ตอนที่ 1380 ความเดือดดาล กับ การป้องกัน
“รังสีนิรันดร์ปกป้องชีวิต”เทพพิทักษ์เขากวงหมิงยังไม่ตายในตอนนี้
เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ติดกับดักของหัวซิ่วรี่แต่เขายังฝันว่าได้เข้าไปในโลกแกนสมดุลซึ่งทำให้เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงพูดไม่ออก
อย่างไรก็ตามการต่อต้านของนักรบหอทงเทียนก็แข็งแกร่งสมเหตุผลที่สำคัญนี่คือการประลองชะตาที่เดิมพันกันด้วยเผ่าพันธุ์ทั้งหมดแม้กระทั่งทั้งโลก ผู้แพ้จะสูญเสียทุกอย่างทั้งมิอาจโทษว่าผู้อื่นเพราะความเหนื่อยยากลำบากในการหยุดยั้ง
เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงได้รับบาดเจ็บสาหัสถ้าตอนนี้เขามีบาดแผลเกิดขึ้นเจ็บปวดจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่และเขายอมแพ้ก็คงเป็นเหมือนจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อที่ทุ่มทั้งแรงกายและแรงใจและกลับเข้าสู่ห้วงนิทราชั่วนิรันดร์ แต่วิกฤตในปัจจุบันทำให้เขาต้องยกเลิกความคิดนี้และจัดกระบวนการความคิดใหม่ ถ้าเขาพลาดท่าพ่ายแพ้ล้มตายและเทพพิทักษ์ทะเลมรณะไม่อยู่ที่นั่น เย่ว์ไตตันผู้นี้อาจจะพลิกสถานการณ์ได้
ต้องป้องกันไม่ให้ภูเขาเคลื่อนลงทะเลต้องหยุดไม่ให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
ก่อนที่เทียนอี้จะมาถึงอย่างเป็นทางการ
เขาต้องมีชีวิต
ต้องอดทน
“จื้อไจ้เทียนคู่ต่อสู้ของเจ้าคือสาวน้อยเหล่านั้นข้าหวังว่าพวกเจ้าจะละเว้นคำดูถูกดูแคลนทั้งปวง พวกนางคือศัตรูที่เจ้าเล่ห์มาก”เทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงในตอนนี้รู้แล้วว่า แท้จริงแล้วสตรีเหล่านี้เป็นผู้ช่วยที่สำคัญที่สุดของเย่ว์ไตตันผลกระทบที่พวกนางร่วมมือกันไม่ด้อยไปกว่าตัวเขาเอง
“ขอรับ”พวกจื้อไจ้เทียนมาถึงด้วยตัวจริง ไม่ได้อยู่ในความฝันเหมือนกับเทียนอี้
“กลับไปที่กำแพงแก้ว”เสวี่ยอู๋เสียตัดสินใจอย่างเยือกเย็น
แม้ว่าเทียนอี้จะยังมาไม่ถึงแต่บริวารทั้งสามของพวกเขามิใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ ประมาทเพียงเล็กน้อยอาจตกอยู่ในอันตรายทำลายล้างสิ้นเชิงพวกจื้อไจ้เทียนทั้งสามทำให้เสวี่ยอู๋เสียรู้สึกได้พวกเขาอันตรายยิ่งกว่าเทพทะเลมรณะ ไม่ว่าจะเป็นพลังเทพหรือขอบเขตพลังพวกจื้อไจ้เทียนเหนือกว่ามากมาย
เมื่อเสวี่ยอู๋เสียถอยกลับมาเย่ว์หยางก็สูญเสียการควบคุมเหตุผล ความโกรธในใจระเบิดออกมาอย่างไม่อาจข่มกลั้นได้อีกต่อไป
อ๊าคคคคค.....
เขาคำรามอย่างควบคุมไม่ได้
ยักษ์ที่เกิดขึ้นจากเพลิงอมฤตออกมาจากด้านหลังของเขาสูงถึงพันเมตรเมื่อขยายจนถึงจุดสูงสุดก็ควบแน่นสร้างเป็นเกราะรบเพลิงอมฤตชนิดใหม่สวมเข้ากับร่างของเย่ว์หยางเสาเพลิงอมฤตเดิมกลายเป็นง้าวเพลิงอมฤตอยู่ข้างหน้าของเขา
ดวงตาของเย่ว์หยางไม่มีร่องรอยของสติสัมปชัญญะเป็นเหมือนอสูรฟ้าพลังเทพของเขามีพลังทำลายล้างไม่มีที่สิ้นสุด
ภายใต้พลังคุกคามปีกเพลิงอมฤตสีแดงกางขยายออกช้าๆ
ขยายตัวไม่มีที่สุด
“พิพากษาสูงสุด....”เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงตกใจเย่ว์ไตตันผู้นี้ยามสูญเสียสติสัมปชัญญะน่ากลัวยิ่งกว่าพลังเพิ่มมากขึ้นเป็นร้อยเท่า เพลิงอมฤตเปลี่ยนเป็นเกราะรบ อาวุธระดับเทพตอนนี้เขาควรทำอย่างไรดี? การโจมตีธรรมดาไม่มีประโยชน์ทำอะไรเกราะเพลิงอมฤตไม่ได้ทั้งยังอาจถูกเย่ว์ไตตันโจมตีใส่อย่างรุนแรง
ดังนั้นเทพพิทักษ์เขากวงหมิงจึงต้องใช้ไม้ตายต้องห้ามของเผ่ากวงหมิง‘แสงพิพากษาสูงสุด
ในสมัยเยาว์วัยนานมาแล้ว
อาจารย์ของเขาได้เตือนอย่างจริงจังวิชาลับนี้ อย่าใช้ออกเป็นดีที่สุด
เนื่องจากทุกครั้งที่ใช้ออกภูเขากวงหมิงจะสะสมบาปเพิ่มมากขึ้น วิชาลับต้องห้ามนี้ละเมิดวิถีธรรมชาติไม่ว่ายังไงก็ตามโลกนี้ถูกลิขิตให้ถูกกฎสวรรค์โบราณทิ้ง แม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้รับผลสะท้อนกลับแต่ภูเขากวงหมิงซึ่งเป็นที่รวมของชาวกวงหมิงจะต้องเผชิญทุกข์ทรมาณจากคำสาปแน่นอน
อย่างไรก็ตามครั้งหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตพี่น้องร่วมสำนัก อาจารย์ของเขาได้ใช้รังสีพิพากษาสูงสุดที่เขาไม่ต้องการใช้มาทั้งชีวิตหลังจากจบการต่อสู้แล้วเขาจำได้ว่าสีหน้าอาจารย์ไม่มีความสุขเลย ในทางตรงกันข้ามเขารู้สึกเศร้าที่ต้องบอกว่านี่เป็นจุดล่มสลายของสำนักกวงหมิงในที่สุดพี่น้องร่วมสำนักที่ไม่เห็นด้วยสองสามคนบนเขากวงหมิงพบว่าในภูเขากวงหมิงอาจารย์เผาผลาญแหล่งพลังแสงในตนเพื่อชดใช้บาปของตนเองจากนั้นพวกเขาจึงเข้าใจความหมายที่เรียกว่าวิชาต้องห้าม
เวลานั้นพี่น้องร่วมสำนักหลายคนจึงเริ่มเข้าสู่เส้นทางแตกแยก
บางคนคิดว่าพลังทำลายล้างนี้ควรจะใช้ต่อไปเพื่อสู้กับหอทงเทียนและฟื้นฟูภูเขากวงหมิง
แต่บางคนคิดว่าพวกเขาควรเคารพเจตจำนงของอาจารย์ควรทิ้งพลังทำลายล้างนี้อย่างเด็ดขาดและใช้พลังของตนเองฟื้นฟูความรุ่งเรืองของสำนักกวงหมิง
เพราะศิษย์พี่น้องทะเลาะแตกแยกและแยกย้ายกันไปเหลือรั้งอยู่แต่เทพพิทักษ์กวงหมิง เขามีทัศนคติตั้งใจใช้พลังนี้อย่างไม่ลังเล เขาจะใช้ช่วยชีวิตตนเองอย่างไม่ลังเลเหมือนกับที่อาจารย์เขาใช้ ในท้ายที่สุดเหลืออยู่แต่เขาเพียงคนเดียวผ่านการฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลานานเขาได้รับพลังกฎสวรรค์แห่งเขากวงหมิงหลังจากนั้นหลายหมื่นปีเขากลายเป็นเทพพิทักษ์สูงสุดแห่งเขากวงหมิง
“รังสีพิพากษาสูงสุด!”เทพพิทักษ์เขากวงหมิงตะโกนอีกครั้งและใช้พลังต้องห้ามนี้เพื่อทำลายทุกสิ่ง
ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกที่สองแล้ว
เพื่อโค่นล้มศัตรูเขาต้องใช้พลังต้องห้ามทำลายล้างเท่านั้น
บางทีหลังจากการประลองชะตาแล้วเขาจะตัดแหล่งพลังงานแผดเผาตนเองรับผิดปลดเปลื้องตนเองเหมือนกับอาจารย์แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องใช้พลังต้องห้ามนี้ต่อไป และใช้ไม้ตายลับที่ทรงพลังที่สุดนี้เพื่อสังหารศัตรู
สตรีที่ใช้ดาบแห่งชีวิตโจมตีศัตรูเป็นระลอกคลื่นนางล้มลงกับพื้นภายใต้ท่าลับต้องห้ามนี้
เย่ว์ไตตันในปัจจุบันนี้ก็ไม่ยกเว้น
ต้องล้มลงแน่!
เมื่อเทียนอี้มาถึงก็แค่เพียงยกมือก็เอาชนะคู่ต่อสู้ที่บาดเจ็บสาหัสซึ่งกำลังจะตาย อย่างไรก็ตามการต่อสู้ประลองชะตาครั้งนี้ไม่เคยเป็นการต่อสู้ที่เท่าเทียมยุติธรรมมาแต่แรกแล้ว!
“ฮ่า......” เย่ว์หยางเกรี้ยวกราดไม่มีความคิดจะหลบเขาพุ่งตรงไปหาศัตรูที่กำลังเผชิญหน้าและเผชิญกับรังสีพิพากษาสูงสุดที่สามารถทำลายล้างทุกอย่างในโลกอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อใบหน้าเขากำลังจะกระทบกับลำแสงที่จุดระหว่างคิ้ว
มีของวิเศษอย่างหนึ่งปรากฏขึ้น
เป็นมุกวิเศษ
นี่คือสมบัติเทพชิ้นแรกที่เย่ว์หยางรู้แจ้งและสร้างมาในชีวิตของเขามุกสร้างโลกชั้นเทพ
เหมือนกับปลาวาฬตัวยาวที่กำลังกลืนน้ำ มุกสร้างโลกขนาดเล็กในท่ามกลางสายตาที่ทึ่งของเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิง รังสีพิพากษาอุกฤษถูกกลืนหายไปรวดเดียวและไม่เหลืออะไรเลยเย่ว์หยางที่กำลังโกรธไม่สนใจสังเกตสิ่งนี้เลย นี่ไม่ใช่เจตจำนงของเขาแต่เป็นสัญชาตญาณของเทพมุกสร้างโลกที่ต้องการออกมาปกป้องเจ้านายโดยอัตโนมัติ
เย่ว์หยางสะบัดเปลวไฟยาวพุ่งไปที่ด้านหน้าของเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงชูกำปั้นที่ไฟลุกท่วมต่อยใส่หน้าของเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิง
พลังของหมัดนี้เกินความคาดหมายของเขาไปมาก
เกินขอบเขตที่เขาจะทนได้
บัลลังก์เทพร่วมแบ่งปันความเสียหายให้เจ้านายส่งเสียงสะเทือนคำรามวงล้อทั้งหมดสั่นสะท้าน
แม้ว่าบัลลังก์เทพจะมีส่วนแบ่งเบาภาระส่วนใหญ่ได้แต่ไม่เคยมีใครทำให้แก้มของเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงแตกมาหลายหมื่นปีแล้วเขายังถูกทุบจนเหมือนขยะ ทั้งเนื้อและกระดูกแหลกและเลือดสีทองกระเซ็นเต็มท้องฟ้าเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงกระเด็นออกไปหมื่นเมตร เขาฝืนค้ำยันพื้นในเส้นทางโบราณรอยครูดไถเป็นทางยาว ไม่เพียงแต่หินเท่านั้นแต่ยังรวมถึงตำแหน่งมิติที่แหลกกลายเป็นผุยผงไปด้วย
“ฮ่าห์....” เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงหน้าแหลกไปครึ่งหนึ่งต่อสู้ตอบโต้เย่ว์หยางทันทีเขาเตะขวากลับโดยไม่สนใจสิ่งกีดขวางในมิติ
เท้าขวาเพิ่งเงื้อ
เย่ว์หยางที่อยู่ห่างหมื่นเมตรก็ตามมาถึง
ตลอดทางที่มาถึงเขาทุบมีแสงอย่างป่าเถื่อนและพุ่งเข้าหาเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงราวกับสัตว์ร้าย
ขาขวาที่ยกยังไม่ทันรั้งกลับเย่ว์หยางจับขาพาดไหล่จากนั้นคำรามลั่นราวกับฟ้าร้องยกร่างของเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงด้วยมือทั้งสองข้างและฟาดลงกับพื้นดังราวกับฟ้าร้องการกระทำเช่นนี้ดูเหมือนตลก เพราะร่างที่แท้จริงของเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงนั้นสูงแปดเมตรและเมื่อเย่ว์หยางยกเขาขึ้นเขาก็ยังสูงจากพื้นไม่ถึงสามเมตร
แต่พลังหวดฟาดน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง
เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงไม่สามารถทนแต่ความเจ็บปวดจากเอ็นขาดกระดูกหักได้เขาร้องโหยหวนอย่างน่าเศร้า
เขาตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยความเจ็บปวดอย่างมากเขายื่นมือออกไปเพื่อจับเอวของเย่ว์หยางและโยนกลับไปด้านหลังในขณะเดียวกันมือของเขาเกร็งพลังเตรียมใช้พลังต้องห้าม ‘รังสีพิพากษาสูงสุด’
พลังทำลายล้างของรังสีพิพากษาอุกฤษไม่จำเป็นต้องสงสัยเลยเย่ว์ไตตันไม่ต้องทำอะไร เพราะเขามีมุกชั้นเทพ แต่เขาไม่มีมุกเทพในการรับรังสีพลังต้องห้ามเป็นครั้งที่สองอาจารย์พูดถูก พลังต้องห้ามเป็นสิ่งล่อใจที่ร้ายกาจตราบใดที่ใช้ไปครั้งหนึ่งจะอดใช้เป็นครั้งที่สองหรือครั้งที่สามไม่ได้...
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะใช้เป็นร้อยครั้ง หรือพันครั้งตราบเท่าที่สามารถเอาชนะศัตรูและทำให้เทียนอี้ชนะในการประลองชะตาครั้งนี้อย่างนั้นทุกอย่างนับว่าคุ้มค่า
ตายเสียเถอะ เย่ว์ไตตัน
เจ้า เจ้าจะต้องเป็นฝ่ายแพ้
หอทงเทียนจะไม่มีทางพลิกฟื้นขึ้นมาได้เพราะการต่อสู้ของเจ้า!
เพราะผู้ที่ควบคุมพลังต้องห้ามควบคุมความเป็นและความตายคือสำนักกวงหมิงในแห่งแดนสวรรค์ของพวกเขา!
“ฮ่าห์....” เย่ว์หยางผู้ถูกโจมตีกระเด็นไปหมื่นเมตรบินกลับมาได้เร็วกว่าขณะที่มาอยู่ต่อหน้าเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงหมัดของเขาพุ่งใส่หน้าของศัตรูอย่างแม่นยำขณะเดียวกันเขาใช้อกรับพลังต้องห้ามโจมตีของศัตรูโดยตรง เขารับแสงต้องห้ามที่สามารถทำลายได้แม้แต่เทพ
“หึหึ น่าเสียดายเย่ว์ไตตัน เจ้ากับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อต้องเสียชีวิตไปโดยไม่มีโอกาสที่ดี” เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงมองเห็นรังสีพิพากษาอุกฤษระเบิดออกมาจากคู่ต่อสู้ของเขา เขารู้สึกโล่งใจ โชคดีที่เจ้าเด็กนี่ไม่มีมุกวิเศษลูกที่สองมาหักล้างพลัง มิฉะนั้นจะยุ่งยากในฐานะผู้เข้าประลองชะตาอีกฝ่ายหนึ่งไม่น่าจะตายที่นี่ แต่เขาจะต้องบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย แม้ว่าเทียนอี้จะยังมาไม่ถึง แต่การต่อสู้ก็จบลงแล้ว ใช่แล้วทุกอย่างจบลงแล้ว ตัวเขาเองสามารถทำเพื่อสำนักกวงหมิงและเขาสามารถทุ่มเทให้ได้
อาจารย์! หลังจากการประลองชะตาครั้งนี้จบแล้วข้าต้องการติดตามท่านและหลับอยู่ในสวรรค์นิรันดร
เพราะมันเหนื่อยเกินไปกับการแบกรับความรับผิดชอบแบบนี้
มันขมขื่นเกินไป
อนาคตปล่อยให้คนรุ่นต่อไปเทพพิทักษ์เขากวงหมิงรุ่นต่อไป ส่วนเขาจะเป็นใครและปกป้องภูเขากวงหมิงอย่างไรเขาไม่ต้องการให้ความสนใจอีกต่อไป....
ขณะที่ใจของเทพพิทักษ์เขากวงหมิงผ่อนคลายลงมีเงาร่างที่สับสนอยู่ต่อหน้าเขา เขาก้าวเดินเข้ามาหาทีละก้าวๆและเมื่อเทพพิทักษ์เขากวงหมิงมองเห็นได้ชัด เงาร่างนั้นยกมือขึ้นง้าวเพลิงอมฤตแทงทะลุอกของเทพพิทักษ์เขากวงหมิง หน้าอกเขามีปลายแหลมของง้าวโผล่ออก
เป็นเย่ว์หยาง
เกราะเพลิงอมฤตของเขาแตกเป็นเสี่ยงแต่ก็ฟื้นตัวกลับมาในท่ามกลางเพลิงอมฤตและแม้แต่บาดแผลบนร่างของเขาก็สมานตัวอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่มีรังสีสังหารที่รุนแรงยิ่งกว่าปีศาจสวรรค์ เทพพิทักษ์เขากวงหมิงอดสั่นสะท้านไม่ได้ เย่ว์ไตตันเป็นอมตะภายใต้เพลิงอมฤตไม่สามารถทำเขาให้พ่ายแพ้ได้จริงหรือ? ต่อให้เทียนอี้มาทันเขาจะเอาชนะคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้ที่ไม่มีทางฆ่าตายนี้ได้หรือ?การประลองชะตาจะเป็นไปตามแผนอย่างราบรื่นหรือไม่?
เป็นครั้งแรกที่เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงมีคำถามในใจเขา
ฆ่า!
เย่ว์หยางมีความตั้งใจและคิดอย่างนี้คือเขาต้องทำลายศัตรูที่อยู่ข้างหน้าเขา และผนึกวิญญาณของเขาไว้ในกำแพงปราณตลอดไปทำให้ศัตรูผู้นี้ได้รับอาญาสวรรค์และสำนึกผิดไปอย่างไม่รู้จบบางทีการทำเช่นนี้จะทำให้ความโกรธในใจของเขาลดลงบ้าง!
“อยากตายอย่างจิ๋วซื่อหรือนั่นตายยากหรือเปล่า?” เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงยิ้มปลุกปลอบใจสู้อีกครั้ง “ข้ายังตายไม่ได้”
ข้าคือเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องการปกต้องจากข้า
ดังนั้น ข้าต้องสู้ต่อไป
“มาเลยเย่ว์ไตตัน มาดูกันว่าระหว่างเราสองคนใครจะล้มก่อน
**** *** ****