บทที่ 53: หุบปากของเจ้าซะ
เมื่อหูเจียวเจียวมาถึงริมแม่น้ำ อิงหยวนก็กำลังรออยู่ที่นั่นพร้อมกับชายฉกรรจ์ที่มีกล้ามเป็นมัด ๆ อีก 10 คน
พอเหล่าภูตชายเห็นจิ้งจอกสาวเดินใกล้เข้ามา พวกเขาก็มองเธอด้วยสายตาไม่ดีนัก
หญิงสาวเองก็พอจะเดาท่าทีของคนพวกนั้นออก ในระหว่างที่เดินเข้าไป เธอชำเลืองมองชายทั้ง 10 เพื่อจดจำใบหน้าแต่ละคนเอาไว้อย่างเงียบ ๆ เผื่อในอนาคตเธออาจจะได้ใช้งานพวกเขาอีก
อิงหยวนเห็นจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กำลังเดินเข้ามา แต่เขาไม่ได้พูดอะไรและทำเพียงจ้องพวกผู้ชายทั้งหลายด้วยสีหน้าเย็นชา
เมื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มเดินมาถึง ชายหนุ่มก็เปิดปากพูดว่า “หูเจียวเจียว เจ้าต้องการให้เราทำอะไร รีบ ๆ บอกข้ามาเร็วเข้า ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าโกหกล่ะก็ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”
แม้ว่าภูตชายคนอื่น ๆ จะยังคงนิ่งเงียบ แต่พวกเขาก็มองไปที่หูเจียวเจียวด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
หญิงสาวไม่สงสัยเลย หากไม่ใช่เพราะนกอินทรีหนุ่มอยู่ที่นี่ ผู้ชายพวกนี้คงไม่มีใครยอมมาหรอก
ถัดมา หูเจียวเจียวชำเลืองมองอิงหยวนก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทว่าแฝงไปด้วยความเย็นชา "สิ่งที่ต้องทำมีเยอะแยะมากมาย ถ้าเจ้าอยากให้ทุกคนมีอาหารกินในฤดูหนาว ก็หุบปากของเจ้าไปเสีย เก็บแรงไว้ทำงานเถอะ”
หลังจากพูดจบ เธอก็หันกลับไปสำรวจสภาพพื้นดินโดยรอบ
ทางตอนใต้ของเผ่าเป็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ เดิมทีมันถูกเก็บเอาไว้ใช้เป็นสถานที่สำหรับรองรับการขยายตัวของจำนวนประชากร เนื่องด้วยมันมีภูมิประเทศเป็นที่ราบและอยู่ใกล้กับแม่น้ำ มันจึงเหมาะแก่การปลูกมันฝรั่งด้วยเช่นกัน
ส่วนในเรื่องของคุณภาพดินนั้น เนื่องจากคนที่นี่ไม่รู้จักการเพาะปลูก มันจึงยังอุดมสมบูรณ์ แต่ปัญหาหลักก็คือมีวัชพืชขึ้นอยู่เต็มไปหมด ซึ่งนี่เป็นงานที่หูเจียวเจียวต้องการใช้แรงของผู้ชาย
เมื่อแม่จิ้งจอกสำรวจสภาพแวดล้อมทั้งหมดแล้ว เธอก็วางแผนไว้ในใจคร่าว ๆ
ทางด้านอิงหยวนและพวกผู้ชายเห็นหูเจียวเจียวแค่เดินไปเดินมาอยู่ทั่วพื้นที่ บางครั้งก็ก้มลงสัมผัสดิน บางครั้งก็โบกมือไปมาในอากาศ
ทว่าท่าทางของจิ้งจอกสาวในสายตาของคนเหล่านี้มันดูแปลกประหลาดมาก จึงทำให้พวกเขารู้สึกร้อนใจขึ้นมา
"ทำไมเราต้องมาเสียเวลากับยัยจิ้งจอกนั่นด้วย ดูสภาพนางสิ นางจะปลูกผลไม้ดินได้จริง ๆ หรือ?"
"ข้าคิดว่านางแค่แกล้งหลอกเราเฉย ๆ"
"อิงหยวน ทำไมเจ้าไม่ลองไปคุยกับท่านผู้เฒ่าอีกสักครั้งล่ะ คำพูดของหูเจียวเจียวมันไม่น่าเชื่อถือเลยจริง ๆ..."
ยามนี้ใบหน้าของอินทรีหนุ่มหม่นหมองในขณะที่คิดว่า
ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยไปพูดกับท่านผู้เฒ่า
เมื่อคืนก่อน เขาไปหาหัวหน้าเผ่าอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วย ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกลับไปอธิบายให้ลู่เมี่ยนเอ๋อฟัง แต่โชคดีที่ภรรยาสาวไม่โกรธ นางกังวลเพียงว่าเขาจะเป็นอะไรไปหากเข้าไปพัวพันกับหูเจียวเจียว
ตอนนี้ชายหนุ่มต้องเปิดโปงคำโกหกของนางมารร้ายให้ได้!
ไม่ไกลนัก หูเจียวเจียวโบกมือเรียกพวกภูตชาย
จากนั้นอิงหยวนเดินไปพร้อมกับผู้ชาย 2-3 คนด้วยใบหน้าเย็นชา
“อิงหยวน ข้าต้องการให้เจ้าขุดดินทั้งหมดในทุ่งนี้” หญิงสาวออกคำสั่งสั้น ๆ “ข้าได้ฝังกิ่งไม้เป็นเครื่องหมายกำหนดจุดที่พวกเจ้าจะต้องขุดดินแล้ว”
ในระหว่างที่อธิบาย เธอก็ชี้ไปตรงพื้นดินที่มีก้านไม้สีเขียวปักเอาไว้
หูเจียวเจียวปักไม้ไว้ในพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2 ไร่ เนื่องจากมันฝรั่งเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำ ดังนั้นสถานที่ปลูกมันฝรั่งจึงจะต้องอยู่ห่างจากแม่น้ำพอสมควร
ตามปกติใน 1 ฤดูใบไม้ร่วง คนในเผ่าสามารถขุดมันฝรั่งมาได้เพียงไม่กี่ร้อยกิโลกรัม แต่สำหรับพื้นที่ 1 ไร่ ต้องใช้มันฝรั่งเป็นต้นกล้าประมาณ 300 กิโลกรัม หากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี พวกเขาจะสามารถเก็บเกี่ยวมันฝรั่งได้ 3,000-4,000 กิโลกรัม ซึ่งในสายตาของภูต ผลผลิตปริมาณเท่านี้ถือได้ว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
นี่เป็นการปลูกมันฝรั่งครั้งแรกของหูเจียวเจียว แม้ว่าเธอจะได้รับคำแนะนำวิธีการปลูกมาจากในมิติ แต่เธอก็ไม่สามารถรับประกันผลผลิตได้ เพราะฉะนั้นเธอจึงวางแผนที่จะปลูกมันฝรั่งในที่ดิน 2 ไร่เป็นการลดความเสี่ยง
ถัดมา อิงหยวนกวาดสายมองไปยังพื้นที่สีเหลี่ยมขนาดใหญ่ แล้วใบหน้าของเขาก็ขุ่นมัวทันที
ส่วนผู้ชายที่อยู่ข้างหลังเขาโกรธมากจนตะคอกออกมาเสียงดังเพราะเขารู้สึกว่าจิ้งจอกสาวจงใจทำให้เรื่องมันยุ่งยากขึ้น "หูเจียวเจียว เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง! เจ้ารู้ไหมว่าใน 1 วันเราสามารถจับเหยื่อได้กี่ตัว แล้วเจ้าจะมาปล่อยให้เราขุดดินอยู่ที่นี่เนี่ยนะ! มันคุ้มค่าตรงไหน!"
ฝ่ายที่ถูกตวาดเหลือบมองไปที่คนพูด แต่เธอไม่ได้ตอบกลับอะไรก่อนจะหันหน้าไปมองชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าแทน
"อิงหยวน นี่คือคนที่เจ้าเลือกมาหรือ? ถ้าพวกเขาไม่อยากทำ รบกวนเจ้าช่วยหาผู้ชายที่สามารถทำงานได้โดยเร็วที่สุดมาแทน เพื่อไม่ให้การเพาะปลูกล่าช้าไปมากกว่านี้"
จิ้งจอกสาวพูดด้วยท่าทางไม่แยแส
ในขณะเดียวกัน อิงหยวนสังเกตเห็นท่าทีที่แปลกไปของหูเจียวเจียวแล้วเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ
ผู้หญิงคนนี้เสแสร้งเก่งจริง ๆ
“หูเจียวเจียว เจ้ามันหน้าไม่อาย!” อินทรีหนุ่มกัดฟันพลางมองค้อนหญิงสาวอย่างบึ้งตึง ก่อนจะหันกลับไปสั่งพวกผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังว่า “ทำตามที่นางบอกเถอะ”
เมื่อเหล่าภูตชายเห็นว่าอิงหยวนออกหน้ารับแทน พวกเขาก็ต้องกล้ำกลืนความโกรธของตัวเองเอาไว้
ที่ดิน 2 ไร่ไม่ได้ใหญ่หรือเล็กไป
แต่เนื่องจากพวกภูตไม่มีเครื่องมือในการเพาะปลูก มันเลยอาจจะดูยุ่งยากไปสักหน่อยในสายตาของชาวบ้านในเผ่า อีกทั้งหูเจียวเจียวไม่ได้คิดที่จะนำเครื่องมือในมิติมาให้คนพวกนี้ใช้ด้วย เพราะเธอต้องการเก็บมันไว้ใช้เฉพาะในพื้นที่เพาะปลูกของตน
เวลาต่อมา กลุ่มแรงงานผู้ชายก็แปลงร่างเป็นสัตว์แล้วใช้กรงเล็บขุดดิน
รูปร่างของภูตที่กลางร่างเป็นสัตว์นั้นมีขนาดใหญ่กว่าขนาดของสัตว์ป่าเสียอีก เมื่อกรงเล็บของสัตว์ร้ายกระทบลงไป พื้นดินจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที ส่งผลให้การทำงานรวดเร็วมาก
เดิมทีหูเจียวเจียวต้องการจะบอกวิธีทำเครื่องมือหินเอาไว้ไถดิน แต่เมื่อเธอหันหน้าไปมองพวกภูตชาย เธอก็เห็นฉากในทุ่งหญ้าที่มีสัตว์ร้ายอย่างเช่น หมาป่า หมี เสือและเสือดาวกำลังขุดดินอย่างหนัก
เอิ่ม...
ดูเหมือนว่ากรงเล็บของสัตว์จะดีกว่าเครื่องมือที่ทำจากหินเสียอีก
ดังนั้นจิ้งจอกสาวจึงล้มเลิกความคิดที่จะทำเครื่องมือหินทันที
แต่ว่าหลังจากไถดินแล้วเธอจะยังปลูกพืชลงดินไม่ได้ เนื่องจากวัชพืชพวกนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ เธอต้องรอให้วัชพืชที่ถูกขุดขึ้นมาแห้งตายไปเสียก่อน พอมันขาดน้ำมันก็จะตายไปเอง แล้วสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ มันฝรั่งต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่ามันจะเติบโต
“อิงหยวน” หูเจียวเจียวเรียกชายหนุ่มซึ่งกำลังจะขุดดิน
“เจ้ามีอะไร?” ชายที่แปลงร่างเป็นนกอินทรีเดินเข้ามาด้วยสายตาไม่พอใจ
เขาไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะปลูกผลไม้ดินได้จริง ๆ แม้ว่าเขาเต็มใจที่จะเล่นตามน้ำ แต่ในใจเขาต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายในตอนที่นางไม่สามารถปลูกผลไม้ดินขึ้นมาได้
"เจ้าไปหาท่านผู้เฒ่า แล้วไปย้ายผลไม้ดินที่ขุดมาเมื่อวานไปไว้ในถ้ำที่ภูเขาด้านหลัง" หูเจียวเจียวไม่สนใจใบหน้าที่แสดงออกอย่างรังเกียจของอิงหยวน และออกคำสั่งแบบกระชับ
ดูสิ เจ้าคงจะซ่อนหางจิ้งจอกไว้ไม่ได้แล้ว หลังจากแสดงอยู่นาน ในที่สุดหางก็โผล่ ที่แท้นางอยากจะหลอกข้าไปที่ถ้ำหลังเขาให้ไปอยู่กับนาง 2 ต่อ 2 แล้วใช้ลูกไม้เดิม ๆ อีกครั้ง!
"หูเจียวเจียว นี่เจ้า—" อิงหยวนกำลังจะเปิดปากด่า แต่ดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาคมดั่งเหยี่ยวที่สดใสและชัดเจน ทำให้เขาผงะไปครู่หนึ่ง
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงดูแตกต่างจากเมื่อก่อน?
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ยามที่นางมองเขา สายตาของนางทำให้เขารู้สึกขยะแขยงมาก
หรือตอนนี้นางแค่กำลังเสแสร้งอยู่กันแน่?
ชายหนุ่มไม่ได้คาดคิดว่าแม่จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์จะมีทักษะการแสดงที่ดีเช่นนี้ และเขาเกือบจะเชื่อนางแล้ว
“เจ้าเป็นอะไรไป หัวหน้าเผ่าบอกให้เจ้าเชื่อฟังคำสั่งของข้าไม่ใช่หรือ รีบย้ายผลไม้ดินไปไว้ในถ้ำเร็วเข้า ข้าจะคอยดูพวกเขาขุดดินอยู่ที่นี่เอง” หูเจียวเจียวพูดพร้อมกับเชิดคางขึ้นเล็กน้อย
เสียงของจิ้งจอกสาวฟังดูนุ่มนวลซึ่งไม่สอดคล้องกับรูปร่างหน้าตาของเธอมากนัก แม้ว่าเธอจะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แต่มันก็ยังดูเหมือนเด็กเสียมากกว่า
ภาพตรงหน้าทำให้ดวงตาของอิงหยวนเบิกกว้าง
อินทรีหนุ่มถามด้วยความประหลาดใจ “เจ้าหมายถึงจะให้ข้าไปคนเดียวงั้นรึ?”
นางอยากจะสร้างโอกาสที่จะได้อยู่ตามลำพังกับเขาเพื่อยั่วยวนเขาไม่ใช่หรือ?
หูเจียวเจียวชำเลืองมองคนพูดก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูกระวนกระวายใจเล็กน้อย "ถ้าเจ้าไม่ไป เจ้าจะให้ข้าไปขนผลไม้ดินด้วยตัวเองหรือไง?"
ความจริงแล้วหญิงสาวจะใช้ใครไปขนมันฝรั่งก็ได้ สาเหตุที่เธอจงใจใช้เจ้าหมอนี่เป็นเพราะเธอแค่ไม่อยากอยู่ใกล้เขาเท่านั้น
แม้ว่าคำสั่งของหัวหน้าเผ่าจะขัดไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้เช่นกัน
พออิงหยวนได้ยินอย่างนั้นก็พูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง ในขณะที่ใบหน้าของเขามีอารมณ์สลับซับซ้อนและดวงตาที่เฉียบคมดั่งนกอินทรีจับจ้องไปยังใบหน้าอันแสนมีเสน่ห์ของหูเจียวเจียว
“ตกลง ข้าจะไป”
ชายหนุ่มหันหลังเดินออกไปด้วยสีหน้าบึ้งตึงทันที
แล้วในที่สุดเธอก็กำจัดไอ้คนหลงตัวเองออกไปให้พ้นสายตาได้แล้ว!