ตอนที่ 1004 รักถั่ว (爱豆)
หลินฟาน กล่าวว่า : “ฮ่าฮ่า อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการดึงดูดความชื่นชอบของผู้คนก็เป็นจุดแข็งอย่างหนึ่ง แต่ต้องบอกว่า ไอดอล แม้ว่าจะเป็นดารา และเป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิง แต่พวกเขาก็กลับอยู่ในตําแหน่งที่น่าอึดอัดใจ ทั้งยังอยู่ในระดับต่ำสุดของห่วงโซ่แห่งการดูถูกของวงการบันเทิง…”
วงการบันเทิงคืออะไร?
วงการ ก็หมายถึง แวดวง และวงการบันเทิงก็คือวงการที่ประกอบขึ้นจากกลุ่มคนที่ทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งเกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่อาชีพการงาน ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิง และโดยปกติแล้วจากในมุมมองที่แคบ เราเองก็ถือได้ว่าดาราเป็นองค์ประกอบหลักของวงการบันเทิง…
โดยปกติแล้ว ดาราที่เราพูดถึงก็คือ นักร้อง นักแสดง สองอย่างนี้ แล้วรองลงมาก็คือ ผู้กำกับ คนเขียนบท นักแต่งเพลง หรืออะไรก็แล้วแต่.. แต่โดยทั่วไปแล้ว พวกเขาก็ต่างยืนอยู่ในแถวหน้า เป็นแสงดาวจรัสฟ้า ทั้งยังเป็นที่จับตามองของทุกคน.. แต่ว่าก็ว่าเถอะ.. ส่วนใหญ่เราก็มองเห็นแต่ ดารา ที่เป็นนักร้อง หรือนักแสดง เป็นหลัก
ดาราบางคนเป็นนักแสดงเต็มตัว, ดาราบางคนก็เป็นนักร้องเต็มตัว, แต่ก็มีบางคนที่เป็นทั้งนักร้อง และนักแสดงควบคู่กันไป เช่น อดีตจตุรเทพ หรือสี่ราชาสวรรค์ แห่งวงการเพลงจีนกวางตุ้ง (四大天王)(1) พวกเขาเป็นนักร้องที่ทุกคนจับตามองอย่างมากบนเวที แต่ต่อมา พวกเขาก็ย้ายเข้าสู่วงการภาพยนตร์ และประสบความสำเร็จได้ดีเช่นกัน...
ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง หรือนักแสดง ล้วนพูดถึงความแข็งแกร่ง ส่วนใหญ่พวกเขาก็มาจากชั้นเรียนมืออาชีพ หรือคนที่มีพรสวรรค์สูงมาก ที่ได้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา และต่อมาพวกเขา ก็ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง และมีภูมิหลังที่ดี…
จนกระทั่งต่อมาได้ให้กำเนิด กระแสคนดัง(2)…
และนับตั้งแต่ที่ได้กำเนิด กระแสคนดัง มันก็ได้ค่อยๆ มีความหมายไปในทางเสื่อม ในความคิดของคนทั่วไป กระแสคนดัง นั้นไร้ซึ่งพลัง และความแข็งแกร่ง แต่ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็ได้ชื่นชอบมัน และสามารถนำมาสร้างกระแส และเงินทุนได้อย่างมหาศาล
กระแสคนดัง บางคนร้องเพลงไม่เป็น ทั้งยังไม่มีผลงานที่ดี แต่เพลงๆ หนึ่งก็สามารถขายได้กว่า 100 ล้าน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นแฟนคลับที่พากันซื้ออย่างบ้าคลั่ง ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่มหาศาลเช่นนี้ ทำให้เหล่านักร้องมืออาชีพบางคนรู้สึก อิจฉา…
ทําไมล่ะ?
แล้วนี่ทำไมนักร้องมืออาชีพที่ร้องเพลงได้เก่งมาก กลับไม่ค่อยมีคนซื้อ แต่กลับเป็นกลุ่มดาราที่อยู่ในกระแสเหล่านี้ ที่เพียงแค่ฮัมเพลงอย่างสบายๆ และผลงานที่เรียกได้ว่าผ่านการแก้ไขปรับแต่งเสียงมา กลับสามารถทําเงินได้อย่างมากมายมหาศาลขนาดนี้ได้?
ปัญหานี้ หลินฟาน เคยคิดเอาไว้ตั้งแต่เขาได้กลายเป็นบอสใหญ่ของ เทียนเสวีย เอนเตอร์เทนเมนท์ และเขาก็ได้ถือว่าตัวเขาเอง เป็นผู้ปฏิบัติงานในวงการบันเทิงแล้ว
ดังนั้นเขาจะต้องไปสังเกตการณ์วงการบันเทิง และรู้จักวงการนี้เท่านั้น จึงจะสามารถเป็นเจ้าของบริษัท 1 ใน 3 ยักษ์ใหญ่ของวงการบันเทิงนี้ ..ได้ดี
หลินฟาน พบว่า ในวงการบันเทิง ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องพึ่งพาผลงาน..
ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง นักแสดง ก็ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยผลงาน ซึ่งสุดท้ายแล้ว มันก็เป็นผลงานที่สามารถส่งต่อไปยังทั่วโลกได้…
เพลงที่ดีมันก็ขึ้นอยู่กับความนิยม บางเพลงมีอายุสั้น แต่กลับบางเพลงกลับอยู่ต่อไปได้อีกหลายสิบปี แม้ว่านักร้องของเพลงนี้จะล่วงลับไปแล้ว หรือแม้แต่จะไม่มีใครจํานักร้องคนนี้ได้ แต่บทเพลงเหล่านี้ก็ยังคงถูกสืบทอดต่อๆ กันไป…
สำหรับนักร้องดั้งเดิม ไม่ว่าทักษะการร้องเพลงของพวกเขาจะดีเพียงใด แต่ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับผลงาน หากผลงานไม่ดี แม้ว่าจะถูกส่งต่อไปให้จตุรเทพทั้งสี่ ก็คงไม่สามารถแพร่หลายได้อยู่ดี
ในความเป็นจริง บทเพลงของจตุรเทพทั้งสี่ ก็ได้ถูกส่งต่อไปยังทั่วโลก แต่นั้นมันกลับเป็นเพียงผลงานส่วนน้อยของพวกเขาเท่านั้น และผลงานที่ไม่มีใครรู้จักของพวกเขา มันก็ได้ถูกทำลายล้างเป็นฝุ่นผงแห่งหน้าประวัติศาสตร์ไป และไม่มีใครจดจํามันได้ ..อีกต่อไป
และแล้ว ทำไมสมัยนี้นักร้องมืออาชีพหลายคน ที่ได้ออกอัลบั้มแล้ว แต่กลับไม่มีใครฟัง ทั้งยังขายได้เงินไม่มากล่ะ?
หรือเป็นเพราะพวกเขาไม่มีความแข็งแกร่งพอ?
ไม่อย่างแน่นอน.. ทักษะการร้องเพลงของพวกเขานั้นยอดเยี่ยม และแม้กระทั่งโปรดักชั่นของพวกเขาก็ยอดเยี่ยม และคนที่เชิญมาให้แต่งเพลง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนดังในระดับแนวหน้าของโลก
แต่นี่.. มันกลับไม่มีประโยชน์ เพราะผลงานออกมาไม่ดีมากพอ ทั้งมันก็ยังไม่โดนใจสาธารณชน จึงไม่สามารถขายได้มาก..
ถ้าอย่างนั้น ..แล้วทำไมผลงานของ กระแสคนดัง ถึงขายได้เงินมากมายขนาดนี้ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้แพร่หลาย?
นั่นก็เพราะ กระแสคนดังเหล่านี้ มีแฟนคลับ..
และมันก็เป็นเช่นเดียวกัน ผลงานของพวกเขาเองก็ไม่ใช่ว่าโด่งดัง ทั้งยิ่งไปกว่านั้นมันก็ไม่ใช่ว่าดี แต่พอเปรียบเทียบกับ นักร้องมืออาชีพ ที่พวกเขากลับไม่มีใครสนใจ แต่หากลองไปดู กระแสคนดังเหล่านี้ ที่กลับขายได้กว่า 100 ล้าน.. และแน่นอนว่าเกมการต่อสู้ครั้งนี้ จริงๆ แล้วก็เป็นกำลังซื้อของทาง ..เหล่าแฟนคลับ
ท้ายที่สุดแล้ว ก็อย่าได้ไปเกลียดใครเลย เพราะทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นการอาศัยแฟนๆ ที่เข้ามาประคับประคองหน้าร้าน…
นักร้องรุ่นเก๋ามืออาชีพส่วนใหญ่ ก็จมดิ่งลงสู่ฟากฟ้าไปนานแล้ว หากให้พูดตรงๆ ก็คือหมดยุคสมัยของพวกเขาไปแล้ว
และต่อให้มีพละกำลังดีแค่ไหน ถ้าหมดลมหายใจ มันก็คือหมดลมหายใจ.. อยู่ดี
แฟนเพลงที่เหลืออยู่ไม่มาก ก็คงไปเทียบกําลังซื้อของทาง กระแสคนดัง ไม่ได้ และแฟนคลับของนักร้องเหล่านี้ ดีกรีเลือดไก่ ก็เทียบไม่ได้กับ กระแสคนดัง เลย…
แล้วแฟนคลับ กระแสคนดัง ซื้อคนเดียวได้หลายร้อยใบ ส่วนแฟนคลับของ นักร้องรุ่นเก่าๆ ก็ซื้อไปด้วยความชื่นชอบ แต่เดิมก็มีน้อยลงอยู่แล้ว และยังซื้อได้ไม่มาก แล้วแบบนี้มันจะไปเปรียบเทียบได้อย่างไร?
นักร้องยุคเก่าบางคนได้แสดงความไม่พอใจ และดูถูก กระแสคนดัง พวกเขาคิดว่าอย่างน้อยๆ พวกเขาก็เคยได้รับความนิยมจากผลงานที่ผ่านมา ทั้งยังเคยมีผลงานที่ตกทอดมาก่อน แล้ว กระแสคนดัง เหล่านี้ที่ไม่มีอะไรเลย ทําไมถึงได้โด่งดังขึ้นมาได้?
ในความเป็นจริงแล้ว เหล่า กระแสคนดัง เองก็ทำงาน..
และนี่มันก็คืองานที่ทุนสนับสนุนได้ดำเนินการออกมาให้กับ กระแสคนดัง ทั้งนี้ยังมีชื่อที่เหมาะสมกว่าในการเรียก กระแสคนดัง เหล่านี้ นั้นก็คือ ‘ไอดอล’ หรือ ‘รักถั่ว (爱豆)’
แล้วนี่ ..ไอดอล คืออะไรล่ะ? ไอดอล ก็คือคนที่คนอื่นชื่นชอบ และมอบความรักให้
ดังนั้น ไอดอล เองก็เป็นงานอย่างหนึ่ง..
รายการแสดงความสามารถพิเศษอย่าง Creation Stars ที่ได้จัดอันดับตามค่าความนิยม อาจกล่าวได้ว่าเป็นการผลิตไอดอลออกมาเป็นจำนวนมากได้..
ไอดอลเหล่านี้ อาจร้องเพลงได้ดี และเต้นได้ดี หรือไม่ ก็อาจมีคนที่ไม่มีพลังอะไรเลย และมีเพียงแต่ใบหน้าอย่างเดียว เช่น หนิง เสี่ยวเยว่..
ความสำเร็จของไอดอล ขึ้นอยู่กับว่าเขา ..มีแฟนคลับมากน้อยแค่ไหน และจะดึงดูดคนให้ชอบเข้ามาได้มากน้อยแค่ไหน แล้วมันจะทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน..
ดังนั้น ไอดอลที่มีทักษะการแสดงไม่ดี ร้องเพลงไม่ดี และเต้นไม่ดี แท้จริงแล้วทั้งหมดนี้มันก็กลับไม่ใช่ประเด็น เพราะตราบใดที่มีแฟนคลับจำนวนมาก และมีกำลังซื้อมากมาย ไอดอลคนนี้ ก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในการทำงานแล้ว
ตอนนี้รายการแสดงความสามารถพิเศษในปัจจุบันที่ได้ผลิตไอดอลออกมาแบบนี้ กลับถูกมองว่าเป็นการตัดต้นหอม
ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเข้าร่วมกับรายการ และจัดอันดับตามค่าความนิยม ยิ่งค่าความนิยมสูงมากเท่าไหร่ นั่นก็จะหมายถึงว่า สามารถทำเงินได้เยอะ…
เพราะฉะนั้นไอดอลที่อยู่แถวหน้า ก็จะได้รับเป็นพรีเซ็นเตอร์ และโฆษณา หากพวกเขาได้รับเป็นพรีเซ็นเตอร์น้ำหอม แฟนคลับก็จะเข้าไปซื้อเป็นจำนวนมาก และยิ่งมีการซื้อเยอะๆ ก็เท่ากับได้รับผลประโยชน์ในระยะเวลาสั้นๆ
หาก.. ไอดอล คนใดได้ไปแสดงภาพยนตร์ แฟนคลับก็จะพากันไปสนับสนุนเขาอย่างกระตือรือร้น และลำพังแค่การสนับสนุนของเหล่าแฟนคลับที่ได้สมทบทุน ก็สามารถทำเงินไปได้หลายร้อยล้านแล้ว…
กระแสคนดัง ที่ได้ร้องเพลง และแม้ว่าเพลงนี้อาจจะไม่ได้ดีอะไรมาก แต่กลุ่มแฟนคลับกลับพากันจ่ายเงินอย่างกระตือรือร้น และมันก็สามารถสร้างรายได้ หลายสิบล้านนี้ได้ ..อย่างง่ายดาย
ต้องบอกว่า การผลิตไอดอลนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร.. แต่เมื่อมันเกี่ยวข้องกับเงิน มันก็จะเปลี่ยนรูป และกลายเป็นเครื่องมือในการทำเงิน
และมันก็คือฉากนี้ ที่เป็นสิ่งที่ต้องต่อสู้…
หลินฟาน มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งเขายังได้ชื่นชมรูปแบบการคัดเลือกของรายการ Creation Stars เพราะรูปแบบนี้สามารถทําให้บางคนที่ไม่มีโอกาส ได้มีโอกาสสร้างชื่อเสียงของตัวเองขึ้นมาได้
แต่ข้อเสีย มันก็ชัดเจนมากเช่นกัน ปรากฏการณ์นี้จะดึงดูดความสนใจได้อย่างแน่นอน และจะได้รับการแก้ไขในที่สุด นี่เป็นการคาดการณ์ของ หลินฟาน
และหนิง เสี่ยวเยว่ เองก็ได้มาจากรูปแบบนี้เช่นกัน ดังนั้น.. เพื่ออนาคตของ หนิง เสี่ยวเยว่ หลินฟาน จะต้องเตรียมพร้อม เขาไม่สามารถปล่อยให้ หนิง เสี่ยวเยว่ ต้องกลายเป็นเหยื่อ ..ในอนาคตได้
หาก หนิง เสี่ยวเยว่ ต้องการเดินต่อไปในวงการบันเทิง เธอจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง…
(1)[อดีตจตุรเทพ หรือสี่ราชาสวรรค์ (四大天王)] - คือชายที่ได้รับความนิยมสูงสุดสี่คน ในฮ่องกงในช่วงปี 1990 ได้แก่ จาง เสวียโหย่ว (张学友) หรือ Jacky Cheung, หลิว เต๋อหัว (刘德华) หรือ Andy Lau, กัว ฟู่เฉิง (郭富城) หรือ Aaron Kwok, และหลี่ หมิง (黎明) หรือ Liming
(2)[กระแสคนดัง (流量明星)] - หรือ Traffic Artist หมายถึง ดาราที่มีแฟนคลับมากมาย แต่กลับไม่มีผลงานที่ ‘โด่งดังเป็นพิเศษ’