บทที่ 19 หญิงไร้ตา
บทที่ 19 หญิงไร้ตา
“คุณว่าอะไรนะ! ยืมเงินงั้นเหรอ!” เสียงของลมหนาวพัดผ่านดังหวีดหวิวทำให้ได้ยินคำพูดของหญิงคนนั้นไม่ชัดเจน รูดินได้ยินเสียงของหญิงแปลกหน้าได้ไม่ชัดนักจับได้เพียงคำว่า ‘ยืม’
เขายิ้มอย่างช่วยก่อนจะกระชับสาบเสื้อผ้าเก่าๆ บนร่างของเขาด้วยท่าทางปฏิเสธและพูดว่า
“นี่น้องสาว! คุณคิดว่าผมมีเงินมากขนาดนั้นได้เลยเหรอ” เขาพูดต่อโดยไม่รอให้ผู้หญิงคนนั้นพูด
“สิ่งเดียวที่ผมให้คุณได้คือที่พักหนึ่งคืนเท่านั้น สาวน้อยถ้าคุณไม่ว่าอะไรจะมาพักที่บ้านผมสักคืนก็ได้”
หากเป็นคนปกติที่บ้านมีภรรยาและลูกสองคนแล้ว เขาทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร?
ชายคนนี้ใจดีจริงๆ เขาแค่ต้องการพาผู้หญิงน่าสงสารคนนี้ไปอยู่ด้วยหนึ่งคืน
“ขอยืมตาหน่อยได้ไหมคะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดอีกครั้ง
“อะไรนะ...ตาสาวน้อยคุณ...ล้อเล่นหรือเปล่า” คราวนี้รูดินได้ยินคำพูดของหญิงสาวได้อย่างชัดเจนในที่สุด สิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการยืมไม่ใช่เงินแต่เป็นดวงตาของเขา
ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านตั้งแต่ศีรษะจรดนิ้วเท้า
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเห็นได้ชัดว่าเป็นหญิงสาวอ่อนแอแต่มันทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นในใจ
“คุณจะไม่ให้ฉันยืมเหรอ” เมื่อได้ยินคำปฏิเสธของรูดินเสียงของผู้หญิงแปลกหน้าก็โกรธขึ้น
“ใครมันจะบ้าจะให้ยืมของพรรค์นี้กัน คุณจะเอามันไปทำอะไร”
เขาจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ยืมดวงตาของเขาไปได้ยังไง จิตใจของรูดินเย็นเยียบขึ้นผู้หญิงคนนี้แปลกเกินไป ชายหนุ่มเบือนหน้าหนี
“เพราะตาฉันบอด” ผู้หญิงคนนั้นพูด
คราวนี้เธอเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าซีกบนที่ปกคลุมไปด้วยผมและในที่สุดรูดินก็มองเห็นใบหน้าของหญิงสาวเต็มๆ
ตรงตำแหน่งของดวงตาของผู้หญิงนั้นไม่มีดวงตามีเพียงเบ้าตาสองโพรงเท่านั้นทั้งยังสามารถเห็นรอยเลือดซึมจากเนื้อเยื่อด้านใน
“อ๊าก!!!” รูดินถอยหลังด้วยความหวาดกลัว ตะเกียงน้ำมันในมือของเขาตกลงสู่พื้นเพราะความตื่นตระหนกกลายเป็นลูกไฟสองลูกพร้อมเสียงกระทบกัน
แม้ว่าอากาศจะเย็นและมีลมหนาวพัดมาเป็นครั้งคราวแต่เขาก็ยังคงสัมผัสได้ถึงเหงื่อเย็นเยียบอาบแผ่นหลัง
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ยอมให้ฉันยืมดวงตา” เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีตาแต่ดูเหมือนว่าเธอจะมองเห็นได้
หญิงสาวมองไปที่รูดินด้วยดวงตาเปื้อนเลือดน้ำเสียงของเธอเย็นชาและโกรธจัด
ฟุ้บ!
เธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าหารูดินที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว ก่อนที่รูดินจะทันได้ตอบโต้เธอคว้าคอของเขาด้วยมือซ้าย เห็นได้ชัดว่าฝ่ามือนี้เรียวงามมากแต่กลับทรงพลังอย่างยิ่ง มันคว้าคอของรูดินไว้ประหนึ่งคีมเหล็กทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้
รูดินรู้สึกหายใจลำบากแต่ภายใต้สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดเขาทั้งเตะทั้งต่อยหญิงสาวคนนั้นอย่างไม่ลังเล
แต่ไม่ว่าจะเป็นกำปั้นหรือเท้าของเขาที่โดนผู้หญิงแปลกหน้าอย่างไรมันก็ไม่สามารถทำร้ายเธอได้เลย ร่างของหญิงไร้ตายังคงนิ่งไม่ขยับ
เขาเห็นผู้หญิงคนนั้นยื่นมือขวาออกมาแล้วใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางยื่นออกมาค่อยๆเข้าใกล้ดวงตาของเขา ครูดินอยากจะกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวแต่ลำคอของเขาถูกล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนาจึงทำได้เพียงส่งเสียงครวญครางในลำคออย่างน่าสังเวช…
…………
ในรถม้าสีน้ำเงินฟลินน์กำลังง่วงนอนถึงขีดสุด เขาใช้เสื้อโค้ทหนาคลุมร่างกาย ฟลินน์คาดว่าคืนนี้คงเป็นอีกคืนแห่งการรอคอยที่เปล่าประโยชน์
เขาไม่รู้จริงๆ ว่าสัตว์ประหลาดนั่นจะโผล่มาอีกเมื่อไหร่ต้องรออีกกี่คืนเหมือนตอนนี้?
“เมี้ยว!!”
ทันใดนั้นแมวเหมียวก็ส่งเสียงร้องเหมียวๆ อยู่นอกรถม้าเมื่อได้ยินเสียงแมวร้องเขาตื่นทันทีหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
ปฏิกิริยาของไอวี่ยังคงเร็วกว่าเขา เธอถือตะเกียงน้ำมันและเปิดประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะกระโดดออกจากรถม้า
เขารีบตามออกไปและกระโดดลงจากรถม้าพร้อมๆ กัน
ฟลินน์เห็นแมวดำปรากฏอยู่ข้างรถม้าและมันก็คือแมวตัวที่ส่งเสียงร้องเมื่อครู่นี้
เมื่อเห็นไอวี่ มันก็หันกลับและวิ่งตรงไปทันทีราวกับว่าเป็นผู้นำทาง
ไอวี่ถือตะเกียงน้ำมันแล้วรีบตามไปเช่นเดียวกับฟลินน์
“คุณยืนอยู่ข้างๆ” ขณะที่วิ่งไอวี่หันกลับมามองฟลินน์และพูดกับฟลินน์เป็นประโยคที่ห้านับตั้งแต่รู้จักกัน
“ตกลง” ฟลินน์ไม่ปฏิเสธแต่ตกลง หากเป็นคนอื่นอาจรู้สึกขายหน้าแต่เขาไม่รู้สึก
ในชีวิตที่แล้วบวกกับชีวิตนี้อายุจิตใจของเขามากกว่าอายุร่างกายมาก มันเลยวัยแห่งการแข่งขันไปแล้ว
การทำให้ภารกิจสำเร็จได้โดยไม่ต้องลงมือแต่ได้รับของรางวัลมากพอๆกับคะแนนลึกลับดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งดีๆ นี้
โดยไม่คาดคิดฟลินน์จะตกลงอย่างง่ายดาย ไอวี่iมองไปที่ฟลินน์ยังคาดไม่ถึงและรู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าแตกต่างจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆที่เธอเคยสัมผัสมาก่อน
ถ้าว่าหญิงสาวไม่พูดอะไรการที่ฟลินน์ไม่ได้ปฏิเสธก็เป็นสิ่งที่เธอต้องการพอดี
พวกเขาสองคนและแมวหนึ่งตัววิ่งอย่างรวดเร็วจนมาถึงถนนหงหยิงซึ่งอยู่ห่างจากถนนไอรอนครอสออกไปสองซอย
“เหิ่กๆๆ” หลังจากวิ่งไปตามถนนสองสายฟลินน์แทบหมดลมหายใจ
การเสริมความแข็งแกร่งสำหรับผู้วิเศษนั้นส่วนใหญ่อยู่ในอวัยวะลึกลับแต่ไม่ใช่การเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย
นอกจากนี้เขาเพิ่งกลายเป็นผู้วิเศษและไม่ได้มีรสนิยมชอบออกกำลังกายมาก่อน ดังนั้นสมรรถภาพทางกายของเขาจึงไม่ค่อยดีนัก“นั่น!”
เมื่อมาถึงถนนหงหยิงทั้งสองก็เห็นชายคนหนึ่งถูกผู้หญิงคนหนึ่งกำลังบีบคออยู่ทันที
ผู้หญิงคนนั้นดูผอมแห้งแรงน้อยแต่เธอแข็งแกร่งมากและผู้ชายที่ถูกบีบคอไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้
ในทางตรงกันข้ามผู้หญิงคนหนึ่งกำรอบคอของชายคนนั้นด้วยมือเพียงข้างเดียวส่วนอีกมือกำลังเหยียดนิ้วชี้และนิ้วกลางค่อยๆ ยื่นออกไปหาดวงตาของชายคนนั้น
ลมหนาวพัดโชยมาเส้นผมที่ปิดตาของเธอปลิวไสวเผยให้เห็นเบ้าตาที่ว่างเปล่าของหญิงสาว
“สัมผัสความลึกลับเพิ่ม 1.5 คะแนน!”
ข้อความโปร่งแสงปรากฏขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตาของฟลินน์และเขาก็ได้รับคะแนนลึกลับ 1.5 คะแนน
เมื่อเทียบกับเรย์ โรมาโน่ที่ฟื้นคืนชีพแล้วคะแนนลึกลับนั้นเพิ่มขึ้นอีก 0.5 ซึ่งหมายความว่ามันน่าจะเป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งกว่าเรย์ โรมาโน่ที่ฟื้นคืนชีพ
เมื่อเห็นว่านิ้วของหญิงสาวกำลังแตะเปลือกตาของชายคนนั้นและกำลังจะสอดมันเข้าไปในดวงตาของเขาเพื่อควักดวงตาคู่นั้นออกมา
ฟุ้บ!
ไอวี่ยื่นมือออกมาและดีดนิ้วของเธอจนเกิดเป็นเสียงคมชัดดังขึ้นในยามค่ำคืน
การดีดนิ้วนี้ไม่มีผลกับฟลินน์หรือแมวจรจัดแต่มันส่งผลอย่างมากต่อผู้หญิงที่ไร้ตาตรงหน้า
นิ้วของผู้หญิงไร้ตาที่กำลังแตะเปลือกตาของชายคนนั้นแล้วหยุดชะงักลง
มันสั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวกับกำลังดิ้นรนพยายามที่จะหลุดออกจากการควบคุมของอะไรบางอย่าง
เมื่อเทียบกับแมวจรจัดแล้วมันแข็งแกร่งกว่ามากและมีความสามารถในการต่อสู้กับการควบคุมของไอวี่
“วู้!!”
ชายคนนั้นถูกรัดคอจนหายใจไม่ค่อยออก ดวงตาของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวดูเหมือนเขากำลังจะตาย
หากไม่ได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด แม้ว่าดวงตาของเขาจะไม่ถูกควักออกมาแต่ยังคงขาดอากาศหายใจตาย
“ปล่อยเขาไป!” ไอวี่พูดอย่างเย็นชาเมื่อตระหนักถึงสถานการณ์ของชายคนนั้น
ทันใดนั้นฟลินน์เห็นว่ามือของผู้หญิงไร้ตาที่กำคอของชายคนนั้นคลายออก แม้ว่ามือของเธอจะสั่นและดิ้นรนเท่าไหร่แต่มันก็ไม่สามารถขัดคำสั่งของไอวี่และหลุดออกไปได้
“ปีศาจ มีปีศาจ…”
รูดินตะโกนด้วยความหวาดกลัว หลังรอดพ้นจากความตายมาได้อย่างหวุดหวิด
ชายหนุ่มรีบหนีจากหญิงสาวไร้ตาและวิ่งไปหาไอวี่ที่ช่วยเขาไว้
รูดินเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้และเป็นผู้หญิงคนนี้ที่ช่วยเขาไว้
ผู้หญิงคนนี้มีความแข็งแกร่งมากจนสามารถต่อสู้กับปีศาจได้และเห็นได้ชัดว่าเธอไม่มีเจตนาร้ายต่อเขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงวิ่งเข้าหาหญิงสาวแปลกหน้าที่ช่วยเหลือเขาโดยสัญชาตญาณ
“มาทางนี้!”
ฟลินน์ตะโกนเรียกรูดินและบอกให้เขาเข้ามาข้างๆ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนไอวี่
“ได้ ได้...” รูดินผงกศีรษะและรีบไปหาฟลินน์
เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้มาพร้อมกับหญิงสาวที่ช่วยชีวิตเขาไว้ดังนั้นเขาควรมีพละกำลังมหาศาลเช่นเดียวกับหญิงสาวที่มาด้วยกัน
หญิงไร้ตายังคงดิ้นรนพยายามหลบหนีจากการควบคุมของไอวี่ร่างของเธอสั่นสะท้านมากขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าเธอกำลังจะจะทำมันสำเร็จ
ไอวี่ขมวดคิ้วและยกมือขวาขึ้นเผยให้เห็นแหวนพลอยราคาแพงระยับที่นิ้วกลางของมือขวา อัญมณีสีทองรูปไม้กางเขน
ฟุ้บ
ขณะที่ไอวี่เผยแหวนออกมา อัญมณีรูปไม้กางเขนบนแหวนก็เปลี่ยนไปมันส่องแสงสีทองพร่างพราวเป็นรูปกากบาทสีทองปรากฏขึ้นพร้อมกับแสงสีทองเรืองรอง
มันพุ่งออกไปไกลกว่าสิบเมตรเจาะเข้าที่หน้าอกของหญิงไร้ตาคนนั้น
แสงสีทองรูปกากบาทมีพลังในการเผาไหม้อย่างรุนแรงน่ากลัว รอยเลือดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเด่นชัดบนหน้าอกของหญิงไร้ตา
ปัง!
แสงสีทองรูปกากบาทหายเข้าไปในร่างของหญิงสาวไร้ตาก่อนที่เธอจะล้มลงกับพื้นโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
ก่อนหน้านี้เขาเดาผิดหรือเปล่า แหวนวงนั้นคืออวัยวะลับของเธอและเธอสามารถใช้ทักษะลับได้สองแบบ?
‘ไม่แหวนวงนั้นอาจไม่ใช่อวัยวะลับ แต่อาจเป็นเหมือนที่รองผู้อำนวยการฮาร์โลวินเคยพูดไว้มันคือสิ่งของที่ปนเปื้อนด้วยกลิ่นอายลึกลับที่มีพลังไม่ธรรมดา’ ฟลินน์มองดูแหวนพลอยที่นิ้วกลางขวาของไอวี่อย่างอยากรู้อยากเห็น
ถ้าหากเขาเดาถูกแหวนอันนี้มณีวงนี้จะต้องเป็นสิ่งที่ปนเปื้อนกลิ่นอายลึกลับและมีพลังไม่ธรรมดาระดับของมันอาจจะสูงกว่าปืนลึกลับที่เขาเพิ่งใช้ในพิธีเบิกเนตรก็ได้
ปืนและวัตถุอื่นๆ มีมูลค่าถึง 2,000 ปอนด์ทองคำ แหวนอัญมณีนี้น่าจะมีมูลค่าอย่างน้อยหลายพันปอนด์ทองคำหรืออาจถึง 10,000 ปอนด์ทองคำ
‘มันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถซื้อได้ในตอนนี้’
ฟลินน์ส่ายศีรษะอย่างปลงตก
ตลอด 2 ปีที่เขาทำงานเป็นผู้ประเมินราคาวัตถุโบราณเขามีเงินออมมากกว่า 100 ปอนด์ทองคำบวกกับเงินเดือนแรกจากสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรรวมกันก็มีเพียง 200 ปอนด์ทองคำ
ด้วยจำนวนเงินที่น้อยนิดนั้นไม่เพียงพอที่จะซื้อของวิเศษที่มีประโยชน์ในการทำภารกิจอย่างแน่นอน สิ่งที่ทำได้มีเพียงแข็งแกร่งขึ้นและเก็บเงินให้มากขึ้นเท่านั้น
“หลังจากนั่งโง่ๆ มาเกือบสัปดาห์ในที่สุดก็จบสักที!”
เมื่อมองไปที่ร่างของหญิงสาวไร้ตา เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างเอื่อยเฉื่อยและอารมณ์ของฟลินน์ก็ดีขึ้นมาก
ทันใดนั้น
ฟุ้บ!
หญิงสาวไร้ตาที่ล้มลงนอนกองอยู่กับพื้นและดูเหมือนตายไปแล้วก็กระโดดลุกพรวดขึ้นมาพุ่งทะยานหลบหนีทันที
ปรากฎว่าตอนนี้มันยังไม่ตายแต่แสร้งทำเป็นตาย!
เธอไม่คิดเลยว่าหญิงสาวไร้ตาจะมีเล่ห์เหลี่ยมขนาดนี้ เมื่อไอวี่ตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหญิงสาวไร้ตาก็หนีไปไกลกว่า 20 เมตรแล้วด้วยระยะทางนี้มันหลุดพ้นการควบคุมของเธออย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไร้ตากำลังหลบหนีไป
ปัง ปัง ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันสามนัด
กระสุนสีดำสนิทสามนัดพุ่งเข้าหาหญิงสาวไร้ตาด้วยความเร็วเสียงกระแทกเข้าที่ศีรษะของเธออย่างไร้ความปรานี
เดิมทีหญิงสาวไร้ตามีเพียงรูเบ้าตาที่เบิกโพลงไปด้วยเลือดและตอนนี้รูเลือดนั้นก็เพิ่มขึ้นอีกสามรู
ร่างที่วิ่งอยู่ของหญิงสาวไรตาหยุดกะทันหันและล้มลงกับพื้นอีกครั้ง มันแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ครั้งนี้ไม่น่าจะลุกขึ้นได้อีกตลอดกาล