ตอนที่แล้วตอนที่ 111 แท่นวาป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 113 กษัตริย์เซิ่งเหยาบุก

ตอนที่ 112 วิหารอวยพร


ตอนที่ 112 วิหารอวยพร

[ตรวจพบอาณาเขตที่ยังไม่มีเจ้าของ คุณต้องการย้ายดินแดนมาที่นี้หรือไม่?]

[เมื่อย้ายแล้ว อาณาเขตแห่งนี้นั้นจะเป็นอาณาเขตที่ขึ้นตรงกับคุณ สามารถควบคุมอาณาเขตทั้งหมดได้]

[โปรดทราบ ราชันแต่ละคนสามารถมีอาณาเขตในครอบครองได้เพียงแห่งเดียว หากคุณเลือกที่จะย้ายแล้ว การโยงกับอาณาเขตเดิมจะถูกยกเลิก]

.....

มันสามารถย้ายได้งั้นเหรอ

การเคลื่อนไหวของ หลิน ยู หยุดนิ่งเขาประหลาดใจนัก

แต่หลังแต่จากที่ครุ่นคิดแล้ว หากเขาย้ายดินแดนมาที่นี้ เมืองหวงซาจะกลายเป็นเมืองที่ไร้เสาหลักอีกครั้ง

เขาไม่สามารถทำได้

แม้ว่าเมืองหวงซานั้นไม่ได้เจริญเท่ากับเมืองโม่หยวน แต่ตำแหน่งที่ตั้งของเมืองนั้นดีกว่าเมืองโม่หยวนมาก

ไม่เพียงแต่มันจะได้รับการสนับสนุนจากเส้นเลือดแร่เท่านั้น มันยังอยู่ติดกับชายแดนอาณาจักร เยว่ฮวา และมีทะเลทรายโกบีขั้นกลางอยู่ มันเป็นแหล่งฟาร์มมอนสเตอร์ของเขาเลย

ตราบใดที่เส้นทางการค้าเปิดขึ้น มันเปรียบเสมอทองคำสำหรับ เขาเลยแล้วเขาจะยกให้คนอื่นได้อย่างไรกัน?

"ชั่งมันเถอะ ตอนนี้ภัยคุกคามได้รับการแก้ไขแล้ว ดังนั้นเขาจะทำอะไรที่เขาต้องการได้จริงๆซักที"

หลิน ยู ยักไหล่ออกมาและไม่สนใจการแจ้งเตือน

ตอนนี้นั้นเขามีกำลังคนน้อยมากแถบจะไม่สามารถควบคุมเมืองหวงซาได้ การที่จะจะควบคุมอีกเมืองหนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องดี

อย่างไรก็ตาม เขายังต้องรับมือกับอันตรายที่ซ่อนอยุ่ที่นี้

ในไม่ช้า หลิน ยู ก็นำกองทัพพืชของเขาออกจากปราสาทของราชัน ออกห่างไปจากเมืองโม่หยวน

จนกระทั่งเขาหายลับไป ชาวเมืองโม่หยวนที่ตึงเครียดก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

อย่างไรก็ตาม ใช้เวลาเพียงไม่นาน ข่าวที่น่าตกตะลึ่งก็ได้มาถึงพวกเขา

ผู้ฝึกตรที่เดินทางไปพร้อมกับ ฟางหงไห่ ถูกสังหารทั้งหมด

ไม่เหลือแม้แต่คนเเดียว

จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดลง ในที่สุดเขาก็กลับมาถึงดินแดน และบังเอิญพบกับ เหว่ย กังที่มาดักรอเขาอยู่่

"มีธุระอะไรงั้นเหรอ"

หลิน ยู สั่งให้กองกำลังของเขากลับไปยังดินแดน ขณะที่เขานั้นอยู่ด้านนอกเพื่อคุยกับ เหว่ย กัง

"นายท่าน ข้ามีเรื่องจะรายงายขอรับ" เหว่ย กัง ที่มาหา หลิน ยู โค้งคำนับด้วยความเคารพ "เมื่อช่วงบ่ายวันนี้นั้น มีผู้ฝึกตนระดับ 6 2 คนมาที่เมืองของเรา พวกเขาบอกว่าต้องการรับใช้นายท่าน ด้วยพลังของพวกเขา นายท่านคิดว่าควรจัดการอย่างไรขอรับ"

ขณะที่เขา พูดออกมานั้น เขาแอบสังเกตการท่าทีของ หลิน ยู ด้วยความไม่สบายใจ

แม้ว่าเขาจะเป็นถึงผู้บัญชาการทหารของเมืองหวงซา แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นก็อยู่เพียงระดับ 5 เท่านั้น

แม้ว่าจะได้อุปกรณ์ที่ หลิน ยู มอบให้เขา ก่อนหน้านี้มันก็เพียงพอที่จะสู้กับระดับ 6 ทั่วๆไปได้เท่านั้น

ในตอนนี้มีผู้ฝึกตนระดับ 6 ต้องการทำงานให้กับ หลิน ยู เป็นธรรมดาที่เขาจะเป็นคนที่กังวล แต่เขานั้นไม่กล้าพูดอะไรออกมา

ตอนแรกนั้น หลิน ยู สงสัยว่าทำไมเหว่ยกังจึงมาหาเขา หลังจากเห็นการแสดงออกของเขาหลิน ยู ก็เข้าใจได้ทันที เขาจึงได้มาถามความเห็นของหลิน ยู

หลิน ยู ยิ้มออกมายืนมือออกไปแตะที่ไหล่ของ เหว่ย กัง "ปล่อยให้ เหล่า เซียว เป็นคนจัดการ เขารู้วิธีอยู่แล้ว อีกทั้งคุณต้องฝึกฝนให้หนักยิ่งขึ้น ไม่อยากนั้นคุณควบคุมคนเหล่านั้นได้อย่างไรกันในอนาคต?"

"นายท่าน.."

เหว่ย กัง เงยหน้าขึ้นมองไปที่ หลิน ยู ด้วยความเคารพ

เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มบนในหน้าของ หลิน ยู เขาก็น้ำตาคลออกมา

"ขอบพระคุณขอรับ! ผู้ใต้บังคับบัญชาจะฝึกให้หนักยิ่งขึ้น! และก้าวเข้าสู่ระดับ 6 ให้เร็วที่สุุด!"

"เอาหละ ไปได้แล้ว ฉันจะเพิ่มระดับของสนามให้ในภายหลัง ให้นายใช้ได้อย่างอิสระ ไปฝึกฝนที่นั้นซะเมื่อมีเวลา"

"ขอบพระคุณนายท่านสำหรับรางวัล" เหว่ย กังตื่นเต้นอย่างมาก

มันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเล็กน้อย จากการใช้สนามฝึกได้อย่างอิสระ แต่มันเป็นคนมั่นจากหลิน ยู

ตราบเท่าที่เป็นคำสั่งจาก หลิน ยู ต่อให้เขาต้องบุกน้ำลุยไฟ เขาก็จะไม่ปฏิเสธ

ดังนั้นหลังจากได้รับคำสั่งแล้ว เข้าก็รีบหลังและจากไป เตรียมแจ้งข่าวให้กับ เซียว ฉางกุ้ย

"ออ ใช่มีอีกเรื่องหนึ่ง"

ในตอนนั้นเอง เสียงของ หลิน ยู ก็ดังอีกครั้ง

เหว่ย กังที่ยังไม่ได้จากไปไกล หยุดลงและมองเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"นายไม่จำเป็นต้องสนใจเกี่ยวกับเมืองโม่หยวนอีกแล้ว แค่สนใจสิ่งที่เกิดที่ขึ้นตรงหน้าเท่านั้น"

"ไม่มีคำถามเพิ่มเติมใช่ไหม?" เห่วย กังได้แต่สงสัย

"หมดแล้ว!"

หลิน ยู พูดออกมาเบาๆก่อนจะหันกลับไปเข้าไปในป่าเถาวัลย์ ทิ้ง เหว่ย กัง ที่จะคงสับสนไว้ด้านหลัง

เมืองเห็นว่า หลิน ยู ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีกต่อไป รีบกลับไปยังเมืองหวงซาหายไปท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน

.....

หลังจากกลับมาที่ดินแดน ไม่นาน หลิน ยู มายังต้นไม้แห่งชีวิต

เขามองดู ในระหว่างทำสงครามกับเมืองโม่หยวนนั้น เขาสูญเสียทหารระดับ 6 ไปถึง 20 ตัวซึ่งพวกมันทั้งหมดมาจากสกิลแยกตัว ไม่ได้ทำลายร่างหลักแต่อย่างใด

มันช่วยประหยัดพลังเวทย์ในการอัญเชิญทหารไปได้เยอะเลยทีเดียว หากเขาต้องการทหารพืชเหล่านั้นสามารถใช้แยกตัวและขยายพันธุ์ได้อีกครั้ง

แสงจากหญ้าโคมไฟที่ล่องอยอยู่เหนือดินแดงมีพลังเวทย์รักษาหมู่ ทำให้กองกำลังของเขาฟื้นตัวอย่างช้าๆ

หลังจากตรวจสอบสถานะของกองกำลัง

หลิน ยู เปิดหน้าต่างสิ่งก่อสร้าง เขาใช้ทรัพยากรที่เพิ่งได้มาอัพเกรดสนามฝึกทันที โดนเพิ่มมันเป็นระดับ 6

[ชื่ออาคาร : สนามฝึกซ้อม (กอง บก.)]

[ระดับสิ่งก่อสร้าง : ระดับ 6]

[คำแนะนำสิ่งก่อสร้าง : สามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนให้กับชาวเมือง ยิ่งระดับสูงเท่าใด ประสิทธิภาพในการฝึกฝนก็ยิ่งมีมากขึ้น]

[โบนัสความเร็วในการฝึกฝน : 60%]

[พลังเวทย์/วัน : 600 แต้ม]

[วัสดุที่จำเป็น : ไม้ 1500 ชิ้น หิน 1500 ชิ้น แร่เหล็ก 750 ชิ้น แร่ทองแดง 750 ชิ้น พลังเวทย์ 3000 แต้ม]

สิ่งก่อสร้างที่อยู่ในอาณาเขตของเขานั้นใช้พลังเวทย์จำนวนหนึ่งในการบำรุงรักษามันทุกวัน ระดับที่ 6 คือ 600 ซึ่งมันยังอยู่ในขอบเขตที่เขารับได้

สำหรับสนามฝึกฝนนั้นเมื่อระดับของมันเพิ่มขึ้นถึงระดับ 6 ความเร็วในการฝึกฝนก็เพิ่งสูงขึ้นหัว 60% มันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ยกระดับขึ้นแล้ว หลิน ยู ก็พบว่าห้องต่างๆในสนามฝึกซ้อนก็จะได้เพิ่มขึ้นเหมือนกันจาก 10 ห้องเป็น 60 ห้อง อาคารถูกยกระดับเป็น 3 ชั้น

จากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นและการสูญเสียพลังเวทย์ของ หลิน ยู ในแต่ละวัน เขาจึงขึ้นราคาในการใช้งานห้องฝึกฝนเป็น 6 ครัสตัล/ชั่วโมง

นี้เป็นราคาที่ยอมรับได้สำหรับผู้ฝึกตนทั่วไป สุดท้ายเขาก็สามารถหามันได้จากการล่ามอนสเตอร์ที่เหนือกว่าระดับ 3

มันไม่มากเกินไปสำหรับพวกเขาที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้งาน

สมมติว่าทั้ง 60 ห้องเห็นทั้งวันและยังไม่รวมค่าบำรุงรักษา เขาได้รับพลังเวทย์ 8000 แต้ม/วัน

แน่นอนว่านี้เป็นเพียงเรื่องที่เขาสมมุติขึ้นมา

เมืองหวงซาเพิ่งจะพัฒนาขึ้นมาเอง มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันที่จะมีผู้ฝึกตอนจำนวนมากมาฝึกฝนทุกวัน?

หากเขาไม่ลงทุนก่อน

เขาก็จะไม่ได้รับผลตอบแทนในอนาคต

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้เขาก็ปิดหน้าต่างสิ่งก่อสร้าง มองไปยังทรัพยากรที่เหลือ

เขายังเหลือพลังเวทย์อีก 210000 แต้ม และแร่อีกอย่างละประมาณ 2000 ชิ้น รวมกับบางส่วนที่ทีมขุดแร่ทำมาให้เขาวันนี้ ส่วนใหญ่นั้นมาจากการที่เขาสังหารฟาง หงไห่

ต้องขอบคุณชายคนนั้น ในที่สุดก็ทำให้เขามีทรัพยากรพอที่จะยกระดับสิ่งก่อสร้างพื้นฐาน

โดยไม่ลังเล เขาเปิดหน้าต่างสิ่งสร้างอีกครั้ง

ต้องบอกก่อนว่าสิ่งก่อสร้างขั้นพื้นฐานนั้นมีผลต่อการพัฒนาของเมืองจริงๆ หลิน ยู เริ่มค้นหา

สนามฝึก ร้านช่างตีเหล็ก ร้านขายยา ร้านเครื่องหนัง ตลาดแลกเปลี่ยน หอคอยความรู้ โรงอาหาร หอยิงธนู ป้อมปราการ เรือนตกปลา ยุ้งฉาง สวนผลไม้ พื้นที่เพาะปลูก ทุ่มหญ้า กังหันน้ำ โรงเตี๊ยม...

มันมีเกือบทุกอย่างอาคารแต่ละประเภทมีหน้าตาแตกต่างกันออกไป

เมื่อพิจารณาจากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดของเขา หลิน ยู ก็ได้เลือกสิ่งก่อสร้างพื้นฐานมา 5 แห่งที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมือง ได้แก่ สนามฝึกฝน ร้านชั่งเหล็ก ร้านขายยา ร้านเครื่องหนัง และตลาดแลกเปลี่ยน

ทันใดนั้นก็เกิดแสงสว่างวาบภายในเมืองหวงซา ทำให้ชาวเมืองโดยรอบหยุดรอดู

แต่สิ่งที่ หลิน ยู ไม่คาดคิดคือมีการแจ้งเตือนดังขึ้นในหัวของเขา

[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้สร้างสิ่งก่อสร้างพื้นฐาน 5 แห่งภายในอาณาเขตย่อย ได้รับ อาคารพิเศษ "วิหารอวยพร" ถูกปลดล๊อกแล้ว]

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด