บทที่ 48: เล่ห์เหลี่ยมของลู่ซุยซุย
อิงหยวนเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเผ่า พวกผู้หญิงทุกคนจึงไม่ปิดบังสายตาเยาะเย้ยปนรังเกียจที่มองมายังจิ้งจอกสาว
ในขณะเดียวกัน หูเจียวเจียวไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เพราะสิ่งที่พวกนางเกลียดคือเจ้าของร่างเดิม ไม่ใช่ตัวเธอเอง
เหตุผลที่เธอมาที่นี่เพราะเธอแค่ต้องการหาข้ออ้างเพื่อนำสิ่งของต่าง ๆ จากมิติออกมาใช้ การที่ผู้หญิงเหล่านี้จะพูดอะไรตามใจชอบมันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเธอมากนัก
หลังจากที่เวลาผ่านไปไม่นาน ภูตหญิงทุกคนก็มารวมตัวกันครบ กลุ่มเก็บเกี่ยวในวันนี้มีทั้งหมด 13 คน ซึ่งมีผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อยู่ในเผ่ามาเข้าร่วม ยกเว้นโหวเซียงที่เพิ่งคลอดลูกจึงไม่สะดวกในการเดินทางออกจากเผ่า
แม้แต่หูหมิน แม่ของเจ้าของร่างเดิมก็เข้าร่วมกลุ่มเก็บเกี่ยวด้วยเช่นกัน เมื่อนางเห็นหูเจียวเจียวอยู่ในกลุ่มนี้ นางก็รู้สึกประหลาดใจมาก
แต่พอหญิงวัยกลางคนคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็รู้สึกว่าการที่ลูกของตนมาทำงานแบบนี้มันก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว ดังนั้นนางจึงมีความสุขมาก ระหว่างการเดินทางผู้เป็นแม่ก็คอยจับมือของลูกสาวไว้ตลอดทางที่ทั้งคู่เดินรั้งอยู่ท้ายแถว
เมื่อทุกคนในกลุ่มออกจากเขตของเผ่า หนทางในป่าทึบก็เริ่มเดินไม่สะดวกสบาย อีกทั้งทัศนวิสัยถูกบดบังด้วยต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านสาขาแผ่ขยายปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าจนแม้แต่แสงแดดก็ส่องผ่านลงมาไม่ได้
และกลุ่มเก็บเกี่ยวนี้มีท่านผู้เฒ่ากับผู้ชายอีก 3 คนคอยคุ้มกันพวกผู้หญิง หลังจากเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็เดินออกจากป่าทึบมาถึงพื้นที่โล่งกว้างแห่งหนึ่ง
ระหว่างนั้นหูเจียวเจียวชำเลืองมองบริเวณรอบ ๆ ก่อนจะพบว่ามีมันฝรั่งจำนวนมากเติบโตอยู่บนพื้นที่ราบแห่งนี้
เธอเข้าใจได้ทันทีว่าเป้าหมายของวันนี้คือการขุดมันฝรั่ง
ขณะที่หญิงสาวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หัวหน้าเผ่าก็หยิบเครื่องมือเดินมายืนอยู่ข้างหน้ากลุ่ม "พวกเจ้าทุกคนมารับกระดูกพวกนี้ไปใช้ซะ แล้วพยายามขุดเก็บผลไม้ดินมาให้ได้มากที่สุดเพื่อกักตุนไว้กินในช่วงฤดูหนาวนี้ หากพวกเจ้าเจอผลไม้อื่น ๆ ที่กินได้ก็เก็บกลับมาให้หมด"
จากนั้นหูเจียวเจียวกับหูหมินก็เดินไปข้างหน้าเพื่อรับเครื่องมือด้วยกัน
เครื่องมือขุดนี้ทำมาจากกระดูกสัตว์ที่มีความยาวเท่าแขน โดยที่ปลายด้านหนึ่งคมคล้ายกับพลั่ว ส่วนอีกด้านมีลักษณะกลมหยาบ ซึ่งมันเป็นเครื่องมือประเภทขุดที่ภูตใช้บ่อยที่สุด
เมื่อผู้หญิงมากกว่า 10 คนได้รับเครื่องมือมาแล้ว พวกนางก็เริ่มหาพื้นที่เหมาะ ๆ ในการขุดมันฝรั่งออกมา ส่วนผู้ชายอีก 3 คนจะคอยลาดตระเวนไปรอบ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาโจมตีพร้อมกับดูแลปกป้องความปลอดภัยของผู้หญิงที่กำลังเก็บเกี่ยว
ในทุก ๆ ฤดูใบไม้ร่วง ท่านผู้เฒ่าจะใช้เวลาครึ่งเดือนในการพาภูตหญิงเดินทางออกจากเผ่ามาขุดหาผลไม้ที่กินได้
ส่วนภูตชายจะจัดกลุ่มล่าสัตว์ออกไปไล่จับเหยื่อ วันที่ฤดูหนาวใกล้มาถึง พวกเขาจะไปที่ทะเลเพื่อนำสิ่งของไปแลกเกลือทะเลกับเผ่าภูตที่อาศัยอยู่แถบนั้น โดยเกลือที่ถูกแลกมาจะมีมากพอจนภูตในเผ่าสามารถกินได้ถึงปีหน้า
ดังนั้นอาหารที่ได้รับจากกลุ่มเก็บเกี่ยวและกลุ่มล่าสัตว์จะถูกจัดสรรโดยหัวหน้าเผ่า
หูเจียวเจียวเองก็รู้ข้อมูลนี้อยู่แล้วตั้งแต่เธออ่านนิยายเรื่องนี้
บวกกับความจริงที่ว่าผลไม้ที่ภูตคุ้นเคยหรือเคยกินนั้นมีจำกัดมาก ฉะนั้นในเกือบทุก ๆ ฤดูหนาว อาหารในเผ่าจึงไม่เพียงพอ
ด้วยเหตุดังกล่าว หญิงสาวเลยเกิดความคิดที่จะหาผักผลไม้ไว้ปลูกกิน เพราะเธออยากจะเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์อันน่าเศร้าที่เผ่านี้ถูกภูตจากเผ่าอื่นโจมตีในฤดูหนาว
ขณะนี้เธอจงใจไปขุดหามันฝรั่งในที่ไกลจากผู้คนพร้อมกับหูหมิน
อย่างไรก็ตาม หลังจากค้นหาไปรอบ ๆ เธอก็รู้ว่า...
ตัวเองคิดมากเกินไป
นอกจากมันฝรั่งและวัชพืชแล้ว ไม่มีพืชที่กินได้ในโลกภูตที่เธอรู้จักเลย
แน่นอนว่าเนื้อหาในนิยายเรื่องนี้เต็มไปด้วยเรื่องโกหก!
นางเอกแบบไหนกันที่สามารถหาผักและผลไม้ในป่าได้มากมาย มันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เธอไม่เห็นเลยสักอย่าง!
ประกอบกับภูตไม่ใช่คนโง่ หากมีของที่กินได้จริง ๆ พวกเขาคงค้นพบมันนานแล้วโดยที่ไม่ต้องรอให้เธอมาตามหาเจอหรอก
สิ่งนี้ทำให้หูเจียวเจียวรู้สึกหดหู่ใจขึ้นมาทันที ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาตั้งใจขุดมันฝรั่งต่อไป
จิ้งจอกสาวปัดความคิดที่จะตามหาพืชผักผลไม้อื่น ๆ ทิ้งไปก่อน มันฝรั่งก็มันฝรั่ง ถ้าเก็บเกี่ยวพวกมันได้ก่อนฤดูหนาวจะมาถึง อย่างน้อยมันก็สามารถป้องกันพวกภูตไม่ให้ออกไปหาอาหารในฤดูหนาวจนดึงดูดศัตรูเข้ามาทำลายให้เผ่าพังพินาศได้
ด้วยความที่ว่าหูเจียวเจียวเคยทำไร่ไถ่นามาตั้งแต่เด็กจึงทำงานนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว หลังจากนั้นไม่นาน มันฝรั่งกองเล็ก ๆ ก็ปรากฏอยู่ด้านข้าง
ตอนนั้นหูหมินมองดูลูกสาวด้วยความประหลาดใจ "เจียวเจียว เจ้าทำงานเก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?"
เมื่อหญิงสาวได้ยินคำถามของอีกฝ่ายก็ตัวแข็งทื่อทันที
ซวยแล้ว! ลืมไปเลยว่ามีแม่ของยัยคนเก่ามาด้วย นางคงไม่สังเกตเห็นความผิดปกติหรอกใช่ไหม?
ขณะที่หูเจียวเจียวกำลังครุ่นคิดหาวิธีอธิบาย ทันใดนั้นหญิงวัยกลางคนก็คว้ามือเธอไว้พร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
"เจียวเจียว ต้องทนลำบากมากเลยใช่ไหม ต้องเป็นเพราะหลงโม่ไม่ได้อยู่ในเผ่านี้ เจ้าทำงานมามากแล้ว และตอนนี้เจ้าก็เชี่ยวชาญในการทำงานมาก แม่รักเจ้านะ..."
เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว!
จิ้งจอกสาวยิ้มออกมาอย่างเชื่องช้าก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "เปล่าหรอกท่านแม่ จริง ๆ แล้วข้าไม่ค่อยได้ทำงานอะไร อาจเป็นเพราะข้ามีพรสวรรค์ในการทำงานมากกว่า"
ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย งานที่บ้านยัยคนเก่ายังปล่อยให้ลูก ๆ ทำอยู่เลย!
ตามปกติแล้วเจ้าของร่างเดิมทำแค่กินแล้วก็นอนจนถึงขั้นอึทิ้งไว้ในห้องเลย อย่างเดียวที่นางไม่ขี้เกียจก็คงจะเป็นเรื่องการไปยั่วยวนอิงหยวน
อย่างไรก็ตาม หูหมินยิ่งเชื่อการคาดเดาของตัวเองมากขึ้น และใบหน้าของนางก็พลันเศร้าหมอง "เจียวเจียว แม่รู้ แม่เข้าใจ เจ้าไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรหรอก"
ไม่! ท่านไม่เข้าใจ...
"เจียวเจียว ทำไมเจ้าไม่ลองคิดที่จะหาคู่ใหม่ดูล่ะ นอกจากอิงหยวนแล้วยังมีผู้ชายในเผ่าอีกหลายคนที่ดีพร้อม..." คนเป็นแม่พูดอย่างจริงจัง
เนื่องจากร่างเดิมชอบอิงหยวนจึงไม่ได้สนใจชายคนใดเลย ถ้าไม่ใช่เพราะลู่เมี่ยนเอ๋อวางกลอุบายให้นางไปหลับนอนร่วมกับหลงโม่ ตอนนี้นางอาจจะยังเป็นโสดอยู่
เมื่อหูเจียวเจียวนึกถึงลูกที่น่าสงสารทั้ง 5 ในครอบครัว เธอก็ปฏิเสธผู้เป็นแม่โดยไม่ต้องคิด
“ท่านแม่ ข้าไม่ชอบอิงหยวนแล้ว อีกอย่างข้าก็ไม่ได้อยากหาคู่ใหม่ด้วย ตอนนี้ข้าแค่อยากจะเลี้ยงลูกทั้ง 5 ให้ดีเท่านั้น”
สวรรค์เล่นตลกกับเธอจริง ๆ ที่ทำให้เธอทะลุมิติมาที่นี่
เป้าหมายในปัจจุบันของหญิงสาวก็คือ เธอแค่ต้องการจะหยุดเด็กตระกูลหลง 5 คนและพ่อของพวกเขาไม่ให้กลายเป็นวายร้าย ไม่อย่างนั้นตัวเธอนั่นแหละที่จะต้องทนทุกข์ทรมาน!
นอกจากนี้เธอจะทำอะไรอย่างเช่นการเหยียบเรือสองแคมไม่ได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรือลำหนึ่งเป็นเรือของตัวร้ายที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลก
คำตอบของจิ้งจอกสาวทำให้หูหมินแสดงสีหน้าผิดหวัง นางคิดอะไรไม่ออกอยู่ชั่วขณะหนึ่งก่อนจะเข้าใจว่าลูกสาวของตนพูดว่าอะไร ความรู้สึกประหลาดใจจึงเข้ามาแทนที่ "เจียวเจียว เจ้ากำลังพูดถึงอะไร เจ้าไม่ชอบอิงหยวนแล้วจริง ๆ หรือ?"
“จริงสิ” หูเจียวเจียวพยักหน้าด้วยความมั่นใจ
“ยอดไปเลย ในที่สุดเจ้าก็คิดได้สักที!”
“เจียวเจียวของพวกเราเป็นคนดีมาก อิงหยวนไม่ชอบเจ้าเป็นเพราะเขาตาไม่ถึงเองต่างหาก!”
ยามนี้หญิงวัยกลางคนร่ำไห้ด้วยความปีติยินดี
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่นางเฝ้าดูลูกน้อยของตนเองถูกอินทรีหนุ่มรังเกียจ นางเคยเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวล้มเลิกไปเสีย แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธไม่ฟังคำพูดใด ๆ ทั้งสิ้น ทว่าในที่สุดเจ้าลูกหัวรั้นคนนี้ก็คิดได้สักที
ในขณะที่หูเจียวเจียวหัวเราะแห้ง ๆ พลางพยักหน้าเห็นด้วยแล้วแอบพูดในใจว่า
หากท่านอยากจะเปรียบเทียบระหว่างหูเจียวเจียวคนเก่ากับลู่เมี่ยนเอ๋อจริง ๆ นอกจากความสวยงามภายนอกแล้ว อาจจะเป็นเพราะนางไม่มีสกิลตัวเอกต่างหาก!
ไม่ไกลจากแม่ลูกทั้ง 2 ลู่ซุยซุยเห็นทั้งคู่กำลังพูดคุยหัวเราะกันสนุกสนาน นางจึงกัดฟันสีเงินแน่น พอสำรวจแล้วรู้ว่าไม่มีใครสังเกตเห็น นางก็เดินไปหาหูเจียวเจียว
"อุ๊ย!" นางจงใจยกเท้าขึ้นเตะมันฝรั่งที่จิ้งจอกสาวกองไว้บนพื้น
หูหมินที่เห็นเหตุการณ์ผุดลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ พร้อมกับท้าวสะโพกก่นด่าอีกฝ่าย "ลู่ซุยซุย เจ้าตาบอดหรือไง ถึงได้เดินไม่ดูตาม้าตาเรืออย่างนี้ เห็นหรือเปล่าว่าของกินเสียหายหมดแล้ว!"
"โอ้ ข้าขอโทษ ข้าแค่อยากจะมาช่วยพวกท่านเพราะเห็นว่าพวกท่านทำงานเชื่องช้ากันมาก..."
หญิงสาวถอยหลังไป 2 ก้าวพร้อมแสร้งทำเป็นตื่นตระหนก ขณะที่กล่าวขอโทษขอโพย ฝ่าเท้าของนางก็กระทืบอยู่ 2-3 ครั้งเพื่อบดขยี้มันฝรั่งหลายลูกที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของตน
“นี่เจ้า!” หญิงวัยกลางคนโกรธจัดมาก ก่อนจะมองไปยังมันฝรั่งที่ถูกเหยียบย่ำจนแหลกเละ
นี่คืออาหารสำหรับฤดูหนาว หากมีผลไม้น้อยลง 1 ผล คนในครอบครัวจะมีอาหารกินน้อยลงในยามฤดูหนาว
“ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ข้าจะเอาผลไม้ดินที่ข้าขุดมาคืนให้ อย่าโกรธไปเลยนะ...”
ลู่ซุยซุยก้าวไปดึงแขนของหูหมินด้วยสีหน้าสำนึกผิด ทว่าดวงตาของนางเหลือบไปทางก้อนหินที่ซ่อนอยู่ในกอหญ้าด้านหลัง พร้อมกับมีแสงเย็นวูบผ่านดวงตาทั้ง 2 และทันใดนั้นนางก็ออกแรงผลักอีกฝ่ายไปทางนั้น!