ตอนที่ 1395 แบกชะตาหอทงเทียน
แพ้พ่ายแพ้หมดรูป
แม้ว่าเทียนอี้เชื่อว่าเขายังมีพลังเขาสามารถสู้ต่อไปได้
แต่ข้อเท็จจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้วไม่ว่าเขาจะดิ้นแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถพลิกฟื้นตัวได้ เจตจำนงของเทพบรรพตเจตจำนงทะเลมรณะและกฎสวรรค์โบราณของโลกแกนสมดุลยอมรับฝ่ายตรงข้าม ในการประลองชะตาที่แข็งแกร่งและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่นี้ ‘มารดาผู้ลึกลับนี้’ คือผู้ชนะที่แท้จริง หากนางไม่ตั้งใจอยู่ที่นี่พลังที่น่ารังเกียจของโลกแกนสมดุลคงโยนเทียนอี้ที่ล้มเหลวออกไปจากประตูเทพนานแล้ว
อาซีออกไปแล้ว
เทพพิทักษ์ทะเลมรณะอาจางผนึกตนเองตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์พังทลาย เขาอยู่ในสถานะที่ยากลำบากในทะเลดอกไม้ บริวารตายในสนามรบหมดทำให้เทียนอี้ผู้มั่นใจตนเองอย่างไม่มีใดเทียบรู้สึกหมดหวัง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า....”เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เพื่อไล่ตามตำแหน่งเทพจอมราชันย์อันศักดิ์สิทธิ์ ผู้อาวุโสต่างๆของเขากวงหมิงทั้งเบื้องต่ำและเบื้องสูงล้วนเสียสละทุกอย่าง เสียสละแล้วเสียสละอีก
แต่ผลตอบรับคืนมายังคงเป็นความล้มเหลว
นี่เป็นชะกรรมที่น่าขันที่สุด
ทำให้เทียนอี้กลายเป็นบ้า
กฎสวรรค์โบราณเข้ามากดข่มเทียนอี้ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
หากปราศจากเจตจำนงของมารดาผู้ลึกลับเจ้านายใหม่แห่งโลกแกนสมดุล เทียนอี้จะเป็นอย่างนี้ไปตลอดชีวิตไม่สามารถผ่อนคลายได้พลังไม่มีความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าเจตจำนงของเทพจอมราชันย์ เทียนอี้กลายเป็นบ้าแต่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเขาเลยทุกคนมองไปที่มารดาผู้ลึกลับ
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่นางจะต้องแบกรับชะตาของนางและเลื่อนระดับไปเป็นเทพจอมราชันย์
ชาวประมงเฒ่าลูบเครายาวพยักหน้าด้วยความโล่งอกเขาตบไหล่เย่ว์หยางและยิ้ม “เด็กน้อย ข้ามีเวลาถ่ายทอดทักษะตกปลาที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดให้เจ้าแล้ว... ข้าจะไปตกปลาและจะทิ้งกิจการของหอทงเทียนไว้ให้เจ้าในอนาคตข้าไม่รู้ว่าหลายปีที่ผ่านมาได้เสียเวลาไปกับปัญหาเหล่านี้มากแล้ว”
เย่ว์หยางได้ยินอดทำตาเหลือกมิได้ สำหรับท่านข้าอายที่จะบอกว่าถ้าท่านควบคุมดูแลหอทงเทียนสักวันหนึ่ง เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้
โชคดีที่ข้าเทียวไปมาอยู่รอบๆหอทงเทียนจึงมีจุดลงเอยที่ดี
มิฉะนั้นบาปของบรรพบุรุษเจ้าคงร้ายแรง
“ใครว่ายากกัน...อ่า...ข้าหมายถึง การตกปลามันเป็นกิจกรรมสันทนาการที่ดีขณะที่ท่านดื่มอะไรสักอย่างขณะตกปลาไปด้วย” เย่ว์หยางต้องการให้ชายชราออกไปทันที แต่เมื่อแม่สี่ยังอยู่ที่นั่นเขาต้องทำตัวเป็นเด็กดี แม่สี่คอยชำเลืองมองเขาจึงต้องทำตัวเป็นเด็กดี
“น้อมพบผู้อาวุโส” แตกต่างจากเย่ว์หยาง แม่สี่และคนอื่นๆให้ความเคารพประมงเฒ่าเป็นอย่างมาก แม้แต่จื้อจุนและนางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็ไม่เว้น
“ช่างเถอะๆทุกคนไม่ต้องมากมารยาทกับข้า!” เฒ่าประมงเหมือนจะหงุดหงิด เย่ว์หยางกัดฟันกรอด
ถ้าไม่ใช่เพราะแม่สี่อยู่ด้วย
เขาคงเหาะหนีไปแล้วถ้าไม่เตะตาแก่นี่เขาคงรู้สึกเหมือนตายไปครึ่งหนึ่ง!
มารดาผู้ลึกลับเรียกคัมภีร์อัญเชิญของตนเอง คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์สีหยกและคัมภีร์เทพฉายรัศมีสูงสามหมื่นเมตร
พิธีรับชะตาเริ่มขึ้นแล้วและลำแสงแห่งโชคชะตาพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า
นักรบสามเผ่าพันธุ์ใหญ่ของหอทงเทียนคุกเข่าลงทั้งหมด
แม้แต่มารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรมีแววสำรวมเคร่งขรึม ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าจุนอู๋โหย่ว และผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ ในช่วงชีวิตของพวกท่านไม่เพียงแต่ช่วยให้เย่ว์หยางให้เติบโตและเลื่อนระดับไปเป็นถึงเทพจอมราชันย์ แต่ตอนนี้พวกเขายังสามารถมีส่วนช่วยให้มีเทพจอมราชันย์คนที่สอง ช่างเป็นโชคอุดมมงคลของชีวิตพวกเขานัก!
“โชคชะตาที่ตกต่ำจมทุกข์และไม่อาจคาดเดาได้ของหอทงเทียนจะต้องจบลงในมือของข้า”มารดาผู้ลึกลับลอยขึ้นไปบนฟ้ฟา ร่างของนางเหมือนเป็นผลงานชิ้นเอกยิ่งใหญ่ของเทพมือเรียวงามของนางกางออกประกายรัศมีดวงดาวสดใสหลายร้อยล้านดวงมารวมกันอย่างนุ่มนวล ดอกไม้เทพธิดาหมุนรอบตัวนางทั้งยังเบ่งบานส่งกลิ่นหอมระรื่นชื่นใจ “ข้าเต็มใจจะแบกรับชะตากรรมของสามเผ่าพันธุ์ใหญ่แห่งหอทงเทียนในนามของเทพจอมราชันย์ในอนาคต เพื่อสร้างความสวยงามและความสุขขจัดภัยพิบัติและความโชคร้าย สร้างสิ่งมีชีวิตให้มีความอมตะ”
“ขอให้ผู้ตายจงสู่สุขคติความตายเป็นนิรันดร์ ชีวิตเป็นนิรันดร์” มารดาผู้ลึกลับมองขึ้นไปในท้องฟ้า “ไม่ว่าอดีตจะเป็นเช่นไร อนาคตจะเหมือนกันเสมอ”
คัมภีร์เทพทั้งสองฉายรัศมีเกี่ยวพันเป็นเกลียวขึ้นไปด้านบน
ค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นลำแสงแห่งโชคชะตาที่สูงถึงหมื่นสองพันเมตร
นี่คือชะตากรรมที่เผ่าพันธุ์ในหอทงเทียนต้องแบกรับรวมถึงอดีตและอนาคตชีวิตทั้งหมดและพลังแห่งโชคชะตาที่ต้องการปลดปล่อย เนื่องจากก่อนหน้านี้เย่ว์หยางเคยแบกรับชะตาของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของหอทงเทียนในปัจจุบัน เงื่อนไขการเลื่อนระดับของมารดาผู้ลึกลับในเวลานี้จึงค่อนข้างสมเหตุสมผล แม้ว่าจะผ่านไปแล้วแต่ว่าก็ไม่เกินไป
เมื่อเห็นความสูงของลำแสงแห่งโชคชะตานางพญาเฟ่ยเหวินหลีรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย และนางเหยียดมือออกทันทีแม้ว่าร่างนางจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
คนที่เร็วกว่านางก็คือฝ่าบาท
และจักรพรรดินีราตรีและแม่สี่ที่อยู่ไม่ห่างพวกนางยื่นมือแบกรับชะตาของมารดาผู้ลึกลับ
เจ้าอ้วนไห่เย่คง เสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัวและพี่น้องตระกูลหลี่ยกขึ้นนักรบจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ของหอทงเทียนรอช่วงเวลานี้
มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรพวกเขาอยู่แถวหน้า
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและจุนอู๋โหย่วตามมาใกล้ๆและยกมือขึ้น
จักรพรรดิทองและจักรพรรดิอสูรยิ้มให้กันฉงฉีมองดูมังกรสองหัวและแค่นเสียงไม่พอใจแต่ก็รีบชูมือใหญ่อย่างรวดเร็ว มังกรสองหัวกู่อั๋งและราชินีว่านกูซูอยู่ไม่ไกลพวกเขารีบแสดงความคิดเห็นอย่างรวดเร็ว “แม้ว่าเราจะไม่ได้มาจากหอทงเทียนและได้ทำผิดพลาดไปแต่เราได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีแล้วและยินดีจะเข้าร่วมเพื่อประโยชน์สูงสุดของว่าที่เทพจอมราชันย์ เรายินดีที่จะเสียสละทุกอย่างและทำอย่างดีที่สุดเพื่อแบกชะตากรรมของเรา...”
พวกเขาเคยเห็นพวกนักรบหอทงเทียนแบกรับชะตาเพื่อเย่ว์หยางมาแล้วตอนนี้มีโอกาสดีขนาดนี้แล้วจะพลาดได้อย่างไร
กลุ่มเทพที่อยู่ในเงาสีต่างๆประหลาดใจแต่ก็ยกมือร่วมด้วย
พวกเขายินดีทุ่มเทเพื่อเทพจอมราชันย์ในอนาคต
การมีส่วนร่วมในวันนี้จะเป็นโอกาสในการลงทุนที่หายากที่มีค่าที่สุดและคุ้มค่าที่สุดในชีวิตของพวกเขาแม้ว่าจะไม่นับเป็นประวัติการณ์แต่ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายหมื่นหรือหลายแสนปีในการนำเสนอโอกาส
อย่าว่าแต่พวกเขาเลยแม้แต่มังกรปีศาจที่นอนอยู่บนพื้นก็ยกมือขึ้นอย่างยากลำบากหวังว่าจะช่วยได้สักเล็กน้อย
“เราร่วมด้วยได้ไหม?”
เสวี่ยอู๋เสียยื่นมือออกไปและนางพบว่านางที่ช่วยเหลือเย่ว์หยางอย่างสุดใจสามารถแบกชะตากรรมของนางในนามของมารดาผู้ลึกลับได้ด้วยความยินดี องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรอไม่ไหวขยับมือนางทันที ในอีกด้านหนึ่งนางจับมือสาวงามโล่วฮัวทุกคนจับมือกัน เย่ว์หวี่ เย่ว์ปิง อี้หนานและเทียนฟ้าทุกคนจับมือเป็นวงกลมขนาดใหญ่โดยมีพลังแห่งชะตาอยู่ในใจแบ่งปันด้วยกัน
หมิงเยี่ยกวงกับพวกพ้องก็เข้าร่วมมือขาวนวลของนางทาบที่ด้านหลังตำแหน่งหัวใจของเสวี่ยอู๋เสีย
ฮุยไท่หลางวิ่งเข้ามาอยู่ข้างเจ้าอ้วนไห่และเย่คงและคนอื่น
ตอนนี้มันต้องการอยู่ใกล้เย่ว์หยาง
แต่เป็นเพราะเข้าใกล้เกินไปเกือบจะถูกเทพจอมราชันย์คนใหม่เตะกระเด็น ขืนเสนอหน้าตอนนี้เท่ากับหาที่ตาย
“ตกลง”จื้อจุนเดินมาเงียบๆ จ้องมองเย่ว์หยางเย่ว์หยางโชคดีไม่เป็นไรเพราะยังไม่ใช่เวลาคิดบัญชี ความจริงนางไม่ได้โกรธอะไรมากแต่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะยกมือขึ้นเพื่อแบกรับชะตาให้มารดาผู้ลึกลับ
“เราร่วมด้วย!” เย่ว์หยางเข้าใจทันที เขารวบรวมความกล้าจับมือของจื้อจุนอีกมือหนึ่งจับมือของเจ้าแม่จันทรา
“อืน” เสี่ยวเหวินหลีตัวเล็กสูงไม่พอได้แต่กอดขาของเย่ว์หยาง
“....” จื้อจุนได้แต่ถลึงตาใส่เย่ว์หยาง
แต่พลังชะตาท่วมทับนางจนไม่สามารถขยับได้ได้ดังนั้นนางจึงต้องปล่อยให้โจรน้อยย่ามใจไปชั่วคราวก่อน
เทพจอมราชันย์กำลังจะถือกำเนิดภายใต้พลังชะตาแห่งหอทงเทียน หอทงเทียนทั้งหมดกำลังสั่นสะเทือน พลังกฎโบราณที่หลับใหลเป็นกฎโบราณที่เกิดจากเจตจำนงโบราณ เพราะการอัญเชิญที่พิเศษและการปลุกนี้ทำให้พลังกฎเทพโบราณรวมพลังชะตาสูงถึงสามพันเมตรและผสานเข้าไปในคัมภีร์เทพของมารดาผู้ลึกลับ
ขณะเดียวกันเจตจำนงที่ทรงพลังปรากฏขึ้นที่พฤกษาโลกบันไดสวรรค์ผนวกกับเจตจำนงโบราณที่จัตุรัสเวลาในแดนล่มสลายแห่งทวยเทพลำแสงสองสายพันกันเหมือนมังกรเกิดขึ้นต่อหน้ามารดาผู้ลึกลับและยังมีพลังแห่งโชคชะตาสูงสามพันเมตร
เจตจำนงของเทพบรรพตและทะเลมรณะทั้งสองมีการแบกรับอย่างละหนึ่งกิโลเมตรตามลำดับ
ประตูเทพโลกแกนสมดุล
เจตจำนงโบราณที่หลับใหลตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาสั้นเป็นเวลาหนึ่งวินาทีและเวลาหนึ่งวินาทีแบกรับพลังชะตาหนึ่งกิโลเมตร
นอกจากนี้ยังมีพลังจากนอกแดนสวรรค์ที่แม้แต่เย่ว์หยางก็ไม่รู้ จะเป็นเฒ่าประมงหรือยอดฝีมือยุคโบราณมิทราบแบกรับพลังชะตาไว้ห้าร้อยเมตร
“คาดว่าท่านก็มีสำนึกบ้างเล็กน้อย”เย่ว์หยางค่อยมีความประทับใจที่ดีต่อเฒ่าประมงเป็นครั้งแรก แต่ก็เล็กน้อย
“มาเถอะน่าเราทำได้” เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นร้องด้วยความตื่นเต้น
ในท่ามกลางเสียงโห่ร้องพวกเขาอ่อนล้าเหนื่อยหอบกับการแบกชะตาสูงมากกว่าแปดร้อยเมตรที่หลั่งไหลเข้าไปในคัมภีร์เทพ เกือบสามร้อยเมตรเป็นผลความดีความชอบจากจักรพรรดิทอง จักรพรรดิอสูร ฉงฉีเทพในเงาสีต่างๆ และนักรบจากแดนสวรรค์ภายนอก แน่นอนว่าต้องไม่มีเจี้ยนจางเซิงฉีตันจื้อและมังกรปีศาจที่ดูเหมือนใกล้ตายพวกเขาไม่สามารถแบกลำแสงชะตาเหมือนกับจักรพรรดิทองและคนอื่นได้
ลำแสงชะตาความสูง10,300 เมตรหลั่งไหลเข้าไปในคัมภีร์เทพ
เท่านี้ก็ถึงข้อกำหนดพื้นฐานในการเลื่อนเป็นเทพจอมราชันย์
และมีเกินมาอีกเล็กน้อย
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีหัวซิ่วรี่ จักรพรรดินีราตรี แม่สี่และเสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและคนอื่นนำพาพลังชะตาเข้าไปยังคัมภีร์เทพของมารดาผู้ลึกลับอีกเล่มแม้ว่าทุกคนจะเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ก่อนหน้านั้นแต่พวกเขาก็สามารถรองรับชะตาได้ถึงสองกิโลเมตรเป็นอย่างน้อย
มารดาผู้ลึกลับจำเป็นต้องแบกชะตาที่ความสูง12,000 เมตรจึงจะได้รับการตอบสนองอย่างเต็มที่
พลังเทพชะตาที่ได้รับจากเย่ว์หยางจื้อจุนรวมทั้งเจ้าแม่จันทราและเสี่ยวเหวินหลียังไม่มีเวลาได้หลอมรวมกับพวกเขาในช่วงเวลาที่ตึงเครียดที่สุดนี้ จิตใจเย่ว์หยางรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
“โง่จริงๆ!” สาวกิเลนปิงหยินทาบฝ่ามือที่หลังของเย่ว์หยาง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เย่ว์หยางรู้สึกคือนั่นไม่ใช่พลังของนาง
แต่เป็นการถ่ายทอดพลัง
ปราณกระบี่จากสาวปราณกระบี่
นี่คือปราณกระบี่พิเศษที่สัมผัสได้จากการฝึกฝนในดินแดนแห่งความฝันเท่านั้น พลังถ่ายทอดเข้าร่างกายอีกครั้งไปกระตุ้นพลังเทพจอมราชันย์ในร่างของเย่ว์หยางที่ถูกสะกดข่มมาเป็นเวลานานโดยไม่สามารถปลดปล่อยความโกรธออกมาได้ด้วยการเชื่อมต่อทางใจ จื้อจุนและเจ้าแม่จันทรารู้สึกเหมือนมีพลังเผาผลาญในร่างและพลังเทพชะตาที่ยิ่งใหญ่พลังเทพพุ่งออกมาราวกับน้ำบ่าแทบทำให้ผู้คนจมน้ำตาย ในทันทีนั้นบาดแผลและความเหนื่อยล้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เย่ว์หยางตวาดลั่น
เสียงน่าตกใจยิ่งกว่าคนเป็นพันคำราม
เขายกลำแสงชะตาและถ่ายเทเข้าไปในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์จนแทบจะทำให้คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ระเบิด
การแบกรับพลังชะตาและพลังเหนือธรรมชาติสิ้นสุดลงและการเลื่อนเป็นเทพจอมราชันย์เป็นอันสำเร็จแสงเทพจากคัมภีร์เทพทั้งสองสาดลงมาปกคลุมทั่วพิภพโลกแกนสมดุล เจ้าอ้วนไห่เย่คงและคนอื่นๆ กลายเป็นจุดแสงและถูกดูดเข้าไปในคัมภีร์เทพ ขณะที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลี หัวซิ่วรี่จักรพรรดินีราตรีและแม่สี่กลายเป็นแสงสายรุ้งพร้อมกัน เข้าไปในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์มือของเย่ว์หยางว่างเปล่า จื้อจุนและเจ้าแม่จันทราเข้าไปอยู่ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเขายืนเป็นอิสระอยู่คนเดียวโดยมีมารดาผู้ลึกลับอยู่ตรงข้าม
ไม่ยังมีอีกหนึ่งคน
เทียนอี้
คัมภีร์เทพนั้นเทียนอี้ในฐานะผู้แพ้ประลองชะตาเห็นศัตรูเป็นเทพจอมราชันย์และยังคงอยู่ในโลกแกนสมดุล เขาดูสิ้นหวังต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง แต่เปล่าประโยชน์
“อาไม่ เป็นไปไม่ได้ เทพจอมราชันย์เป็นตำแหน่งของข้าคำทำนายไม่ได้เป็นแบบนี้เลย” ดวงตาของเทียนอี้เป็นสีแดงด้วยความริษยา เทพบรรพตไม่ได้ทลายราบ ทะเลมรณะไม่ได้เหือดแห้ง ไม่เป็นไปตามบททำนาย”
“นั่นคือคำทำนายเรื่องเทพบรรพตจะทลายทะเลมรณะจะเหือดแห้งใช่ไหม?” เย่ว์หยางเมื่อได้ยินก็โกรธมาถึงขณะนี้เจ้ายังไม่ยอมแพ้อีกหรือ? ก็ได้จะให้เจ้าตายไปเลย!”
ดูเหมือนว่าเขามีความรู้สึกว่าเทพธิดากระบี่ฟ้าซ่อนอยู่ด้านหลังของเขา
นิ้วของนางแตะที่หลังศีรษะของเขา
เป็นการชี้นำภูมิปัญญาสูงสุดไม่มีใดเทียบ
ความเงียบสงัด
อยู่ในหัวใจของเขา
ปราณกระบี่รวมกับสาวปราณกระบี่กลายเป็นพลังนำทางนี้พลังปราณระเบิดออกมาเป็นล้านๆ เท่า เย่ว์หยางรู้สึกว่าร่างของเขาเหมือนถูกเปิดผนึกผนึกที่เริ่มฟื้นฟูถูกแทงด้วยปราณกระบี่กระตุ้นพลังเทพชะตาที่แฝงอยู่ในนั้นมาเป็นเวลานาน...
“ข้าต้องการยกภูเขาเทพบรรพตและเติมเต็มทุกอย่างข้าจะทำให้เจ้าสิ้นหวัง” เย่ว์หยางตะโกนขึ้นฟ้า
ยักษ์ชะตาปรากฏขึ้นในขณะที่เขามีสติสัมปชัญญะเป็นครั้งแรก
ยืดขยาย
******* ****