ตอนที่ 1377 ฆ่า!
โลกมิติกระจก
ส่วนที่แตกระเบิดในตอนแรกค่อยๆฟื้นฟูบางส่วน แต่ความเร็วจะลดลงอย่างมาก
มีช่องมิติกระจกที่ถูกทำลายไปจำนวนมากกลายเป็นพลังปั่นป่วนและวังวนอวกาศ เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นตัว
กระแสอสูรจำนวนมากที่บ้าคลั่งวิ่งพล่านค้นหาศัตรูไปทั่วทุกแห่งหนพยายามกดดันจนศัตรูอึดอัดตายพวกมันแทบจะวิ่งพล่านเต็มไปทั่วทุกเส้นทางด้วยคุณลักษณะพิเศษบางอย่าง สามารถเดินผ่านกระจกโดยตรงได้อย่างไม่มีเหตุผลไม่สนใจมิติวังวนในอากาศแตก ไม่สนใจความเป็นความตายในใจของพวกเขามีแต่ความตั้งใจทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
“ปัง ปัง ปัง....”
สิ่งที่ทำให้มังกรปีศาจและพวกประหลาดใจคือไม่รู้ว่าในโลกมิติกระจกมีกำแพงเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด
มันไม่ใช่กระจกโดยทั่วไปแต่เป็นแก้วผลึกใสพวกมันถูกจำลองสร้างโครงสร้างดั้งเดิมของโลกมิติกระจกเป็นการเปลี่ยนโลกกระจกอย่างเงียบๆกองทัพอสูรเหล่านั้นไม่สามารถจำลักษณะดั้งเดิมได้ พวกมันพุ่งเข้าใส่รุนแรง ผลก็คือได้รับบาดเจ็บสูญเสียเลือดเนื้อ
เพราะคลื่นสัตว์อสูรร้ายมากมายกำแพงแก้วที่สร้างเลียนแบบกระจกจึงค่อยปรากฏรูปร่างคมชัด
ในช่วงเวลาสั้นๆ มันสามารถครอบครองพื้นที่โลกมิติกระจกได้ 1% แม้จะไม่สมบูรณ์แต่กระจายไปตามพื้นที่ต่างๆของโลกมิติกระจกอย่างแยบยล
“ใครเป็นคนสร้างกำแพงแก้วในเขาวงกตกระจก?” มังกรปีศาจมองดูอยู่นานก็ยังไม่พบว่าเป็นฝีมือสร้างของใครแต่เขาสังเกตเห็นมีเทพธิดาเสรีภาพที่เดินอย่างระมัดระวังโดยมีผ้าคลุมหน้านางดูราวกับว่านางไม่คุ้นเคยกับการเดินนางคอยประทานพรให้ทุกคนมีอิสระเสรีภาพสามารถผ่านเข้าไปในภายในกำแพงแก้วได้สาวน้อยเอลฟ์ประหลาดอ่อนแอจอมซน คาดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่ทหารของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ก็ยังเอาชนะไม่ได้
“น้องสาวของเย่ว์ไตตันยอดเยี่ยมจริงๆ!” เจี้ยนจางเซิงหลั่งเหงื่อเล็กน้อย
เขาเห็นสาวน้อยเย่ว์ปิงแสดงพลังเทพที่ยิ่งใหญ่ของนางและสั่งให้พญาไม้ไตตันไล่ล่าสังหารอสูรที่วิ่งพลุกพล่าน
ใช่แล้ว นั่นคือการสังหารหมู่! ไม่ว่าจะเป็นอสูรสายธาตุใดก็ตามมันไม่สนใจด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะมีพลังชีวิตมากเพียงไหน ถ้ามีอสูรใดวิ่งเข้าหานางมีผลลัพธ์ประการเดียวไม่อาจเป็นอย่างอื่นได้
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือสัตว์อสูรอัญเชิญทุกตัวที่วิ่งรี่เข้าหานางล้วนติดกับดักเพราะการคุ้มครองของป่าโบราณ บีบอัดจนกลม เถารากหนามพันรัดศัตรูไว้ทั้งหมดสิ่งมีชีวิตต่างโดนพิษที่รุนแรงจะตาย พลังงานและซากสลายกลายเป็นแอ่งน้ำมีเพียงไม่กี่ตนที่ไม่เกรงกลัวพิษ แต่ช้าเกินกว่าจะไปให้ถึงตัวนางมันถูกฟันโดยอักขระรูนรูปวงจักรครึ่งวง
ชีวิตไม่ดับสูญ และได้รับการปกป้องนิรันดร
นี่คือกฎสวรรค์สนามพลังของสาวน้อยเย่ว์ปิงที่แสดงออกมา การโจมตีเป็นกลุ่มต่อนางไม่มีความสำคัญอะไรเลย คลื่นอสูรทั้งหมดเมื่ออยู่ต่อหน้านางไม่สามารถใช้พลังได้ถึงครึ่ง
“อักขระรูนวงจักรพระจันทร์เสี้ยวมีความคล้ายกับวงจักรล้างโลกของเย่ว์หยางเพียงแต่ไม่มีอักขระรูนอมตะอยู่ที่ใจกลางใช้ในการสังหารอสูรอัญเชิญเกินความสามารถจริงๆ” มังกรปีศาจขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าน้องสาวของเย่ว์หยางมีลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่นางเองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำนั่นคือนางเชี่ยวชาญในการฆ่า
เมื่อนางลงมือไม่มีอสูรตนใดรอดอยู่ได้
ไม่มีการยกเว้น
โชคดีที่นางเป็นสาวน้อยตัวเล็กที่มีจิตใจบริสุทธิ์ที่สามารถควบคุมพลังสังหารที่น่าเกรงขามนี้ได้ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นโลกคงไม่โชคดีอย่างนี้แน่นอน
คนที่คอยคุ้มกันหลังให้เย่ว์ปิงเงียบๆคืออี้หนาน นางนั่งอยู่บนกระจกภูต
โลกมิติกระจกส่งผลต่อนางน้อยที่สุด
แทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้
ไม่ต้องห่วงนางเลย
กระจกภูตร่วมมือกับนางผลกระทบทางจิตวิญญาณของวิญญาณไม่มีและวิญญาณเหล่านั้นจะถูกทำลายโดยไม่รู้ตัว ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน
กระจกทุกบานในโลกมิติกระจกตราบเท่าที่อี้หนานยื่นมือสัมผัสก็จะแตกระเบิดและกลายเป็นกระจกที่อยู่ในควบคุมของนาง อี้หนานเหมือนเป็นปลาที่อยู่ในน้ำเมื่ออยู่ในโลกกระจกการต่อสู้ของนางง่ายกว่าเย่ว์ปิง
“แสงอุษา!” อีกคนที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากโลกมิติกระจกมากนักยังคงมีเจ้าเมืองโล่วฮัวไม่ว่าจะเป็นทานตะวันอมฤต หรือแสงอุษาเก้าเกลียว ทันทีที่นางปรากฏตัวนางสามารถหักเหแสงจากโลกกระจกได้เป็นหมื่นๆ ครั้งและพลังของนางอาจเพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่า บางครั้งแม้แต่นางเองก็รู้สึกเหลือเชื่อกระแสกองทัพสัตว์อสูร นางไม่ชอบพวกมันเลย สิ่งที่นางต้องการทำตอนนี้ก็คือหาวิธีทำลายโลกมิติกระจกนี้
“วิญญาณอาลัยกำลังพบกับฝันร้ายและผุดลุกนั่งตื่นจากฝันในทันใด เสี่ยวจิงมีความรู้สึกไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความงามความเจ็บ ความตายเหมือนผงแป้งที่สลายหายไป สายลมยามค่ำคืนกระทบม่านลูกปัดผีเสื้อสองตัวบินรำเฉื่อยชาอย่างมีความสุขในอากาศ”
“มองย้อนกลับไปครึ่งชีวิตบนห้องหอมีเสียงหัวเราะ นางไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็นมาก่อน...”ราชันย์ปีศาจใต้นั่งดีดผีผาหยกอย่างชดช้อยงดงาม
ขณะที่นางขับเพลงพลางเดินนวยนาดผ่านบานกระจกหรือช่องว่างมิติ
ทั้งหมดล้วนแตกสลายไปหมด
ราวกับใช้ดาบฟาดฟัน
น้ำแข็งและหิมะเป็นทางยาวราวกับน้ำตา
มีพื้นที่มิติกระที่พิเศษและลับมากเทพแห่งความสับสนยืนอยู่ตรงข้ามตั่วตั่ว และทั้งสองไม่สนใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก ระหว่างทั้งสองมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถอยู่และนั่นก็คือผู้ชนะพวกเขาสู้จนหมดสิ้นทุกทาง จนถึงขณะนี้มิติเวลาที่เหมาะสมหรือพลังเทพไม่สำคัญอีกต่อไป มีเพียงเจตจำนงเท่านั้นที่เป็นกุญแจสำคัญในการคงอยู่จนถึงที่สุด
“สายลมพัดพาบุปผชาติผลิบานเปี่ยมสีสันนั่นคือความหมายที่แท้จริงของชีวิต!”ตั่วตั่วมองดูมุกเทพชะตาในมือก็อดถอนหายใจไม่ได้
“......”ทันใดนั้นเทพแห่งความสับสนมีความรู้สึกว่าเทพธิดาบุปผานี้กำลังจะพินาศไปพร้อมกับตัวเขา
อสูรพิทักษ์จะไม่ตาย
ขณะเดียวกันสิ่งที่ทำลงไปล้วนไม่มีความหมายอะไร
อย่างไรก็ตามถ้าทำให้ฝ่ายตรงข้ามตระหนักได้จริงๆ โลกมิติแห่งกระจกก็อาจไม่มีอยู่อีกต่อไปและเส้นทางโบราณที่เปิดโดยโลกมิติกระจกเพื่อสร้างเส้นทางอาจขาดหายไป เทพธิดาบุปผาข้างหน้านี้กำลังเข้าใจเช่นนี้! น่าเสียดายที่นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้พิทักษ์โลกมิติกระจกมีสองคน....
เทพแห่งความสับสนเตรียมเกร็งพลังสูงสุดอย่างเงียบๆและเตรียมใช้พลังกฎสวรรค์ที่สูงสุดในชีวิตตน
ตายไปพร้อมกับศัตรู
นี่คือสิ่งที่เขาต้องการทำที่สุด
ตราบใดที่เทพบุปผาที่อยู่ข้างหน้าตายลงอย่างนั้นเย่ว์ไตตันก็เหมือนกับเสียแขนไปข้างหนึ่งมีเหตุผลใดสำหรับการแลกชีวิตกันครั้งนี้?
“ลาก่อน, ลาก่อน” ใบหน้าน้อยๆ ของตั่วตั่วแสดงรอยยิ้มพึงพอใจ เพื่อเขาเพื่อปกป้องเขา นางสามารถทุ่มเททุกอย่าง แม้ว่าจะยากลำบากก็ตาม “การตายบางทีอาจต้องไปเริ่มเกิดเป็นต้นดอกหนามโง่ๆ! บางทีวันนั้น นางอาจจะโง่ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม...เรื่องราวของมนุษย์นั้นแปรปรวน โลกไม่เที่ยง เจริญแปรปรวนไปตามกาล แม้ว่าตอนนั้นนางจะจำอดีตไม่ได้ แต่ดอกหนามโง่ๆก็มีความสุขเช่นกัน...”
นางชูมุกเทพชะตาขึ้นเบื้องบน
แสงเทพนับร้อยล้านสาย
ฉายกระจาย
และเปลี่ยนเป็นกลีบดอกไม้ปลิวทั่วท้องฟ้า
ในท่ามกลางกลีบดอกไม้โปรยปราย บุปผาเทพขนาดใหญ่พุ่งลงมาหาเทพสับสนที่อยู่ด้านตรงข้าม
พลังเทพทำลายล้างทั้งสองชนิดปะทะกันทันทีเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์หลายพันดวงระเบิดพร้อมกันโลกมิติกระจกกลายเป็นฝุ่นในทันทีไม่เหลือเศษชิ้นส่วนแม้แต่น้อยทั้งหมดตกอยู่ในความสับสน
ในศูนย์กลางแรงระเบิดเงาเทพธิดาบุปผาและเทพแห่งความสับสนเริ่มสลัวลง
ในที่สุดก็สูญหายไปในทะเลแสง
เหลือแต่ความว่างเปล่า
แรงระเบิดมีขนาดใหญ่น่าสะพรึงกลัวเหมือนกับจักรวาลระเบิดกวาดเอาโลกมิติกระจกหายไป
โลกมิติกระจกและทางผ่านมากมายนับล้านเหมือนกับหิมะถูกกวาดหายไปทุกอย่างหายไป
กำแพงแก้วมีความแข็งแกร่งจนแทบเป็นนิรันดร แต่ก็ยังสั่นสะเทือนจากคลื่นแรงระเบิดครั้งใหญ่สาวๆ ที่อยู่ด้านในต่างหลั่งน้ำตา พวกนางรู้ผลของการต่อสู้แบบนี้มานานแล้วและยังเข้าใจถึงความตั้งใจที่แท้จริงของการเสียสละของตั่วตั่ว เมื่อเทียบกับเสี่ยวเหวินหลีผู้มีคัมภีร์อัญเชิญชั้นเพชรและเย่ว์หยางแล้ว ไม่มีใครเข้าถึงสำนึกเทพและระดับเทพได้เร็วกว่านางนางบรรลุเป็นเทพธิดาบุปผาคนแรกในกลุ่มทั้งยังช่วยให้เจ้านายของนางได้รู้แจ้งและกรุยเส้นทางไปสู่การรู้แจ้งระดับเทพที่สูงขึ้น
ก่อนเข้าสู่โลกมิติกระจก สาวๆได้รับแจ้งข่าวความตั้งใจของนางผ่านกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า
อสูรพิทักษ์ไม่ได้ตายอย่างแท้จริง
แต่
แต่ทุกอย่างจะถูกทำลายและทำลายความเป็นเทพ
ความทรงจำของนางจะหายไป และเมื่อเกิดใหม่จิตสำนึกและความรับรู้ของนางอาจไม่ใช่คนเดิมถึงอย่างนั้นนางก็ไม่เสียใจ
“ตั่วตั่วข้าไม่ยอมให้เจ้าสู้ตามลำพัง” สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงหลั่งน้ำตาและต่อหน้านางคือศัตรูที่หยิ่งผยอง เทวทูตแห่งแสงในโลกมิติกระจกเขาสามารถอวตารร่างได้มากมายตามต้องการ การโจมตีทุกอย่างจะถูกถ่ายเทไปยังมิติว่างเปล่าและไร้ผลต่อเทวทูตแห่งแสง เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่อยู่ยงคงกระพันที่สมบูรณ์ตราบเท่าที่มีกระจกและแสงสว่าง
“นึกหรือว่าโลกมิติกระจกจะถูกทำลายจริงๆ? น่าขันอย่าลืมว่าข้าเป็นเจ้าของโลกมิติกระจกคนหนึ่งด้วยเช่นกัน” เทวทูตแห่งแสงรู้สึกอึดอัดอยู่ชั่วขณะเพราะแรงระเบิดของเทพทั้งสอง แต่เขาฟื้นฟูความมั่นใจโดยเร็ว
ด้วยคลื่นจากฝ่ามือของเขา จุดศูนย์กลางระเบิดที่อยู่นอกพื้นที่โลกมิติกระจกก็เริ่มฟื้นฟู
แม้ว่าจะไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนแต่ก็เพียงพอให้เขาใช้แสดงพลัง
มังกรไร้เขาเจี้ยงอิงปกคลุมไปด้วยรัศมีสีแดง
การต่อสู้ของนางยังไม่ใช่ได้เปรียบ นางไม่ใช่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสีย นางไม่มีทักษ์หกรับรู้และนางไม่มีคัมภีร์แห่งสัจจะ นางจะต่อสู้กับเทวทูตแห่งแสง
“ล้มเหลวไม่ว่าพวกเจ้าจะมีกลเม็ดกลอุบายใดๆ ก็ตาม พวกเจ้าจะต้องประสบกับความล้มเหลว ในโลกมิติกระจก ข้าคือผู้คงกระพัน ถ้าเจ้าไม่มัวแต่หลั่งน้ำตาอย่างขี้ขลาดในช่วงระเบิดใหญ่ที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ เจ้าอาจจะมีส่วนร่วมโจมตีข้าได้ตอนนี้เจ้าจะมีพลังอยู่? แต่ว่าสายไปแล้ว!” เมื่อครู่นี้เทวทูตแห่งแสงกังวลมาก เพราะโลกมิติกระจกถูกระเบิดทำให้พลังของเขาลดลงอย่างมาก แต่โชคดีที่สาวมังกรนี้มัวแต่เศร้าเสียใจ เพราะนางสัมผัสได้ถึงความเสียสละของสหายร่วมงานกลับทำโอกาสที่มีค่าให้กลายเป็นน้ำตาที่น่าเบื่อ
“น้ำตาไม่ได้หมายความถึงความขี้ขลาดหรืออ่อนแอ บางทีก็ทำให้เข้มแข็งขึ้นและน้ำตาของข้าก็ทำให้หัวใจของข้าแกร่งขึ้น” เจี้ยงอิงกัดฟันปาดน้ำ และกำหมัดแน่น
“ฮ่าฮ่าฮ่าอย่างนั้นข้าจะให้เจ้าร้องไห้จนน้ำตาเป็นลำธาร!” เทวทูตแห่งแสงดูถูกเยาะเย้ย
“น้ำตาที่ไหลเป็นแม่น้ำคงจะเป็นเจ้ามากกว่า!” เจี้ยงอิงเหยียดและแทงใส่อกลึกไปถึงหัวใจจากนั้นขยับมือปล่อยให้เลือดทะลักราวกับน้ำตก “ด้วยเลือดนี้ ข้าสาบานอธิษฐานต่อเทพมังกรบังคับใช้อาญาสวรรค์ในการต่อสู้นี้”
เทวทูตแห่งแสงมองดู
ทำร้ายตัวเอง
เขาอดหัวเราะไม่ได้
ไม่คิดเลยว่าจะทำร้ายตนเองได้ขนาดนี้? เลือดไม่มีประโยชน์ต่อตัวเขาเพราะนี่คือโลกแห่งแสงและกระจก!
เจี้ยงอิงประสานมือที่เปื้อนเลือดเข้าด้วยนางอธิษฐานอย่างเคร่งขรึม เลือดที่ไหลออกมาจากตัวนางค่อยกลายเป็นลานประหารสีแดง เทวทูตแห่งแสงหัวเราะลั่นเสียงบาดหูราวกับมีดในหน้าเขาแข็งแกร่งด้างราวกับลาวาที่เย็นตัวลงดวงตาของเขาเย็นชาและเขากำลังจะหนีไปให้ไกลทันใดนั้นจู่ๆ แขนของเขาก็ตึงแน่น ไม่รู้ว่ามีเทพสองตนปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่พวกเขาถือขวานเทพเจ้าและเป็นขวานสำหรับใช้ประหารชีวิต เพราะแสงเจิดจ้าทำให้เทวทูตแห่งตาพร่ามองไม่เห็นไปชั่วขณะและมิอาจลืมตาได้
พวกเขายืนซ้ายขวาจับแขนของเทวทูตแห่งแสง
และลากไปยังแท่นประหาร
เทวทูตแห่งแสงลนลานดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งแต่ไร้ประโยชน์ ภายใต้กฎเหนือกฎแห่งการประหารชีวิตแห่งนี้ แสงและกระจกทำงานได้ไม่ถึงครึ่งเจตจำนงของเทพมังกรทองเพียงอย่างเดียวก็มีพลังกดดันหนักหน่วงน่ากลัวจนเทวทูตแห่งแสงไม่สามารถหายใจได้แม้แต่น้อย
“ไม่ ไม่,ข้าแข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก เจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้!” เทวทูตแห่งแสงร้องอย่างบ้าคลั่ง
เขามองไปที่เจี้ยงอิงและพบว่าสาวมังกรไร้เขามาถึงจุดหมิ่นเหม่แห่งชีวิตเลือดในหัวใจสูญสิ้นจนแทบหมด หน้าของนางซีดยิ่งกว่ากระดาษ
อย่างไรก็ตามนางยังคงกระสานมืออธิษฐานอย่างแน่วแน่
ชีวิตและความตายถูกลืมอย่างสมบูรณ์
“เจ้าทนไม่ได้อีกแล้วเลือดของเจ้าไหลออกมาหมดแล้ว และต่อไปเจ้าจะต้องล้มตาย เจ้าคิดจะฆ่าข้าหรือ? เป็นไปไม่ได้ ข้า ข้าจะหนีไปได้ในที่สุดเจ้าแพ้แล้ว เจ้ามีชะตาที่ต้องล้มเหลว...”เทวทูตแห่งเป็นเหมือนสุนัขที่ถูกพยัคฆ์ลากขึ้นลากขึ้นแท่นประหารโดยเทพผู้ทรงพลังทั้งสอง เขาถูกจับกดหัวและเทพเพชฌฆาตเงื้อขวานรออยู่แล้ว แต่เขายังร้องตะโกนอย่างไม่ยินยอม
ที่ท้องฟ้าด้านนอกโลกมิติกระจกเทพพิทักษ์เขากวงหมิงแค่นเสียงอย่างโกรธเกรี้ยว
เขาโจมตีเต็มกำลัง
แสงพุ่งผ่านทะลุมิติ
แสงทะลุหน้าอกเย่ว์หยางและเอวของอาหมันที่เข้ามาขวางไว้ครึ่งทางแต่ก็ยังโจมตีเข้าที่ร่างของสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงอย่างแม่นยำ
ขวานที่เทพพยัคฆ์ทั้งสองเงื้อค้างไว้ร่วงตกลงมาไม่สามารถดำเนินการต่อ
แท่นประหารสั่นสะเทือน
พังทลาย
เทวทูตแห่งแสงหลังจากรอดตายหวุดหวิดเขาอดร้องลิงโลดดีใจไม่ได้ “ข้าบอกแล้ว ข้าเป็นผู้ชนะ ข้าคือผู้ชนะที่แท้จริง! ล้มเหลว,เจ้ามีชะตาต้องล้มเหลว! ข้า ข้า ข้ารอดพ้นจากกฎการประหารชีวิต แม้ว่าเจ้าจะสืบทอดเจตจำนงของเทพมังกรเทพ แล้วยังไงเล่า? เจ้าไม่ใช่ธิดาของเขา เจ้าจะทำอะไรข้าได้? ข้าชนะ ข้าชนะ!”
“เหรอ? ข้าเพิ่งบอกไปแล้วว่าข้าจะทำให้เจ้าน้ำตานองเป็นท้องธาร นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น!” หลังจากแสงสว่างหายไปร่างที่โชกไปด้วยเลือดของเจี้ยงอิงยังคงยิ้มอย่างอ่อนแรงนางถูกเทพพิทักษ์เขากวงหมิงทำร้ายแต่มือนางยังคงประสานอย่างมั่นคงและสวดอธิษฐานต่อไปได้
“อ๋า? ไม่.....”เทวทูตแห่งแสงหวาดกลัวแทบตายขณะหลั่งน้ำตานองหน้า
ประหาร!
ขวานเทพเจ้าฟันฉับทันที
ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้นแต่วิญญาณยังถูกทำลายไปด้วย
ศีรษะของเทวทูตแห่งแสงกลิ้งกับพื้นเลือดและน้ำตากระเด็นเปื้อนอยู่บนพื้น ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงยังคงปรากฏค้างให้เห็นอยู่ในม่านตา
จิตวิญญาณถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานและถูกทำลายกลายเป็นพลังงานปั่นป่วนสีเทาที่ไร้พลังแม้ว่าจะกลับคืนไปที่คัมภีร์อัญเชิญของเจ้านาย แต่ดูเหมือนจะหายไปอยู่ดี
โลกมิติกระจกถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงจากที่เริ่มแตกทีละน้อยๆ และจากนั้นพังทลายลงเหมือนกับตัวโดมิโน
ขยายลามออกไป
จนเกินจะควบคุม!
“ตั่วตั่วเจ้าอยู่ข้างหน้าหรือเปล่า? อย่าวิ่งเร็วนัก รอข้าด้วย!” เจี้ยงอิงพึมพำกับตนเอง เหมือนกับฝันร้าย ศีรษะนางค่อยๆ ห้อยตกลงมือคลายออกอย่างไร้เรี่ยวแรง...
**** *** ****