ตอนที่ 1376 เปลี่ยนให้ข้าลองไหม?
โลกมิติกระจกมืดลงไปครึ่งหนึ่ง
ดวงอาทิตย์เหมือนถูกสัตว์ร้ายกลืนกินกลายเป็นสีดำราวกับหมึกเหลือแต่เพียงรัศมีที่ขอบนอกให้เห็นนั่นหมายความว่าชีวิตของมันยังไม่สิ้นสุดอย่างสมบูรณ์
ดวงอาทิตย์ที่มืดมิดร่วงลงมาอย่างช่วยอะไรไม่ได้เทพพิทักษ์เขากวงหมิงตวาดด้วยความโมโห เขารีบเพิ่มเติมพลังเทพให้มัน
แต่ไม่มีประโยชน์อะไร
มันร่วงหล่น
ในท้องฟ้ามีแต่ดวงจันทร์เทพชะตาดวงอาทิตย์หายไป....
“เหนื่อยเป็นบ้าข้าคงต้องกลับไปนอนแล้ว” แพนดอราหาวอีกครั้ง ประกายดวงตาที่น่ากลัวหายไปกลายเป็นดวงตาที่ซื่อและฉลาด แพนดอราหลับ และคืนร่างให้สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์
“ให้ทานตะวันอมฤตกินดวงอาทิตย์ก็ได้!” สุ่ยอู๋เหินมองเจ้าเมืองโล่วฮัว
“ไม่เอาอย่างเด็ดขาดดวงอาทิตย์นั้นต้องคำสาปไปแล้ว ขืนให้มันกลืนกินเดี๋ยวจะมีอาการผิดปกติ” ทานตะวันอมฤตถือเป็นสมบัติมีค่าของเจ้าเมืองโล่วฮัวนางไม่เร่งให้มันก้าวหน้าจนเกินไปเพราะไม่อยากเสี่ยง แต่เย่ว์หวี่ให้แนวคิดกับนาง“ถ้าเจ้าต้องการให้หลิวเย่ชำระให้เจ้า ก็น่าจะทำได้สำเร็จเพียงแต่อาจต้องใช้เวลายาวนานขึ้น”
“ลุยไปข้างหน้าต่อเราจะต้องทำลายโลกมิติกระจกให้หมด!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ดาบเทพชี้ไปที่มิติโลกกระจก กระจกนับไม่ถ้วนแตกระเบิดตามความตั้งใจของนาง
“คิดเพ้อเจ้อ!” เทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงรุกไล่เย่ว์หยางและจื้อจุนจนมีอาการสับสน ความโกรธของเขาไม่ต่างอะไรกับแรงระเบิดของภูเขาไฟ แต่หลังจากเจ็บตัวจากพลังหมัดโจมตีอย่างหนักของเย่ว์หยางเขาเรียกอสูรอัญเชิญลงมาในโลกมิติกระจก
เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายกระจกนี่คือพื้นฐานการต่อสู้ของเขา
นอกจากนี้ยังเป็นทางเข้าของเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจล้มเหลวได้
ตราบเท่าที่เขาอยู่รอดได้ ตราบเท่าที่เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้เข้ามาในโลกแกนสมดุลการประลองชะตาอันศักดิ์สิทธิ์จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการและชัยชนะจะตกอยู่ในฝ่ายของเขาเอง
“เจ้าทุบข้าและเพิ่งทำร้ายข้ามาเมื่อครู่ มันยอดเยี่ยมมากเลยใช่ไหม?ก็ได้ตอนนี้ข้าจะขอคืนผลกำไรทั้งหมดให้เจ้า!” เย่ว์หยางมีความสุข ตอนนี้เขาไม่รู้สึกดีเกินไปนักที่มีจื้อจุนหนุนอยู่ด้านหลัง เทพพิทักษ์เขากวงหมิงไม่กล้าบุ่มบ่ามโจมตีเหมือนเมื่อก่อนอีก แทนที่จะเป็นฝ่ายรุกเขาป้องกันตัวอย่างเยือกเย็น
เอาชนะเทพในยอดฝีมือทั้งเป็นปีศาจเฒ่าอายุยืน
จะหาวันแบบนี้ได้จากที่ไหน?
มังกรปีศาจต้องรีบพูดกระตุ้นเตือนเขา“เร็วเข้า, อย่ามัวแต่ท่ามากเกินไป รีบๆ ฆ่าเขา เพราะเทียนอี้กำลังจะมาถึงในไม่ช้า!”
น่าตกใจจริงๆ
เย่ว์หยางสะดุ้งอีกครั้งเขาลืมเรื่องนี้ไปเลย ทันใดนั้นเขารู้สึกสะท้านใจ
ดาบ โล่ แส้ ค้อน พลอง เทพชะตา ฯลฯบรรดาอาวุธเทพทั้งหลายถูกเรียกออกมาใช้ เขาทุบหัวเทพพิทักษ์เขากวงหมิงซึ่งมีความหนาทนทานเป็นพิเศษ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะบิดเบี้ยวแสดงอาการเจ็บปวดจนถึงกับต้องกัดฟันแต่เขาก็ทนได้โดยไม่รู้สึกกลัวเขาจะซ่อนตัวก็ได้ แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ปล่อยให้เย่ว์หยางโจมตีแต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้จื้อจุนโจมตีร่างของเขา
เขารู้ความร้ายกาจของจื้อจุนถ้าปล่อยให้นางได้โอกาส และใช้ไม้ตายที่น่ากลัว ผลที่ตามยิ่งมิอาจคาดคิด
ภายใต้บัลลังก์เทพเจ้าชีวิตชีวิตจะตกอยู่ในการควบคุม และอาจตายเมื่อใดก็ได้
ข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย
อาจก่อความผิดพลาดครั้งใหญ่ได้
เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงเกร็งกำลังป้องกันไว้เต็มที่จื้อจุนจึงยังไม่ได้โอกาสแต่อย่างใด
“เจ้าเด็กโง่! มอบอาวุธเทพชะตาให้เสวี่ยอู๋เสียกับเชี่ยนเชี่ยนปล่อยให้พวกนางทำลายโลกมิติกระจกโดยเร็วที่สุด!” จื้อจุนไล่ตามร่างแท้ของเทพพิทักษ์เขากวงหมิงขณะที่บอกให้เย่ว์หยางไปช่วยเสวี่ยอู๋เสียและคนอื่นๆร่างเทพเดิมของนางสูงหกพันเมตรขยายความสูงขึ้นไปถึงหมื่นเมตรหลังจากรู้แจ้งบัลลังก์เทพกับร่างเทพหมื่นเมตรของเย่ว์หยางบีบร่างเทพศัตรูขนาดสี่หมื่นเมตรทั้งซ้ายและขวาจนถอยไปทีละก้าวภายใต้การรุกกระหนาบโจมตีตอนแรก ตอนนี้เขาถูกต้อนไปถึงขอบทะเลมรณะอย่างรวดเร็ว
“ฮุยไท่หลาง เจ้าหมาโง่มัวแต่วิ่งไล่คนอื่นอยู่ได้ รีบมานี่” เย่ว์หยางไม่อาจวางใจปล่อยให้จื้อจุนเผชิญหน้ากับศัตรูเพียงลำพังเขาสั่งให้ฮุยไท่หลางเข้ามาหาและเอาอาวุธเทพไปมอบให้เสวี่ยอู๋เสีย
เนื่องจากเทพทะเลมรณะไม่สามารถทำอะไรมันได้ในตอนนี้
พวกเทพทะเลมรณะถูกฮุยไท่หลางเล่นงานย่ำแย่ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกแม้ว่าทุกคนแทบหมดแรง แต่ยังต้องใช้เวลาฟื้นฟู แต่ทุกคนรู้ดี หากปล่อยให้เจ้าสุนัขเถื่อนตัวนี้กินนั่นเป็นจุดจบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตอนนี้สุนัขเถื่อนนั่นปลีกตัวออกไป พวกเขาไม่กล้าหยุดห้ามมันเป็นธรรมดา แต่ละคนแสร้งทำเป็นไม่เห็นสายตาที่จ้องมองของเทพพิทักษ์เขากวงหมิง พวกเขาทั้งหมดหลบหนีเข้าไปในทะเลมรณะและพวกเขายังอ้างอีกว่าพวกเขาจะไปช่วยเทพพิทักษ์ทะเลมรณะสกัดกั้นมารดาของเย่ว์หยางไม่ให้นางระเหยทะเลมรณะซึ่งเป็นการปกป้องถิ่นของตนเอง
ระหว่างการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแน่นอนว่าพวกเขาเลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์พวกเขามากที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อศัตรูทรงพลังที่สุด
เรื่องคงจะแตกต่างออกไปถ้าเทียนอี้ที่แข็งแกร่งที่สุดมาถึง และพวกเขาจะตัดสินใจเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมกว่านี้อีกครั้งอย่างแน่นอน....
“ส่งอาวุธเทพชะตาไปให้พวกนาง ถ้าทำพลาดจงเอาเนื้อหมาหม้อไฟกลับมา!” เย่ว์หยางบินไปหาฮุยไท่หลางที่ผงกหัวรับรอง “เจ้านายส่งมาได้เลย!”
“โฮ่งๆ!” ฮุยไท่หลางรีบชูกรงเล็บทำท่าปฏิญาณเลียนแบบท่าทางทหาร
เจตจำนวนอสูรชั้นเทพครอบคลุมอาวุธเทพชะตาทั้งแปดชิ้น
และพุ่งออกไปราวกับดาวตก
หายเข้าไปในโลกมิติกระจก
เทพพิทักษ์เขาหมิงกวงกังวลขนาดไม่มีอาวุธเทพชะตาพลังของสตรีเหล่านี้ก็ทำให้เขาปวดหัวแล้วตอนนี้ยังเพิ่มอาวุธเทพขึ้นมาอีกแปดชิ้นเมื่อรวมกับอาวุธเทพชะตาเหล่านี้และลูกแก้วเทพชะตาในมือของสาวน้อยเทพธิดาบุปผาก่อนหน้านี้ อาวุธเทพทั้งเก้ารวมกันอาจสามารถใช้พลังพิเศษของพวกนางได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ความเป็นไปได้นี้เกิดขึ้นเทพพิทักษ์เขากวงหมิงเตะรุกเพื่อให้เย่ว์หยางถอยออกไปแล้วและเรียกผู้ช่วยที่ทรงพลังอีกตนหนึ่งออกมา “ทูตแห่งแสง เวลาใกล้เข้ามาแล้วเจ้าต้องช่วยให้เทียนอี้ไปถึงเป้าหมายให้ได้ ป้องกันเจ้าหมาเถื่อนนั่นให้ได้”
ทูตแห่งแสงที่เขาเรียกมาก็คือชายชราที่มีเคราและผมขาวโพลนและสวมชุดยาวสวยงาม
แสงแห่งปัญญาส่องประกายเหมือนดวงดาว
ดูเหมือนกับปราชญ์บัณฑิตผู้ทรงภูมิรู้
หลังจากทูตแห่งแสงออกมาแล้วเขาคำนับให้เทพพิทักษ์เขากวงหมิงอย่างสง่างาม “นายท่าน แม้ว่าข้าจะจากไปแล้ว แต่ความปลอดภัยของท่านจะไม่ได้รับการรับรองโปรดระวังตัว”
“เราผู้เป็นเทพนี้จะไม่ตกอยู่ในอันตรายใดๆทั้งนั้น ดำเนินการตามคำสั่ง!”เทพพิทักษ์เขากวงหมิงรู้ว่าเทวทูตแห่งแสงสำคัญต่อตัวเขาเอง แต่สถานการณ์ช่วงเวลานี้วิกฤตจนไม่สามารถเห็นแก่ตัวเองได้เพื่อชัยชนะเขายินดีที่จะเสี่ยงเชื่อว่าเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้จะสามารถมาถึงก่อนที่เขาจะพ่ายแพ้ต้องรีบมาที่นี่เพื่อการประลองชะตาที่แท้จริง
“ขอรับท่าน” เทวทูตแห่งแสงโปรยละอองแสงเปลี่ยนโลกแกนสมดุลให้เป็นสีขาวเจิดจ้างทั้งหมด
ร่างของเขาหายเข้าไปในโลกมิติกระจก
และปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าฮุยไท่หลาง
สำหรับเขาโลกมิติกระจกไม่มีความลับความสับสนและอุปสรรคที่นี่ไม่เคยส่งผลกระทบต่อเขา แต่ทำให้เขาเป็นฝ่ายได้มากกว่า
เทวทูตแห่งแสงไม่ได้โจมตีฮุยไท่หลางที่กำลังกระตือรือร้นทันทีแต่เขายิ้มอย่างสุภาพ “ข้าชอบและชื่นชมสิ่งมีชีวิตที่มีความภักดีมาก แม้ว่าจะเป็นศัตรูก็ตามโปรดรอก่อนเราจะมีการต่อสู้ที่ดุเดือดและเป็นประวัติศาสตร์ควรแก่การจดจำแห่งยุคสมัยได้”
เขาผายมือ
มือของเขามีลำแสงลอยออกมาช้าๆและนุ่มนวล
ทันใดนั้นแสงขยายออกไปเรื่อยๆทำให้โลกมิติกระจกสว่างไสวไปทั้งหมด
เมื่อเห็นปฏิกิริยาเช่นนั้นฮุยไท่หลางถอยหลังก้าวใหญ่ สำนึกเทพตื่นตัวจ้องมองศัตรูด้วยความสนใจเต็มที่
มีเส้นทางโบราณที่ไม่มีใครตรวจพบปรากฏขึ้นในแสงแบบนี้ และข้างในส่องสว่างมาก
“กรรรรร, กรรรรรร!” บัดซบเจ้าผู้นี้เจ้าเล่ห์เกินไป ข้าคิดว่าเจ้าจะโจมตี จึงรอให้เจ้าบุก แต่เจ้ามารอใครเจ้าใช้รัศมีตั้งค่าส่งข้อมูลให้สหาย นึกว่าจะรังแกสุนัขกันได้ง่ายๆ หรือ?
ดูถูกสติปัญญาพิเศษสุนัขอย่างข้าหรือ?
บัดซบ น่ารังเกียจเกินไป!
ฮุยไท่หลางกระโจนเข้าหาเทวทูตแห่งแสงอ้าปากขนาดใหญ่เตรียมกัดกินเจ้าผู้น่ารังเกียจเขาจะต้องเสียใจกับระดับสติปัญญาของเขาแน่!
เทวทูตแห่งแสงยิ้มอย่างเฉยเมยโบกมือแสงฉายเจิดจ้าขึ้น และเขาถูกแสงเจิดจ้ากลบและซ่อนตัวในกระจกเงา แต่สุนัขแสงสองตัวที่เหมือนกับฮุยไท่หลางอย่างน่าแปลกประหลาดปรากฏออกมาอย่างน่าประหลาด ปากใหญ่ของฮุยไท่หลางไร้ประโยชน์ในการตอบโต้พวกมัน อย่างไรก็ตามฮุยไท่หลางถูกโจมตีและได้รับบาดเจ็บ กระจกในโลกแห่งกระจกพลิกบานก็ปรากฏร่างเหมือนฮุยไท่หลางออกมาเป็นสิบๆ ล้านท่วมทับฮุยไท่หลางหายไปในกระแสทันที
“เจ้าหมาโง่เอ๊ย...” ดวงตาของเทวทูตแห่งแสงเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน
“ไม่ว่ามันจะขี้โกงแค่ไหนมันก็ยังดีกว่าเจ้า!” ดาบเทพแทงออกมาจากอากาศ ปรากฏอยู่ต่อหน้าจมูกของเทวทูตแห่งแสงเป็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมาถึง
“ถ้าพูดถึงภายนอกข้าอาจพูดได้ไม่เต็มที่ แต่ที่นี่ต่อให้มีพวกเจ้าเป็นร้อยคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” เทวทูตแห่งแสงมีความมั่นใจปรากฏอยู่บนสีหน้าทั้งที่หน้าของเขาถูกดาบเทพแทงใส่ แต่สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉย ปากของเขายังคงพูดต่อ “ในโลกมิติกระจก เจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้และเจ้าก็ยังไม่มีทางรู้ว่าร่างที่แท้จริงของข้าอยู่ที่ไหน!”
“เฮอะ!”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรีบหันดาบเทพพยัคฆราชกลับไปแทงใส่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ในนั้นมีเทวทูตแห่งแสงอีกคนหนึ่ง
ไม่มีใครสามารถหลบหลีทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ของนางได้แม้แต่เย่ว์หยางที่มีทักษะพรางก็ยังไม่ยกเว้น ในโลกมิติกระจกนี้เทวทูตแห่งแสงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและเปลี่ยนร่างได้ตามต้องการ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถแฝงตัวเข้าไปใกล้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโดยที่นางไม่รับรู้
เมื่อเทวทูตแห่งแสงเห็นดาบแทงทะลุอกเขาอดมีสีหน้าตกใจมิได้
เขาปรบมือและชื่นชม “ดาบที่ดี”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตวัดแขนไปด้านข้างดาบฉายรังสีวาบและทะลุไปที่ว่างอีกด้านหนึ่งจากนั้นหน้าผากที่มีดาบปักของเทวทูตแสงปรากฏขึ้น “ถ้าไม่ใช่ข้า คนอื่นก็คงยากจะพูดได้ว่าหนึ่งคน หนึ่งดาบและจิตสังหารของเจ้าแรงเกินไป อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดายที่ในโลกมิติกระจกไม่มีใครสามารถฆ่าข้าเทวทูตแห่งแสงได้!”
“ให้ข้าลองดูได้ไหม?”
ทันใดนั้นมีเสียงดังในพื้นที่โปร่งแสง
หลังจากนั้นมีริ้วละลอกเหมือนกับคลื่นลมพัดพื้นผิวทะเลสาบและปรากฏทางเดินของโลกมิติกระจก
เสวี่ยอู๋เสียเหมือนเดินผ่านพื้นที่ว่างตามปกตินางปรากฏอยู่ต่อหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทันที นางไม่สนใจร่างแยกที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากดาบเทพ แค่เพียงพยักหน้าเบาๆให้กับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
“เจ้าจัดการก็แล้วกันข้าจะไปดูตั่วตั่ว”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชักดาบกลับและเตะร่างของเทวทูตแห่งแสงข้างหน้านางกระเด็นหาย
ใบหน้าที่เฉยชานั้นไม่หันกลับมามอง
เดินแยกออกมา
ฮุยไท่หลางเพิ่งออกมาจากกลุ่มสุนัขแสงและพบเจอองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทันที
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยื่นมือออกมารับดาบเทพชะตาที่มันพุ่งออกมา นางไม่สนใจสถานการณ์ปัจจุบันของสุนัขเฝ้าบ้านผู้น่าสงสารพอได้ดาบก็แยกตัวเดินหายไปในความว่างเปล่า สุนัขโปร่งแสงเหล่านั้นเข้ามารุมท่วมทับฮุยไท่หลางยั่วโมโหฮุยไท่หลางจนมันต้องอ้าปากใช้พลังหมาป่าล้างโลกไม่เพียงแต่กลุ่มกองทัพสุนัขเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกระจกในมิติกระจกล้วนถูกมันกลืนหายทันที แน่นอนว่ามันมีราคาที่ต้องจ่ายออกไปเหมือนกัน ความตะกละของมันทำให้แทบสำลักตาย
ผิวของมันเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินสุดท้ายมันใช้กรงเล็บล้วงที่คออย่างสิ้นหวัง
เพราะการกลืนกินลงท้องอย่างไม่เต็มใจในที่สุดมันไอ จนแทบดึงปอดหลุดออกมา
อีกด้านหนึ่งเสวี่ยอู๋เสียกำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดีนางไม่สนใจเทวทูตแห่งแสงที่อยู่หน้านาง ขณะที่นางยิ้มอย่างอ่อนโยนหมัดของนางเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าฟาดไปที่กระจกใกล้ๆนาง ในกระจกนั้น ใบหน้าบิดเบี้ยวผิดรูปของเทวทูตแห่งแสงที่กำลังจะทำหน้าล้อเลียนนางส่งเสียงร้องโหยหวนทันที
กระจกไม่แตก
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ใบหน้าภายในกระจกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
เทวทูตแห่งแสงกุมใบหน้าด้วยความเจ็บปวดหนีห่างออกไปหมื่นเมตรและถามขึ้น “เจ้าเห็นได้อย่างไร?”
“อุบายหลอกเด็กโปรดอย่าคิดเอาว่าคนอื่นฉลาดน้อยกว่าเจ้าได้ไหม?” เสวี่ยอู๋เสียยังคงยิ้ม “โปรดอย่าคิดว่าข้าเดาไม่ออกว่าเจ้าคืออสูรอื่นนอกจากเทพแห่งความสับสน เป็นอสูรพิทักษ์พี่น้องฝาแฝดแทบจะไม่มีให้เห็น แต่ก็ยังคงมีอยู่ดี นอกจากนี้เจ้ายังไม่รู้ โลกที่แท้จริงอยู่ในมือของข้า โปรดอย่าใช้กลอุบายตื้นๆมาหลอกลวงต่อหน้าข้าได้ไหม? เจ้าควรทำตัวให้เหมือนเทพแห่งความสับสนที่ต่อสู้กับตั่วตั่วได้ไหม? ข้าไม่อยากขอเจ้ามากเกินไปที่สำคัญเจ้าเป็นอสูรพิทักษ์ ทั้งยังเป็นพี่น้องฝาแฝดคู่หนึ่งตนหนึ่งเลื่อนเป็นเทพแห่งความสับสน ส่วนเจ้ายังเป็นแค่เทวทูตแห่งแสงอยู่ข้าเลือกคู่ต่อสู้ผิด จึงได้แต่พูดแค่นี้!”
“ข้าไม่ใช่เขา แต่เจ้าต้องตายต้องตายแน่นอน!” เทวทูตแห่งแสงโมโหฉุนเฉียวเสวี่ยอู๋เสีย
“ความโกรธของศัตรูคือคำชมที่ดีที่สุดของข้า” เสวี่ยอู๋สียยักไหล่
“อา...รอเดี๋ยวๆรอข้าก่อนได้ไหม?” มีมังกรไร้เขาตนหนึ่งพุ่งวาบผ่านกระจก เจี้ยงอิงบินและร้องเรียกมาตลอดทาง “พี่อู๋เสีย! ยกเจ้าผู้นี้ให้ข้าได้ไหม?ข้าไม่ค่อยได้ช่วยเขามากนัก ไม่ได้เข้าร่วมรบหลายศึกแล้ว ข้ารู้สึกละอายจริงๆ!”
“เอาจริงหรือ?”เสวี่ยอู๋เสียหลั่งเหงื่อเล็กน้อย นี่ไม่ใช่ศัตรูที่เอาชนะได้ด้วยกำลังดูตัวอย่างองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ไม่สามารถทำได้
“ข้าน่าจะทำได้! ข้าไม่สามารถเอาชนะเทพแห่งความสับสนได้เหมือนตั่วตั่วแต่เทวทูตแห่งแสงนี้ข้าต้องลองดู!” สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงคิดชั่วครู่และนางให้คำตอบที่นางมั่นใจ
“.....” เทวทูตแห่งแสงได้ยินแล้วโมโหหงุดหงิด แม้เขาจะไม่ใช่เทพสับสนแต่เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญโลกกระจกนี้
เป็นแค่สุนัขหรือแมวคิดหรือว่าจะสู้กับข้าผู้เป็นเทวทูตแห่งแสงผู้ไร้เทียมทานในโลกกระจกนี้ได้นี้ได้
ทำไม?
มันมากเกินไปแล้ว
เสวี่ยอู๋เสียพยักหน้าตอบรับจริงๆ
นางยื่นมือจับไหล่เจี้ยงอิง “งั้นเจ้าพยายามให้เต็มที่ได้”
“อืม”สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงกำหมัดแน่น “ข้าทำได้!”
**** *** ****