บทที่ 54: กระท่อมไม้หลังใหม่
ภูเขาที่อยู่ด้านหลังเผ่านั้นอยู่ติดกับป่าหลังบ้านของหูเจียวเจียว ที่นั่นมีถ้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งเหมาะสำหรับการเติบโตของมันฝรั่ง
จิ้งจอกสาวไปพบมันเข้าตอนที่เธอกำลังตัดต้นไม้ในป่าเพื่อนำมาสร้างบ้านใหม่
เมื่ออิงหยวนกลับมาหลังจากขนย้ายมันฝรั่งแล้ว หญิงสาวก็ไหว้วานให้เขาไปขุดดินพร้อมกับพวกภูตชายคนอื่น ในขณะที่เธอเดินเข้าไปในถ้ำคนเดียว
มันฝรั่งที่กลุ่มเก็บเกี่ยวขุดมาเมื่อวานนี้ทั้งวันได้มากกว่า 100 กิโลกรัม
แต่เพราะพวกมันเติบโตในป่าที่ถูกละเลย มันฝรั่งพวกนี้จึงมีขนาดไม่เท่ากัน แล้วก็เติบได้ไม่ดีมากนัก การที่เธอจะนำมันมาเป็นต้นกล้าเพาะพันธุ์จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด
แต่หัวหน้าเผ่ายินดีที่จะมอบมันฝรั่งทั้งหมดให้แก่เธอ อีกทั้งในเผ่าก็ไม่มีมันฝรั่งให้เธอเลือกมากนัก
ดังนั้นหูเจียวเจียวเลยคิดวางแผนที่จะนำมันฝรั่งบางส่วนจากมิติมาแทนที่มันฝรั่งในถ้ำ
มันฝรั่งในมิตินั้นทั้งใหญ่และอวบอ้วน แต่การจะเอาพวกมันมาแทนทั้งหมดก็คงจะดูผิดสังเกต จิ้กจอกสาวจึงตัดสินใจทำการเปลี่ยนมันฝรั่งครึ่งหนึ่งแล้วเก็บมันฝรั่งที่ใช้ไม่ได้ไว้ในมิติ
พื้นที่ในมิติ ณ ปัจจุบันนอกจากจะมีชั้นวางของแล้ว ยังมีพื้นที่เปิดโล่งมากมายอยู่ภายในซึ่งมันมากพอที่จะเก็บมันฝรั่งพวกนี้ไว้ได้ชั่วคราว
แต่ถ้าเธอโยนมันฝรั่งแคระแกนเข้าไปกองไว้ในมิติมากกว่านี้ มันก็คงจะเป็นการใช้พื้นที่โดยเปล่าประโยชน์ เธอเลยคิดไว้ว่าถ้าครั้งหน้ามีโอกาสได้เดินทางออกจากเผ่า เธอจะนำมันฝรั่งพวกนี้ไปโยนทิ้งและปล่อยให้พวกมันเติบโตอย่างอิสระในป่า
ในสัปดาห์ต่อมา หัวหน้าเผ่าได้จัดกลุ่มคนไปขุดผลไม้ดินกลับมาทุกวันโดยไม่เว้นแม้แต่วันเดียว แล้วพวกมันทั้งหมดที่ส่งมาให้จิ้งจอกสาวก็ถูกเธอแอบสับเปลี่ยน
ยามนี้เธอทำได้เพียงรอให้มันฝรั่งพวกนั้นงอกตาออกมา จากนั้นจึงจะเอาไปปลูกในดินได้
แล้วในช่วงเวลาที่ต้องรอนั้น หูเจียวเจียวไม่ได้อยู่เฉย ๆ จนกระทั่งตอนนี้เธอยังไม่ได้สร้างบ้านหลังใหม่เลย นอกเหนือจากเวลาที่ต้องไปดูพวกผู้ชายขุดดินและตรวจดูการแตกหน่อของมันฝรั่งแล้ว เธอก็เข้าไปในป่าเพื่อตัดไม้มาสร้างบ้าน
ในชีวิตก่อนหน้า เธอชอบดูโทรทัศน์หาความรู้และสิ่งที่เธอสนใจที่สุดก็คือสารคดีเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดในป่า
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นไปไม่ได้ที่จิ้งจอกสาวจะสร้างบ้านหลังใหญ่ด้วยตัวคนเดียว แต่เธอก็ยังสามารถสร้างที่พักพิงขนาดเล็กเหมือนในสารคดีได้
หลังจากที่หูเจียวเจียววางท่อนซุงหลาย 10 ท่อนไว้นอกบ้าน เธอก็เริ่มลงมือสร้างกระท่อม
สถานที่ก่อสร้างกระท่อมนั้นตั้งอยู่ถัดจากบ้านไม้ไปไม่ไกล ขั้นแรก เธอตั้งเสาทั้ง 4 มุมของกระท่อมด้วยไม้ซุงหนา จากนั้นเธอก็ใช้เทคนิคการเข้าไม้เพื่อสร้างผนังทั้ง 4 ด้านของกระท่อม ตามด้วยการมุงหลังคา
เมื่อหญิงสาวปิดหลังคาด้วยไม้แล้ว เธอก็อุดช่องว่างโดยการใช้โคลนเพื่อป้องกันการรั่วซึมในยามที่โดนลมโดนฝน
ถัดมา เธอใช้เลื่อยสร้างประตูบานเล็ก พร้อมกับที่จับประตูแบบทำเองถูกติดตั้งไว้ทั้งด้านในและด้านนอก แล้วในที่สุดกระท่อมไม้แบบเรียบง่ายก็เสร็จสมบูรณ์
หูเจียวเจียวที่กำลังเหนื่อยหอบปัดมือพลางมองดูผลงานที่ตรากตรำทำมาอย่างหนักแล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ความสำเร็จในครั้งนี้ จิ้งจอกสาวต้องขอบคุณร่างกายที่แข็งแกร่งของภูต กว่าเธอจะสร้างกระท่อมหลังนี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง เธอต้องทุ่มแรงกายทั้งหมดที่มี ไม่อย่างนั้นถ้าต้องอาศัยเพียงร่างกายที่บอบบางของมนุษย์ เธออาจจะไม่สามารถสร้างกระท่อมหลังนี้จนเสร็จได้แน่นอน
ระหว่างที่หูเจียวเจียวกำลังสร้างกระท่อมหลังใหม่ เด็กทั้ง 5 คนก็เฝ้าดูเธอจากลานบ้าน และเมื่อพวกเขาเห็นกระท่อมเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ทุกคนต่างก็ประหลาดใจกับภาพตรงหน้า
"ท่านแม่ของข้าเก่งมาก ท่านแม่สามารถสร้างบ้านได้ด้วย!" ดวงตาที่เปียกชื้นทั้ง 2 ข้างของหลงหลิงเอ๋อมีประกายระยิบระยับเหมือนดาวดวงเล็ก ๆ ในขณะที่ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความชื่นชมในตัวผู้เป็นแม่
ทว่าสีหน้าของหลงจงไม่สู้ดีนัก "ก็แค่สร้างบ้านเอง พวกภูตในเผ่าก็ทำได้ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ถ้าโตขึ้นข้าจะสร้างบ้านให้ใหญ่กว่านี้ ดูดีกว่านี้ได้แน่!"
แม้ว่าหลงเซียวจะมองไม่เห็นลักษณะของกระท่อม แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อการสรรหาคำพูดเชือดเฉือนของเขา "นางเป็นผู้หญิง ส่วนเจ้าเป็นผู้ชาย แม้ว่าโตขึ้นแล้วเจ้าจะสร้างบ้านเองได้ แต่เจ้าก็ยังเทียบนางไม่ได้"
“ใช่แล้ว พี่สาม ท่านมันหน้าไม่อาย ทำไมท่านถึงต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงด้วยล่ะ” หลงหลิงเอ๋อทำหน้าที่เป็นคนเสริมคำพูดของพี่ชายคนรอง ก่อนจะแลบลิ้นใส่หลงจง
คำพูดเยาะเย้ยของทั้งคู่ทำให้เด็กหนุ่มโกรธมากจนหน้าแดง เขาเพียงแค่กอดอกแล้วหันหลังหนีเพื่อตัดบทการโต้เถียงกับพวกเขา
ในขณะเดียวกัน ใบหน้าของหลงอวี้แสดงออกถึงความจริงจัง เขาขมวดคิ้วจนมันแทบจะชิดกัน "นางไปเรียนรู้วิธีการสร้างบ้านมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
จากนั้นหลงเซียวก็พูดขึ้นมาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า "เราไม่ได้อยู่กับนางตลอดเวลา บางทีนางอาจจะไปเรียนรู้จากภูตคนอื่นตอนที่เราไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ก็ได้"
หลังจากที่ผู้เป็นพี่ใหญ่ได้ยินคำพูดของน้องชายคนรอง เขาก็ผ่อนคลายสีหน้าตึงเครียดลง
ทางด้านหลงเหยาที่นอนอยู่บนหัวของหลงหลิงเอ๋อ เขายังคงง่วงซึมไม่สนใจกระท่อมหลังใหม่สักเท่าไหร่ แล้วจู่ ๆ ก็มีของเหลวใสไหลออกจากปากของเขา ขณะที่ปากเล็ก ๆ ขยับงึมงำเป็นครั้งคราว
“อ๊ะ!” สาวน้อยร้องออกมาทันที นางเอามือข้างหนึ่งเช็ดใบหน้าของตัวเอง ก่อนจะกัดฟันอย่างโกรธเกรี้ยว
“เสี่ยวเหยา! เจ้าน้ำลายไหลใส่หน้าข้าแล้ว!”
ยามนี้มังกรตัวน้อยกำลังฝันหวาน เขาฝันว่าตัวเองได้กินขากวางย่างที่มีกลิ่นหอมมาก แต่ทันใดนั้นเสียงของผู้เป็นพี่สาวก็ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน เขาจึงเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง ในขณะที่ดวงตาสีทับทิมยังเปิดไม่เต็มที่ แต่ท่าทางของเขากลับดูน่ารักมาก
จากนั้นพี่ ๆ ทั้ง 3 ก็พากันยิ้มออกมา
เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินเสียงร้อง เธอคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นจึงหันไปมองและเห็นว่าเด็ก ๆ กำลังเล่นกันอยู่ในลานบ้าน จังหวะนั้นเธอรู้สึกว่าเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ และมุมปากของเธอก็ยกขึ้นเล็กน้อย
มันคงจะดีถ้าฉันได้ใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอดชีวิต
แต่พอพวกเด็ก ๆ หันไปพบว่าผู้เป็นแม่กำลังมองมา พวกเขาก็หุบยิ้มในทันที
หลงอวี้ลูบจมูกอย่างเก้อเขิน "ข้าจะไปเก็บฟืน พวกเจ้าจะไปกับข้าไหม"
"ข้าไป! ข้าจะไปด้วย!" หลงหลิงเอ๋อเป็นคนแรกที่ยกมือขึ้น และนางก็คว้ามือของหลงเหยาที่อยู่บนหัวของตนก่อนจะยกกรงเล็บน้อย ๆ นั้นขึ้นตอบพี่ชาย
ทว่าเจ้ามังกรตัวเล็กยังคงจมดิ่งอยู่ในความฝัน "..."
ข้าคือใคร? ข้าอยู่ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้น?
ทางด้านหลงจงพูดด้วยสีหน้าขุ่นมัว "ข้าก็จะไปด้วย"
ส่วนหลงเซียวกำไม้ในมือแน่นตั้งท่าจะลุกขึ้นเดินเข้าไปในบ้านไม้ แต่หลงหลิงเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ กลับรั้งเขาไว้และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะว่า "พี่รอง ท่านก็ไปกับเราด้วยสิ ไปเถอะนะ หลิงเอ๋อไม่ได้ออกไปเที่ยวกับพี่รองนานแล้ว”
ในเวลาเดียวกัน หลงอวี้มองไปที่น้องชายคนรอง พอคิดว่าหลงเซียวมักจะอยู่ที่บ้านคนเดียวเสมอจึงพยักหน้าเห็นด้วย "หลิงเอ๋อ งั้นเจ้าช่วยนำทางให้พี่รองของเจ้าด้วยนะ"
"แต่ข้า..." เด็กหนุ่มที่ตาบอดเม้มริมฝีปาก ในขณะที่เขากำลังจะปฏิเสธก็มีมือหนึ่งมาวางบนไหล่ของเขา
“เมื่อกี้ท่านเพิ่งต่อว่าข้าไปนะ ท่านเองก็เป็นผู้ชายตัวโต เราแค่จะออกไปข้างนอกกัน ทำไมท่านไม่กล้าล่ะ แค่ไปเดินเที่ยวกันเอง”
หลงจงพูดจบแล้วก็ดันหลังพี่ชายคนรองออกจากลานบ้านไปโดยไม่เปิดโอกาสให้ใครได้พูดอะไรอีก
หูเจียวเจียวเองก็ได้เห็นฉากนี้เช่นกัน เวลานี้เธอรู้สึกมีความสุขมากที่เห็นว่าหลงเซียวเต็มใจที่จะออกไปเล่นกับพี่น้อง
ปัจจุบันยังเป็นเวลาช่วงเช้าอยู่ ในขณะที่เด็กทั้ง 5 คนไม่อยู่บ้าน แม่จิ้งจอกก็รีบทำความสะอาดกระท่อมอีกครั้ง เธอไปหยิบกองฟางมาปูบนพื้น ก่อนจะหยิบพรมสีน้ำตาลเข้มที่มีสีคล้ายกับหนังสัตว์ออกมาจากมิติ
ในกระท่อมหลังนี้ไม่ใหญ่นัก มันมีขนาดประมาณ 12 ตารางเมตร และความสูงก็เพียงพอให้เธอยืนตัวตรงได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กระท่อมหลังใหม่นั้นจิ้งจอกสาวเตรียมไว้ให้ตัวเองอาศัยอยู่ เธอจึงไม่จำเป็นต้องสร้างให้มันใหญ่โตโอ่อ่าอะไรมากมาย
เธอไม่คิดว่าเจ้าวายร้ายตัวโตจะยอมอยู่ในห้องเดียวกับเธอ และเมื่อหลงโม่กลับมา เธอก็จะปล่อยให้เขานอนห้องเดียวกับลูก ๆ
ในที่สุดฉันก็มีห้องนอนเป็นของตัวเอง!
แค่คิดหญิงสาวก็ตื่นเต้นแล้ว
แม้ว่าเธอจะชอบเด็กทั้ง 5 คนนี้มาก แต่เธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมันคงไม่สะดวกเท่าไหร่ที่จะอยู่ในบ้านเดียวกันกับพ่อของพวกเขา
หลังจากที่หูเจียวเจียวทำความสะอาดกระท่อมหลังใหม่แล้ว เธอก็พังรั้วที่กั้นระหว่างบ้านทั้ง 2 หลัง ก่อนจะสร้างรั้วใหม่เพื่อปิดล้อมพวกมันไว้ในลานบ้านเดียวกัน
เมื่อจิ้งจอกสาวทำงานเหล่านี้เสร็จแล้ว เธอก็พร้อมที่จะทำอาหารเย็น
ขณะที่เธอกำลังเตรียมส่วนผสมกับวัตถุดิบ จู่ ๆ เธอก็มองเห็นเด็กน้อย 2-3 คนวิ่งกลับมาด้วยใบหน้ากังวล
นั่นทำให้หูเจียวเจียวตกใจมาก จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่ามีเด็กกลับมาเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น…
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: สังหรณ์ไม่ดีเลย เด็กคนไหนหายไปอีกแล้ว…