ตอนที่ 113 กษัตริย์เซิ่งเหยาบุก
ตอนที่ 113 กษัตริย์เซิ่งเหยาบุก
"วิหารอวยพรงั้นเหรอ? มันคืออะไรกัน"
หลิน ยู มองไปยังหน้าต่างข้อมูลอาคารอย่างสงสัย พบว่าหลังจากเกิดแสงวาบขึ้น มันก็ได้มีอาคารที่แต่งต่างไปจากอาหารพื้นฐานอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง เขารีบตรวจสอบมันทันที
[ชื่ออาคาร : วิหารอวยพร]
[ระดับสิ่งก่อสร้าง : ระดับ 1 (167/500)]
[ความสามารถสิ่งก่อสร้าง : เมื่ออธิษฐานที่ด้านบนนั้น คุณได้รับพรจากแก่นกลางดินแดน พลังอวยพรจะคงอยู่ 1 วัน ความเร็วได้รับพลังความศรัทธาเพิ่มขึ้น ยิ่งอธิษฐานก็ยิ่งได้รับพลังความศรัทธาเร็วขึ้น]
[คุณสมบัติการอวยพร : ธรรมชาติรวมเป็นหนึ่ง (แก่นแท้เผ่าพฤกษา)]
[ระดับ 1 : ความเร็วในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น 10%]
[ระดับ 2 (ปลดล๊อก) : ความเร็วในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น 10%]
[ระดับ 3 (ปลดล๊อก) : ความเร็วในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น 10%]
[คำแนะนำสิ่งก่อสร้าง : วิหารแห่งดินแดน จะแสดงผมแตกต่างกันไปตามเผ่าของดินแดนนั้นๆ ระดับจะเพิ่มขึ้นตามค่าพลังความศรัทธา]
[วัสดุในการก่อสร้าง : ไม้ 1000 ชิ้น หิน 1000 ชิ้น แร่เหล็ก 1000 ชิ้น แร่ทองแดง 1000 ชิ้น
ผงเวทย์ 500 หน่วย พลังเวทย์ 5000 แต้ม]
.....
"นี้มัน..."
หลิน ยู ตกใจทันที
มันมีอาคารแปลกๆ ปรากฏขึ้นในเมืองหวงซา
ไม่เพียงแต่มอบพรให้กับผู้คนในดินแดนเท่านั้น ยังเพิ่มความเร็วในการเพิ่มพลังความศรัทธาอีกด้วย
พรแต่อันแตกต่างไปตามเผ่าของราชัน
นี้มันสามารถพูดได้ว่า
หากพรที่ได้รับมีระดับสูงมันจะสามารถทำให้ดึงดูดผู้คนมาบูชาได้มากขึ้น ความเร็วในการเพิ่มขึ้นของพลังความศรัทธาก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
ช่างเป็นอาคารที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
แต่ที่ทำให้ หลิน ยู ประหลาดใจ อาคารหลังนี้ยังพร้อมกับพรของเผ่าพฤกษา
ธรรมชาติรวมเป็นหนึ่ง
แต่ละระดับจะเพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ 10% ในระดับที่ 3 จะเป็น 30% แม้ว่ามันจะไม่ช่วยให้แข็งแกร่งมากนักแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
หลังจากที่เขาได้สร้างอาคารพื้นฐานระดับ 1 ทั้ง 5 หลังเสร็จสิ้น มันก็ยังมีวัสดุเหลืออยู่อีกประมาณอย่างละ 1000 ชิ้น
เขาไม่ลังเล เลือกที่จะสร้างมันทันที เลือกตำแหน่งที่ตั้งใกล้กับรูปปั้นของเขาที่จัตุรัสใจกลางเมืองหวงซา
ในวินาทีต่อมา
แสงสว่างวาบพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าปกคลุมบริเวณนั้นทั้งหมด
ภายใต้แสงสว่าง รั้วทองแดงค่อยๆปรากฏขึ้น มันส่งเสริมให้รูปปั้นดูมีความศักดิ์มากยิ่งขึ้น มันเปล่งประกายออร่าสีเขียวออกมาควบแน่นกับรูปปั้นที่มีอยู่ก่อนแล้ว
ณ อีกด้านหนึ่งรอบๆ ต้นไม้แห่งชีวิตของ หลิน ยู ก็มีวงแสงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น มันห่อหุ้มบางอย่างเอาไว้
ความผิดปกตินี้ทำให้เหล่าผู้ที่ผ่านทางมาร้องอุทานออกมาในทันที หลายคนวิ่งออกมาจากบ้านเพื่อดูสิ่งนี้
อย่างที่คิดไว้มันเป็นสิ่งก่อสร้างที่ หลิน ยู ใช้พลังเวทย์ไปถึง 5000 แต้มทีเดียว แค่ความสามารถพิเศษของมันก็ยอดเยี่ยมพอแล้ว
ผู้ฝึกตนบางที่มีความรู้กว้างขวางเคยไปมาหลายเมืองก็จำอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นี้ได้เริ่มพากันมาที่จัตุรัสใจกลางเมืองทีละคน
หลังจากที่ อธิษฐานต่อรูปปั้น ออน่าอันนุ่มนวลก็ได้ห่อหุ้มพวกเขาทันที ราวกับมีพลังบางอย่างเพิ่มเข้ามาในร่างกาย
"วิเศษมาก! ฉันรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าบาดแผลมันหายไว้ขึ้น!"
"ของฉันด้วย! แขนที่โดนมอนสเตอร์กัดเมื่อวันก่อนกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ"
"นี้มันคือ...การอวยพรที่เขารำลือกันงั้นเหรอ?"
"เยี่ยมไปเลย! แบบนี้การล่ามอนสเตอร์ในโกบี ก็เป็นเรื่องง่ายๆแล้ว"
.....
เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมากรอยยิ้มอันดีใจแสดงออกมาบนใบหน้าของเขา
แม้ว่าพรของ หลิน ยู นั้นจะไม่ได้ทรงพลังแต่มันใช้ได้ดีสำหรับคนที่ชอบเข้าปะทะมันช่วยลดการสูญเสียไปได้เยอะทีเดียว
สุดท้ายใครจะไปคิดกันว่าจะมีพรดีขนาดนี้อยู่
ในชั่วพริบตา ข่าวก็แพร่กระจายไปราวกับพายุเฮอริเคนไปทั่วเมือง ดึงดูดเหล่าผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันเพื่อขอพรแห่งดินแดน
หลังจากนั้น หลิน ยู ก็เลิกสนใจ ถอนสายตาหันไปมองยังอาคารพื้นฐานทั้ง 5 ที่เขาได้สร้าง
เป็นดังเช่นชื่อของมัน
สนามฝึกซ้อมนั้นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกฝนได้ ยิ่งระดับสูงประสิทธิภาพก็ยิ่งสูงขึ้นตาม
ร้านช่างตีเหล็ก ร้างเครื่องหนัง ร้านขายยา ก็ตามชื่อของพวกมัน หากระดับเพิ่มขึ้นอัตราความสำเร็จก็จะยิ่งมากขึ้น หรือของระดับสูงเพิ่มขึ้นมามากขึ้น
สุดท้าย คนในดินแดนนี้ก็ไม่เหมือนกับราชัน พวกเขามีความช่วยเหลือของระบบสามารถสร้างอุปกรณ์และสิ่งต่างๆ จากการใส่วัสดุและพลังเวทย์โดยตรง
วัตถุดิบและสมุนไพรล้ำค่าบางอย่างที่ได้จากการล่ามอนสเตอร์สามารถนำมาผลิตเป็นอุปกรณ์ผ่านร้านค้าเหล่านี้ได้ แถมเขายังสามารถหารายได้พิเศษได้จากมันอีกด้วย
แม้แต่เขาก็ยังสามารถซื้อวัสดุต่างๆ ได้ในราคาต่ำ นำมาสร้างเป็นอุปกรณ์สำเร็จรูป ทำเงินได้อย่างมากมาย
นี้เป็นสิทธิพิเศษของราชัน
น่าเสียดายที่ตอนนี้นั้นเขาไม่มีช่างตีเหล็ก ช่างเครื่องหนัง หรือแม้แต่แพทย์ซักคนในหมู่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
ดูเหมือนว่าเราต้องให้ความสนใจกับเรื่องพวกนี้มากขึ้นในอนาคต
ไม่อย่างนั้น ค่าบำรุงรักษารายวันของสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จะทำให้เขาสูญเงินไปอย่างสูญเปล่า ซึ่งนี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงยังไม่อัพเกรดสิ่งก่อสร้าง
สำหรับตลาดแลกเปลี่ยน มันง่ายต่อการทำความเข้าใจ
มันเป็นสถานที่พิเศษที่ในการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนของชาวเมือง
ประชาชนทุกคน รวมไปถึงนักเดินทางไปยันพ่อค้า สามารถขายสิ่งต่างๆ ผ่านตลาดแลกเปลี่ยน หรือสั่งซื้อสิ่งต่างๆได้ในเวลาเดียว
และเขาสามารถได้รับผลตอบแทนจากมันด้วย
สำหรับสถานที่นี้ เขาปล่อยให้ เซียว ฉางกุ้ย จัดกำลังคนมาดูแล มันสะดวกอย่างมากไม่จำเป็นต้องกังวลเลย
หลังจากที่ดูสิ่งต่างๆแล้ว ทรัพยากรที่ หลิน ยู เพิ่งได้รับมานั้นก็หมดลง แต่เขายังคงมีพลังเวทย์เหลืออยู่อีก 190000 ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับการใช้จ่าย
ต่อไป เขาดูรายรับรายจ่ายของเมืองหวงซา
เมืองหวงซาอยู่ในช่วงที่กำลังพัฒนา รายได้ของเมืองเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน มันทะลุถึง 1000 คริสตัลต่อวัน
หลังจากหักค่าบำรุงรักษา ค่าแรงต่างๆ มันก็ยังเหลืออีก 200-300 ก้อน นี้เป็นสัญญาณว่าทุกอย่างกำลังไปได้สวย
เมื่อสิ่งก่อสร้างเหล่านี้พัฒนาขึ้น จำนวนรายรับของเขาต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ต้องขอบคุณการบริหารอย่างรอบครอบของ เซียว ฉางกุ้ย ดูเหมือนว่าเขากำลังจะได้รับรางดีๆในอนาคต
หลังที่ครุ่นอยู่ซักพัก
หลิน ก็ปิดหน้าต่างและนั่งลง
เปิดช่องแชทดูระหว่างกินข้าว
ตอนนี้ผ่านไป 2 วันแล้วหลังจากที่ข่าวการเสียชีวิตของกษัตริย์ทั้ง 2 กระจายออกไป แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังคงพูดถึงเรื่องนี้
คาดเดาๆไปต่างๆนาๆว่าจะมีกษัตริย์องค์ใหม่ขึ้นเถลิงตำแหน่งหรือไม่ ความเคลื่อนไหวของราชันระดับสูง แม้แต่หัวข้อเกี่ยวกับกษัตริย์เซิ่งเหยาก็ยังมี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องแชทโลก เหล่าราชันเฒ่าบางคนกำลังพูดถึงเรื่องนี้
"จะบอกให้วันนีัฉันเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ ตรงจักวรรดิศักดิ์สิทธิ์ใกล้กับเมืองหลวง ดูเหมือนว่ากษัตริย์ เซิ่งเหยา จะเดินทางออกไปพร้อมกับกองกำลังของเขาแล้ว"
"มันใช่หรอ ฉันก็อยู่ในจักรวรรดิ ด้วยทำไมฉันถึงไม่รู้"
"จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์มันกว้างใหญ่มาก นี้คิดจริงๆหรอว่าที่นี้มันเล็ก?"
"ดินแดนของฉันอยู่ใกล้กับเมืองหลวง ฉันก็เห็นรอยแยกด้วยเหมือนกัน ฉันแอบได้ยินราชันระดับ 9 ว่านี้ดูเหมือนจะเป็นทางผ่านไปยังโลกหยวนซา"
"บ้าเอ้ย! นี้มันเรื่องร้ายแรงเลยนะ โลกหยวนซานี้มันเป็นศัตรูของพวกเราทวีปดึกดำบรรพ์ไม่ใช่หรอทำไมกษัตริย์ เซิ่งเหยา ถึงเข้าไปเผชิญหน้าพวกมันด้วยตัวเขาเอง"
"คิดว่าเพราะมีกษัตริย์ระดับ 10 ทั้ง 2 คนที่ได้ตายไปก่อนหน้านี้ เขาจึงเข้าไปหาคิดบัญชีกับพวกมัน กษัตริย์ เซิ่งเหยา มักจะหงุดหงิดและอารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว"
"การต่อสู้ของพวกเขามันเหนือขอบเขตของพวกเราเกินไป พวกเราควรอยู๋เฉยๆและรอฟังข่าว"
"ใช่แล้ว...."
มันไม่ใช่ความลับอีกต่อไปที่ว่า โลกหยวนซานั้นเป็นศัตรูกับทวีปดึกดำบรรพ์
แม้แต่ หลิน ยู ที่เพิ่มมาถึงทวีปดึกดำบรรพ์ได้ครึ่งเดือนแล้ว เขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆผ่านทางช่องแชทมากมายดูเหมือนว่าโลกหยวนซากับทวีปดึกดำบรรพ์จะอยู๋ติดกัน
นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทวีปดึกดำบรรพ์ ถูกพากโชคชะตาไป เพราะ โลกหยวนซานั้นได้ร่วมมือกับ โลกจิตวิญญาณแท้จริง เพื่อจัดการพวกเขา
กษัตริย์ทั้ง 2 ที่ได้ตายลงนั้นอยู่ภายใต้จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์เซิ่งเหยา สถานการณ์ของจักวรรดิอื่นคงจะไม่ต่างกัน เกรงว่ามันต้องย่ำแย่อย่างแน่นอน
การต่อสู้ระดับไม่ใช่สิ่งที่ราชันตัวเล็กอย่างเข้าใจเข้าไปแทรกได้ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แค่เฝ้ารอข่าวอย่างเงียบๆ
หลังจากเฝ้าดูช่องแชทสักพักรวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์ หลิน ยู ก็กลับไปพักที่ปราสาทไม้
วันนี้เขายุ่งมาทั้งวัน มันเหนื่อยล้าเลยทีเดียว