บทที่ 27 : อาจารย์ผู้ทรงพลัง
บทที่ 27 : อาจารย์ผู้ทรงพลัง
ลู่หยานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่ได้คาดคิดว่าหยางเฉียนจะเด็ดขาดขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม ลู่หยานก็ยังไม่ลังเลใดๆ และพูดตรงๆ ว่า “เลขบัญชีธนาคารของฉันคือ 6210 … เราจะเริ่มการสัมภาษณ์กันทันทีเลยหลังจากที่คุณโอนเงินเรียบร้อยแล้ว”
หยางเฉียนโอนเงินอย่างรวดเร็วและได้รับเชิญโดยลู่หยานให้เข้าไปในบ้าน
หยางเฉียนนั่งอยู่บนโซฟาและไม่พูดอะไรสักคำ หลังจากให้ตากล้องเปิดกล้องแล้ว เธอก็ตรงเข้าประเด็นในทันที
“นักเรียนลู่หยาน อาชีพเนโครแมนเซอร์ไม่ใช่อาชีพสายต่อสู้ที่อ่อนแอที่สุดหรอ? คุณสามารถเคลียร์ความยากระดับฝันร้ายด้วยอาชีพเนโครแมนเซอร์ได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังทำสถิติผลงานได้ในเวลาเพียง 15 นาที 20 วินาทีอีกด้วย”
หยางเฉียนวางไมโครโฟนจ่อไว้ที่ปากของลู่หยาน
ลู่หยานยิ้มและพูดว่า “เนโครแมนเซอร์เป็นอาชีพสายต่อสู้ที่อ่อนแอที่สุด แต่นั่นก็เพราะคุณยังไม่รู้จักเนโครแมนเซอร์ดีพอ นอกจากนี้ ปีศาจในการประเมินครั้งนี้ก็ยังเป็นอันเดด เพราะเหตุนี้เองเนโครแมนเซอร์จึงมีข้อดีเช่นกัน”
หยางเฉียนขมวดคิ้วและพูดว่า “แต่ตามความเข้าใจของฉัน มันก็มีบางคนที่ได้รับอาชีพเป็นเนโครแมนเซอร์ในปีนี้ด้วยเหมือนกัน ถึงอย่างนั้น พวกเขาทั้งหมดก็ยังล้วนมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการผ่านการประเมินระดับธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้น มันก็ยังมีบางคนที่ไม่ผ่านการประเมินระดับธรรมดาด้วยซ้ำ”
ลู่หยานกล่าวต่อว่า “นอกจากนี้เรื่องพวกนี้แล้ว มันก็ยังมีความแตกต่างในระหว่างเนโครแมนเซอร์ด้วยกันด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ตัวผมเองก็ยังมีพรสวรรค์ด้านพลังอันเดดอีกด้วย”
“พรสวรรค์?” หยางเฉียนเลิกคิ้วขึ้น
“ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ด้านพลังอันเดดอันสูงส่งและทรงพลังของผม อาจารย์ของผมก็คงจะไม่ยอมรับผมเข้าเป็นศิษย์แน่”
“อาจารย์?” หยางเฉียนสังเกตเห็นคำนี้ในทันที
“เอ่อ.. อาจารย์อะไร? เมื่อกี้ฉันพูดถึงอาจารย์ไปหรอ?” ลู่หยานมองไปที่หยางเฉียนและถามด้วยท่าทางแปลกๆ
“ลู่หยาน เมื่อกี้คุณพูดถึงอาจารย์ของคุณ ดังนั้นฉันจึงสงสัยว่าใครเป็นอาจารย์ของคุณกัน? เขาเกี่ยวข้องกับผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของคุณด้วยรึเปล่า?”
หยางเฉียนมองไปที่ลู่หยานด้วยรอยยิ้มและกำหมัดแน่น
เธอคิดกับตัวเองว่า “ไอ้สารเลว ฉันจ่ายเงินไปแล้ว เพราะฉะนั้นนายก็ไม่ควรจะปิดซ่อนอะไรจากฉันแล้ว!”
ลู่หยานหัวเราะเบาๆ ในใจ เขายอมรับการให้สัมภาษณ์เพื่อสร้างเหยื่อล่อที่เรียกว่า “อาจารย์” ขึ้นมา
ทันใดนั้นเอง ลู่หยานก็พูดด้วยสีหน้าเดือดดาลว่า “อั้ยย้ะ ฉันนี่สะเพร่าจริงๆ อย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้กับคุณมากเกินไปได้ ฉันบอกได้แค่ว่าอาจารย์ของฉันเป็นเนโครแมนเซอร์ที่ทรงพลังมาก”
“เขามีความสำเร็จสูงมากในด้านพลังอันเดด เมื่อสามปีที่แล้ว เขาพบฉันเข้าโดยบังเอิญและบอกฉันว่าฉันมีความสามารถด้านพลังอันเดดสูงมากและต้องการจะรับฉันไปเป็นศิษย์ของเขา”
“ในตอนนั้น ฉันก็คิดว่าเขาจะต้องโกหกแน่ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเรียกมังกรกระดูกระดับวีรชนสองตัวออกมา ฉันถึงได้ตระหนักได้ว่าอาจารย์ของฉันนั้นทรงพลังเพียงใด”
“หลังจากนั้น เขาก็คอยช่วยฉันฝึกฝนพลังอันเดด เขาทำให้ฉันสามารถปลุกอาชีพเนโครแมนเซอร์ได้สำเร็จ”
หยางเฉียนมองไปที่ลู่หยานด้วยความตกใจและถามว่า “คุณกำลังจะบอกว่าอาจารย์ของคุณคนนี้เป็นคนที่ช่วยสอนคุณฝึกใช้พลังอันเดดล่วงหน้าเพื่อที่คุณจะได้สามารถปลุกอาชีพเนโครแมนเซอร์ได้สำเร็จอย่างงั้นหรอ?”
มีคนชี้แนะนักเรียนและสามารถทำให้เขาเลือกสายอาชีพที่แน่นอนได้อย่างงั้นหรอ?
อย่างไรก็ตาม มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ผู้ที่จะสามารถทำเช่นนี้ได้คือทุกคนที่ปลุกอาชีพที่สองของพวกเขาขึ้นมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ยังจะต้องเป็นบุคคลชั้นยอด
“แน่นอน คุณก็เห็นวิดีโอการประเมินของฉันแล้ว เกราะป้องกันที่ทรงพลังนั่นควบแน่นมาจากพลังอันเดดบนร่างกายของฉันและเคียวที่เฉียบคมอย่างหาที่เปรียบมิได้นั่นก็เป็นผลมาจากสกิลที่อาจารย์ของฉันได้สอนฉันมา”
“ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งสองสกิลนี้ มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะไปท้าทายระดับฝันร้าย”
หยางเฉียนตกใจมาก เธอไม่ได้คาดคิดว่าผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมของลู่หยานนั้นจะเป็นผลมาจากอาจารย์ที่ทรงพลังของเขา
เกราะป้องกันและเคียวที่ทรงพลังเป็นสองสกิลอันเดดที่ไม่เคยปรากฏขึ้นที่ไหนมาก่อน
เพื่อที่จะทำสิ่งนี้ได้ อาจารย์ของลู่หยานก็จะต้องมาถึงจุดสูงสุดของสายอันเดดแล้วอย่างแน่นอน
อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นบุคคลระดับตำนาน
ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ผลลัพธ์นี้ก็ดูเหมือนจะยอมรับได้ง่ายมาก ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นเรื่องแปลกที่จะได้เห็นเนโครแมนเซอร์เคลียร์ความยากระดับฝันร้ายได้เร็วถึงขนาดนี้ ฉะนั้นแล้ว ถ้ามันไม่ใช่เพราะอาจารย์ของเขาคนนี้ แล้วมันจะเป็นอะไรไปได้อีก?”
ต่อไป หยางเฉียนได้ถามคำถามอีกสองสามข้อ และลู่หยานก็ตอบอย่างจริงจังและไม่ตอบหักเลี้ยวแต่อย่างใด
หลังจากที่หยางเฉียนจากไปด้วยความพึงพอใจ ลู่หยานก็นั่งลงบนโซฟาและนึกถึงกระบวนการทั้งหมด มันน่าจะไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ
ในขณะนี้ ลู่หยานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและถูขมับของเขา
นับตั้งแต่ที่เขาเตรียมพร้อมที่จะโจมตีหูเว่ยและหวังเฟิงเมื่อวานนี้ ลู่หยานก็ได้นึกถึงการสัมภาษณ์ที่เขาจะต้องทำในวันนี้มาก่อนแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการสัมภาษณ์ในวันนี้คือการเปิดเผยว่าเขามีอาจารย์ที่ทรงพลังมาก
นี่เป็นเพราะลู่หยานรู้ว่าซิงก้านั้นทรงพลังและโหดเหี้ยมเพียงใด
เนื่องจากพวกเขาตั้งเป้าหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงจะไม่ยอมปล่อยเขาไปเพียงเพราะผลงานของเขาในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแน่
ตรงกันข้าม นี่รั้งแต่จะเพิ่มโอกาสสูงที่เขาจะถูกซิงก้าฆ่า
ลู่หยานต้องการเอาชีวิตรอดให้ได้ แล้วนับประสาอะไรกับการกลืนความโกรธนี้? ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงเลือกที่จะฆ่าหูเว่ยและหวังเฟิงก่อนแล้วปล่อยให้สิ่งที่เรียกว่า “อาจารย์” ของเขาเป็นฝ่ายรับโทษไป
ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถระบายความโกรธได้เท่านั้น แต่เขายังจะสามารถข่มขู่ซิงก้าได้อีกด้วย
วิธีอื่นไม่มีประโยชน์มากนักในการต่อสู้กับกลุ่มใต้ดินอย่างซิงก้า
ลู่หยานยังไม่เชื่อว่าคำเตือนด้วยวาจาของผู้อำนวยการหลี่จะสามารถป้องกันไม่ให้ซิงก้าทำร้ายเขาได้
ความแข็งแกร่งอันทรงพลังเท่านั้นที่จะทำให้ซิงก้าหวาดกลัวได้
ตอนนี้เขายังไม่มีความแข็งแกร่งนี้ แต่เขาก็จะสามารถ "สร้าง" ความแข็งแกร่งดังกล่าวได้ในไม่ช้าก็เร็ว
หากเขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ทำผลงานได้ค่อนข้างดีในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซิงก้าก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีอาจารย์ผู้ทรงพลังอยู่ข้างหลังเขา มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ซิงก้าหวาดกลัว
แน่นอนว่าคำอธิบายนี้คงอยู่ได้ไม่นาน
อย่างไรก็ตาม ลู่หยานก็ไม่ได้ต้องการเวลานาน
เขาแค่ต้องรอให้ผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกก่อนแล้วค่อยเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ
ไม่เหมือนกับการสอนทฤษฎีของโรงเรียนประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย หลังจากที่มาถึงมหาวิทยาลัยแล้ว มันก็จะมีการสอนการต่อสู้และทำภารกิจต่างๆ เมื่อครูและนักเรียนต่อสู้กัน ความผูกพันระหว่างพวกเขาก็จะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และโดยพื้นฐานแล้ว มันก็เป็นความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์
เพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัยของพวกเขาเองก็ยังเทียบเท่ากับลูกศิษย์ด้วยกัน
ในเวลานั้นคณาจารย์ ครูและนักเรียนทั้งหมดก็จะยืนอยู่ข้างหลังลู่หยาน
และเมื่อถึงเวลานั้น ซิงก้าก็จะไม่กล้ายั่วโมโหเขาแน่นอน
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามันไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอาจารย์ผู้ทรงพลังอยู่จริงในภายหลัง แต่พวกเขาก็จะทำได้เพียงต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในความเงียบเท่านั้น
“ถึงอย่างนั้น ฉันก็จะไม่ปล่อยให้เรื่องที่พวกมันทำกับพี่หลิวลี่จบไปง่ายๆ แน่ ฉันจะไปจัดการกับพวกมันหลังจากที่ฉันเข้ามหาวิทยาลัยและเพิ่มความแข็งแกร่งของฉันเรียบร้อยแล้ว!”
ดวงตาของลู่หยานเผยให้เห็นร่องรอยของความเกลียดชังที่ซ่อนอยู่ จากนั้นเขาก็ทานอาหารง่ายๆ และเริ่มการฝึก
ภารกิจของเขาในวันนี้ยังไม่เสร็จสิ้น
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่หยานเสร็จสิ้นการทำภารกิจประจำวันของเขา
ภารกิจประจำวันนี้จัดขึ้นตามสภาพร่างกายของเขา ตอนนี้ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นแล้ว ดังนั้นความยากของภารกิจจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
[ ภารกิจประจำวัน: ซิทอัพ (500/500), กระโดดลุกนั่ง (300/300), วิดพื้น (600/600)]
[ คุณทำภารกิจของวันนี้เสร็จแล้ว คุณสามารถเลือกรับรางวัลได้ดังต่อไปนี้ ]
[ รางวัลที่ 1: รับคะแนนค่าคุณสมบัติฟรี 6 คะแนน ]
[ รางวัลที่ 2: รับคะแนนสกิล 3 คะแนนและคะแนนค่าคุณสมบัติฟรี 3 คะแนน ]
[ รางวัลที่ 3: รับหนังสือสกิลอาชีพ ]