ตอนที่ 35 ทำไมฉันต้องแต่งงานด้วยล่ะ
หลินเซินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเจ้าของร้านจะทำข้อตกลงที่สูญเสียผลประโยชน์
พวกเขาจะได้รับอย่างน้อย 10% จากข้อตกลง
แม้ว่าจะต้องประจบประแจงแต่เขาก็ยังทำเงินได้มากมาย
สำหรับว่าเจ้าของร้านจะตีราคาผิดหรือไม่ หลินเซินไม่คิดว่าชายวัยกลางคนจะทำอะไรที่เป็นการขัดต่อผลประโยชน์ของเขาเอง
“ได้”
หลินเซินรักษาบุคลิกที่เย็นชาและเงียบสงบของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและรับเงินห้าล้านเหรียญเซี่ยจากเจ้านาย
“ฉันจะกลับมาอีกถ้าหากฉันต้องขายวัสดุสัตว์อสูร”
“เราต้องได้ร่วมงานกันอีกแน่ครับคุณลูกค้า”
เจ้าของร้านเดินตามเขาออกจากร้านและโบกมือลาอย่างกระตือรือร้นบนถนน
หลินเซินโบกมือโดยไม่หันกลับมามอง
ฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่ดูแก่กว่าหลินเซินไม่กี่ปี
เขาวางของที่ถือลงและถามอย่างสับสนว่า
“นั่นใช่หลินเซินที่อยู่ข้างบ้านไหม ฉันจำได้ว่าเขาเป็นแค่ชาวนา ทำไมเขาถึงได้รับการปฏิบัติอย่างอบอุ่นจากเจ้าของร้านอย่างนั้น”
สถานบันเทิงยามค่ำคืนในเขตปลอดภัยเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
หลินเซินมองดูตัวเลขที่ปรากฏอยู่ในบัญชีธนาคารของเขาและรู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด แต่ไม่นานมานี้ เขาก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยยากจนที่ต้องวางแผนในการใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ตอนนี้เขาได้ก้าวข้ามจากความยากจนไปสู่ความร่ำรวยแล้ว แต่เขายังไม่รู้สึกชินกับมัน
“กลับบ้านไปแจ้งข่าวดีกับพี่สาวก่อน ฉันหายไปหลายวันเธอต้องเป็นห่วงมากแน่ ๆ”
ด้วยเงินจำนวนมหาศาลที่อยู่ในมือของเขา หลินเซินรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
เป้าหมายที่เขาปรารถนามานานหลายปีบรรลุผลสำเร็จแล้ว เขารู้สึกว่าท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สลัวแต่เดิมตอนนี้เต็มไปด้วยดวงดาว
เขานั่งแท็กซี่กลับไปยังละแวกบ้านของเขา
หลินเซินเดินขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว เขาหยิบกุญแจออกมาจากคลังของฟาร์มระดับพระเจ้าและเปิดประตูโดยไม่เคาะ
“หลินน้อย ?”
ทันทีที่เขาเปิดประตู
หลินเซินเห็นพี่สาวของเขา หลิวเซียงเซียงในผ้ากันเปื้อน ดูเหมือนเธอเพิ่งกลับถึงบ้านและกำลังเตรียมทำอาหารเย็น
ใบหน้าที่งดงามของเธอมีร่องรอยของความซีดเซียวและมีรอยคล้ำใต้ตาของเธอ มันได้บีบหัวใจของหลินเซิน
ขณะที่หลิวเซียงเซียงเห็นหลินเซิน ดวงตาที่สวยงามของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง
เธอรีบไปหาหลินเซินและกอดเขาแน่นโดยไม่สนใจส่วนผสมหรือเครื่องปรุงทั้งหมดที่เธอถืออยู่
“ในที่สุดนายก็กลับมา นายไม่รู้หรอกว่าฉันกังวลแค่ไหนหลังจากที่เธอจากไปโดยไม่บอกลา เกิดอะไรขึ้นกับนายทำไมถึงเพิ่งกลับมาล่ะ ?”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีพี่สาว”
หลินเซินเข้าใจถึงอารมณ์ของพี่สาว และหัวใจของเขาก็หนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่ง
ตั้งแต่พ่อแม่ของเขาจากไป เขาและพี่สาวก็ไม่เคยแยกจากกันนานขนาดนี้
บางทีความเจ็บปวดจากการสูญเสียผู้เป็นที่รักทำให้ทั้งสองหวงแหนกันมากยิ่งขึ้น
ถ้าพี่สาวของฉันตกอยู่ในอันตรายและไม่มีอะไรที่ฉันสามารถทำได้ ฉันคงเสียใจเหมือนกับเธอในตอนนี้
เขาถอนหายใจ
หลินเซินลูบหลังหลิวเซียงเซียงอย่างอ่อนโยนและปลอบโยนเธอ
“เอาล่ะพี่สาว ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ฉันกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ?”
“นายห้ามทำแบบนี้อีกนะ”
“โอเค โอเค ฉันสัญญา”
หลังจากนั้นประมาณห้านาที
หลิวเซียงเซียงก็ระงับอารมณ์ของเธอและกลับไปเป็นพี่ใหญ่ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว
“พี่สาวให้ ฉันมีอะไรจะให้ดู”
หลินเซินเปิดบัญชีของเขาและวางมันไว้ข้างหน้าพี่สาวของเขา
“เข้ามาใกล้ ๆ และดูว่ามีมากแค่ไหน”
“หลินน้อย ตอนนี้นายเป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่าทำตัวเป็นเด็กแบบนี้”
“นายกำลังจะบอกว่ามีเงินเป็นล้านอยู่ในนั้นหรือ”
หลิวเซียงเซียงโต้ตอบกับน้องชายของเธอ เธอถอนหายใจและเคาะหัวของหลินเซินเบา ๆ ก่อนที่จะมองไปที่โทรศัพท์ของเขา
“อืม ?”
หลิวเซียงเซียงเปิดปากเล็กน้อย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“นี่มัน... ทำไมถึงมีเงินห้าล้านอยู่ในนั้น”
“ฉันได้มันมาจากการล่าสัตว์อสูรในหุบเขาร้อยพัน”
หลินเซินพูดความจริงไปครึ่งหนึ่งว่า “ตอนที่ฉันค้นคว้าเกี่ยวกับทักษะอาชีพของฉัน ฉันตระหนักว่าอาชีพชาวนาของฉันไม่ใช่อาชีพชาวนาธรรมดา ๆ”
“มันเหมือนเป็นเจ้าของฟาร์มมากกว่า”
หลินเซินเริ่มกุเรื่องขึ้น
“ในฐานะเจ้าของฟาร์ม ฉันมีทักษะที่ทำให้ฉันมีความแข็งแกร่งในการต่อสู้เพื่อต่อต้านสัตว์ป่าที่เหยียบย่ำและขโมยพืชผลของฉัน”
“อีกทั้งยังมีการเลี้ยงสัตว์ด้วย มันทำให้ฉันสามารถเลี้ยงสัตว์อสูรได้ พวกมันจะฟังฉันเหมือนสัตว์อัญเชิญ”
“ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน พี่สาวก็ดูนี่”
หลินเซินจึงเรียกหมูป่าสีขาวที่ดูไร้เดียงสาจากฟาร์มแห่งที่สอง
“พี่สาว ถึงมันอาจจะดูน่ารัก แต่ระดับของมันสูงถึงทองแดง 5 เลยนะ”
“เพราะพวกมัน ฉันจึงไม่พบอันตรายใด ๆ ในภูเขาร้อยพัน”
หลิวเซียงเซียงปิดปากของเธอและมองไปที่ลูกหมูสีขาวหลายครั้งก่อนที่เธอจะเชื่อหลินเซินในที่สุด
แม้ว่าการกลายพันธุ์ของอาชีพจะเกิดขึ้นได้ยากในประเทศเซี่ย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นไปไม่ได้
ฉันควรจะดีใจหากน้องชายของฉันได้พบเหตุการณ์อย่างนั้น
หลิวเซียงเซียงกอดที่หน้าอกของเธอ เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาและบอบบางของหลินเซิน ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกภาคภูมิใจที่เด็กหนุ่มของเธอเติบโตขึ้นแล้ว
“เอาล่ะ หลินน้อยฝากเงินไว้ที่ฉัน ฉันจะเก็บไว้ใช้ตอนงานแต่งของนายในอนาคต”
หลินเซินรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น จะมีประโยชน์อะไรถ้าต้องเก็บไว้โดยไม่ใช้
เขาพูดทันทีโดยไม่คิดว่า “ฉันอยู่กับพี่แล้ว ทำไมฉันถึงต้องแต่งงานด้วยล่ะ ยังไงซะเราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด...”
ผ่านไปครึ่งประโยค หลินซฺนก็รู้สึกตกใจ เขาตัวแข็งทื่อราวกับถูกฟ้าผ่า
เขาหันไปมองพี่สาวด้วยความงุนงง
หลิวเซียงเซียงก็จ้องมองมาที่เขาอย่างว่างเปล่าเช่นกัน หน้าแดงปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สวยงามของเธอ จากนั้นดูเหมือนหลินเซินจะได้ยินเสียงเธอกัดฟัน
มันราวกับจะสื่อว่า “ฉันเห็นแกเป็นน้อง แต่แกกลับอยาก...ฉัน”
จินตนาการของหลินเซินโลดแล่น
“ฉันจะประหยัดเงิน แต่ก่อนอื่น ออกไปกินข้าวฉลองที่นายค้นพบเส้นทางของตัวเองกันเถอะ !”
หลิวเซียงเซียงลดศีรษะลง สีแดงบนใบหน้าของเธอยังไม่จางหายไปเลย
“อา โอเค โอเค ฉันจะฟังพี่สาวของฉัน”
ทั้งสองคนเปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่งแท็กซี่ไปร้านอาหารหรูที่พวกเขาเคยไปฉลองวันเกิดหรือฉลองปีใหม่เท่านั้น
บรรยากาศที่น่าอึดอัดยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งพวกเขาเข้าไปในร้านอาหาร หลิวเซียงเซียงนั่งที่โต๊ะแล้วพูดว่า “หิวแล้ว” จากนั้นบรรยากาศก็ค่อย ๆ ย้อนกลับไปในอดีต
เรื่องนี้จบลงแล้ว
หลินเซินถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในเวลาเดียวกันคำถามก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
เรื่องนี้จบแล้วจริงหรือ ?
หลินเซินไม่รู้ เขาเลือกที่จะเลิกคิดเรื่องนี้
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเริ่มแชทออนไลน์ขณะที่กินข้าว
มู่จือว่าน (นามแฝงของกู่ว่านเอ๋อ) “คุณหมายถึงอะไร”
มู่หลินเซิน (นามแฝงของหลินเซิน) “เราเป็นพี่น้องกันตลอดชีวิต !”
เสือในใจฉัน (นามแฝงของหวังเหยียนหรัน) “อาจารย์ ทำไมท่านไม่พูดอะไรเลย ?”
มู่หลินเซิน “ฟู่ถงน่าจะช่วยคุณได้”