ตอนที่แล้วบทที่ 21: สกิลระดับมาสเตอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23 : ระเบิดศพ เก็บศพ

บทที่ 22 : ค้นพบ


บทที่ 22 : ค้นพบ

ในวิลล่าทรุดโทรมทางทิศตะวันตก ไฟส่องสว่างขึ้น

หูเว่ยและลูกน้องหลายคนกำลังดื่มและร้องเพลงอยู่ในวิลล่า

ในฐานะสมาชิกของซิงก้า หูเว่ยก็ถือว่าทำงานได้ดีมาก

อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งของเขาในซิงก้านั้นก็ไม่ได้สูงมากนัก และเขาก็ไม่สามารถได้รับทรัพยากรได้มากนักด้วยเช่นกัน มันยากมากสำหรับเขาที่จะก้าวหน้าในแง่ของความแข็งแกร่ง

โดยพื้นฐานแล้ว เขาก็ต้องประหยัดและแลกเปลี่ยนเงินทั้งหมดกับทรัพยากร

อย่างไรก็ตาม หูเว่ยก็ไม่ใช่คนที่จะสามารถอดทนต่อความยากลำบากได้ดี ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเขาจะใช้เงินทองทั้งหมดของเขาเพื่อแลกเปลี่ยนมาซึ่งทรัพยากรในการฝึกฝน แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็กลับไม่ได้เพิ่มขึ้นมามากนัก และมันก็ทำให้เขาท้อกับสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้เอง โดยปกติเมื่อเขาไม่มีภารกิจใดๆ เขาก็จะใช้ชีวิตอย่างเมามันส์และใช้เงินทั้งหมดไปกับการบำเรอความสุข

เขาชอบวันที่ฝนตกเป็นพิเศษ และเมื่อฝนตก เขาก็จะปาร์ตี้ทั้งคืนแน่นอน

นอกจากนี้ ลูกน้องของเขาก็ยังได้นำสาวงามแปดคนมาให้กับเขาในคืนนี้ หูเว่ยกำลังกอดคนหนึ่งด้วยแขนซ้ายและอีกคนด้วยแขนขวา เขากินดื่มและร้องเล่นเต้นรำอย่างมีความสุข

สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนนี้ รถสีดำสภาพทรุดโทรม(?)คันหนึ่งได้ขับมาจอดอยู่ไม่ไกลจากวิลล่าของเขา

หลังจากที่ลู่หยานจอดรถเสร็จแล้ว เขาก็ออกไปดูวิลล่าที่อยู่ข้างหน้าเขาโดยทันที เขากำเคียวกระดูกทมิฬในมือเอาไว้แน่น

โดยไม่ลังเลใดๆ ลู่หยานก็มุ่งตรงไปที่บ้านพักหลังเก่าที่อยู่ตรงหน้าเขา

อุปกรณ์ชุดวิญญาณวายุได้เพิ่มค่าความว่องไวของลู่หยานขึ้นมาอย่างมาก และนอกจากนี้ มันก็ยังทำให้เขาสามารถเดินได้โดยไม่มีเสียงรบกวนใดๆ

เมื่อรวมเข้ากับสายฝนที่โปรยปราย มันก็ปิดบังเสียงทั้งหมดลงโดยตรง

เมื่อเขามาถึงผนังด้านนอกของวิลล่า ลู่หยานก็ได้ยินเสียงเพลงอึกทึกดังออกมาจากข้างใน

มันไม่มีอาคารอื่นๆ แถวนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับผู้คนที่จะปาร์ตี้กันให้เพลิน

และในขณะเดียวกัน สำหรับลู่หยานแล้ว มันก็เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการฆ่าคนปิดปากด้วยเช่นกัน

พระจันทร์มืดและลมกรรโชกแรง เมื่อประกอบเข้ากับฝนที่ตกหนัก มันก็ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะเหมาะไปกว่าวันนี้อีกแล้ว

หลังจากปีนข้ามกำแพงสำเร็จ ลู่หยานก็ได้เข้าสู่ลานบ้านของอีกฝ่ายแล้ว

เนื่องจากฝนที่ตกหนัก มันจึงทำให้ไม่มีการป้องกันใดๆ ในบริเวณโดยรอบ มันมีเพียงแสงไฟจากป้อมยามรักษาความปลอดภัยที่อยู่ไม่ไกลเท่านั้น ถึงอย่างนั้น เสียงเล่นเกมของพวกยามก็ทำให้ลู่หยานตระหนักได้ว่าการป้องกันนั้นหละหลวมเพียงใด

ลู่หยานย่องเข้าไปใกล้ป้อมยามรักษาความปลอดภัยนี้อย่างเงียบๆ และเรียกโครงกระดูกระดับสูงทั้งสองตัวออกมา

หลังจากตรวจสอบสถานการณ์ภายในอย่างถี่ถ้วนแล้ว ลู่หยานก็พบว่ามันมีคนเพียงสามคนที่กำลังเล่นเกมและดื่มอยู่เท่านั้น พวกเขาไม่ได้ระมัดระวังตัวเลย

และในขณะนี้ พร้อมกับเคียวกระดูกทมิฬในมือ ลู่หยานก็ได้เปิดประตูป้อมยามและรีบพุ่งเข้าไป

โครงกระดูกระดับสูงทั้งสองตัวเองก็ตามหลังเขามาติดๆ พวกมันพุ่งเข้าใส่ยามข้างหน้าในทันที

“ใครกัน?”

ยามทั้งสามคนที่อยู่ข้างในเพิ่งจะได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย แต่แล้วเมื่อพวกเขารู้ตัวอีกที เคียวสีดำทมิฬก็ได้ปรากฎขึ้นในสายตาของพวกเขาแล้ว

เสียงเนื้อถูกตัดขาดดังขึ้น จากนั้นหัวทั้งสามก็ลอยขึ้นไปในอากาศก่อนที่จะตกลงบนพื้นดังตุ้บ

ลู่หยานและโครงกระดูกทั้งสองประคองร่างของศพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง

แม้ว่าลู่หยานในปัจจุบันจะอยู่แค่เลเวลสิบเท่านั้น แต่ด้วยค่าความแข็งแกร่งและอุปกรณ์เสริมของเขา มันก็ยังค่อนข้างง่ายสำหรับเขาที่จะฆ่าชายทั้งสามคนที่ไม่ทันตั้งตัวได้ในทันที

ในบรรดาทั้งสามคน มันก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ปลุกอาชีพสายต่อสู้ขึ้นมาแล้ว แต่กระนั้นปฏิกิริยาของเขาก็ยังช้าไปเล็กน้อย

สร้อยคอที่หน้าอกของเขาสั่นไหว จากนั้นศพที่ลู่หยานประคองอยู่ก็หายไปและถูกลู่หยานใส่เข้าไปในช่องเก็บของของสร้อยคอ

จากนั้นลู่หยานก็สัมผัสกับศพอีกสองศพและเก็บมันเข้าไปในพื้นที่เก็บของของเขาด้วยเช่นกัน

หลังจากออกมาจากป้อมยามแล้ว ลู่หยานก็ปิดประตูอย่างระมัดระวัง

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ตอนนี้ป้อมยามก็เงียบลงอย่างมาก

จากนั้นลู่หยานก็นำโครงกระดูกทั้งสองไปที่อาคารหลักของวิลล่า

นี่เป็นวิลล่าสามชั้นขนาดเล็ก ไฟเปิดอยู่ทุกชั้น เสียงร้องเพลงและเสียงต่างๆ ดังออกมาจากชั้นสาม

ชั้นหนึ่งและชั้นสองค่อนข้างเงียบ

ลู่หยานผลักประตูอ้าอย่างช้าๆ และเดินเข้าไป

ชั้นแรกเป็นห้องโถงที่มีโซฟาสวยงามวางเรียง คนหลายคนกำลังนอนอยู่บนนั้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเมามาก

และเมื่อเห็นดังนี้ ลู่หยานก็รีบนำโครงกระดูกทั้งสองตัวที่อยู่เคียงข้างเขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและสังหารพวกเขาทั้งหมดลงก่อนที่จะเก็บศพของพวกเขาไป

พวกเขาเหล่านี้ถูกฆ่าในขณะนอนหลับอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา

แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ แต่ลู่หยานก็มีความเป็นมืออาชีพมาก

เมื่อเทียบกับสัตว์ปีศาจแล้ว มนุษย์ก็ฆ่าได้ยากกว่ามาก ถึงอย่างนั้น มันก็ใช่ว่าจะฆ่าไม่ได้

ลู่หยานนำโครงกระดูกทั้งสองเดินต่อขึ้นไปบนชั้นสองโดยไม่ส่งเสียงใดๆ

มันมีห้องหลายห้องบนชั้นสอง และมีทางเดินยาวตรงกลาง

สองข้างทางเดินยาวมีอันธพาลสองคนในชุดสูทกำลังยืนสูบบุหรี่และคุยกันอยู่

“นั่นใครน่ะ?”

เมื่อลู่หยานขึ้นไปข้างบน ทั้งสองคนก็เห็นลู่หยานเข้า

พวกเขาทั้งสองคนอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ได้รับคำเตือนจากคนที่อยู่ชั้นล่าง

อย่างไรก็ดี ในชั่วขณะที่พวกเขากำลังงุนงงอยู่นี้เอง ลู่หยานก็ได้พุ่งเข้ามาถึงข้างหน้าพวกเขาแล้ว เขายกเคียวสีดำทมิฬในมือขึ้นและผ่าร่างของพวกเขาออกเป็นสองท่อน

เมื่อมองไปที่ศพที่ถูกแยกออกจากกันบนพื้น ลู่หยานก็ขมวดคิ้ว “ดูเหมือนว่าการตัดหัวพวกมันจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว นี่มันน่าเกลียดเกินไป”

หลังจากเก็บศพเรียบร้อยแล้ว มันก็มีคนที่อยู่ในห้องโดยรอบเปิดประตูออกมาเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย

เมื่อมองไปที่คราบเลือดบนพื้น ผู้คนที่เปิดประตูออกมาก็ไม่ลังเลที่จะพุ่งตรงไปหาลู่หยานพร้อมกับอาวุธของพวกเขา

“กล้าดียังไง!”

ลู่หยานส่ายหัว เขาสะบัดเลือดออกจากเคียวกระดูกทมิฬ และโครงกระดูกทั้งสองที่อยู่ข้างหลังเขาเองก็รีบพุ่งออกมาปกป้องลู่หยาน

เมื่อชายคนนั้นพุ่งมาถึงด้านหน้า เคียวสีดำในมือของลู่หยานก็ฟันลงมาแล้ว เสียงกรีดร้องดังขึ้นในทันที และชายที่อยู่หน้าสุดก็ถูกลู่หยาน สังหารตามที่คาดไว้

พวกเขายังไม่ทันจะเห็นหน้าลู่หยานเลยด้วยซ้ำ!

คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนธรรมดา ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นไปไม่ได้ที่หูเว่ยจะมีกลุ่มลูกน้องเป็นผู้ที่มีอาชีพสายต่อสู้

คนเหล่านี้สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับคนทั่วไปและผู้ที่มีอาชีพเสริมระดับต่ำได้เท่านั้น แต่เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่ครอบครองอาชีพสายต่อสู้ มันก็มีเพียงผลลัพธ์เดียวเท่านั้น

พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้...

ลู่หยานเก็บกวาดศพของทุกคนอย่างระมัดระวัง

จากนั้นเขาก็เริ่มเปิดประตูทีละบานเพื่อเข้าไปเพื่อฆ่าคนที่เหลือ

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การร้องและเต้นบนชั้นสามนั้นก็ดังมากเกินไปจริงๆ มันดังกลบจนทุกคนแทบจะหูหนวกและไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องรบกวนจากชั้นสองเลย

แม้จะฆ่าทุกคนบนชั้นสองลงไปแล้ว แต่การร้องและเต้นบนชั้นสามก็ยังคงดำเนินต่อไป พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากความวุ่นวายด้านล่างเลย

ลู่หยานมุ่งหน้าไปยังชั้นสามอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขามาถึงชั้นสาม เสียงเตือนที่ดังเสียดหูก็ดังขึ้น มันระงับการร้องและเต้นที่อึกทึกลงในทันที

ลู่หยานขมวดคิ้วและมองไปที่สัญญาณเตือนอินฟราเรดที่ด้านข้าง

เขาประมาทเกินไป เขาไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะติดตั้งระบบเตือนภัยไว้ที่ชั้นสาม

แม้ว่าเขาจะสามารถใช้ศพลอบสังหารเพื่อหลีกเลี่ยงอุปกรณ์ดังกล่าวได้ แต่มันก็ยังคงต้องใช้พลังจำนวนมาก

แม้ว่าสกิลนี้จะไม่ได้ระบุเวลาคูลดาวน์ แต่ลู่หยานก็ได้ลองทดสอบมันก่อนที่บ้านแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขาก็จะสามารถรักษามันไว้ได้มากที่สุดเป็นเวลาเพียงสามนาทีก่อนที่ความแข็งแกร่งของเขาจะหมดลง

ด้วยเหตุนี้เอง ลู่หยานจึงวางแผนที่จะใช้ศพลอบสังหารนี้เพื่อจัดการกับหูเว่ย

เมื่อเสียงเตือนเสียดหูดังขึ้น เสียงร้องและเต้นก็หยุดลงในทันที หูเว่ยรีบวิ่งออกมาจากห้องส่วนตัวขนาดใหญ่พร้อมกับลูกน้องของเขา

ลู่หยานกำเคียวกระดูกทมิฬในมือแน่นและรอต้อนรับพวกเขาทั้งหมด

ในเมื่อเขาถูกค้นพบแล้ว งั้นเขาก็จะฆ่าพวกมันแบบซึ่งๆ หน้ากันไปเลย!

5 4 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด