ตอนที่ 1375 คำสาปเทพ
โลกมิติกระจก
เย่ว์หยางใกล้จะคลี่คลายปัญหาได้แล้วเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะเทพพิทักษ์ทะเลมรณะแจ้งเตือนหรือไม่หรือว่าเป็นความรู้สึกของเทพพิทักษ์เขากวงหมิง จึงยอมเลิกวิ่งไล่ล่าในช่วงกว่าสองชั่วโมงนี้และเรียกดวงอาทิตย์ออกมาดวงหนึ่ง
ดวงอาทิตย์นี้มีพลังที่น่ากลัวมากในโลกมิติกระจก เมื่อกระจกหักเหแสงมีเป็นล้านๆ บานก็จะช่วยให้พลังของดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นเป็นล้านเท่า
แสงและความร้อนแทบจะกลืนกินร่างของเย่ว์หยางไว้ภายใต้กฎแห่งแสงสว่าง
ไม่มีที่หนีไปได้ในตอนนี้
ไม่มีทางทะลวงไปได้
เย่ว์หยางถูกเผาจนเป็นร่างมนุษย์ไฟและมีความทรมานอย่างไม่มีใดเทียบ
อย่างไรก็ตามความล้มเหลวพลาดท่านี้ในสายตาคนนอกอย่างพวกมังกรปีศาจสังเกตว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น เย่ว์หยางกำลังถูกไฟเผาไหม้ร่างกายหลอมละลายนั่นเป็นเรื่องแน่นอน แต่นี่เป็นเพียงร่างเงาปีศาจที่ผสานพลังกับหน้ากากเจมินีสร้างขึ้นมาขณะที่เย่ว์หยางตัวจริงลอบเข้าไปหลบอยู่หลังดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงทั่วมิติกระจกอย่างกล้าหาญและพลางตัวเป็นดาวหางแฝงตัวอยู่ภายใต้แสงที่สาดส่องตั้งใจหลบหนีจากสำนึกเทพกักกันของเทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิง
“......”พวกมังกรปีศาจไม่กล้ามองดูบรรยากาศ เพราะกลัวว่าแค่เห็นเหตุเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจะเป็นเหตุให้เทพพิทักษ์เขากวงหมิงใช้พลังดวงอาทิตย์โจมตีเต็มที่
ดาวหางพุ่งผ่านท้องฟ้าขณะที่หัวเย่ว์หยางจะทะลวงออกจากโลกมิติกระจก
ร่างเทพสี่หมื่นเมตรที่กดร่างคู่ต่อสู้สังเกตเห็นการหลอกล่อด้วยเล่ห์เหลี่ยมนี้ทันทีเขาเบิกตากว้างโกรธเกรี้ยวและเปลวไฟในดวงตาลุกโชนร่างเทพหมื่นเมตรของเย่ว์หยางและบัลลังก์เทพนิรันดร์ตอบโต้เต็มกำลังทันที โดยพลังเทพและพลังเทพกดดันของศัตรูไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้
อย่างไรก็ตามเทพพิทักษ์เขากวงหมิงซึ่งโยงสำนึกเทพไว้พบเห็นการหลบหนีของเย่ว์หยางทันที
เขาคำรามด้วยความโกรธราวกับฟ้าร้อง
บางครั้งยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญก็อาจทำผิดพลาดในชีวิตได้
ภายใต้การไล่ล่าของเขาเองในช่วงเวลาแห่งการระดมโจมตีเต็มรูปแบบ เจ้าเด็กนี่ยังกล้าใช้ร่างปลอมเพื่อหลอกตัวเขาและพยายามหลบหนีจากวงล้อมของเขา... เขาแหงนหน้าตวาดและกระจกในมิติกระจกทั้งหมดในพื้นที่มิติสั่นสะเทือนรุนแรงกระจกหลายร้อยล้านบานแตกเป็นเสี่ยงๆ และใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวินาที ร่างจริงของเทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงขนาดแปดเมตรปรากฏขึ้นที่ด้านหลังเย่ว์หยางและปล่อยกำปั้นยักษ์ใส่เย่ว์หยาง
บึ้ม!
“ไปให้พ้น!” เย่ว์หยางถูกหมัดกระแทกใส่ไหล่อย่างรุนแรงเขาแยกเขี้ยวด้วยความเจ็บปวด ความเจ็บปวดแล่นถึงปอดและหัวใจ แต่เขาเอื้อมมือไปข้างบนได้สำเร็จ
“อย่านึกว่าจะทำให้สำเร็จ” เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงโมโหมือขนาดใหญ่ทั้งสองจับขาทั้งสองของเย่ว์หยางเตรียมดึงเย่ว์หยางลงมาพวกมังกรปีศาจแทบไม่กล้ามองดู นี่จะล้มเหลวอย่างนั้นหรือ ทำไมโชคชะตาเล่นตลกแบบนี้?
เย่ว์หยางชูมือขวาเหมือนจะคว้าจับ
มือของเขาไขว่คว้าอยู่ด้านนอกเหมือนคนที่จะจมน้ำและคว้าฟางช่วยชีวิตแต่ก็จับอะไรไม่ได้
เทพพิทักษ์เขากวงหมิงเหมือนกับพรายน้ำดึงร่างเขากลับลงไปอย่างสิ้นหวัง ในพริบตาที่เย่ว์หยางโผล่มือไหล่ และผมออกไปนอกมิติกระจกเล็กน้อย
ถ้าไม่มีอีกคนหนึ่งปรากฏตัวออกมา
อย่างนั้นการหลบหนีของเย่ว์หยางคงต้องประสบกับความล้มเหลวการต่อสู้นี้จะต้องล่าช้าจนกว่าเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้จะมาถึง
แต่โชคชะตาช่างแปลกประหลาดเย่ว์หยางล้มเหลวในการหลบหนี แต่ไม่ใช่จุดจบของชีวิตแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้อีกครั้ง มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมาจับผมของเย่ว์หยางและยกเขาขึ้นมาพร้อมกับเทพพิทักษ์เขากวงหมิงที่กำลังจับขาเย่ว์หยางเช่นเดียวกับชาวประมงที่ตวัดสายเบ็ด ดึงเขาออกมาจากโลกมิติกระจก
คนผู้นี้...
เป็นจื้อจุนที่ไม่รู้ว่านางกลับมาสู่สนามรบตั้งแต่เมื่อใด
การปรากฏตัวของนางทำให้ศัตรูทั้งหมดในโลกแกนสมดุลตกตะลึงกันหมดแม้แต่เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงก็มองดูบัลลังก์เทพที่ยอดเยี่ยมของนาง
“บัลลังก์เทพเจ้าชีวิตได้สำเร็จอย่างแท้จริง ในสนามรบศัตรูทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นจะตายจะตกอยู่ในการควบคุมของข้า”บัลลังก์เทพของจื้อจุนในตอนนี้ ดีกว่าแต่ก่อนเป็นร้อยเท่าด้านหลังนางมีวงจักรแสงเทพเจิดจ้าโดดเด่นมากกว่าเทพอื่นๆ เมื่อเทียบกันแล้วแสงเทพชั้นหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงมากมายมีพลังผันผวนของการเกิดและดับดูลึกลับไม่สิ้นสุด
“ท่านบรรลุพลังระดับนี้ได้อย่าง?” ทันใดนั้นเย่ว์หยางก็ตระหนักได้ว่าความสำเร็จระดับนี้คงไม่ใช่สำเร็จโดยจื้อจุนเพียงคนเดียวต้องเป็นเทพธิดากระบี่ฟ้าคอยช่วยอย่างลับๆไม่เช่นนั้นนางคงไม่สามารถออกมาได้เร็วขนาดนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้กับการสำเร็จบัลลังก์เทพเจ้าชีวิตระดับนี้ได้
บัลลังก์เทพเจ้าชีวิตนี้แตกต่างบัลลังก์เทพครั้งก่อนที่ดูดซับแต่พลังความตายจากศัตรูในสนามรบ
มีทั้งพลังเทพและพลังกฎสวรรค์สำหรับผู้ปกครองอย่างแท้จริง
ควบคุมชีวิตทั่วทั้งสนามรบ
ตราบใดที่เป็นความประสงค์ของจื้อจุนทุกชีวิตที่ไม่สามารถต้านทานได้จะถูกตัดสินในมือของจื้อจุน นางสามารถควบคุมได้หมด
“โอ๊ย..ผมข้า!” เย่ว์หยางตกตะลึงอยู่นานจึงค่อยสนองตอบต่ออาการเจ็บปวดที่หนังศีรษะ หนังศีรษะของเขาเกือบถูกถลกออกเขาไม่กล้าโกรธจื้อจุนได้แต่ระบายอารมณ์ทั้งหมดไปลงที่เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิง “บัดซบ! นี่เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว?ยังมัวแต่เกาะแข้งเกาะขาข้าอยู่ได้.. โอ๊ยย... หัวข้า ผมข้า!”
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นบ่นไม่หยุดจื้อจุนจับผมดึงลากเขาออกมา ไม่รู้ว่าเขาต้องผมร่วงไปมากมายเท่าใด
เทพพิทักษ์เขากวงหมิงไม่สามารถรับมือเรื่องยุ่งนี้ได้
เขาระเบิดพลังเทพออกเป็นครั้งแรก
ยิงไปที่จื้อจุน
เตรียมฆ่าจื้อจุนก่อนและค่อยแก้ปัญหาเรื่องเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางมีบัลลังก์เทพนิรันดร์และอีกด้านหนึ่งก็เป็นการประลองชะตาไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฆ่ากันได้ ชีวิตที่ย่ำแย่ของเขาต้องให้เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้คลี่คลายให้ได้คือต้องฆ่าตัวช่วยที่ยิ่งใหญ่ที่อยู่ข้างเขาตัวอย่างเช่นศัตรูที่ทรงพลังที่อยู่ข้างหน้าเขาซึ่งมีบัลลังก์เทพจ้าวชีวิต
“ไร้สาระ!” จื้อจุนจับกำปั้นยักษ์ของเทพพิทักษ์เขากวงหมิงด้วยมือข้างเดียวเหวี่ยงศัตรูด้วยมือข้างเดียวจากนั้นเตะเข้าที่สีข้างอย่างแยบยล
บึ้มๆๆๆ
เทพพิทักษ์เขากวงหมิงกระเด็นออกไปภายใต้การจ้องมองอย่างเหลือเชื่อของเทพทะเลมรณะเขาลอยไปกระแทกพื้นไถลไถไปกับพื้นไกลถึงแสนเมตรจึงค่อยหยุดได้
เย่ว์หยางและมังกรปีศาจปากอ้าค้างหุบไม่ลงพลังรบของนางก่อนหน้าและตอนหลังนี้เปลี่ยนไปมากก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเกินไปหรือเปล่า?แน่ใจนะว่านี่คือจื้อจุนคนเดียวกับก่อนหน้านั้น?
จื้อจุนยืดตัวอย่างหยิ่งผยองในท่ามกลางสายตาหวาดกลัวของเหล่าเทพทะเลมรณะ“เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่ต้องให้เด็กน้อยมาปกป้องข้าด้วยหรือ?”
อา...เด็กน้อยที่นางพูดถึงหมายถึงเขาเองหรือ?
เย่ว์หยางรู้สึกเศร้า
แต่เขาไม่กล้าค้าน
จื้อจุนน่ากลัวมาก!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มีความรู้สึกผิดที่ได้ทำเรื่องไม่ดีไว้กับนาง
“ท่านจะรออะไรอีก รีบทำลายโลกมิติกระจกของเขาเลย!” จื้อจุนหันไปจ้องเย่ว์หยางทันใดนั้นเสือร้ายกลายเป็นลูกแมวหงอยทันที
“โลกมิติกระจก, มาทำลายกันเถอะ”เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ออกมาเช่นกันพวกเทพทะเลมรณะมองดูสตรีเหล่านี้ด้วยสายตาประหลาดใจ พวกนางไม่มีบัลลังก์เทพแต่พลังรบที่พวกนางมีอยู่นั้นไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะผู้นำพวกนางทำให้ปีศาจเฒ่าทั้งหมดถึงกับสะท้านสิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดก็คือพวกนางทุกคน มีตราเทพที่คล้ายกับบัลลังก์เทพกันทุกคน
นี่คือตราเทพ
นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน
เป็นขอบเขตพลังระดับสูงของเทพจอมราชันย์มีมากตามศักยภาพและการรู้แจ้ง เป็นรูปแบบของตราเทพที่ให้ยืมพลังชั่วคราว
หากมีเทพจอมราชันย์ทำเรื่องนี้ให้ปีศาจเฒ่าจากทะเลมรณะ ไม่มีความสงสัยความเป็นไปได้แต่เทพจอมราชันย์ของหอทงเทียนมากจากไหน? พลังสนับสนุนมาจากไหน? สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือสตรีเหล่านี้ได้รับตราพลังได้อย่างไร?ทั้งตรงกันและเข้ากันได้กับศักยภาพ นี่เป็นไปไม่ได้!
ปีศาจเฒ่านักสู้ระดับเทพแห่งทะเลมรณะไม่รู้เลยว่าพวกนางเคยร่วมแบกพลังเทพชะตาด้วยกัน
ชะตาพวกนางเชื่อมโยงกับเย่ว์หยางมานานแล้ว
เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบราบรื่น
นั่นเป็นเรื่องปกติ
สำหรับตราผนึกเทพนี้ เป็นตราเทพที่ลึกลับและน่าอัศจรรย์ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์เทพที่เย่ว์หยางให้พลังพวกนางยืนก่อนนั้น..เย่ว์หยางไม่แม้แต่จะรู้ว่ามีสิ่งเหล่านี้อยู่... คนที่สร้างตราเทพเหล่านี้เย่ว์หยางได้แต่เพียงสงสัยว่าเป็นเช่นเดียวกับบัลลังก์เทพเจ้าชีวิตที่จื้อจุนประสบความสำเร็จคงเป็นเพราะเทพธิดากระบี่ฟ้าคอยช่วยอยู่หลังฉาก
เย่ว์หยางถามตัวเองว่าเขาจะมีความสามารถที่จะบรรลุตราเทพแบบนี้ได้หรือไม่ยังมีบัลลังก์เทพที่ลึกลับและยิ่งใหญ่อีกมากมาย
ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือเป็นการสร้างให้ชั่วคราว
ไม่มีผลต่อการเติบโตก้าวหน้าของเจ้าของเลย
“พี่สาม! ให้ข้าช่วยท่านเอง!” เย่ว์ปิงน้องสาวน้อยผู้มีจิตวิญญาณนักสู้มากที่สุด นางกำหมัดแน่นและการสามารถช่วยพี่ชายนางได้ ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้น
“เค้ายังไม่อยากตื่นเลย ง่วงเป็นบ้า”แพนดอราอ้าปากหาว
“รีบหน่อยตั่วตั่วจะทนรับไม่ได้อีกต่อไปแล้ว! แม่ทึ่ม ทางนี้!”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเขกศีรษะเป่าเอ๋อเพราะนางยังสับสน นางได้แต่หยุดวิ่งไปมาเย่ว์หยางอ้าปากจะพูด ในที่สุดก็ค้านพวกนางไม่ได้ โลกมิติกระจกอันตรายตั่วตั่วถูกดูดเข้าไป พวกนางจะเข้าไปแม้แต่คนอย่างเป่าเอ๋อจะเข้าไปรบด้วยนี่จะไม่มีปัญหาจริงๆ หรือ?
แต่อย่าลืมว่าพลังต่อสู้ของเป่าเอ๋อไม่ต้องเอามาพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ค่าความโชคดีของนางสูงมากคาดว่าสูงส่งจนศัตรูมองไม่เห็นแทนที่จะกังวลเรื่องนางควรห่วงว่าศัตรูจะร้องไห้เพราะนางหรือเปล่า...
เทพพิทักษ์เขากวงหมิงไม่ต้องมองทางด้านนี้เลย เพราะเขารู้สึกว่าศัตรูที่สำคัญที่สุดคือจื้อจุน
ขณะที่ความช่วยเหลือของคนอื่นเขาไม่กังวลแต่อย่างใด
ตราบเท่าที่เทียนอี้มาถึงทันเวลา
ชัยชนะจะตกเป็นของฝ่ายเขาไม่ว่าเย่ว์ไตตันจะเล่นเกมอะไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตอนจบได้
โลกมิติกระจกเนื่องจากเทพพิทักษ์เขากวงหมิงปล่อยไว้เฉยๆหลังจากเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเข้าไป ก็มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ
อย่างแรกก็คือ ดวงอาทิตย์เริ่มทนไม่ได้เล็กน้อยเพราะดวงจันทร์เหนือศีรษะเจ้าแม่จันทราเปล่งแสงรัศมีกลบดวงอาทิตย์ช้าๆ นั่นไม่ใช่ความสว่างที่แท้จริงของมันแต่เป็นความสว่างของดวงจันทร์เทพชะตาที่สามารถกลืนกินแสงทุกอย่างได้ รัศมีพันๆสายเปล่งเจิดจ้าจนดวงอาทิตย์ไม่สามารถป้องกันได้
ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ครอบครองปลายทั้งสองด้านของโลกมิติกระจกเกิดเป็นภาพประชันของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่ยอดเยี่ยม
แสงสว่างสดใสของดวงอาทิตย์ถูกดวงจันทร์ค่อยๆดูดซับไว้
มีการเปลี่ยนแปลง
เดิมทีดวงอาทิตย์มีความน่ากลัวอย่างมากค่อยโน้มเอียงไปทางทิศตะวันตกไม่สามารถย้อนกลับได้และคล้ายกับตกอยู่ในอันตรายความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้เทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงประหลาดใจ แต่ในขณะนั้นเขาไม่มีเวลาดูอสูรอัญเชิญของเขา เพราะจื้อจุนและเย่ว์หยางเข้ามาใกล้อีกด้านหนึ่งและผนึกพลังโจมตีระดมหมัดใส่ราวกับสายฝน
“จะให้รอไปถึงไหน มันยุ่งยากเกินไป” แพนดอราความอดทนต่ำนางไม่พอใจที่เจ้าแม่จันทราลงมือช้า
นางชิงขึ้นมาอยู่ข้างหน้า
ส่งเสียงกู่ร้องขึ้นฟ้า
มีลำแสงที่น่ากลัวยิงออกมาจากดวงตาของนาง
เป็นคำสาปเทพชนิดหนึ่งซึ่งไม่เคยปรากฏในโลกมาก่อน แต่เกิดขึ้นด้วยเจตจำนงของนางและกลืนกินดวงอาทิตย์ทันที
**** *** ****