ตอนที่ 1378 ด่านทดสอบสูงสุด กับพิพากษชีวิต
โลกมิติกระจกแตกละเอียดและมีเส้นทางโบราณซ่อนอยู่ข้างในลึกๆ ถูกค้นพบ
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถือดาบเทพพยัคฆราชไว้ในมือซ้ายดาบเทพชะตาอยู่ในมือขวา ฟันใส่ศีรษะพวกอสูรที่โถมตัวเข้ามาจนสลายเป็นผุยผง
เย่ว์หวี่,สุ่ยอู๋เหินและเจ้าเมืองโล่วฮัวมาถึง พวกนางไม่มีเวลาโศกเศร้ากับการจากไปของสหายพวกนางกรีดฝ่ามือคนละแผลและหยดเลือดลงบนผนึกชะตาในมือของเสวี่ยอู๋เสีย สตรีเหล่านั้นรวบรวมสติปัญญาและพลังเทพทั้งหมดเพื่อสนับสนุนให้ผนึกเทพชะตาทำงาน เตรียมผนึกร่างเทพแยกสองหมื่นเมตรของเทพพิทักษ์เขากวงหมิง ตราบเท่าที่เส้นทางโบราณตราบเท่าที่เส้นทางโบราณของโลกแกนสมดุลถูกปิดป้องกันไม่ให้มาจากเขากวงหมิงได้ระเบียงเวลาของหอทงเทียนและประตูโบราณจะถูกผนึกอย่างนั้นความฝันของเทียนอี้ที่จะเข้าประลองชะตาจะสูญสลายไป
“โลกมิติกระจกเป็นจุดเริ่มต้น” เสวี่ยอู๋เสียถือผนึกเทพชะตาสีหน้ามองดูเคร่งขรึม “พี่น้องทั้งหลายตราบเท่าที่เรายึดผนึกไว้อย่างมั่นคง ชัยชนะการต่อสู้ที่เด็ดขาดนี้จะตกเป็นของเรา”
“ได้เลย”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและสาวๆ ทุกคนรับคำพร้อมกัน
เย่ว์หวี่เรียกเทพธิดาสึนามิและใช้พลังคลื่นน้ำกราดเกรี้ยวกวาดไปทั่วเส้นทางโบราณ
ไห่หลานใช้พลังมุกฝนดาวตกทะเลลึกช่วยสนับสนุนพลังทำให้กระแสคลื่นพัดไปไกลถึงหมื่นเมตร ขณะที่ราชันย์ปีศาจใต้ทำให้น้ำทะเลเหล่านั้นกลายเป็นน้ำแข็งเร็วขึ้น
เจ้าแม่จันทราเสริมด้วยพลังเทพของนางอย่างเต็มที่พร้อมกับอักขระรูนเทพของสุ่ยอู๋เหินสร้างเป็นกำแพงแก้วนิรันดรที่แข็งแกร่งไม่สามารถทำลายได้เทียบได้กับโลกที่เป็นศิลาทั้งใบ เทพธิดาเสรีภาพเสริมด้วยพลังพรและกฎแห่งเสรีภาพที่ไม่ใช่ตัวนางและอาจทำให้นางอาจต้องเสียพลังเสรีภาพขั้นสูงสุด ในขั้นตอนสุดท้ายคือส่งมอบให้เสวี่ยอู๋เสียผู้มีพลังน้ำแข็งเย็นยะเยือก นางค่อยค่อยๆยกผนึกเทพชะตาที่มีโลหิตย้อมอย่างช้าๆ ด้วยความเทิดทูน
เพียงแค่ผนึกลงไปบนกำแพงแก้วนิรันดร
จากนั้นกำแพงแก้วผลึกที่แม้แต่เทพเจ้ายังต้องถอนหายใจจะถือกำเนิดขึ้นและจะไม่มีใครสามารถเดินผ่านไปได้นอกจากบุตรแห่งโชคชะตาหรือผู้ที่ผูกชะตาร่วมกับเขา
“เลือดชีวิต เสรีภาพและพลังเทพนิรันดร เราไม่มีความเสียใจกับสิ่งที่เราเสียสละ”ผนึกเทพชะตาในมือของเสวี่ยอู๋เสียเปล่งประกายแสงนับล้านๆสายภายใต้การสะท้อนของพลังเทพชะตาที่เหลือ
รัศมีพลังเทพเหล่านั้นและอักขระรูนบนผนังกำแพงแก้วเชื่อมเข้าด้วยกันสร้างเป็นกฎเทพชะตาชนิดใหม่
ผนังกำแพงแก้วค่อยๆจางลง
และค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นกำแพงผนังปราณ
กำแพงปราณดูดซับพลังเทพของคนอื่นๆอย่างบ้าคลั่ง ผนวกกับภูมิปัญญาหลักและคุณลักษณะของพวกนางออกมาอย่างรวดเร็ว.... เมื่อเห็นว่ากำแพงปราณกำลังจะเกิดขึ้นเทพพิทักษ์เขากวงหมิงซึ่งกำลังต่อสู้กับเย่ว์หยางและจื้อจุนก็แทบคลั่ง เขาถลาเข้ากระแทกกำแพงปราณโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นไม่สนใจว่าจะถูกผนึกเข้าด้วยกัน
“อ๊า.....”
เทพพิทักษ์เขากวงหมิงวิ่งไปที่กำแพงปราณส่งเสียงคำรามโหยหวน
แรงสะท้อนจากพลังทำลายล้างกลับเข้ามาหาตัวของเขาทั้งหมดเจ็บปวดยิ่งกว่าถูกไฟเทพผลาญหลายล้านเท่า ร่างที่แท้จริงของเทพพิทักษ์เขากวงหมิงกำลังละลายแต่เขายืนยันตั้งใจจะทะลวงเส้นทางโบราณกลับไปหาเทียนอี้ที่กำลังจะมาถึงแม้ว่าจะต้องทุ่มเทด้วยชีวิต!
“เทียนอี้ให้ประโยชน์กับเจ้า? เจ้าถึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อเขา?”เย่ว์หยางไล่ตามหลังเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิง
“หลีกไป”จื้อจุนเตรียมใช้ดาบแห่งชีวิต
คมดาบยาวพันฟุต
ดาบแห่งชีวิตฟันกวาดผ่านซี่โครงเย่ว์หยางเกือบแทงถูกหัวใจของเขาด้วยเลือดของจื้อจุนและเย่ว์หยางรวมกันถือเอาเจตจำนงสังหารของทั้งสองและกฎสวรรค์แห่งดาบศักดิ์สิทธิ์แทงทะลุร่างแท้จริงของเทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิง
เทพพิทักษ์เขากวงหมิงตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นดาบแห่งชีวิตพุ่งแทงที่หน้าอกของเขาการป้องกันของบัลลังก์เทพก็ใช้ไม่ได้ผลเช่นกันหรือ?
ปลายดาบถูกรั้งกลับ
เลือดที่ไหลออกมากลายเป็นเพลิงอมฤตแผดเผา
จนถึงตอนนี้เทพพิทักษ์เขากวงหมิงจึงได้ตระหนักว่ามีปัญหากับเลือดของเย่ว์ไตตันซึ่งปนเปื้อนได้ง่ายและพลังเทพของเขาไม่สามารถขจัดออกไปได้เลยเขาทำได้แต่เพียงเฝ้าดูมันเผาไหม้อยู่ในอกของเขาเป็นการเผาไหม้ทั้งภายในและภายนอก เขาไม่รู้ว่าเลือดของเย่ว์หยางเมื่อรวมกับเลือดของจื้อจุนจะทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าดาบที่จื้อจุนแทงเขามาจากความตั้งใจของนางและนางวางแผนมานานแล้ว
ก่อนหน้านี้นางไม่มีโอกาสที่ดีในการใช้ออก ในขณะที่เทพพิทักษ์เขากวงหมิงยืนกรานจะทำลายผนึกกำแพงปราณเขาจึงถูกกฎพลังควบคุม นี่คือโอกาสที่เทพประทาน
“พิพากษาชีวิตรุ้งสามสาย!” จื้อจุนเปล่งเสียง
ศัตรูลื่นไหลเจ้าเล่ห์ไม่สามารถโจมตีได้ถนัดแต่ตอนนี้โอกาสถูกส่งมาถึงหน้าประตู จะไม่โจมตีได้อย่างไร
นางเหยียดมือรัศมีบนตัวนางกลายเป็นอาวุธดาบแสงเป็นล้านๆ รวมทั้งหอก ง้าว ธนู ลูกศรเทพรวมทั้งอาวุธเทพร่างมนุษย์ของนางที่เปื้อนไปด้วยเลือดไล่ล่าเทพพิทักษ์เขากวงหมิงที่อยู่ข้างหน้านาง ภายใต้กลยุทธ์ที่น่าสะพรึงกลับเหล่านี้ แม้แต่เย่ว์หยางที่ตายยากยิ่งกว่าแมลงสาบยังต้องฉากหลบเล็กน้อยด้วยความกลัว
เทพพิทักษ์เขากวงหมิงลอบร่ำร้องในใจเขาไม่มีที่ซ่อนเมื่อเขาทุ่มพลังทำลายกำแพงแก้วทั้งหมด
ถ้าเขาจากไปเขาอาจปลอดภัย
แต่กำแพงปราณกำลังจะพังทลายในช่วงเวลาสั้นๆ
“ปกป้อง” เทพพิทักษ์เขากวงหมิงกัดฟันและดึงดันยืนกรานอย่างสิ้นหวังร่างเทพสูงสี่หมื่นเมตรที่อยู่ขอบทะเลมรณะหายไปทันทีและโผล่ออกมาจากบัลลังก์เทพที่ด้านหลังเทพพิทักษ์เขากวงหมิงใช้ฝ่ามือยักษ์เป็นโล่บัง
“ทำลายมันให้กับข้า!” จื้อจุนตวาดราวกับฟ้าฟาดและรีบบินเข้าหามือยักษ์ที่กำลังปิดบังกั้นไว้อย่างรวดเร็ว
แสงโจมตีนับร้อยล้านสายรวมเป็นหนึ่งเดียวทะลวงฝ่ามือเข้าไปในร่างเทพสูงสี่หมื่นเมตรพุ่งขึ้นไปกะโหลกขนาดยักษ์แม้จะมีฝ่ามือยักษ์บังอยู่ก็ตาม
เทพพิทักษ์เขากวงหมิงก็มีความโหดอำมหิตเช่นกันเขาเหลียวกลับไปมาก็พบว่าร่างเทพนั้นป้องกันไม่ได้ผลเขาเปลี่ยนร่างแท้ให้อยู่ในรูปอสูรเพชฌฆาตโบราณและกางแขนไขว่คว้าพร้อมที่จะเชื่อมโยงในขณะเดียวกันร่างเทพสูงสี่หมื่นเมตรก็เตรียมการโต้กลับเย่ว์หยางและจื้อจุนที่กำลังไล่ตามเข้ามา เขาเตรียมใช้ทักษะลับต้องห้ามแสงพิพากษาอุกฤษ นี่คือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงและเขาตั้งใจสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับศัตรู
หากอยู่ในบริเวณกว้างไม้ตายนี้อาจไม่มีประโยชน์
อย่างไรก็ตามในเส้นทางโบราณนี้เป็นทางแคบที่มีผนึกกำแพงปราณ ไม่มีที่ให้ซ่อนเขาย่อมใช้พลังสูงสุดนี้ได้อย่างแน่นอน
“แย่แล้ว!” เย่ว์หยางที่หลบอยู่ด้านข้างมองดูไม้ตายครั้งยิ่งใหญ่จนจนตาแทบถลน
เขารีบวิ่งเข้ามาเพื่อห้ามจื้อจุน
ขณะนั้นจื้อจุนปล่อยพลังฝ่ามือใส่เย่ว์หยางอย่างไม่ลังเล
เมื่อนางเผชิญการตัดสินขั้นสุดท้ายของศัตรูนางไม่ได้หลีกเลี่ยงเลย แต่กลับยินดีใช้ร่างตนเองรับพลังไม้ตายสังหารของศัตรูโดยไม่ยอมให้พลังรั่วไปถึงเย่ว์หยางนิ้วประดุจหยกของนางค่อยๆ วาดภาพ โค้งเว้าดุจดวงจันทร์เหมือนกับการหมุนวนเล่น แสงแห่งชีวิตที่มีรูปร่างเหมือนสายรุ้งพุ่งขึ้นเหนือศีรษะของพุ่งเข้าไปหาแสงพิพากษาขั้นอุกฤษ
แสงรัศมีนับร้อยล้านพันล้านเหมือนกับหอกแทงใส่ร่างอวตารของเทพพิทักษ์เขากวงหมิงบนกำแพงปราณ
สายรุ้งแห่งชีวิตพุ่งเข้าไปในแสงพิพากษาชั้นอุกฤษทันที ผ่านพลังแสงเทพศัตรูผ่านพลังผันผวนไปโดยไม่พบเจออุปสรรคใดๆ ยิ่งพลังพุ่งหน้าไปชั้นหนึ่งพลังก็ยิ่งแกร่งกร้าวรุนแรงมากขึ้นและตรงไปยังเทพพิทักษ์เขากวงหมิง
คลื่นแสงรุ้งแห่งชีวิตได้ละลายผิวหนังและเนื้อของเทพเพชฌฆาตโบราณทองซึ่งก็คือร่างของเทพพิทักษ์เขากวงหมิงกล้ามเนื้อแหลกสลาย
สายรุ้งนี้มีสามระลอกคลื่น
ระลอกที่หนึ่งเป็นคลื่นข่มพลัง
หลังจากคลื่นระลอกที่สองมาถึงเทพพิทักษ์เขากวงหมิงก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ร่างดั้งเดิมของเพชฌฆาตโบราณทองของเขาพังทลายไปนานแล้วสมองไหลออกมาและระเหยกลายเป็นไอแม้แต่จิตวิญญาณภายในก็ถูกโจมตีเหมือนกับถูกอาญาสวรรค์ทำให้เทพพิทักษ์เขากวงหมิงรู้สึกเจ็บปวด
คลื่นลูกที่สามทำให้แม้แต่บัลลังก์เทพก็ยังมีรูปผิดเพี้ยนบิดเบี้ยว เทพพิทักษ์เขากวงหมิงแทบจะละลายไปกับการการถูกพลังรุ้งชีวิตโจมตี
ในอีกด้านหนึ่งจื้อจุนถูกแสงเทพพิพากษาอุกฤษ
ร่างกระเด็นออกไปราวกับว่าวขาดลอย
เย่ว์หยางรีบวิ่งเข้าไปกอดนางไว้และหันหลังรับแรงปะทะแสงเทพพิพากษาอุกฤษเลือดของเขาฉีดพุ่งไม่หยุดเปรอะเปื้อนตัวนางทันที “ไม่ ไม่ ทำไมท่านต้องทำแบบนี้? ข้าไม่ต้องการให้ท่านมาเสียสละเพื่อข้า! ท่านรู้ไหมว่าข้าเป็นลูกผู้ชายข้าเป็นเทพจอมราชันย์แล้ว ข้าเข้าใจชีวิตนิรันดร์แล้วทำไมท่านไม่ให้ข้าปกป้องท่าน ข้าปกป้องท่านได้! ข้าปกป้องท่านได้... ไม่ ไม่ ...ท่านแข็งแกร่งที่สุด ข้ารู้ว่าท่านแข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่อย่าทำแบบนี้ อย่ายอมให้ศัตรูเอาชนะท่านได้ ท่านคือจื้อจุนท่านจะต้องไม่ตายใช่ไหม? ตอบข้า ตอบข้ามา...”
“ถ้าท่านต้องเสียสละเพื่อแลกกับชัยชนะในการประลองชะตาชัยชนะแบบนี้ข้าไม่ต้องการเช่นกัน!”
“ท่านรู้จักข้าดีที่สุดและข้าก็ต้องการกำลังจากจากท่าน อย่าทิ้งข้าไว้อย่างนี้!”
“ฟังข้า ข้าไม่อาจอยู่โดยไม่มีท่าน...”
“กลับมา...”
ตอนนี้หน้าของจื้อจุนอ่อนแออย่างไม่เคยมีมาก่อนขณะนี้นางเหมือนหญิงสาวที่อ่อนแอและอ่อนโยน แต่เย่ว์หยางยินยอมไม่เห็นความอ่อนโยนของนางอย่างนี้ไปชั่วชีวิตดีกว่า
น้ำตาของเขาไหลพรากไม่หยุด
ความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนเป็นที่รักนั้นเจ็บปวดยิ่งกว่าถูกสว่านเจาะหัวใจและความรู้สึกแย่ๆ นี้ทำให้คนบ้าคลั่งได้
ถ้าย้อนกลับไปได้เขาอยากจะให้เลือดที่หลั่งนองเป็นท้องธารเป็นเลือดของเขาต่อให้ต้องหลั่งน้ำตาเป็นแม่น้ำก็ตาม เขาไม่สนใจตราบเท่าที่ให้นางกลับมาเป็นเหมือนเดิม ลืมตาได้อีกครั้งใช้สายตาที่น่ากลัวจ้องมองเขาด้วยความโกรธ เขาก็พอใจ เขายอมทุ่มเททั้งหมด
ในด้านตรงข้ามร่างที่โชกเลือดของเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงเริ่มรวมตัว
ร่างแท้จริงเริ่มฟื้นตัว
ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยบาดแผลและรอยทุบตั้งแต่หัวยันเท้า
นิ้วที่ยังเหลือเอ็นอยู่เพียงเล็กน้อย แขนหักและที่หน้าอกมีรูทะลุมองเห็นหัวใจเต้นอย่างชัดเจน ปอดอยู่ใต้ซี่โครงที่หักและแม้แต่บัลลังก์เทพที่อยู่ด้านหลังก็บิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ยังคงมีเพลิงอมฤตแผดเผาอยู่ในร่างกายของเขาร่างกายของเขาสูญสลายไปเรื่อยๆ เทพพิทักษ์เขากวงหมิงกำลังหอบด้วยความเจ็บปวดเขากัดฟันเหล็กของเขา แม้ว่าบัลลังก์เทพจะเป็นแหล่งพลังเทพแต่ความจริงแล้วพลังเทพที่ส่งมานี้เป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ ไม่สามารถฟื้นฟูบาดแผลนี้ได้นี่เป็นจุดใกล้เคียงจุดกำเนิดของชีวิตในช่วงเวลาอันสั้น เขาใช้ประโยชน์จากการที่เย่ว์หยางอยู่ห่างไกลกำลังกอดจื้อจุนร่ำไห้เสียใจสุดซึ้งตอบสนองทันทีและปล่อยให้ร่างที่เหลืออยู่คอยพยุงทางผ่านโบราณที่กำแพงปราณเขายังคงเดินหน้าต่อไป แสดงออกถึงความแน่วแน่เหมือนกับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อที่แบกภูเขาเทพไปที่ทะเลมรณะ
“การประลองชะตาจะต้องเกิดขึ้นสำเร็จแน่นอน” เทพพิทักษ์กวงหมิงทำทุกอย่างดิ้นรนเพื่อทะลวงกำแพงปราณใช้พลังเฮือกสุดท้ายและทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง เขายิ้มให้เย่ว์หยาง “จิ๋วซื่อสามารถแบกภูเขาให้เจ้าได้ ข้าก็เปิดเส้นทางให้เทียนอี้ได้เช่นกันนี่ยุติธรรมดีไหม? ฆ่าข้าตอนนี้ก็ได้ ข้าเหนื่อยมามากแล้ว!”
“เจ้าต้องการตายหรือ? อย่าหวังเลย!” เย่ว์หยางหลั่งน้ำตาเป็นเลือดสีหน้าของเขามีแววอำมหิตและดุร้าย “ข้าจะผนึกเจ้าไว้ในกำแพงปราณปล่อยให้เจ้าถูกกักอยู่ภายในตลอดไป ไม่มีวันออกไปข้างนอกนี่คืออาญาสวรรค์ที่รอดก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้!”
“ถ้าการประลองชะตานี้เจ้าเป็นผู้ชนะสูงสุด อย่างนั้นข้าก็ไม่คัดค้าน” ในระยะไกลมีเสียงดังได้ยินชัด
**** *** ****