(ฟรี) บทที่ 430 เซินหนิงผู้เกือบจะมีปัญหา
ห้องนอนผู้นำนิกาย...
เหลิงอู่เหยียนพาเซินหนิงกลับมาโดยตรงไม่ใช่เพราะรีบร้อนที่จะชี้แนะการบ่มเพาะ
จุดประสงค์หลักคือการสอบปากคำ
นางอยากรู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างหลี่หรานกับฉู่หลิงฉวนระหว่างที่เขาอยู่ในศาลาหมื่นดาบ
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองเป็นยังไง?
เหตุผลที่นางรีบร้อนมากเพราะนางไม่ต้องการให้โอกาสหลี่หรานในการ ‘เตี๊ยม’ กับเซินหนิง
แม้ในความเป็นจริงนางไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนี้
ด้วยความแข็งแกร่งของนาง นางสามารถอ่านความทรงจำของเซินหนิงได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้
แต่นางก็ยังไม่เลือกที่จะทำเช่นนั้น
ท้ายที่สุดเด็กสาวคนนี้กับหลี่หรานมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และพวกเขายังเรียกกันว่าพี่ชายและน้องสาว
“อะไรแปลกๆ?” เซินหนิงเอียงศีรษะอย่างงุนงง “ท่านอาจารย์หมายถึงอะไร?”
“นี่…” เหลิงอู่เหยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งและไม่รู้ว่าจะอธิบายให้อีกฝ่ายฟังอย่างไร
สำหรับเซินหนิง เรื่องแบบนี้ควรอยู่นอกเหนือขอบเขตความเข้าใจ
“ก็แค่... ฉู่หลิงฉวนกับหลี่หราน พวกเขาใกล้ชิดกันเกินไปหรือเปล่า? อย่างเช่น… นอนด้วยกันตอนกลางคืน?”
เซินหนิงกล่าวว่า “ใช่ อาจารย์ฉู่กับพี่ชายนอนด้วยกันทุกวัน”
“เจ้าว่าไงนะ?” เหลิงอู่เหยียนลุกขึ้นยืนทันที “พวกเขานอนด้วยกันทุกวัน?!”
“ใช่” เซินหนิงพยักหน้า
เหลิงอู่เหยียนกำหมัดแน่น ร่างกายของนางสั่นสะท้าน ความโกรธในดวงตาแทบจะทะลักออกมา
นางคิดว่าเมื่อคืนนี้เป็นอุบัติเหตุ ไม่คิดว่ามันจะเป็นกิจวัตรประจำวันของพวกเขาทั้งสอง!
เพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วัน!
เหลิงอู่เหยียนกัดฟันด้วยใบหน้าเย็นยะเยือก “เจ้าบอกว่าเจ้าไม่สนใจบุรุษ แต่สุดท้ายเจ้าก็ทำแบบนี้กับศิษย์ของข้า! ข้าควรจะฆ่านางเสียเดี๋ยวนี้!”
“พวกเขารู้จักกันนานแค่ไหนกัน? ไร้ยางอายจริงๆ!”
หน้าอกของนางสั่นอย่างรุนแรง
ถ้าสาวน้อยตรงหน้าไม่ได้อยู่ที่นี่ นางคงบ้าคลั่งไปแล้ว
ในเวลานี้เอง เซินหนิงพูดขึ้นว่า “แต่ไม่ใช่แค่อาจารย์ฉู่กับพี่ชายเท่านั้น ข้าก็อยู่ที่นั่นด้วย”
“เจ้า?”
“ใช่” เซินหนิงพูดอย่างไร้เดียงสา “ในช่วงเวลานั้นเราสามคนนอนด้วยกัน”
“สามคน?” เหลิงอู่เหยียนรู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น
นางสามารถบอกได้ว่าเซินหนิงไม่ได้โกหก
แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างหลี่หรานและฉู่หลิงฉวน เซินหนิงไม่ควรจะอยู่ที่นั่นใช่ไหม?
เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขามีงานอดิเรกแปลกๆบางอย่าง?
“ไม่ว่ายังไงพวกเจ้าทั้งสามก็ไม่ควรอยู่ด้วยกัน ศาลาหมื่นดาบไม่มีห้องนอนอื่นแล้วหรือ?” เหลิงอู่เหยียนขมวดคิ้ว
เซินหนิงอธิบายว่า “เป็นเพราะอาจารย์ฉู่ใช้ปราณดาบชำระล้างไขกระดูกของข้าและพี่ชายทุกคืน และนี่เป็นครั้งแรกที่ข้าออกมายังโลกภายนอก ข้ากลัวมากจนนอนไม่หลับถ้าไม่มีพี่ชาย ดังนั้น…”
“มันเป็นเช่นนั้นเอง” เหลิงอู่เหยียนรู้สึกโล่งใจ
ตามคำกล่าวนี้ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับทั้งสองจริงๆ
แม้ว่ามันจะยังยากสำหรับนางที่จะยอมรับการนอนเตียงเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว
“เมื่อคิดดูแล้ว ด้วยการบ่มเพาะของฉู่หลิงฉวน ข้าเกรงว่าหรานเอ๋อร์จะทำอะไรไม่ได้…”
เหลิงอู่เหยียนมีรอยยิ้มที่มุมปากของนาง
เซินหนิงเช็ดเหงื่อเย็นของนางอย่างเงียบๆ
แม้ว่านางจะไม่เข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง แต่สัญชาตญาณของนางบอกว่านางเกือบจะมีปัญหาแล้วก่อนหน้านี้...
“ท่านอาจารย์ ศิษย์คนนี้ได้ตอบคำถามของท่านแล้ว ข้าขอพบพี่ชายเลยได้ไหม? และพี่สาวของข้าก็อยู่ที่นี่ด้วย” เซินหนิงถามอย่างระมัดระวัง
เหลิงอู่เหยียนลูบคางของนาง คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เจ้าบ่มเพาะกับข้าสักพักก่อนค่อยพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ไม่ต้องห่วง ข้าจะให้เจ้าได้พบหรานเอ๋อร์แน่นอน”
“ข้าเข้าใจ…” เซินหนิงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
เหลิงอู่เหยียนไม่ต้องการทำให้เด็กสาวตัวเล็กๆคนนี้หวาดกลัว แต่นางก็มีข้อพิจารณาของตัวเอง
เหตุผลที่นางตกลงรับเซินหนิงเข้าสู่นิกายไม่ใช่เพียงเพราะพรสวรรค์ของอีกฝ่ายเท่านั้น
แต่เด็กสาวคนนี้คือสาส์นท้าทายของฉู่หลิงฉวนที่ส่งมาถึงนาง
จากความทุ่มเทของฉู่หลิงฉวน จะเห็นได้ว่าครั้งนี้นางจริงจังมากและต้องการพิสูจน์ตัวเองโดยใช้เซินหนิง
แม้เหลิงอู่เหยียนจะคิดว่ามันน่าเบื่อ แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะยอมรับความพ่ายแพ้ต่อฉู่หลิงฉวน
ดังนั้นนางจะไม่หย่อนยานเมื่อพูดถึงการบ่มเพาะของเซินหนิง
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เหตุผลที่สำคัญที่สุด
แม้ว่าเหลิงอู่เหยียนจะโกรธหลี่หราน แต่นางไม่ได้เจอเขานานแล้ว นางยังต้องการพบเขาโดยเร็ว แต่นางไม่สามารถละทิ้งใบหน้าของตัวเองได้...
ด้วยเซินหนิงเป็นตัวกลาง มันจะมีเหตุผลมากมาย...
เซินหนิงพูดอย่างอายๆ “ท่านอาจารย์ คืนนี้ข้านอนกับพี่ชายได้ไหม?”
เหลิงอู่เหยียนส่ายหัว “ไม่ใช่คืนนี้ ข้าต้องใช้เต๋าเพื่อช่วยเปิดตันเถียนของเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องอยู่ในห้องนอนของข้า”
ฉู่หลิงฉวนใช้ปราณดาบชำระล้างไขกระดูก ดังนั้นนางจะไม่ยอมน้อยหน้า
‘จักรพรรดิสองคนช่วยกระตุ้นศักยภาพของนาง แม้แต่หรานเอ๋อร์ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้’ เหลิงอู่เหยียนส่ายหัว
“ข้าเข้าใจ…” เซินหนิงก้มหน้าลงอย่างหดหู่ แต่จากนั้นนางก็นึกถึงบางสิ่งและเสนอว่า “เช่นนั้นเรามานอนด้วยกันดีไหม เหมือนกับอาจารย์ฉู่?”
“นะ...นอนด้วยกัน?” เหลิงอู่เหยียนหน้าแดงและส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้ ข้ายังไม่ยกโทษให้เขาเลย และข้าจะนอนกับเขาได้ยังไง… ยังไงก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้!”
“ข้าเข้าใจแล้ว…” เซินหนิงดูหม่นหมองราวกับมะเขือเหี่ยว
เหลิงอู่เหยียนมองออกไปนอกหน้าต่างและพึมพำเสียงต่ำ “ข้าอยากรู้ว่าเมื่อไหร่เจ้าศิษย์อกตัญญูนั่นจะมาหาข้า!”
—
ที่พักอาศัยของบุตรศักดิ์สิทธิ์
หลี่หรานแช่ตัวในอ่างสมุนไพร น้ำอุ่นๆทำให้เขารู้สึกสบายจนง่วงงุน
และเซินฉินช่วยเขานวดขมับจากด้านหลัง บางครั้งก็หยิบผลไม้ข้างๆมาป้อนเข้าปากเขา
หลี่หรานดูพอใจมาก
ที่ไหนก็เทียบไม่ได้กับบ้านของตัวเอง!
เซินฉินถามอย่างเป็นกังวลขณะนวด “นายท่าน ท่านคิดว่าผู้นำนิกายเหลิงจะทำให้หนิงเอ๋อร์ทุกข์ทรมานหรือเปล่า…”
ตัวตนของเซินหนิงนั้นพิเศษมาก
ไม่รู้ว่าเหลิงอู่เหยียนจะไม่พอใจกับสถานะที่เป็นทั้งศิษย์ของวิถีมารและศิษย์ส่วนตัวของฉู่หลิงฉวนหรือเปล่า
ท้ายที่สุดความสัมพันธ์ระหว่างนางกับผู้นำนิกายฉู่นั้นย่ำแย่มาก
“ไม่ต้องกังวล” หลี่หรานปลอบโยน “ไม่ว่าความสัมพันธ์ของพวกนางจะแย่แค่ไหน พวกนางก็จะไม่ไปลงกับหนิงเอ๋อร์ และด้วยบุคลิกของท่านอาจารย์ นางจะสั่งสอนหนิงเอ๋อร์อย่างจริงจังแน่นอน”
เซินฉินพยักหน้า “ด้วยคำพูดของนายท่าน ข้ารู้สึกโล่งใจ”
หลี่หรานถอนหายใจ “ภารกิจเร่งด่วนที่สุดตอนนี้คือการทำให้ท่านอาจารย์สงบลง…”
ขณะที่เขากำลังคิดอย่างหนัก เสียงน้ำก็ดึงขึ้นข้างหู
เขาเงยหน้าขึ้นมองและทั้งร่างก็ตกตะลึง
“อาฉิน เจ้ากำลังทำอะไร!”
/////