ตอนที่ 57 : ฉินเสี่ยวเทาต้องการเข้าโรงงาน?
**กิจการทั้งหมดของพระเอก ตอนนี้ผมจะยังไม่ใช้คำว่าบริษัทนะครับ มันมีทั้งร้านขายเสื้อผ้ากับโรงงาน ซึ่งปัจจุบันผมจะใช้คำเรียกพวกนี้ไปก่อน**
———————————————————————
หลังจากพูดคุยกันได้สักพัก ฉินหยุนก็กล่าวขึ้นอีกครั้งว่า "พี่ใหญ่ เดี๋ยวพี่ลองหาดูหน่อยนะครับว่ามีอาคารโรงงานที่เหมาะๆอีกไหม เราจะตั้งโรงงานผลิตรองเท้าเพิ่ม"
"โรงงานผลิตรองเท้า?" ได้ยินดังนั้นฉินซวนก็ผงะ โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน ร้านค้าร้านที่สี่ก็เพิ่งเปิดไป ฉินหยุนยังวางแผนที่จะไปที่จินหลิงเพื่อเปิดร้านขายเสื้อผ้าอีกสามสาขาด้วย นี่ถือว่ายังอยู่ในแผนการของเขา แต่ตอนนี้ เขาเตรียมที่จะเปิดโรงงานผลิตรองเท้าอีกแห่งแล้ว
"เสี่ยวหยุน เรื่องนี้มันเร่งด่วนเกินไปหรือเปล่า?" ฉินซวนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา
เธอรู้สึกว่าในเดือนสิงหาคม จังหวะในการพัฒนาของฉินหยุน จู๋ๆก็เร็วขึ้นมาก
ฉินหยุนยิ้มและกล่าวว่า "ถึงยังไงโรงงานผลิตรองเท้าก็ต้องเปิดขึ้น ถ้าเรามัวแต่ไปซื้อรองเท้าที่ตลาดค้าส่งอยู่ตลอดก็ถือว่าไม่คุ้มเลย โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหนึ่งแห่ง โรงงานผลิตรองเท้าหนึ่งแห่ง ร้านขายเสื้อผ้าสองร้าน และร้านขายรองเท้าสองร้าน นี่คือเป้าหมายสูงสุดของเราในเขตชิงอู๋ และจะไม่มีการขยายกิจการเพิ่มอีกต่อไป"
เมื่อได้ยินคำกล่าวของฉินหยุน ฉินซวนก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก
"คราวที่แล้วที่พี่ไปดูโรงงาน 2-3 แห่งนั้น ในนั้นมีอยู่ 2 แห่งที่เหมาะกับเรา เดี๋ยวพี่ค่อยติดต่อพวกเขาไป" เธอกล่าวหลังจากคิดสักครู่
เมื่อตอนที่เริ่มเปิดโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุน ฉินซวนได้ไปเยี่ยมชมโรงงานมาหลายแห่ง
"โอเค ตอนนี้ยังไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ พี่ค่อยๆจัดการก็ได้" ฉินหยุนยิ้มและเอ่ยอีกที "เรายังมีเวลาอีกเยอะ"
"ยังไงก็ตาม แล้วเรื่องโลโก้ล่ะครับ?" เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามออกมา
"โลโก้ยังอยู่ระหว่างการออกแบบ มีหลายรูปแบบที่ออกแบบเสร็จแล้ว แต่ยังคงปรับแก้ไขเพิ่มอยู่ ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่เอาให้แกดูเอง" ฉินซวนกล่าว
ฉินหยุนพยักหน้าและไม่ได้ถามคำถามใดๆเพิ่มอีก
ตอนนี้เขากำลังจะเข้าสู่เส้นทางของการสร้างแบรนด์ โดยพื้นฐานแล้วเครื่องหมายการค้าของแบรนด์ต่างๆ มักจะถูกนำไปใช้ตลอดระยะเวลาที่แบรนด์นั้นๆคงอยู่ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อน
ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นฉินซวนก็กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้แม่โทรมาหาด้วย บอกว่าครอบครัวของลุงใหญ่มาที่บ้านเพื่อทานอาหารเย็นด้วยกัน ดังนั้นเรารีบกลับกันเถอะ"
"เข้าใจแล้วครับ" ฉินหยุนพยักหน้า
เขามองไปที่คนงานมากกว่าสิบคนที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ในโรงงาน วันนี้เป็นวันที่ป้าสะใภ้ใหญ่จางพ่านตี้หยุดพักผ่อน เธอจึงไม่ได้มาทำงาน
...
ฉินหยุนกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น และฉินซวนก็กลับบ้านไปรับเสี่ยวจุนลูกชายของเธอมาด้วย
วันนี้พี่เขยหลี่อี้หังก็ไม่ว่างอีกเช่นเคย และช่วงนี้เขาต้องกลับบ้าน 4-5 ทุ่มอยู่ทุกวัน
"คุณน้า วันนี้ผมได้รับรางวัลจากคุณครูประจำชั้นด้วย เป็นดอกไม้สีแดงเล็กๆ" เมื่อเห็นฉินหยุน หลี่จุนก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีและเอ่ยพร้อมกับเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
"โอ้ สุดยอดมาก" ฉินหยุนแตะศีรษะเล็กๆของหลานชายด้วยรอยยิ้ม และเอ่ยชมเขาสองสามคำ
"คุณตา คุณยาย วันนี้ตอนผมอยู่ในห้องเรียน..." หลังจากอวดให้ฉินหยุนฟังแล้ว หลี่จุนตัวน้อยก็วิ่งไปอวดกับฉินกั๋วตงและจ้าวเหมยต่อ
แต่ไม่กี่นาทีหลังจากที่ฉินหยุนและคนอื่นๆกลับมาถึงบ้าน ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น และเมื่อประตูเปิดออก ฉินกั๋วเหลียงและจางพ่านตี้ก็ยืนอยู่หน้าประตู และยังมีอีกคนอยู่ข้างหลัง เขาคือฉินเสี่ยวเทานั่นเอง
"ลุงใหญ่ ป้าสะใภ้ พี่เสี่ยวเทา" ฉินหยุนเอ่ยทักทายพวกเขา
ในเวลานี้พวกเขายังถือสิ่งของมากมายอยู่ในมือด้วย
“พี่ใหญ่ เข้ามาก่อนๆ นี่ ทำไมพี่ถึงซื้อของมาเยอะขนาดนี้ หลังอาหารเย็น ขากลับพาพวกมันกลับไปด้วยเลย” ฉินกั๋วตงกล่าวด้วยความโกรธเล็กน้อย
"ฮ่าๆ น้องรอง แค่ของฝากทั่วไป ไม่มีอะไรให้พูดถึง" ฉินกั๋วเหลียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากเข้าโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า จางพ่านตี้ก็กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าทันที เธอทำงานได้เร็วมาก เงินเดือนถูกจ่ายไปเมื่อเดือนที่แล้ว แม้ว่าจะไม่สูงนัก แต่ก็เพราะว่าในเดือนกรกฎาคม เธอเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่กี่วัน
อย่างไรก็ตาม ตามฐานเงินเดือนแล้ว คาดว่าจางพ่านตี้จะได้รับอย่างน้อยมากกว่า 5,000 หยวนในเดือนสิงหาคม ซึ่งก็เกือบ 6,000 หยวนเช่นกัน
นี่แค่ทำงาน 8 ชั่วโมง หากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนมีชั่วโมงการทำงานมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวันเหมือนโรงงานอื่นๆ ค่าจ้างน่าจะสูงขึ้นอีก
พวกเขามาที่นี่ในวันนี้เพื่อแสดงความขอบคุณ
“ลุงรอง ป้าสะใภ้รอง” ฉินเสี่ยวเทาก็เอ่ยทักทายตามหลังฉินกั๋วเหลียงด้วย จากนั้นก็นิ่งเงียบเหมือนเคย
"พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้นั่งลงก่อน เสี่ยวเทาด้วย มาๆ เสี่ยวซวน เสี่ยวหยุน มารินน้ำชาสักถ้วยสิ" ฉินกั๋วตงและพี่ชายของเขาแลกเปลี่ยนคำพูดทักทายกัน จากนั้นก็เรียกพวกเขาให้นั่งลง
หลังจากกล่าวไปไม่กี่คำ ฉินกั๋วเหลียงก็ดูเขินอายเล็กน้อย เหมือนเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่กล้ากล่าวออกมา
“พี่ใหญ่ ถ้าพี่มีอะไรจะพูดก็แค่พูดมา พวกเราพี่น้องกันยังต้องกังวลอะไรอีก?” ฉินกั๋วตงสังเกตเห็นสีหน้าของพี่ชาย เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
ฉินกั๋วเหลียงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวออกมา "เฮ้อ.. คราวนี้ฉันมาที่นี่เพื่อเป็นธุระให้เสี่ยวเทาเขาน่ะ"
ในที่สุดเขาก็พูดถึงจุดประสงค์ในการมาเยี่ยมของเขาครั้งนี้ "เราอยากจะถามหน่อยว่า สามารถให้เสี่ยวเทาเข้าไปทำงานในโรงงานได้ด้วยไหม?"
"เสี่ยวเทาจะไปทำงานในโรงงานงั้นเหรอ?" ฉินกั๋วเหลียง ฉินหยุนและฉินซวน รู้สึกสับสนเล็กน้อย
เท่าที่ฉินหยุนรู้ ฉินเสี่ยวเทาไม่มีประสบการณ์ในการทำงานที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเลย
ในความเป็นจริง โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าในเขตชิงอู๋ทำงานติดต่อกันสิบชั่วโมงต่อวัน และเงินเดือนก็น้อยกว่า 4,000 หยวน แถมเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดการค้างค่าจ้างคนงาน หากคุณต้องการทำงานในโรงงานขนาดใหญ่ที่ดูมีมาตรฐานหน่อย ก็เป็นเรื่องยากอีกที่จะได้เข้าไปที่นั่นได้
ประเด็นสำคัญคืองานเหล่านี้ไม่ค่อนมีอนาคตสักเท่าไร โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าส่วนใหญ่ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย และโดยพื้นฐานแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่คนงานทั่วไปจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
ดังนั้น แม้แต่ฉินกั๋วเหลียงและจางพ่านตี้ก็ไม่เคยปล่อยให้ลูกชายของพวกเขาเข้าไปทำงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเลยสักครั้ง
แต่ตอนนี้สถานการณ์แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
หลังจากฉินกั๋วเหลียงกล่าวจบ จางพ่านตี้ที่อยู่ข้างๆเขาก็รีบเอ่ยขึ้นว่า "เสี่ยวเทาไม่รู้วิธีเย็บเสื้อผ้าก็จริง แต่เมื่อเขาเข้าไปในโรงงานของเสี่ยวหยุน ตราบใดที่ให้เขาได้รับการฝึกก่อน ยังไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้เขาก็ได้"
เงินเดือนของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนสูงกว่าเงินเดือนของโรงงานเครื่องปรับอากาศมาก พวกเขาจึงอยากให้ฉินเสี่ยวเทาทำงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้ามากกว่า
น่าเสียดายที่ฉินเสี่ยวเทาไม่รู้วิธีเย็บเสื้อผ้า แต่ถ้าไม่รู้ เขาก็สามารถเรียนรู้ได้ หลังจากฝึกไปสัก 2-3 เดือน เขาก็จะเริ่มชำนาญอย่างแน่นอน
อันที่จริงแล้ว ไม่ใช่ว่าทุกคนเกิดมาก็เย็บเสื้อผ้าเป็นเลย และทุกวันนี้ก็ยังมีคนมากมายที่กำลังเริ่มฝึกเย็บผ้าในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่
หลังจากกล่าวจบแล้ว ทั้งฉินกั๋วเหลียงและจางพ่านตี้ต่างก็หยุดพูดและมองไปที่ฉินหยุนกับคนอื่นๆ รอผลลัพธ์อย่างใจจดใจจ่อ
ลูกชายของพวกเขาอายุ 30 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีแฟนสาวเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แต่พวกเขาก็วิตกกังวลจนนอนไม่หลับอยู่ทุกคืน
แม้ว่าตอนนี้เขาจะต้องกลายเป็นคนผิวหนาหน้าด้าน แต่ฉินกั๋วเหลียงก็ต้องการที่จะทำให้ชีวิตของฉินเสี่ยวเทาดีขึ้น
ในอนาคต เงินเดือนของฉินเสี่ยวเทาอาจจะได้สัก 5,000 - 6,000 หยวน บวกกับของจางพ่านตี้ก็สามารถรวมกันได้เป็นจำนวนมากแล้ว และยังมีเงินที่ฉินกั๋วเหลียงได้รับจากไซต์ก่อสร้างอีก ด้วยสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้ฉินเสี่ยวเทาหาผู้หญิงได้ง่ายมากขึ้น
"เสี่ยวหยุน"
ฉินกั๋วตงไม่ได้ตอบตกลงทันที แต่มองไปที่ฉินหยุน
จะจัดการเรื่องของฉินเสี่ยวเทายังไง เขารู้ว่าฉินหยุนมีความคิดอยู่ในใจแล้ว
ในความคิดของเขา การให้ฉินเสี่ยวเทาไปฝึกเย็บเสื้อผ้านั้นเป็นเรื่องไร้สาระมาก และในใจเขาเองก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของพี่ชายสักเท่าไร
ทั้งห้องดูเหมือนจะเงียบลงเพื่อรอคำตอบของฉินหยุน
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินกั๋วเหลียงและจางพ่านตี้ ฉินหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มและเอ่ยว่า "แน่นอน มันไม่มีปัญหาที่จะให้พี่เสี่ยวเทาเข้าไปที่โรงงาน แต่..."
เมื่อได้ยินคำพูดในช่วงแรกของเขา ทั้งฉินกั๋วเหลียงและจางพ่านตี้เต็มไปด้วยความยินดี แต่เมื่อพวกเขาได้ยินคำว่า ‘แต่’ พวกเขาก็เริ่มประหม่าอีกครั้ง
ฉินหยุนไม่ได้ตั้งใจทำเช่นนี้ เขากล่าวต่อ "แต่ผมกำลังจะไปเปิดร้านที่จินหลิง ไม่รู้ว่าพี่เสี่ยวเทาอยากไปที่นั่นด้วยกันไหม?"
(จบตอน)