ตอนที่ 7 : ของปลอม ส่งสาวสวยกลับบ้าน!
ตอนที่ 7 : ของปลอม ส่งสาวสวยกลับบ้าน!
ในเวลานี้ บรรยากาศของห้องส่วนตัวก็ตึงเครียดขึ้นมา
มันมีบางคนยืนขึ้นและพยายามทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง
“มันไม่ง่ายเลยที่เราจะได้มาเจอกัน มา มาดื่มกันเถอะ!”
“ใช่ๆ! มาดื่มกันเถอะ!”
ด้วยเหตุนี้เอง ทุกคนจึงยืนขึ้น ยกแก้วขึ้น และดื่มจนหนำใจ
บรรยากาศในห้องส่วนตัวผ่อนคลายลงเล็กน้อยหลังจากการดื่ม
ผู้คนเริ่มพูดคุยกัน และพวกเขาก็หัวเราะออกมาเป็นครั้งคราว
ต้องบอกว่าหูจินซ่งมีทักษะในการสื่อสารที่ดีจริงๆ
ในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นจุดสนใจของห้อง
หูจินซ่งเหลือบมองไปยังหลินฝานที่นั่งอยู่ในมุมหนึ่งโดยไม่พูดอะไร
“หลินฝาน ทำไมนายไม่พูดอะไรสักหน่อยล่ะ?” เขาถาม
น้ำเสียงของหูจินซ่งนั้นผ่อนคลายและสบายๆ มาก
มันราวกับว่าเขาลืมไปแล้วว่าหลินฝานได้เปิดเผยเรื่องอื้อฉาวของเขากับป้าหวังในที่สาธารณะ
หลังจากหยุดชะงักไปชั่วขณะ เขาก็พูดต่อ “โอ้ใช่หลินฝาน ตอนนายเรียนจบ นายก็ไปทำงานเลย นายคงมีรายได้ไม่น้อยเลยใช่ไหม? นายซื้อรถแบบไหนมาใช้กัน?”
“เงินเดือนของหลินฝานก็แค่ไม่กี่พันหยวน ทำไมเขาต้องซื้อรถด้วย? ฉันไม่คิดว่าเขาจะดูแลตัวเองได้ด้วยซ้ำ” หวังฮ่าวฉีแค่นเสียง
ตอนมอปลาย หลินฝานทั้งสูงและหล่อ นอกจากนี้ เขายังเรียนเก่งมาก อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นผู้มีอิทธิพลในชั้นเรียนของเขาเลย
เป็นผลทำให้สาวๆ หลายคนในชั้นปีตกหลุมรักเขา
หวังฮ่าวฉีอิจฉาเรื่องนี้มาก
ในตอนนี้ที่เขาเห็นว่าหลินฝานอยู่ในสภาพแย่ๆ แบบนี้ เขาจึงฉวยโอกาสนี้เยาะเย้ยอีกฝ่าย เขารู้สึกเหมือนเป็นขุนนางที่เหยียบย่ำขอทาน
“อะไรนะ? เงินเดือนเขาแค่ไม่กี่พันหยวนเองเหรอ?” หูจินซ่งกล่าวและแสร้งทำเป็นประหลาดใจ
หลินฝานไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย
เด็กน้อยจริงๆ!
ในความเห็นของเขา เรื่องทั้งหมดนี้ช่างเด็กน้อยเสียเหลือเกิน!
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจคนพวกนี้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนพวกนี้จะปล่อยเขาไป
“หืม?” หูจินซ่งประหลาดใจ “หลินฝาน นายใส่นาฬิกาด้วยเหรอ? มันดูดีเชียวนะ! เอามาให้พวกเราชมหน่อยสิ!”
หลินฝานพูดอย่างใจเย็น “มันก็แค่นาฬิกา มันไม่มีอะไรให้ชื่นชมหรอก”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ พวกเราต่างก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน พวกเราแค่หาเรื่องคุยหน่ะ!”
“ไม่ต้องห่วง พวกเราไม่ทำมันพังหรอก แม้ว่าฉันจะทำมันพัง ฉันก็สัญญาว่าจะซื้อเรือนใหม่ให้เอง” หูจินซ่งกล่าว
“ใช่ พวกเราแค่จะดูมันเฉยๆ” หวังฮ่าวฉีกล่าว
เซินเหลียงดูสงสัยและแนะนำ “หลินฝาน ทำไมนายไม่โชว์มันให้ทุกคนเห็นหน่อยล่ะ?”
ความประทับใจของหลินฝานมีต่อเซินเหลียงนั้นไม่เลวเลย เมื่อเห็นว่าเขาแทรกเข้ามา หลินฝานก็วางวาเชอรอง กงสตองแตง ทัวร์เดอลีลไว้บนโต๊ะ
หูจินซ่งโยนมันไปมาระหว่างสองมือของเขาสองสามครั้งก่อนที่จะพูดว่า “มันมีน้ำหนักพอตัวเลยนะเนี้ย”
“แบรนด์อะไรเหรอ?” หวังฮ่าวฉีถาม “มันดูดีเชียว!”
“เฉียวโป้เพื่อนของฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกา แค่ส่งมันให้เขาดู เขาก็รู้แล้ว” หูจินซ่งไม่สนใจที่จะขออนุญาตจากหลินฝานด้วยซ้ำ เขาถ่ายรูปมันและส่งให้เพื่อนทันที
เขาอยากโชว์เส้นสายอันแข็งแกร่งของเขาและเยาะเย้ยหลินฝาน
น่าเสียดายที่เฉียวโป้ไม่ได้ตอบกลับในทันที
“รอสักพักละกัน” หูจินซ่งกล่าว “เขาอาจจะยุ่งอยู่”
เมื่อเซินเหลียงเห็นวาเชอรอง กงสตองแตง ทัวร์เดอลีลครั้งแรก เขาก็อึ้งไปและอดถามออกมาไม่ได้ “หลินฝาน นายซื้อนาฬิกาเรือนนี้มาเท่าไร?”
“ฉันไม่ได้ใช้เงินเลย” หลินฝานตอบ
เขาไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ
นี่เป็นเพราะเขาได้มันมาจากอั่งเปา
“นายไม่ได้ใช้เงินเลย? หลินฝาน อย่าบอกฉันนะว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นของแถมที่นายได้มาตอนซื้อของอย่างอื่น?” หวังฮ่าวฉีหัวเราะ
“ของแถมงั้นเหรอ?” หูจินซ่งถาม “หลินฝาน นายน่าจะบอกฉันตั้งแต่เนิ่นๆ! ฉันไม่น่าถ่ายรูปมันส่งให้เพื่อนของฉันดูเลย โดยปกติแล้วของแถมพวกนั้นจะเป็นของเลียนแบบหรือของปลอมคุณภาพสูง”
“เพื่อนของฉันเกลียดของปลอมที่สุด เมื่อเขาเห็นรูป เขาจะต้องโมโหแน่”
หลังจากที่หูจินซ่งพูดจบ เขาก็โยนนาฬิกากลับไปที่โต๊ะตรงๆ
หลังจากนั้นหูจินซ่งก็ใช้น้ำเสียงบรรยายและพูดว่า "หลินฝาน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะวิจารณ์นะ แต่เราต่างก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน มันไม่มีประโยชน์ที่จะโชว์โดยใช้นาฬิกาเลย”
ลองถามเพื่อนร่วมรุ่นของเราดูสิ ใครจะใช้ของปลอมมาโชว์กัน?”
ในความเป็นจริง บางคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็ใช้สินค้าของปลอมกันอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีทางยอมรับมัน
พวกเขาต้องรักษาศักดิ์ศรีเอาไว้!
หากพวกเขายอมรับ ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นการเปิดเผยความจริงที่ว่าชีวิตพวกเขาไม่ได้ดีและซื้อได้เฉพาะของปลอมงั้นเหรอ?
ดังนั้นทุกคนจึงส่ายหัว
“คุณภาพของของปลอมแย่กว่าของจริงมาก”
“ฉันไม่เคยใช้ของปลอมเลย”
“ถ้านายมีเงินไม่พอ ก็แค่ซื้อของที่ด้อยกว่าสักหน่อย ทำไมต้องซื้อของเลียนแบบด้วย?”
หยางเวิ่นซูโบกกระเป๋ากุชชี่ของเธอและกล่าวว่า “พวกคนที่ใช้ของปลอมต่างก็เป็นพวกขี้แพ้ทั้งนั้น! สามีของฉันไม่เคยซื้อของปลอมให้ฉันเลย”
หยางเวิ่นซูกอดแขนของตู้เล่ยและถูมันขึ้นลง
เมื่อรู้สึกถึงความนุ่มที่แขนของเขา ความโกรธของตู้เล่ยก็ค่อยๆ หายไป
...
หลินฝานฟังคำพูดของทุกคน พวกมันเหมือนแมลงวันจำนวนนับไม่ถ้วนบินว่อนไปมา ในที่สุดเขาก็โกรธเล็กน้อยและตะโกนออกไปว่า “ตราบใดที่ฉันชอบ มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของพวกนาย”
ในทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็เก็บนาฬิกากลับมาและสวมมันเข้าไปที่ข้อมืออีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง สีหน้าของทุกคนในห้องส่วนตัวก็คล้ำลงยิ่งขึ้น
หลินฝานเพิ่งดุพวกเขาไป!
เซินเหลียงคิดว่าถ้าเขาไม่บอกให้หลินฝานถอดนาฬิกาออก เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น
“ทุกคนกินข้าวกันเกือบเสร็จแล้ว” เขาพูด “ไปร้องเพลงที่ร้านคาราโอเกะกันต่อเถอะ”
“ก็ได้ๆ ไปกัน!”
“ไปกันเถอะ”
นักเรียนทุกคนเห็นด้วย
“ฉันขอตัวล่ะ” หลินฝานกล่าว
เหตุผลหลักที่หลินฝานเข้าร่วมการรวมรุ่นในครั้งนี้ก็คือเขาต้องการพบเพื่อนดีๆ จากโรงเรียนมัธยม
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มา
หลินฝานได้ไว้หน้าเพื่อนร่วมชั้นของเขาแล้วโดยการอยู่ให้นานพอสำหรับมื้อนี้
เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ตามคนพวกนี้ไปร้องเพลงต่อ
“ฉันก็มีเรื่องต้องไปทำเหมือนกัน” ฉินอวี่ซวนพูดออกมาเช่นกัน “ฉันขอไม่ไปร้องเพลงด้วยนะ เที่ยวให้สนุกนะทุกคน”
หลายคนดีใจที่รู้ว่าหลินฝานจะไม่ไปด้วย
อย่างไรก็ตาม สาวสวยอย่างฉินอวี่ซวนก็ไม่ไปด้วย พวกเขาต่างพากันเศร้าเมื่อได้ยินเช่นนี้
ดังนั้นหลายคนจึงพยายามที่จะหยุดเธอ
ฉินอวี่ซวนตอบกลับด้วยการปฏิเสธทุกคนโดยบอกว่าเธอมีเรื่องต้องไปทำที่บ้าน
“เธออยากให้ฉันไปส่งไหม?” หลินฝานถามอย่างสบายๆ
“งั้นก็รบกวนหน่อยนะ” ฉินอวี่ซวนตอบด้วยรอยยิ้ม
หลินฝานอึ้งไป
ในความเป็นจริงเขาแค่ถามไปตามมารยาท เขาไม่คิดว่าฉินอวี่ซวนจะตอบตกลงจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาถามเธอไปแล้ว เขาจะกลับคำพูดของตัวเองได้ยังไง?
ดังนั้นทั้งสองคนจึงเดินไปที่ลานจอดรถด้วยกัน
ทุกคนต่างก็เห็นภาพฉากนี้
“พวกเขาสองคนมีซัมติงอะไรกันหรือเปล่า?”
“ฉินอวี่ซวนจะสนใจในตัวเขาได้ยังไง?”
“พวกเขากำลังเดินไปที่ลานจอดรถ หลินฝานไม่มีรถไม่ใช่เหรอ?”
“แท็กซี่คันหนึ่งเพิ่งเข้ามาที่ลานจอดรถ เขาน่าจะเรียกมันใช่ไหม?” หวังฮ่าวฉีกล่าว
ในทันทีที่เขาพูดจบ ใบหน้าของนักเรียนทุกคนก็เต็มไปด้วยความดูถูก
ในความเห็นของพวกเขา มันควรจะต้องใช้รถหรูเพื่อไปส่งสาวสวยอย่างฉินอวี่ซวนกลับไป!
แท็กซี่งั้นเหรอ? มันช่างน่าอายจริงๆ
“สามีของฉันไม่ใช้รถเบนซ์ก็ BMW เพื่อไปส่งฉันที่บ้าน” หยางเวิ่นซูแค่นเสียง “แท็กซี่งั้นเหรอ? หลินฝานช่างน่าไม่อายจริงๆ!”
หูจินซ่งมองไปยังแผ่นหลังของหลินฝานและฉินอวี่ซวนในขณะที่พวกเขาเดินออกไปและกล่าวว่า “BMW ซีรีย์ 5 ของฉันก็อยู่ทางนั้น”
“หูจินซ่ง ฉันคิดว่านายควรไปส่งฉินอวี่ซวนกลับบ้านนะ” หวังฮ่าวฉีกล่าว
แม้ว่าหวังฮ่าวฉีจะหลงใหลในความสวยของฉินอวี่ซวนเหมือนกัน แต่เขาก็มีแค่รถโคโรล่าราคา 100,000 หยวนเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะสมที่เขาจะยกเรื่องการขับรถไปส่งฉินอวี่ซวนขึ้นมาพูด
หวังฮ่าวฉีเกลียดหลินฝาน
เขายอมให้หูจินซ่งไปส่งฉินอวี่ซวนดีกว่าที่จะยอมให้หลินฝานได้โอกาสไป
“ใช่ พวกเราไม่อาจปล่อยให้ฉินคนสวยนั่งแท็กซี่กลับบ้านได้ มิฉะนั้นครอบครัวของเธอจะคิดว่าพวกเราดูแลเธอไม่ดีเอาได้”
“ใช่เลย!”
ทุกคนเห็นด้วย
หัวใจของหูจินซ่งเต้นระรัวด้วยความดีใจ เขาน้ำลายไหลเพราะฉินอวี่ซวนมาเป็นเวลานานแล้ว
ถ้าเขาสามารถใช้เรื่องส่งเธอกลับบ้านเพื่อเข้าใกล้เธอมากขึ้น หรือหากมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา...
เมื่อคิดถึงจุดๆ นี้ หัวใจของหูจินซ่งก็ลุกไหม้ไปด้วยความปรารถนา
เขากลืนน้ำลายและกล่าวว่า “แล้วเรื่องไปต่อที่ร้านคาราโอเกะของพวกเราล่ะ?”
“ไม่ต้องห่วง พวกเราจะจองห้องส่วนตัวไว้และรอนาย!” หวังฮ่าวฉีกล่าว
“นี่… คงไม่เหมาะเท่าไรใช่ไหม?” หูจินซ่งแสร้งทำเป็นทำตัวลำบาก