บทที่ 5 อมีเลีย
บทที่ 5 อมีเลีย
ทุกสิ่งที่รอยได้เรียนรู้เกี่ยวกับเคานต์ จักรวรรดิ และตัวเขาเองจากสาวใช้นั้นชัดเจนขึ้นหลังจากที่วิญญาณของเขาผสานเข้ากับเจ้าของร่างที่แท้จริง
'ข้าได้กลายเป็นพลเมืองของอาณาจักรที่มีอยู่ในนิยายแล้ว!'
เขาพบว่าเขาอยู่ในอาณาจักรสุริยันต์ยิ่งใหญ่ซึ่งปกครองทางเหนือของทิศตะวันตกอันไกลโพน ซึ่งตั้งอยู่ในหนึ่งในสี่ทวีปของโลกที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้
สำหรับชื่อของมัน คนในทิศตะวันตกอันไกลโพนมีสามชื่อคือ ทวีปนัส ทวีปเธีย และทวีปอ๊าด อย่างไรก็ตามรอยรู้ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าสนามรบโบราณของเหล่าทวยเทพ
เขายังเข้าใจว่าเขาไม่ได้มีชื่อเสียงเหมือนพ่อของเขา แต่เป็นตัวเลวทรามน้อยที่ทุกคนรู้ว่าเป็นขยะ
อมีเลียเก็บซ่อนบางสิ่งไว้ไม่ให้เขารู้สึกเจ็บปวด
แท้จริงแล้วเขาไม่ใช่อัจฉริยะและเป็นเพียงคนโง่งมที่ป่วยทางจิต
หลังจากพบว่าคู่หมั้นของเขาไม่ต้องการเขาอีกต่อไป เขาก็ซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องและร้องไห้ อมีเลียพยายามตามหาเขา แต่คนที่พบเขาก่อนคือพี่ชายคนที่สองของเขา
โนอาห์พาเขาออกไปที่สวนเพื่อให้กำลังใจเขา
เขาใช้รอยในการฝึกฝนทักษะเวทมนตร์ของเขา
หนึ่งในคาถาที่เขาใช้คือคาถาลวงตา
หลังจากรังแกเขาอยู่ชั่วเวลาหนึ่ง พี่ชายคนที่สองของเขาก็จากไป
แต่เขาลืมที่จะลบคาถาออกจากตัวเขา
เนื่องจากรอยอยู่ภายใต้ภาพลวงตาแถมยังป่วยทางจิต เขาจึงล้มเหลวในการแยกแยะระหว่างสิ่งเตียงกับบ่อน้ำเย็น
เขากระโดดลงไปในบ่อน้ำเย็นโดยคิดว่าเป็นที่นอนของเขา
'ข้าได้ไปอยู่ในร่างของตัวละครที่ควรจะตายไปแล้ว'
เมื่อรอย บาดัลฟ์ บอลด์วินเสียชีวิต เครื่องรางที่คล้องคอของเขาดูดวิญญาณของเขาและทำให้ร่างกายของเขาทำงานต่อไปได้ มิฉะนั้นเขาก็จะดูเหมือนตายต่อหน้าอมีเลียเช่นกัน
สร้อยคอนั้นคล้ายกับสร้อยคอที่รอย ฟิชเชอร์มีติดตัวตลอดเวลาบนโลก
มันดึงวิญญาณของเขามายังโลกนี้หลังจากที่สัตว์ร้ายฆ่าเขาและบังคับให้เขาเข้าไปในร่างของรอย บอลด์วิน
สำหรับวิญญาณที่อยู่ในจี้นั้นได้หลอมรวมเข้ากับรอย ฟิชเชอร์
วิญญาณของพวกเขาทั้งสองกำลังจะแตกสลายเพราะพวกเขาตายอย่างทารุณ
ก่อนที่พวกเขาจะตาย จี้วิญญาณอันทรงพลังได้รวมวิญญาณของเขาเข้ากับรอยร่างนี้ เพื่อไม่ให้มันแตกสลายและคงตัวไว้
แต่นั่นก็หมายความว่ารอย ฟิชเชอร์ในตอนนี้คือรอย บาดัลฟ์ บอลด์วิน และในทางกลับกัน
รอย ฟิชเชอร์รู้และเข้าใจว่ารอย บาดัล์ฟ บอลด์วินรู้สึกหวาดกลัวอย่างไรเมื่อเขาต้องตายเพราะการเล่นตลกของโนอาห์!
'ข้าอยากจะฆ่าไอ้สารเลวนั่น แต่ข้าหมดหนทางแล้ว ช่วยไม่ได้ข้าได้แต่กลืนความโกรธลงคอและปล่อยเขาไปในตอนนี้'
แม้ว่ารอย บาดัล์ฟ บอลด์วินจะเป็นลูกชายของเคานต์และตอนนี้ก็กำพร้ามารดา แต่รอยก็คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้วพ่อคนไหนที่ไม่สนใจลูกที่กำลังจะตาย? เมื่อคืนเขาแข็งตายแต่บาดัล์ฟไม่คิดว่าจำเป็นต้องตรวจร่างกายเขาด้วยซ้ำ
ลูกทุกคนสมควรมีพ่อ แต่ไม่ใช่พ่อทุกคนสมควรมีลูก!
รอยกัดฟัน รู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดจะพรรณนาในหัวใจของเขา แต่ก่อนที่อมีเลียจะสังเกตเห็นความแปลกประหลาดของเขา เขาก็ปรับสีผิวให้เรียบขึ้น
"เจ้ากำลังจะไปไหน?"
ทั่วทั้งมณฑล อมีเลียน่าจะเป็นญาติสนิทเพียงคนเดียวของเขา
“นายน้อย ท่านไม่ได้รับประทานอาหารมาเกือบทั้งวัน ข้าจะไปดูว่าพ่อครัวในครัวจะหาอะไรให้ท่านได้”
การเตือนอย่างกะทันหันของเธอก็เพียงพอที่จะทำให้ท้องของเขาคำราม
"ข้ารู้สึกหิวจริงๆ" รอยวางมือบนท้องของเขาและรู้สึกว่ามันเข้าไปราวกับว่ามันไม่ใช่ก้อนไขมันแต่เป็นถังอากาศ “เอาอะไรก็ได้จากห้องครัวมา แล้วเอามาเพิ่มเยอะๆเรามากินข้าวด้วยกันเถอะ”
ทั้งเขาและเธอยังไม่ได้กินข้าว
อมีเลียรู้สึกดีที่รู้ว่าเจ้านายของเธอดูแลเธอและยิ้มหลังจากหันหลังให้เขา “ข้าจะรีบกลับ!”
เธอออกไปจากห้องโดยไม่ได้สังเกตว่ารอยตาหรี่ลงจนเท่าเข็ม
เขาหยิก กด และลูบไล้ท้องโตของเขาซึ่งมีขนาดเป็นสามเท่าของคนท้องเก้าเดือน และสิ่งที่เขาค้นพบจากการกระทำเช่นนั้นก็รบกวนจิตใจเขาอย่างมาก
เขาสามารถดันท้องกลับเข้าไปได้ครึ่งหนึ่ง ส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็เช่นเดียวกัน
ไขมันในร่างกายของเขาไม่เป็นธรรมชาติและเป็นเหมือนถุงอากาศ
มีบางอย่างผิดปกติกับเขา เขาค้นพบหลังจากผ่านความทรงจำของบุคคลที่เขารวมวิญญาณและตระหนักว่าเขากินเหมือนมนุษย์ทั่วไป
ไม่มีสักวันเดียวที่เขากินมากกว่า 3 มื้อ แต่มีมากมายหลายวันที่เขากินน้อยกว่า 3 มื้อ
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังอ้วนอย่างไม่น่าเชื่อ
แม้ว่าเขาจะมีปัญหาเรื่องฮอร์โมน แต่เขาก็ไม่สามารถอ้วนได้ขนาดนี้ในขณะที่กินน้อยลงมาก
รอยสงสัยมีคนเล่นเล่ห์หรือร่ายเวทย์ใส่เขา!
แต่ใครจะทำร้ายเด็กที่ป่วยทางจิตและด้วยเหตุผลอะไร?
ประตูเลื่อนเปิดออก และอมีเลียก็เข้ามา ในมือของเธอมีถาดสองใบ แต่ละถาดมีจานสองใบ ถ้วยสองใบ เหยือกและชาม โดยรวมแล้วมีเกี๊ยวทั้งหมดแปดชิ้น ไก่สองชิ้น ซอสและเครื่องดื่มที่เข้ากันได้
อมีเลียวางมันไว้บนโต๊ะที่หนักกว่าเขาและพยายามยกมันขึ้นมาหาเขา แต่รอยสั่งให้เธอปล่อย หยิบถาดและวางลงบนเตียงโดยตรง เมื่อเขาสั่งนาง นางก็ไม่อาจปฏิเสธได้
รอยหิวมากจนหยิบขนมเกี้ยวออกมากัดคำใหญ่ มันมีเนื้อไก่ เนื้อสัตว์ เครื่องเทศมากมาย น้ำผลไม้ และหัวหอมอยู่ข้างใน และรสชาติทั้งหมดนั้นพุ่งเข้าปากของเขา ส่งเขาไปสู่สวรรค์ชั้นสูงโดยตรง
“นั่งกินข้างข้าสิ”
อมีเลียยืนอยู่ข้างเตียงราวกับว่าเธอพร้อมที่จะเทน้ำผลไม้ให้เขาเมื่อเขาเอื้อมมือไปหยิบแก้ว
“แต่นายน้อย ทาสอย่างข้ากินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกับท่านไม่ได้”
เขาจะลืมได้อย่างไร? นี่คืออาณาจักรที่มีกฎงี่เง่ามากมาย บ้างก็ว่าทาส สาวใช้ และคนใช้ไม่สามารถกินอาหารแบบเดียวกับนาย กินร่วมโต๊ะเดียวกับนาย หรือแม้แต่สวมเสื้อผ้าที่ทำด้วยวัสดุเดียวกับนายได้
ยิ่งกว่านั้น ทาสปฏิบัติตามกฎเหล่านี้ด้วยความสมัครใจราวกับว่ามันเป็นคำสั่งจากสวรรค์
"นี่ไม่ใช่โต๊ะแต่เป็นเตียง ดังนั้นนั่งที่นี่และเคี้ยวลูกปุยเล็กๆ แสนอร่อยเหล่านี้"
รอยจับมือเธอและค่อยๆพยุงเธอไปที่เตียง
"แต่ข้าทำไม่ได้"
แม้ว่าเขาจะให้เธอนั่งใกล้กับอาหารที่ทำให้เธอไม่สามารถทนรับกลิ่นหอมของไก่ย่างและเกี๊ยวและรู้สึกหิวได้ แต่เธอก็ระงับความปรารถนาที่จะลิ้มรสไก่และปฏิเสธที่จะฝ่าฝืนกฎของจักรวรรดิภายใต้คำสั่งของเขา
ถ้ามีคนจับได้ว่าพวกเขากินข้าวด้วยกัน นายท่านของครอบครัวจะตำหนิเจ้านายของเธอ เธอไม่สนใจว่าพวกเขาจะลงโทษเธอรุนแรงแค่ไหน แต่เธอทนไม่ได้ที่จะเห็นนายน้อยของเธอได้รับการลงโทษ
“ถ้าเจ้าไม่กิน ข้าก็ไม่กินเหมือนกัน”
รอยรู้ว่าอะไรทำให้เธอหนักใจ แต่ที่แห่งนี้อยู่ที่มุมร้างของคฤหาสน์ของท่านเคานต์ จำนวนคนที่ผ่านไปมาในช่วงเวลานี้ของวันไม่ค่อยมี นอกจากพวกเขาจะไม่มีใครอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงไม่เป็นไรสำหรับเธอที่จะฝ่าฝืนกฎหนึ่งหรือสองข้อของจักรวรรดิ และภายใต้ท่าทางเร่งเร้าและดื้อรั้นของเขา อมีเลียเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอที่แหกกฎงี่เง่าและรู้สึกเป็นมากกว่าคนรับใช้
“ไม่อร่อยเหรอ?!”
รอยคนก่อนนั้นไม่รู้ว่าจะดูแลคนๆ นี้อย่างไร เพราะเขาฉลาดน้อยกว่าเด็กและเป็นเหมือนกระดาษเปล่า แต่รอยคนนี้จะตอบแทนเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอเคยทำให้เขาในอดีตและตอบแทนเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธออาจทำเพื่อเขาในอนาคต
"อืม-อืม"
"เอาอีกอัน" รอยยัดเกี๊ยวเนื้ออีกชิ้นที่ปกคลุมด้วยซอสเข้าปากเธอ “เธออยู่ในวัยที่ควรแต่งงานแล้ว แต่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก บอกไว้เลยผู้หญิงไม่มีเนื้อหนังมังสาจะหาคู่ครองยาก เธอต้องกินเยอะๆ!”
เธอกลืนสิ่งที่อยู่ในปากของเธอและกระโดดลงจากเตียงก่อนที่จะคุกเข่าบนพื้นที่ยังอุ่น
“ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไปนายน้อย ข้าไม่ต้องการแต่งงาน ข้าหวังเพียงว่าจะอยู่เคียงข้างท่านและรับใช้ท่านไปจนลมหายใจสุดท้าย”
เธอค่อนข้างหวาดระแวงเล็กน้อยเกี่ยวกับการถูกคนที่เธอรักทอดทิ้ง เมื่อรอยมองเห็น
เขาไม่ได้หมายความตามที่เธอคิด แต่เขาก็ไม่รังเกียจที่จะใช้ความหวาดระแวงของเธอเพื่อประโยชน์ของเขา
“ข้าไม่ยอมถ้าคืนนี้เจ้ากินไม่อิ่ม”
"ท่านว่ายังไงนะ?"
"ข้าไม่เคยโกหก."
“งั้นข้าจะกินไก่ตัวนี้ให้หมด”
คืนนั้น นายน้อยกับสาวใช้ก็กินข้าวด้วยกันจนอิ่มหนำสำราญ