงได้ไปปรากฏขึ้นบนอินเทอร์เน็ต และได้กลายเป็นการค้นหาที่ร้อนแรงขึ้นได้อย่างไร หรือว่า เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเมื่อครู่นี้”

เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “ผมยังคิดไม่ออกครับ คุณพ่อ ผมตอนนี้ยังต้องการโทรออกไปสองสามสาย เพื่อทําความเข้าใจสถานการณ์ และการค้นหาที่ร้อนแรงนี้จะต้องถูกลบออกไปโดยเร็วที่สุด”

“ได้ งั้นแกก็รีบจัดการซะ” เว่ย เทียนเฉิง ได้พูดพร้อมกับได้พยักหน้า

กริ้ง กริ๊งๆ...

ในเวลานี้ โทรศัพท์ของ เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้ดังขึ้น และก็เป็น หลิว จินเวย ที่ได้โทรเข้ามา

“ลุงเวย มีอะไรงั้นเหรอครับ?” เว่ย เจี้ยนเซิง ได้รับโทรศัพท์ และได้ถามออกไปอย่างสงสัย หากให้พูดตามเหตุผลแล้ว เมื่อหลังจากที่ หนิง เสี่ยวเยว่ ได้มาถึงสถานีโทรทัศน์ มันก็ไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับ หลิว จินเวย แล้ว

“คืออย่างนี้ ฉันได้สังเกตเห็นว่า เสี่ยวหัว กำลังกลายเป็นกระแสค้นหาบนอินเทอร์เน็ต และฉันเองก็มีเรื่องต้องอธิบายให้ เจี้ยนเซิง ฟัง..” หลิว จินเวย ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูออกว่า ..อึดอัดใจเล็กน้อย

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้อึ้งไปพักหนึ่ง : “หรือ ลุงเวย รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

หลิว จินเวย พูดว่า : “อืมม.. ในวิดีโอนี้ เสี่ยวหัว ได้ร้องเพลงในงานเลี้ยงวันเกิดของฉันเอง …”

“อะไรนะ?” เว่ย เจี้ยนเซิง ตกใจมาก หัว อี้อู่ ได้ร้องเพลงนี้ในงานเลี้ยงวันเกิดของ หลิว จินเวย และมันก็ได้แพร่กระจายออกไป!

หลิว จินเวย กล่าวว่า : “เจี้ยนเซิง คุณอย่าได้เข้าใจฉันผิด มันไม่ใช่ฉันที่ขอให้ เสี่ยวหัว ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที เดิมทีที่ฉันได้เชิญ เสี่ยวหัว มางานเลี้ยงวันเกิดของฉัน ฉันก็แค่หวังว่า เสี่ยวหัว และลูกสาวของฉันจะสื่อสารกันได้มากขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็จะกลายมาเป็น เพื่อนร่วมงานกันในไม่ช้านี้ ... ไอ ไอ , เรื่องมันยาวนะ แต่หากถ้าคุณจะโทษ ก็ให้ไปโทษ หลินฟาน…”

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้มีสีหน้าจมลง : “เรื่องนี้.. มันเกี่ยวข้องกับไอ้เด็กน้อย หลินฟาน อีกแล้วงั้นหรือ?”

หลิว จินเวย กล่าวว่า : “ใช่ เป็น หลินฟาน ที่ได้บังคับให้ เสี่ยวหัว ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที และยังจงใจเลือกเพลง ที่ราบสูงทิเบต ที่ร้องได้ยากมากๆ เขาจงใจทำให้ เสี่ยวหัว ต้องอับอายในที่สาธารณะ และฉันมีเหตุผลที่จะเชื่อว่ากระแสการค้นหาของ เสี่ยวหัว ในขณะนี้ เป็น หลินฟาน เป็นคนทำ!”

ปัง!

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้ตบโต๊ะด้วยความโกรธ : “หลินฟาน ตัวน้อย.. แกมันกล้าดียังไงมาลงมือกับศิลปินของฉัน!”