ตอนที่ 43 : ค่ายกลรวบรวมโชคลาภจุดที่สาม!
***ขอแกไขชื่อตัวละคร จาก เสี่ยวหลาน เป็น เซียวหลาน***
แล้วก็มีคนแนะนำว่าให้เปลี่ยนจาก รูปแบบการรวบรวมโชคลาภเป็น ค่ายกลรวบรวมโชคลาภ ผมว่าก็ดีเหมือนกัน ใครอยากให้แก้ตรงไหนบอกได้เลย เดี๋ยวว่างๆกลับไปแก้ให้ครับ
---------------------------------------------------------------------------
ภายในร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุน ฉินซวนส่ายหัวและถอนหายใจออกมา "ซุนหยาตงคนนี้ พอเห็นว่าร้านขายเสื้อผ้าของเราไปได้ดี เขาก็เลยเอาร้านคืนและเปิดร้านเอง แถมเขาก็ยังเลียนแบบร้านของเราทุกอย่างอีก ไม่คิดเลยว่าในเวลาแค่เพียงหนึ่งเดือนร้านเขาก็มาถึงจุดจบแล้ว”
ในเวลานี้ ร้านขายเสื้อผ้าฉีหยุนมีพนักงานเหลือเพียงคนเดียวในร้าน โดยพื้นฐานแล้วถือว่าปิดไปแล้วครึ่งหนึ่ง
และตอนนี้ก็มีป้ายเขียนไว้ที่หน้าร้านว่า ‘ปล่อยเช่าที่ทำเลดี’ แต่ก็ไม่มีใครสนใจเลย
"ความโลภนั้นเป็นบาปดั้งเดิม บางทีพระเจ้าเองก็อาจจะทนไม่ได้" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่า ผลลัพธ์จะลงเอยเช่นนี้
อันที่จริง พฤติกรรมก่อนหน้านี้ของซุนหยาตงทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก และเขาแค่ต้องการสั่งสอนซุนหยาตงแค่นิดหน่อย
เขาจึงใช้ค่ายกลรวบรวมโชคลาภเพื่อช่วยให้ซุนหยาตงขายเสื้อผ้าราคาแพงได้ ด้วยวิธีนี้ ซุนหยาตงจึงค่อยๆรู้สึกว่าเสื้อผ้าราคาแพงพวกนั้นขายง่าย และในที่สุดก็ตกลงไปในกับดัก
สำหรับคนโลภ เมื่อได้หนึ่งก็อยากได้สอง พอได้สองก็อยากได้สาม
ภายใต้แผนการของฉินหยุน ซุนหยาตงจะต้องเปลี่ยนไปขายเสื้อผ้าราคาแพงมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
และเมื่อในร้านของซุนหยาตงมีสินค้าราคาแพงมากพอ เขาก็จะถอดค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งออกมาทันที ในกรณีนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถขายเสื้อผ้าราคาแพงเหล่านั้นได้อีก
สินค้าที่ขายไม่ได้ก็คือการสูญเสียของซุนหยาตง
และในเวลาเพียง 20 วัน ซุนหยาตงก็จมอยู่กับมันอย่างสมบูรณ์ เขาถึงกับใช้เงินไป 700,000 หยวนเพื่อเปลี่ยนสไตล์เสื้อผ้าในร้านให้เป็นของราคาแพงทั้งหมด
สุดท้ายเสื้อผ้าเหล่านั้นขายไม่ได้เลยสักตัว เพราะปัจจัยต่างๆบวกกับการจากไปของจางเฉียง ในที่สุดซุนหยาตงก็เสียเงินไปหลายแสนหยวน เขาจึงต้องขายร้านที่เขามีอยู่เพื่อแก้ปัญหาทั้งหมด
บทเรียนนี้ยิ่งใหญ่กว่าที่ฉินหยุนคาดคิดไว้มาก
เดิมทีในความเห็นของเขา แค่ให้ซุนหยาตงเสียเงินสักหลายหมื่นหยวน นี่ก็ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงของเขาแล้ว
‘ฉันก็มีโชคของฉันเอง หรือว่ามันจะส่งผลต่อชะตากรรมของซุนหยาตงด้วย?’ ในเวลานี้ฉินหยุนคิดกับตัวเอง
หลังจากที่ได้รับระบบ เขารู้สึกว่าทุกอย่างราบรื่นขึ้นมาก และดูเหมือนถ้ามีคนคิดไม่ดีกับเขา พวกเขาเหล่านั้นก็อาจจะโชคไม่ดี
"เสี่ยวหยุน ร้านขายรองเท้าเทียนหยุนพร้อมแล้ว เราจะเปิดหลังเวลาเที่ยงวัน"
ฉินซวนกล่าวและมองไปที่ฉินหยุน เธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับซุนหยาตงต่อ
วันนี้เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม และเป็นเวลาสองเดือนแล้วตั้งแต่ที่ฉินหยุนเริ่มเปิดค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง
ร้านขายรองเท้าเทียนหยุนก็ตั้งอยู่ที่ถนนย่านการค้าแห่งนี้เช่นกัน และอยู่ติดร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนซึ่งฉินหยุนเลือกเช่าร้านที่อยู่ถัดไป
ฉินหยุนพยักหน้า สัมผัสได้ถึงความกังวลของฉินซวนอย่างชัดเจน เขายิ้มและพูดว่า "พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล ธุรกิจร้านขายรองเท้าของเราจะไม่แย่แน่นอน"
เมื่อเห็นความมั่นใจของฉินหยุน ฉินซวนก็ไม่พูดอะไรมาก เธอจึงพูดอีกเรื่องทันที "นี่คืองบการเงินของเดือนมิถุนายนซึ่งเพิ่งแยกออกมาก่อนหน้านี้"
เธอยื่นกระดาษ A4 ที่เพิ่งพริ้นต์ออกมา
"ในเดือนมิถุนายน ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนของเราที่ถนนย่านการค้ามียอดขายทั้งหมด 418,000 หยวน และยอดขายในหยางกวงซิตี้อยู่ที่ 430,000..."
ฉินซวนกล่าวสั้นๆ
ในเดือนพฤษภาคม ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนเริ่มเปิดทำการในวันที่ 5 อันที่จริงในเวลาหนึ่งเดือนเปิดไป 27 วัน และในเดือนมิถุนายน ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนทั้งสองร้านเปิดทุกวันเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ดังนั้นยอดขายทั้งหมดจึงเกิน 400,000 หยวน!
หลังจากแต่ละร้านหักทุนซื้อเสื้อผ้าแล้ว กำไรก็เหลือประมาณ 200,000 หยวน และหลังจากหักเงินเดือนพนักงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆแล้ว กำไรสุทธิก็เกือบ 130,000 หยวน!
ร้านค้าทั้งสองแห่งมีขนาดใกล้เคียงกัน ดังนั้นกำไรสุทธิรวมกันจึงได้เกือบ 260,000 หยวน!
นอกจากนี้ยังมีลูกค้าใหม่ที่สมัครบัตรแทนเงินสดเพิ่ม ร้านค้าทั้ง 2 แห่งจึงมียอดเงินจากบัตรแทนเงินสดมากกว่า 250,000 หยวน ซึ่งลูกค้าใช้จ่ายไปแล้วมากกว่า 30,000 หยวน
ตลอดเดือนมิถุนายน หลังจากหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ ฉินหยุนมีรายได้ทั้งหมดเกือบ 500,000 หยวน!
เวลาผ่านไปเพียงสองเดือน และด้วยร้านเสื้อผ้าขนาด 40 ตารางเมตรเพียงสองร้าน พวกเขามาถึงจุดนี้ได้ภายใต้อิทธิพลของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง!
"เสี่ยวหยุน ราคาเสื้อผ้าในตลาดค้าส่งเพิ่มขึ้นอีกแล้ว แถมราคารองเท้าก็เพิ่มขึ้นด้วย"
หลังจากฉินซวนรายงานเสร็จ เธอก็ถามอีกครั้งว่า "ของพวกนี้ราคาเพิ่มขึ้น เสื้อผ้าที่เราขายจะปรับราคาขึ้นไหม"
เธอถามฉินหยุนเพื่อขอความคิดเห็นจากเขา
"ราคาเพิ่มขึ้น?"
ฉินหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เขาก็ส่ายหัวและพูดว่า "ในตอนนี้เราจะยังไม่ปรับราคา เดี๋ยวรอดูสถานการณ์ในร้านอื่นๆก่อน"
ทั้งสองคนกำลังคุยกัน ซึ่งตอนนี้เป็นเวลา 11.00 น. และใกล้จะถึงเวลา 12.00 น.แล้ว
ในที่สุดก็มาถึงเวลาที่ฉินหยุนรอคอย
หลังจากนั้นฉินหยุนรู้สึกว่าจิตสำนึกของเขาอยู่ตกอยู่ในภวังค์อยู่พักหนึ่ง จากนั้นข้อมูลบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
"ชื่อ: ฉินหยุน"
"ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง: 3 จุด"
"ยอดคงเหลือ: 406,100"
หลังจากข้อความปรากฏขึ้น เสียงระบบก็ดังขึ้นในใจของฉินหยุนต่อ
"ยอดคงเหลือยังไม่ถึงหนึ่งล้าน ซึ่งไม่เพียงพอที่จะเปิดค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง"
"ทุกวันที่ 1 ของเดือน จะได้รับค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งเพิ่ม 1 จุด"
"ขณะนี้มีค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง 3 จุด ใช้งานไปแล้ว 2 จุด"
"ข้อมูลของระบบรวบรวมโชคครั้งต่อไปจะได้รับการอัปเดตวันที่ 1 สิงหาคม เวลา 12.00 น."
เสียงระบบยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง และหลังจากที่เสียงหยุดลง ฉินหยุนก็รู้สึกได้ว่ามีจุดแสงแปลกๆเพิ่มขึ้นมาในใจของเขา
นี่คือค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งจุดที่สาม!
“ยอดคงเหลือพุ่งขึ้นมามากกว่า 400,000 ตามความเร็วระดับนี้ อีกแค่ภายในสองเดือน หรือในวันที่ 1 กันยายน ยอดคงเหลือก็จะทะลุถึง 1 ล้านอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น ฉันก็จะได้ครอบครองค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับสอง!” มองดูข้อความที่อยู่ในใจ เขารู้สึกมีความสุขมาก
เมื่อถึงเวลานั้นเขาคงไปที่จินหลิงแล้ว
ที่นั่น เขาตั้งตารอคอยว่าค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองจะทรงพลังถึงเพียงใด!
ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่ระบบรวบรวมโชคลาภเริ่มอัปเดตตามเวลา 12.00 น.จนถึงตอนนี้จะใช้เวลาไปสักพัก แต่ในความเป็นจริงผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น และในเวลานี้ ในที่สุดร้านรองเท้าเทียนหยุนก็เปิดทำการ
ด้วยความคิดของฉินหยุน จุดแสงก็ปรากฏขึ้นภายในจิตใจของเขาทันที และมันก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว มีเส้นสายสัญลักษณ์ต่างๆปรากฏขึ้น จากนั้นจึงเริ่มก่อตัวเป็นค่ายกลรูปแบบหนึ่งซึ่งมีความลึกลับอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ มันเข้าครอบคลุมร้านรองเท้าทั้งหมดในทันที
"เฮ้ ดูสิ มีร้านรองเท้าเทียนหยุนอยู่ติดกับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนด้วย!"
"เถ้าแก่ของสองร้านนี้เป็นคนเดียวกันหรือเปล่า?"
"เสื้อผ้าในร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุนนั้นดูดี มีคุณภาพสูง แถมราคาไม่แพง แล้วรองเท้าล่ะเป็นไง?"
เหล่าผู้คนที่ผ่านไปมาเริ่มสังเกตเห็นสถานที่แห่งนี้ และลูกค้าที่เดินออกจากร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ก็เดินเข้าไปในร้านขายรองเท้าด้วยความสงสัยเช่นกัน
รองเท้าคู่แรกถูกขายไปภายในไม่กี่นาทีหลังจากนั้น
...
เมื่อเวลาผ่านไป ยอดขายในร้านรองเท้าเทียนหยุนก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยขจัดความกังวลบนใบหน้าของฉินซวนและคนอื่นๆออกไปได้จนหมดสิ้น
"บอสฉินช่างน่าทึ่งจริงๆ" ในร้านขายเสื้อผ้า เห็นได้ชัดว่าจางชิงให้ความสนใจกับร้านขายรองเท้าเทียนหยุนด้วย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความชื่นชม
ก่อนหน้านี้เธออยู่ที่สาขาหยางกวงซิตี้ แต่หลังจากสาขาที่นั่นมั่นคงดีแล้ว เธอจึงขอย้ายกลับมาอยู่ที่สาขาถนนย่านการค้า เพราะที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับที่พักของเธอมากกว่า ในขณะที่หยางกวงซิตี้อยู่ไกลออกไป
เมื่อฉินหยุนและจางหยากำลังคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการเซ้งร้านเป็นครั้งแรก เธอก็เห็นกระบวนการเหล่านั้นด้วยตาของเธอเอง
ในช่วงเวลาสั้นๆ ฉินหยุนได้เปิดร้านไปสามแห่งแล้ว และธุรกิจร้านรองเท้าแห่งนี้จะต้องไม่แย่อย่างแน่นอน
ในขณะที่มีความชื่นชมในสายตา ภายในใจของเธอก็มีความเฝ้ารออยู่เช่นกัน เพราะเธอจะได้รับเงินเดือนในวันที่ 3 นี้แล้ว ซึ่งเดือนมิถุนายนทั้งเดือนเธอทำงานเต็มเวลาและทำครบทุกวัน เงินเดือนที่ได้รับต้องมากกว่าของเดือนพฤษภาคมอย่างแน่นอน
(จบตอน)