บทที่ 26 : อาเจ๊หยางเฉียน
บทที่ 26 : อาเจ๊หยางเฉียน
ห่างจากบริเวณวิลล่าไปสิบนาที ร่างของลู่หยานปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆ ข้างรถที่จอดอยู่ริมถนน
ฝนยังคงตกอยู่และมีแต่จะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากกลับมาถึงที่รถ ลู่หยานก็หอบหายใจหนักและรู้สึกว่าเรี่ยวแรงในร่างกายของเขากำลังจะหมดลง
หลังจากขับรถไปที่แม่น้ำสายเล็กๆ ทางตะวันตกของเมืองแล้ว ลู่หยานก็ได้ขับรถตรงไปหาแม่น้ำข้างหน้าที่ยกระดับสูงขึ้นเนื่องจากฝนตก
หลังจากส่งรถลงไปในแม่น้ำแล้ว ลู่หยานก็กลับออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขากำลังจะถึงบ้าน เขาก็ใช้สกิลศพลอบสังหารอีกครั้งและกลับบ้านอย่างเงียบๆ
หลังจากปลดสกิลและถอดชุดเกราะออกแล้ว ลู่หยานก็เก็บมันกับอาวุธลงไปในสร้อยคอเก็บของของเขาและทิ้งร่างลงบนเตียง
ในขณะนี้ เขาก็หมดแรงแล้ว
การฆ่าหูเว่ยและหวังเฟิงไม่ได้กินแรงลู่หยานมากนัก
แม้ว่าหลิวเฟิงจะสร้างความประหลาดใจให้กับลู่หยาน แต่ลู่หยานก็ไม่ได้ต่อสู้กับเขามากนัก
สิ่งที่ทำให้เขาเหนื่อยจริงๆ อยู่ที่สกิลศพลอบสังหาร
สกิลนี้ทรงพลังอย่างมากในการบิดบังอำพราง แต่มันก็ใช้พลังงานมากเช่นกัน
“หลิวเฟิงนั้นทรงพลังมาก เขาไม่ใช่พวกไร้ค่าเหมือนอย่างหูเว่ย ถ้าเกิดว่าฉันยังสู้กับเขาต่อไป ฉันก็คงจะตายไปแล้ว”
“อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จากสกิลระเบิดศพนั้นก็ดีกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เสียอีก พลังของการระเบิดนั้นทรงพลังมากและยังสามารถซ้อนทับกันได้อีกด้วย พลังที่ต้องใช้เองก็น้อยมากเช่นกัน”
“การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้ประสบการณ์การต่อสู้ของฉันเพิ่มขึ้นมากจริงๆ”
“อันที่จริง การต่อสู้กับคนก็ยากกว่าสัตว์ปีศาจมากจริงๆ”
ความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นในใจของลู่หยานก่อนที่เขาจะหลับไป
หนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ลู่หยานหลับไป ร่างๆ หนึ่งก็ได้ปรากฎตัวขึ้นตรงข้ามกับอาคารของลู่หยานและหยิบอุปกรณ์ชนิดหนึ่งออกมาก่อนจะเพ่งเล็งไปที่ห้องของลู่หยาน
สักพักร่างนั้นก็รับสาย “บอส ผู้ชายคนนี้นอนหลับสนิทเลย เขาเป็นแค่ผู้เข้าสอบที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ คุณคงจะคิดมากเกินไปเอง”
เมื่อพูดจบ ร่างนั้นก็เก็บอุปกรณ์และจากไปอย่างรวดเร็ว
…
ในเวลาสิบโมงเช้า ลู่หยานลืมตาขึ้น แต่หัวของเขาก็ยังคงวิงเวียนอยู่บ้าง
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเพิ่มคะแนนค่าคุณสมบัติให้กับค่าสติปัญญาของเขาแล้วในอนาคต
แม้ว่าเขาจะเป็นราชาผู้วายชนม์ แต่ค่าความแข็งแกร่งของเขาก็มีผลต่อการใช้สกิลด้วยเช่นกัน และโดยพื้นฐานแล้ว พลังที่ใช้ในการใช้สกิลก็คือความแข็งแกร่งทางร่างกายและจิตใจ
ด้วยเหตุนี้เอง ค่าสติปัญญาจึงยังคงมีความสำคัญต่อเขาอย่างมาก
เหตุผลที่เขาเพิ่มค่าความแข็งแกร่งให้สูงมากในช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เป็นเพราะในเวลานั้น ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผ่านการประเมินของเขาได้
ในอนาคต คะแนนค่าคุณสมบัติของเขาก็จะถูกเพิ่มเข้าไปที่ค่าสติปัญญากับค่าร่างกายของเขาเป็นหลัก
และหากมีเหลือมากกว่านี้ เขาก็จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกทีในภายหลัง
ลู่หยานอาบน้ำและกำลังจะดื่มน้ำเมื่อมีคนมาเคาะประตู
ลู่หยานเลิกคิ้ว เขารีบไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
ข้างนอกประตูมีผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสูทกำลังยืนอยู่ เธอถือไมโครโฟนไว้ในมือและตามมาด้วยตากล้อง
“สวัสดีค่ะ คุณคือนักเรียนลู่หยานใช่ไหม ฉันเป็นพิธีกรของหลินอันทีวี หยางเฉียนค่ะ ฉันขอสัมภาษณ์คุณหน่อบได้ไหมคะ?”
ลู่หยานมองดูหยางเฉียนเบื้องหน้าเขา เธอเป็นคนมีชื่อเสียงในเมืองหลินอัน
เธอขึ้นชื่อว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งหลินอัน หยางเว่ยเองก็หลงเสน่ห์เธออยู่พักหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเขาก็หันความสนใจไปที่อาจารย์สาวสุดเซ็กซี่อย่างรวดเร็ว
ต้องบอกว่าหยางเฉียนดูดีกว่าในทีวีด้วยซ้ำ ลู่หยานไม่ได้แสดงความประหลาดใจใดๆ กับการปรากฏตัวของอีกฝ่าย
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเขาได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย
ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ได้ผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยระดับฝันร้ายมาได้อย่างรวดเร็วในฐานะเนโครแมนเซอร์
อาจกล่าวได้ว่าข่าวนี้น่าตกใจมากสำหรับผู้คนทั่วไป
ถ้าเขาบอกว่าเขาไม่มีความลับใดๆ มันก็คงจะไม่มีใครเชื่อเขา
ไม่ว่าจะเป็นความเร็วของเขาในการเคลียร์ระดับฝันร้ายหรือตัวตนของเขาในฐานะเนโครแมนเซอร์ นักข่าวและพิธีกรเหล่านี้ต่างก็จะต้องการมาสัมภาษณ์เขาอย่างแน่นอน
นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลู่หยานตัดสินใจลงมือโจมตีหูเว่ยและหวังเฟิงเมื่อคืนนี้
ลู่หยานถอนความคิดของเขาและมองไปที่หยางเฉียนที่อยู่ข้างหน้าเขา “ทำไมผมถึงต้องยอมรับการสัมภาษณ์ด้วย?”
หยางเฉียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่คาดคิดว่าลู่หยานผู้ซึ่งสามารถผ่านการประเมินระดับฝันร้ายได้ในระยะเวลาอันสั้นจะพูดอะไรแบบนี้
“ลู่หยาน คุณก็น่าจะรู้จักหลินอันทีวีนะ การสัมภาษณ์ของเราสามารถเพิ่มชื่อเสียงของคุณได้ และเราก็ยังช่วยให้คุณได้รับความสนใจจากมหาวิทยาลัยได้ เพราะฉะ…”
ก่อนที่หยางเฉียนจะพูดจบ ลู่หยานก็ได้ขัดจังหวะเธอโดยตรง
“แม้ว่าผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะยังไม่ออก แต่ด้วยผลงานจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของผม ผมก็แน่ใจมากว่าผมจะสามารถดึงดูดความสนใจของมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ คุณว่างั้นไหม?”
“ยิ่งไปกว่านั้น พวกคุณก็คงจะอยากรู้สินะว่าทำไมเนโครแมนเซอร์ถึงสามารถเคลียร์ความยากระดับฝันร้ายได้เร็วนัก? นี่เป็นสิ่งที่หลายคนคงจะสนใจใช่ไหม?”
“ผมเชื่อว่าสื่อต่างๆ ในหลินอันได้กำหนดเป้าหมายมาที่ผมแล้ว มันก็แค่ว่าพวกคุณมาถึงก่อนก็เท่านั้นเอง”
ลู่หยานหรี่ตาลงในขณะที่มองไปที่หยางเฉียนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา เพื่อที่จะฆ่าหูเว่ยและหวังเฟิง เขาจึงได้ใช้รางวัลจากโรงเรียนไปจนเกือบหมดแล้ว
เพราะฉะนั้นแล้ว พวกเขาก็ควรจะให้สิ่งตอบแทนเขามาบ้างถูกไหม?
หยางเฉียนเข้าใจดีว่าลู่หยานหมายถึงอะไรและขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอทราบเงื่อนไขของคุณหน่อยจะได้ไหม?”
เนโครแมนเซอร์ที่สามารถเคลียร์ความยากระดับฝันร้ายได้นั้นเป็นข่าวที่ดังมาก
หากไม่ใช่เพราะวิดีโอของผู้เข้าสอบได้ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อคืนนี้ในตอนที่ฝนยังตกหนัก เธอก็คงจะรีบถ่อมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว
ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าลู่หยานจะมาขอค่าตอบแทนจากเธอ อย่างไรก็ตาม หากเธอสามารถสัมภาษณ์อีกฝ่ายได้ เธอก็จะสามารถจ่ายค่าตอบแทนนั้นได้ด้วยเช่นกัน
ลู่หยานเหยียดฝ่ามือออกและพูดว่า “500,000 เหรียญพลังงาน”
“อะไรนะ?!” หยางเฉียนอุทานว่า “นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก!”
500,000 เหรียญพลังงานนั้นเทียบเท่ากับ 5 ล้านในสกุลเงินธรรมดา
ในฐานะพิธีกรชั้นนำของหลินอันทีวี เงินเดือนประจำปีของเธอก็ยังอยู่ที่ 100,000 เหรียญพลังงานเท่านั้น ถึงอย่างนั้น ผู้ชายคนนี้ก็ยังต้องการเหรียญพลังงานถึง 500,000 เหรียญ
ลู่หยานยิ้มและพูดว่า “คุณจะกลับไปพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนก็ได้ ฉันเชื่อว่าไม่เพียงแค่เมืองหลินอันเท่านั้น แต่ทั่วทั้งประเทศและแม้แต่ทั่วทั้งโลกก็จะต้องให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังการเคลียร์ความยากระดับฝันร้ายของเนโครแมนเซอร์อย่างแน่นอน”
“นี่จะต้องเป็นข่าวใหญ่ในต่างประเทศ เห็นแก่ว่าคุณมาถึงเป็นคนแรก ดังนั้นฉันเลยให้ราคาที่เป็นมิตรกับคุณ เดี๋ยวอีกสักครู่เมื่อนักข่าวและพิธีกรคนอื่นๆ เริ่มกรูกันเข้ามาแล้ว ราคาก็คงจะไม่หยุดอยู่แค่นี้”
“ถ้าคุณตกลง ผมก็รับประกันได้เลยว่าการสัมภาษณ์ของคุณจะพิเศษแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ผมก็จะไม่ปิดบังอะไรจากคุณ”
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่หยาน สีหน้าของหยางเฉียนก็เปลี่ยนไปหลายครั้ง จากนั้นเธอก็มองไปที่ลู่หยานด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนและพูดว่า “ฉันขอถามหัวหน้าก่อน โปรดรอสักครู่”
จากนั้นหยางเฉียนก็หันกลับไปและโทรหาหัวหน้าของเธอ
ในไม่ช้า หยางเฉียนก็เดินกลับมาและมองไปที่ลู่หยาน “ไม่เกิน 300,000 เหรียญพลังงาน เราให้มากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
ลู่หยานมองไปที่หยางเฉียนและยิ้ม “คุณจะลองถามหัวหน้าของคุณดูใหม่อีกครั้งก็ได้นะ แต่คุณต้องรีบหน่อยแล้วล่ะ เพราะเพื่อนนักข่าวคนอื่นเองก็น่าจะใกล้มาถึงแล้ว”
หยางเฉียนกัดริมฝีปากของเธอแล้วมองไปที่ลู่หยาน “ก็ได้! 500,000 เหรียญพลังงาน ฉันจะให้เหรียญพลังงานที่เหลืออีก 200,000 เหรียญแก่คุณเอง!”