ตอนที่ 7 เลขาสาวของฉัน ถูกพวกอุจิวะขโมยไปแล้ว?
การเป็นนินจาไม่อาจช่วยตระกูลอุจิวะได้!
แต่การมีลูกช่วยได้!
ดวงตาของซาสึเกะเต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่ง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงตามแบบฉบับของตระกูลอุจิวะ
ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นซาสึเกะแบบนี้ ต่อให้มองข้ามสัญลักษณ์ประจำตระกูลที่ปักอยู่ข้างหลังและดวงเนตร ก็ย่อมเห็นได้ชัดเจนว่าเขาเป็นตระกูลอุจิวะเลือดบริสุทธิ์ที่สุด!
โฮคาเงะรุ่นที่สามอ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกอยู่สักพัก
นัตสึฮิโกะกระแอมไอ
"ท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 3 อดีตผู้นำตระกูลฟุงาคุฟื้นฟูตระกูลยังไม่ถึงครึ่งทางแล้วพังทลายลงกลางทางเสียก่อน นับว่าอยู่ที่ 5 คะแนน แต่ตระกูลก็เหนื่อยล้าเสียแล้ว นี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย..."
"ตระกูลอุจิวะของผมมีคณูปการและอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ต่อหมู่บ้านเสมอมา และโชคยังดีที่ผมมีรอดชีวิตอยู่ ตระกูลจึงยังไม่ถูกตัดขาด ตอนนี้ผมอยากลุกขึ้นสู้เพื่อตระกูล อยากมีลูกจำนวนมากเพื่อฟื้นฟูตระกูลอุจิวะ..."
นัตสึฮิโกะพึมพำอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเสริมบางคำในคำพูดของซาสึเกะ
“หากผู้หญิงคนไหนมีขีดจำกัดสายเลือดคัดสรร ตระกูลอุจิวะของผมสามารถเพิ่มเงินให้ได้”
"แค่ก ๆ"
โฮคาเงะรุ่นที่สามกระแอมไอสองครั้ง เขาพูดด้วยเส้นสีดำที่ขึ้นอยู่ทั่วหน้าผากว่า: "นัตสึฮิโกะ ฉันเข้าใจความรู้สึกในการฟื้นฟูตระกูลอุจิวะของนายนะ แต่สำหรับนินจา นายไม่ควรห่วงแต่เรื่องกอบกู้ศักดิ์ศรีของตระกุลอุจิวะในอดีต หากป่าวประกาศออกไปแบบนี้ศักดิ์ศรีของตระกูลอุจิวะที่เคยดังก้องไปทั่วโลกนินจาจะไม่มัวหมองเอาเหรอ?”
โฮคาเงะรุ่นที่สามพยายามสุดความสามารถที่จะหลอกล่อนัตสึฮิโกะให้เดินไปตามเส้นเรื่องที่วางเอาไว้สำหรับซาสึเกะแต่เดิม
แต่นัตสึฮิโกะกลับพูดโดยไม่ลังเล: "ไม่ ท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ผมรู้ดีถึงพรสวรรค์ของตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องชื่อเสียงในอดีต แม้แต่ตอนนี้ผมกลัวว่าการจะล้างแค้นยังต้องอาศัยการเติบโตของซาสึเกะเลย"
"สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือสืบสานสายเลือดของตระกูลอุจิวะ ส่วนเรื่องอื่นไม่มีความหมายอะไร"
"ได้โปรดเถอะท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 3 โปรดอนุญาติให้ตระกูลอุจิวะทำภารกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้สายเลือดด้วยเถอะครับ"
โฮคาเงะรุ่นที่สาม: "..."
เขาเงียบไปนาน จนในที่สุดก็ถอนหายใจเบา ๆ: "นายแน่ใจดีแล้วเหรอ หากทำไปจะย้อนกลับไม่ได้แล้วนะ"
“หากนายใช้วิธีนี้เพื่อฟื้นฟูตระกูล ชื่อเสียงของนายจะถูกทำลายอย่างป่นปี้”
ด้วยวัยของซาสึเกะ เขาย่อมไม่ตกเป็นเป้าของ 'การทำภารกิจ' อย่างแน่นอน
นัตสึฮิโกะจึงต้องเป็นม้าป่าพ่อพันธุ์คนเดียว
ตระกูลอุจิวะที่เย่อหยิ่ง ตระกูลอุจิวะที่เคยถูกขนานนามว่าเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนินจา กลับมีผู้นำตระกูลเป็นม้าป่าพ่อพันธุ์?
“ตระกูลสำคัญกว่าชื่อเสียงส่วนตัวของผม!” นัตสึฮิโกะพูดโดยไม่ลังเล
“ก็ได้ ตามที่นายต้องการ”
"ขอบคุณครับท่านโฮคาเงะ"
...
นัตสึฮิโกะ ซาสึเกะ และยูกิโนะเดินออกจากสำนักงานโฮคาเงะ
ซารุโทบิ ฮิรุเซ็นมองไปยังแผ่นหลังของพวกเขาแล้วทอดถอนใจ
"น่าเสียดาย เห็นแบบนี้แล้ว นัตสึฮิโกะน่าจะไม่มีแผนออกไปทำภารกิจ..."
มรดกของตระกูลอุจิวะนั้นมีมากมายมหาศาล ตราบใดที่มีอุบัติเหตุสักเล็กน้อยตอนที่นัตสึฮิโกะที่เป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียวในตระกูลอุจิวะออกไปทำภารกิจนอกหมู่บ้าน โคโนฮะก็มีวิธีที่จะนำมรดกเหล่านั้นมาอยู่ภายใต้การควบคุม
ที่จริง หากผลพวงที่ตามมาของการฆ่าล้างตระกูลอุจิวะไม่ถูกกำจัด ฉันคงได้แต่ต้องห่วงว่าตระกูลใหญ่จะไม่มีความคิดเป็นอื่นตอนที่ฉันลงมือเคลื่อนไหวอะไรสักอย่าง
อีกอย่าง ฉันกลัวว่านัตสึฮิโกะจะถูกลอบสังหารในหมู่บ้านแล้วสิ!
แต่ไม่เป็นไร
การเติบโตของตระกูลอุจิวะก็ส่งผลดีต่อโคโนฮะเหมือนกัน
โฮคาเงะรุ่นที่สามซารุโทบิ ฮิรุเซ็นรู้ดีว่าในอดีตตระกูลอุจิวะเป็นศัตรูตัวฉกาจของโคโนฮะ แต่ตอนนี้ตระกูลอุจิวะเหลือแค่ลูกแมวน้อยสองตัว ตระกูลอุจิวะจึงเชื่องขึ้นเยอะ
ต่อไป ค่อยพยายามล้างสมองแล้วใช้ลูกหลานของตระกูลอุจิวะเป็นมือเป็นเท้าแล้วกัน
โฮคาเงะรุ่นที่สามซารุโทบิ ฮิรุเซ็นจึงพยายามข่มความโลภเอาไว้ในใจ ไม่ให้มองไปที่ 'รายการอ้างอิง' ของตระกูลอุจิวะบนโต๊ะ
มารดามันเถอะ!
ตระกูลอุจิวะรวยเสียจริง!
แม้แต่จูนินก็ยังทำภารกิจนี้เพื่อเอารางวัลสิบล้านเรียวและวิชานินจาระดับ B จากตระกูลอุจิวะได้
แค่ "ทำการบ้าน" “ตั้งท้อง” “กักตัวหลังคลอด...”
สมมติว่า 'ภารกิจ' นี้ต้องใช้เวลาในการทำ 'ภารกิจ' หนึ่งปี เท่ากับว่าเป็นจูนินที่มีรายได้ปีละสิบล้านเรียว!
สิบล้านเรียว...
ภารกิจระดับ S ขั้นต่ำยังต้องใช้ทีมโจนินพิเศษทำภารกิจถึงหนึ่งเดือน แต่รางวัลกลับมีแค่หนึ่งล้านเรียว!
แถมยังต้องแบ่งกับสมาชิกในทีม!
เมื่อคำนวณแล้ว การทำภารกิจของตระกูลอุจิวะหนึ่งปีแทบเท่ากับโจนินที่ทำภารกิจระดับ S ขั้นกลางทั้งปีโดยไม่มีการหยุดพัก...
ไม่ต้องพูดถึงว่ามีรางวัลเป็นวิชานินจาระดับ B ที่ล้ำค่าเพิ่มด้วย!
แถมราคาของนินจาสาวระดับโจนินและระดับคาเงะยังเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ส่วนค่าตอบแทนน่าผวาเลยทีเดียว!
หลังจากคำนวณเสร็จแล้ว ซารุโทบิ ฮิรุเซ็นถึงกับอยากจะจัดให้นินจาสาวจากตระกูลซารุโทบิสักสองสามคนไปที่นั่น...
"อะแฮ่ม!"
โฮคาเงะรุ่นที่สามกระแอมแล้วโบกมือให้เลขาสาวที่อยู่ข้าง ๆ
"จุนโกะ ใส่ข้อเสนอของภารกิจนี้ลงในรายการภารกิจ"
แต่เลขาสาวกำลังตกอยู่ในภวังค์และความงุนงง
"จุนโกะ? จุนโกะ? จุนโกะ!"
โฮคาเงะรุ่นที่สามขึ้นเสียง เลขาสาวจุนโกะก็ตื่นขึ้นทันที
“อา! ค่ะ ท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 3!”
เธอเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว และจากนั้นไม่นาน จู่ ๆ เธอก็พูดอย่างไม่แยแส: "พูดถึงเรื่องนั้น ท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 3 การประเมินจูนินของปีนี้ใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ท่านจะรายงานแจ้งการประเมินเลื่อนระดับจูนินเมื่อไหร่คะ"
“อ๋อ? เธออยากสอบด้วย?” โฮคาเงะรุ่นที่สามยิ้ม เขาคิดว่าควรให้กำลังใจลูกน้องที่มีแรงจูงใจแอบแฝงสักหน่อย: "น่าจะอีกสามเดือน หากเธออยากสอบ เธอต้องเตรียมตัวให้ดี—"
"อือคะ นานมาก" จุนโกะดูผิดหวัง: "ดูท่าฉันจะต้องรับภารกิจระดับจูนินอย่างเดียว ไม่อย่างนั้น พออีกสามเดือน มีหวังพวกนังปลาซิวปลาสร้อยฉกภารกิจนี้ไป"
“ช่างเถอะ ภารกิจระดับจูนินราคาต่ำก็คว้าเอาไว้ก่อนดีกว่า”
จากนั้นเธอก็ส่ายสะโพกโยกย้ายแล้วกระทืบส้นสูงเพื่อไปโพสต์รายการภารกิจ
โฮคาเงะรุ่นที่สาม มองตามแผ่นหลังของจุนโกะด้วยสีหน้างุนงง
จากความละอายใจเปลี่ยนเป็นความไม่อยากจะเชื่อ
“เลขาสาวของฉัน ถูกพวกอุจิวะขโมยไปแล้ว?”
…
แฟนเพจ: Fanfiction Translate