ตอนที่ 1397 ท่านคือท่านแม่หรือ?
โลกแกนสมดุล
ที่ท้ายกำแพงปราณมีพฤกษาโลกเติบโตขึ้น
ต้นไม้เต็มไปด้วยหินงดงามต่างๆ มากมายและมีขนาดใหญ่มหึมา มันเติบโตช้าๆในโลกแกนสมดุลดูดซับพลังของโลกใหม่เสริมสร้างตนเองและเติบโตอย่างต่อเนื่องบนต้นไม้มีแฟรี่ดอกไม้ตัวเล็กมาก เมื่อนางเกิดขึ้นลืมตาที่ดูมีชีวิตชีวานางบินอยู่รอบๆ พฤกษาโลก นางยิ้มและสัมผัสต้นไม้เป็นครั้งคราวผลไม้และหินมีความสะอาดบริสุทธิ์มากมิทราบว่านางเอาหัวฝักบัวมาแต่ที่ใด นางอาบน้ำอย่างร่าเริง
ทุกคนมองภาพข้างหน้านี้ด้วยความผ่อนคลาย
“ต้นไม้ใหญ่และศิลาอยู่ด้วยกันในที่สุดจะไม่มีพลังใดมาแยกพวกเขาออกจากันได้” เสวี่ยอู๋เสียถอนหายใจ
“น่าซาบซึ้งใจจริงๆ” โล่วฮัวน้ำตาซึมทันทีขณะที่เป่าเอ๋อซาบซึ้งใจน้ำตาไหลพราก
“จบแบบนี้จะดีจริงๆหรือ?”เย่ว์หยางชื่นชมพรและความโชคดีที่ได้รับ แต่เขาไม่รู้สึกว่าพอ เขาแสดงอารมณ์ตรงๆทื่อๆ เป็นความเห็นแย้ง และแม้แต่คนที่อ่อนโยนที่สุดอย่างอู๋เหินและเย่ว์หวี่ก็ประท้วงคำพูดของเขาทันทีบางทีจุดสุดท้ายของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและเทพธิดาบุปผาอาจไม่ใช่จุดลงเอยที่ดีที่สุดแต่ทั้งสองก็มีผลลัพธ์ที่ดีไม่ใช่หรือ?
ชี่ตันจื้อหันกลับไปมองสหายเก่าอย่างเจี้ยนจางเซิง“เจ้าจะไม่จากไปหรือ?”
เจี้ยนจางเซิงเหมือนกลายเป็นคนหูหนวก
สายตาของเขามองดูที่กลุ่มดอกไม้
ในท่ามกลางกลุ่มดอกไม้มีแมงมุมเงินตัวเล็กร่างบอบบางค่อยๆ โผล่ออกมาจากกลีบดอกไม้ ดวงตาน้อยๆของมันมองดูโลกใหม่อย่างขลาดกลัว
“ที่รัก!มาที่มือข้าเถอะ” เจี้ยนจางเซิงตื่นเต้นจนอยากร้องไห้เขายื่นมือออกไปอย่างกระตือรือร้นแต่แมงมุมเงินน้อยตกใจกระโดดกลับเข้าไปในกลีบดอกไม้อีกครั้ง
เป็นเวลานาน
มันจึงค่อยโผล่หัวออกมา
มันเห็นบุรุษคนหนึ่งน้ำตานองหน้ายื่นมือออกมาหามันและมองดูมัน
“มาหาข้าเถอะที่รัก, ข้าจะพาตัวเจ้าไปเราจะเดินทางท่องเที่ยวในแดนสวรรค์ด้วยกัน...” เจี้ยนจางเซิงยื่นมือออกไปอย่างอดทน แมงมุมเงินน้อยสังเกตดูเขาอย่างหวาดๆไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด มันถึงกล้าก้าวขาทีละก้าว เจี้ยนจางเซิงไม่ขยับ เขายิ้มผ่องใสที่สุด แต่รอยยิ้มของเขาดูน่าเกลียดกว่าร้องไห้
“.....” แมงมุมเงินมองดูหวาดๆ และค่อยๆเข้าไปใกล้
ในที่สุดมันกระโดดขึ้นไปอยู่บนฝ่ามือของเจี้ยนจางเซิง
ด้วยความรู้สึกรักใคร่
มันพันใยรอบนิ้วของเขา
น้ำตาของเจี้ยนจางเซิงหยดใส่ตัวมัน
ใบหน้าของเขายิ้มจริงๆแมงมุมเงินน้อยอาจจะคุ้นชินแล้วและรู้สึกว่ารอยยิ้มที่น่าเกลียดกว่าการร้องไห้จู่ๆ ก็ดูมีความน่ากลัวน้อยลงมันเต้นอยู่บนฝ่ามือของเขาอย่างมีความสุข
ชี่ตันจื้อที่อยู่ข้างเขามองดูและส่ายหน้าถอนหายใจ“ทำไมถึงเหลือข้าอยู่เพียงลำพัง
“ฮื้ออออ!” เจ้าอ้วนไห่ซาบซึ้งจนต่อมน้ำตาแตก
“ร้องไห้ ใครตายหรือ?”เย่คงถามด้วยความสับสน
“ข้าซาบซึ้งมาก!” เจ้าอ้วนไห่ฉีกยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้มองดูสาวนกนางนวล “ที่รักเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้ว!”
“ไปตายซะไป...”สาวนกนางนวลเตะเจ้าอ้วนไห่ ที่คันเนื้อคันตัวทั้งวัน เขาพูดน่าเกลียดอย่างนี้ นางทนไม่ได้จริงๆ!
เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่หัวเราะจนหายใจไม่ทัน
ดีมาก ค่อยดูสนุกสนานในการรับชม
สำหรับความรู้สึกของเจ้าอ้วนไห่เล่า?
ใครจะสน?
มังกรปีศาจลุกขึ้นยืนในโลกที่เกิดใหม่ได้ทันที และร่างของเขาถูกปลดพันธนาการ เขาฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์และตะโกนขึ้นฟ้า “ข้าฟื้นคืนชีพอีกครั้งแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า ภายใต้สวรรค์นี้ใครจะล้อมจับข้าได้!” ด้วยการสนับสนุนของน้องที่เป็นเทพจอมราชันย์พี่ใหญ่มังกรปีศาจนี้จะไม่มีความสุขได้อย่างไร? เขาซึมเศร้ากดดันมาเป็นเวลานาน เพิ่งได้หายใจคล่องคอก็อยากแสดงออกบ้างเป็นธรรมดา
ฉงฉีคลั่งไคล้แบบอย่างของเขา “ใช่แล้วเราไปกวาดล้างแดนสวรรค์กันเถอะ ให้พวกนักสู้ทั้งหมดสั่นกลัวอยู่ใกล้เท้าของเรา!”
เย่ว์หยางแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเจ้างี่เง่าทั้งสอง
ไม่สามารถจับโยนออกไปได้!
“กวาดล้างหรือ ไม่มีใครหยุดข้าได้? แม้แต่เทพมังกรทองสหายเก่าข้า ก็ไม่สามารถทำได้อย่างนั้นหรือ!” มังกรปีศาจตอนนี้ตกตะลึง
“ใครบอก?” จู่ๆ มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
มังกรปีศาจเงยหน้ามองและพบว่าเป็นคนที่ขว้างค้อนจากนอกประตูเทพทำให้เขาหลังหัก เขาตกใจกลัวรีบไปซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเย่ว์หยางยืนขาสั่นราวกับลูกไก่ต้องลมหนาว นี่คือทูตของเทพมังกรทอง ไม่จำเป็นต้องพูดถึงพลังและขอบเขตพลังของเขา พูดถึงค้อนวิเศษไม่ว่ามังกรปีศาจจะยิ่งใหญ่เพียงไหนก็ไม่สามารถรับมือฝ่ายตรงข้ามได้ดังนั้นเขาจึงต้องทำเป็นเรียนรู้และได้รับผลบ้าง
โชคดีที่เย่ว์หยางอยู่ที่นี่ในฐานะพี่ใหญ่ทำให้เขาพลอยได้หน้าตาไปด้วย
มิฉะนั้นเขาต้องคุกเข่าก่อน
“ข้าจะไม่อ้างถึงศักดิ์ศรีของเทพมังกรทองต่อไปในอนาคต” หลังจากรับคารวะจากทุกคนตามมารยาทแล้วทูตของเทพมังกรทองถลึงตามองมังกรปีศาจทำให้พี่ใหญ่ผู้นี้ตกใจแทบปัสสาวะราด โชคดีที่เย่ว์หยางและมารดาผู้ลึกลับและคนอื่นๆ ช่วยขอนิรโทษมังกรปีศาจแต่จะไม่ยอมให้เขาท้าทายสัญลักษณ์เทพมังกรทองอีก คำอภัยโทษนี้ทำให้มังกรปีศาจดีใจหัวเราะร่าเต้นอย่างมีความสุข
“ข้าไม่พูด ข้าไม่ลบหลู่แล้วข้าเคารพนับถือท่านเทพมังกรทองจากก้นบึ้งหัวใจมาโดยตลอด” ทันทีที่เขาเห็นว่าปลอดภัยไร้อันตรายเขารีบโดดออกมาจากด้านหลังเย่ว์หยางทันที เสนอหน้ายื่นมือ“ความผิดได้รับอภัยโทษไปแล้ว และข้าได้ทำความดีความชอบครั้งในการเลื่อนชั้นของเทพจอมราชันย์ถึงสองคนดีกว่าจะมีตอบแทนข้าด้วยค้อนอาญาสวรรค์ข้าสัญญาว่าต่อไปในอนาคตข้าจะมุ่งมั่นสร้างความดีความชอบใหม่ๆ อีก”
“ไสหัวไปอยู่ห่างๆ เลย!” เทวทูตมังกรโกรธ“ถ้ายังจะพูดอีก ข้าจะถลกหนังของเจ้า!”
“......” มังกรปีศาจรีบเอามืออุดปาก
“ดุโคตร!” ฉงฉีบุรุษที่ไม่กลัวตายกระซิบบ่นเขาไม่พอใจที่ลูกพี่ตัวอย่างของเขาถูกคุกคามจำกัด
“เจ้ารีบไสหัวเข้ามาหาข้าได้เลยถ้าเปลี่ยนเป็นที่อื่นไม่ได้ทุบตีพวกเจ้าสักหมื่นปีก็คงคลายโมโหข้าไม่ได้แน่” ทูตเทพมังกรทองจะเตะฉงฉีแต่มังกรปีศาจรีบลากเจ้าเด็กปีศาจหนีไปก่อน ป้องกันไม่ให้เจ้าเด็กปากเสียพูดผิดพลาดจนต้องเจ็บตัว
“เขาคือใคร? ดุเกินไปหรือเปล่า?” เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นกระซิบนินทา
“บริวารของเทพมังกรทองเป็นคนอารมณ์ร้อนวู่วามที่สุด แต่ก็ใจดีที่สุด...เจ้าต้องพูดกับเขาอย่างมีมารยาท” มังกรปีศาจไม่กล้าพูดไม่ดีเกี่ยวกับเทพทูตมังกรทอง
“ยอดเยี่ยมน่าทึ่ง”เย่คงและเจ้าอ้วนไห่กับพวกที่ได้ยินรู้ทึ่ง
“ฮื่อ” เป่าเอ๋อเห็นด้วย
“เจ้ามาทำอะไรใกล้เรา?ทำท่าทางอย่างนี้จะมาขายความน่ารักให้เราใช่ไหม น้องหนู!” เจ้าอ้วนไห่ทำตัวเป็นห่วงสาวน้อย เวลาดีๆ อย่างนี้จะพลาดไปได้อย่างไร?
เป่าเอ๋อไม่รู้ว่าขายความน่ารักจะขออะไรดีๆได้ แต่เจี้ยงอิงไม่ต้องขายความน่ารัก นางได้รับเทพโองการจากทูตมังกร ในนามของเทพมังกรทองแต่งตั้งนางเป็นองค์หญิงมังกร นอกจากนี้นางยังได้รับเทพสมบัติวิเศษชั้นดีที่สุด‘มงกุฎมังกร’ เจี้ยงอิงปลาบปลื้มพระบิดาในท้องฟ้านางสัมผัสได้ถึงพลังเทพมังกรทองที่นางได้รับตกทอด ไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในขณะนี้ แต่ได้รับการรับรองเป็นองค์หญิงความรู้สึกที่หลากหลายจะไม่ให้นางตะลึงได้อย่างไร?
นางกอดแขนเย่ว์หยางและร้องไห้
เย่ว์หยางรู้สึกขบขันแต่เขาลูบหลังปลอบโยนนาง “ดีแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ดี ถ้าเจ้ายังร้องไห้ต่อไปเจ้าจะกลายเป็นองค์หญิงขี้แยนะ”
“ข้าร้องไห้ดีใจ!” เจี้ยงอิงหัวเราะทั้งน้ำตา
“สองพี่น้องหยูเหยา จงออกมารับเทพโองการ” ทูตเทพมังกรเตรียมเปิดเทพโองการ
“เรา?”สองพี่น้องฝาแฝดมังกรที่อยู่ห่างๆ ตกใจเมื่อได้ยิน เจี้ยงอิงนั้นยังพูดได้ว่านางมีพลังวิเศษของเทพมังกรทองแต่สองแฝดสาวมังกรไม่มีอะไรเลย!
“ด้วยอำนาจเทพโองการแห่งเทพมังกรทองขอแต่งตั้งให้พี่น้องมังกรกำพร้าสองสาวเป็น‘มังกรเก้าชั้นฟ้า’และตระกูลเผ่าภูตบูรพาผู้หลงผิดของหอทงเทียนได้รับการยกสถานะเป็นเผ่ามังกรบูรพาอย่างแท้จริง ตั้งแต่วันนี้ไปได้รับการนิรโทษกรรมยกเลิกโทษเนรเทศ อนุญาตให้สาวมังกรเก้าชั้นฟ้านำพากลุ่มของนางกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองของบรรพบุรุษในอดีตได้” ทูตมังกรจิงไห่มอบเทพโองการให้พี่น้องสองสาวมังกร แต่ละคนจะมี ‘ดาวนางมังกร’ ซึ่งเป็นการยอมรับพวกนางในฐานะเผ่าบูรพาอย่างเป็นทางการและอนุญาตให้พวกนางกลับคืนตระกูลเผ่าพันธุ์ได้
“ฮืออออ...” ถึงคราวที่สองสาวพี่น้องมังกรกำพร้าต้องร้องไห้หลั่งน้ำตาบ้าง
เทวทูตมังกรจิงไห่โบกเทพโองการในมือโปรยพลังเทพมังกรปลดผนึกภายในและพลังเทพมังกรโรยลงที่เจี้ยงอิงและสองสาวมังกรพี่น้อง
มงกุฎองค์หญิงสวมเข้าที่ตัวเจี้ยงอิงและแสงเทพหมุนโคจรอยู่รอบตัวนาง
พลังเทพที่สืบทอดมาแต่ดั้งเดิมภายใต้การมอบใหม่ล่าสุดเพิ่มขึ้นอีกหลายพันเท่าในอีกด้านหนึ่งมังกรสองสาวพี่น้องอาบแสงเทพมีพลังเพิ่มขึ้นเช่นกันเพียงแต่ด้อยกว่าองค์หญิงมังกรเจี้ยงอิงเล็กน้อยเมื่อกระบวนการเสร็จสิ้นหยุดลงก็มีเสียงแสดงความยินดีจากท้องฟ้าโลกแกนสมดุลสว่างรุ่งเรืองมีเมฆปกคลุมดูสวยงดงามยิ่งนัก
ขณะที่ทุกคนดื่มด่ำกับภาพที่เห็น
คิดไม่ถึงเลยว่าไม่ใช่แค่ได้แต่ชื่อเท่านั่นแม้แต่ประกายเทพที่แท้จริงก็ใช้ได้ด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อมองย้อนกลับไปเทพมังกรทองนั้นยิ่งใหญ่เพียงไหน คำสั่งโองการของท่านผู้เฒ่าศักดิ์สิทธิ์เพียงไหนจะเรียบง่ายเหมือนการพูดด้วยปากเปล่าได้อย่างไร!
“ถวายบังคมองค์หญิง ข้าผู้เป็นทูตต้องนำราชโองการกลับ และขอโอกาสลาจากไป” หลังเทวทูตมังกรจิงไห่ทักทายเจี้ยงอิงแล้วเขาเคารพเย่ว์หยางและมารดาผู้ลึกลับและลอยตัวจากไปในที่สุด
“เกือบไปแล้ว”
จนกระทั่งเทวทูตมังกรจากไปไกลแล้วมังกรปีศาจค่อยคลายใจ
ทันใดนั้นเย่ว์หยางฉวยโอกาสอีกครั้ง ในขณะที่ทุกคนมีความสุขกอดทีละคนแม้แต่ฝ่าบาทที่มักจะเตะเขาออกนอกห้องเสมอก็ยังไม่เว้น จักรพรรดิหัวซิ่วรี่คาดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าบังอาจขนาดนี้ปล่อยให้เขาโอบกอดก่อนตอนแรกนางตกใจเงื้อกำปั้นเตรียมเปลี่ยนตาของเขาให้เป็นตาหมีแพนด้าแต่หลังจากคิดอีกครั้ง เจ้าเด็กนี่เป็นเทพจอมราชันย์ในอนาคต การทุบตีเขาต่อหน้าธารกำนัลอาจทำให้เขาเสียหน้าจำเป็นต้องอดทนรักษาหน้าของเขาไว้
นางแค่ถลึงตาดุร้ายมองดูเขา
หมาป่าได้แต่ทำหน้าหนาและสวมกอดจักรพรรดินีราตรี
จักรพรรดินีราตรีขำ
นางแทบงอตัวหัวเราะ
นางกอดเย่ว์หยางและกระซิบหยอกล้อเขา“เจ้ากอดนางครั้งเดียว ข้าจะให้เจ้ากอดสองครั้ง ขึ้นอยู่กับขวัญกล้าของเจ้า”
“ข้าขวัญกล้ายิ่งกว่าท้องฟ้า”เย่ว์หยางเป็นคนกล้าหาญที่สุดแต่ดูเหมือนว่าหัวซิ่วรี่จะได้ยินเสียงกระซิบนี้แผ่วเบานี้ ก่อนที่นางจะระบายความโกรธเย่ว์หยางตกใจเผ่นหนีเสียก่อน ท่าทางดูเหมือนคนงี่เง่าคล้ายกับโจรที่หาที่หลบซ่อนไม่ได้
“ฮ่าฮ่า!”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอดหัวเราะไม่ได้
“หาแต่เรื่องน่าปวดหัวจริงๆ”เย่ว์หวี่ที่อ่อนโยนส่ายหน้าและถอนหายใจ แต่ใครให้นางมีน้องชายกันเล่า?
“ปิงเอ๋อก็อยู่นี่ด้วย โอ๊ย, ซวงเอ๋อ อย่าดึงผมข้า!” ที่ปลอดภัยที่สุดของเย่ว์หยางคืออ้อมแขนของแม่สี่นั่นคือที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
“ดูเถอะ, โตแล้วยังทำตัวเป็นเด็ก...”แม่สี่กอดเย่ว์หยางและตบหลังเขา นางหันไปหัวเราะกับมารดาผู้ลึกลับข้างนาง
“หลายปีมานี้ทำให้เจ้าลำบากจริงๆ” ดวงตาของมารดาผู้ลึกลับมองดูเย่ว์หยางตาไม่กระพริบ
“แม่กลับมาแล้ว ก็เรียกท่านแม่สิ!” แม่สี่ค่อยๆ ปล่อยมือจากเย่ว์หยาง
“ท่านแม่?” เย่ว์หยางมองขึ้นๆ ลงๆ อยู่นานเขาเห็นแต่เพียงสาวน้อยน่ารักวัยรุ่นราวคราวเดียวกับปิงเอ๋อแต่มีเค้าของแม่สี่กำลังยิ้มมองมาที่ตัวเขานี่.. นางคือมารดาของเขาหรือ?
**** *** ****