ตอนที่แล้วตอนที่ 36 : สินค้าชุดใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 38 : ยอดขายต่ำสุด

ตอนที่ 37 : ร้านขายเสื้อผ้าฉีหยุน


ฉินหยุนอยู่ต่อที่ตลาดค้าส่งไม่นาน สักพักเขาก็จากไป

เวลายังคงไหลผ่านไปเหมือนกับสายน้ำ ทุกวันหลังจากนั้น ฉินหยุนก็โฟกัสไปที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอยู่ตลอด และไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องอื่นมากนัก

ปัจจุบันร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอยู่ในความดูแลของฉินซวน พี่สาวของเขา และฉินกั๋วตงกับจ้าวเหมย ก็ช่วยดูแลด้วยเช่นกัน ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาอะไร

นอกจากนี้ ฉินหยุนยังออกกำลังกายเป็นประจำอยู่เสมอ ก่อนหน้านี้ สมรรถภาพทางกายของเขาอยู่แค่ระดับปานกลางเท่านั้น แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่ามันดีขึ้นกว่าเดิมมาก

ฉินหยุนยังคำนวณไว้ด้วยว่า เขาสามารถวิ่ง 100 เมตรได้ภายใน 12 วินาที!

ก่อนหน้านี้สถิติ 100 เมตรของเขาอยู่ที่ประมาณ 14 วินาที

โดยทั่วไปแล้วใครก็ตามที่สามารถวิ่งได้เร็ว พวกเขาก็สามารถได้รับการฝึกฝนเพื่อเป็นนักกีฬาได้

นอกเหนือจากการออกกำลังกายแล้ว ฉินหยุนยังใช้เวลาที่เหลือไปกับการอ่านหนังสือบางเล่มที่เกี่ยวกับการเงินและเศรษฐศาสตร์อีกด้วย

ด้วยรูปแบบการรวบรวมโชคลาภ อนาคตของเขามีความเป็นไปได้ที่ไม่จำกัด และฉินหยุนก็จำเป็นต้องทำให้ตัวเองร่ำรวยขึ้นด้วย

...

วันที่ 22 มิถุนายน สองสัปดาห์ผ่านมาตั้งแต่การสอบเข้ามหาลัยจบลง เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งวันก่อนที่ผลการสอบจะประกาศออกมา

ใกล้จะเข้าเดือนเจ็ด อากาศก็ยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนบนท้องถนนต่างก็กำลังเร่งรีบวุ่นวายกับชีวิตและการงาน

ในไซต์ก่อสร้าง เสียงรถขุดยังคงดังแว่วมาเป็นระยะ เหล่าคนงานต่างก็เดินผ่านไปมา

ภายในร้านขายเสื้อผ้าฉีหยุน ทั้งซุนหยาตงและซุนเจี้ยนเฉียงต่างก็อยู่ที่นี่

"พ่อครับ ในที่สุดพ่อก็ตัดสินใจได้สักที" ตอนนี้เองที่ซุนเจี้ยนเฉียงพูดด้วยใบหน้าตื่นเต้น

"เอาล่ะเจี้ยนเฉียง สิ่งที่ลูกพูดนั้นถูกต้อง หากเราเปลี่ยนพวกมันทั้งหมดเป็นเสื้อผ้าราคาแพง ร้านเสื้อผ้าฉีหยุนของเราจะทำเงินได้มากขึ้น" ซุนหยาตงกล่าว

เมื่อเขาเพิ่มจำนวนเสื้อผ้าที่มีราคาแพงมากขึ้น ยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน และผลกำไรก็จะมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

สิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเช่นนี้ได้ก็คือ ลูกค้าคนหนึ่งเอ่ยถามในวันนี้ว่า ‘บอส มีเสื้อผ้าพวกนี้ไม่กี่แบบเองเหรอ?’

ตอนนี้เขามีเสื้อผ้าราคาแพงอยู่ในร้านทั้งหมด 23 แบบ ซึ่งไม่น้อยเกินไป แต่ก็ไม่ได้มากเกินไปเช่นกัน ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นได้ทั้งหมดเพียงแค่กวาดสายตามอง

ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าราคาถูก และในร้านมีเสื้อผ้าอย่างน้อยอีก 80 กว่าสไตล์

เขาเคยได้ยินลูกค้าพูดหลายครั้งแล้วว่า มีชุดสไตล์ต่างๆน้อยเกินไป

หากว่ามีเสื้อผ้าหลายๆสไตล์ ก็เป็นไปได้ว่ายอดขายที่ได้ก็จะเพิ่มขึ้น แม้จะเพิ่มขึ้นแค่หนึ่งตัว เขาก็ได้กำไรหลายร้อยหยวนแล้ว

"เจี้ยนเฉียง ไปที่ตลาดค้าส่งกัน!" ซุนหยาตงกล่าว

เมื่อตัดสินใจได้อย่างแน่นอนแล้ว ซุนหยาตงก็ไม่ลังเลอีกต่อไป

"ได้ครับพ่อ ครั้งนี้เราต้องเลือกมาหลายๆแบบ" ซุนเจี้ยนเฉียงกล่าวอย่างตื่นเต้น

พ่อกับลูกพากันมาที่ตลาดค้าส่ง

"บอสซุน คุณมาที่นี่เพื่อซื้อของอีกรอบงั้นเหรอ"

"มาดูที่ร้านของเราก่อนสิ เรามีสินค้าชุดใหม่นะ"

เมื่อเห็นซุนหยาตงและซุนเจี้ยนเฉียง คนคุ้นเคยบางคนเอ่ยด้วยรอยยิ้มทันที

ซุนหยาตงเดินดูไปรอบๆด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา และเริ่มเปรียบเทียบราคา แต่ซุนเจี้ยนเฉียงก็ไม่ค่อยพอใจกับราคาของเสื้อผ้าเหล่านี้เท่าไร

"พ่อ ผมว่าเราไปดูที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้ากันเถอะ" ซุนเจี้ยนเฉียงแนะนำ "เราซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก ถ้าไปซื้อที่โรงงานน่าจะได้ราคาถูกกว่าแน่นอน"

"แม้ว่าเสื้อผ้าในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าจะราคาถูก แต่มันก็มีสไตล์ชุดที่ซ้ำกันมากมาย ตลาดค้าส่งอู๋ซื่อแห่งนี้ถือว่าใหญ่แล้ว ถ้าหากแกอยากจะขายเสื้อผ้าราคาแพงที่มีสไตล์เยอะกว่านี้ แกควรไปหาของเหล่านั้นที่หางโจวจะดีกว่า" ซุนหยาตงกล่าวพลางส่ายหัว

สรุปแล้ว ร้านขายเสื้อผ้าที่เขาเปิดนั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก และเขาก็ไม่ต้องการใช้เวลามากเกินไปกับการหาซื้อเสื้อผ้าที่อื่น วิธีที่ดีที่สุดคือค้นหาสินค้าภายในตลาดค้าส่งแห่งนี้ ยังไงมันก็ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ายอดขายของร้าน

ด้วยยอดขายติดต่อกันมามากกว่าครึ่งเดือน ซุนหยาตงเชื่อมั่นว่าร้านเสื้อผ้าที่เขาเปิดจะทำเงินได้อย่างแน่นอน!

ซุนหยาตงและลูกชายของเขาเดินมาที่ร้านของจางเฉียงโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเห็นข้อความที่เขียนไว้บนป้าย ซุนหยาตงก็รู้สึกสนใจ เขาเดินเข้าไปและถามว่า "บอส คุณภาพเสื้อผ้าของคุณเป็นยังไงบ้าง"

จางเฉียงขมวดคิ้ว ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีคนสนใจเสื้อผ้าของเขาไม่มากนัก แม้ว่าจะมี แต่ก็น้อยมาก เมื่อเขาเห็นพวกซุนหยาตงทั้งสองคนเขาก็ทักทายพวกเขาอย่างเป็นกันเอง

หลังจากมองดูอยู่ครู่หนึ่ง ซุน หยาตงก็ตื่นเต้นทันที เสื้อผ้าราคาสูงที่นี่คุณภาพดีจริงๆ แถมราคาก็ค่อนข้างถูกกว่าที่อื่น

“บอส เสื้อผ้าพวกนี้มีกี่แบบ ถ้าซื้อเยอะจะได้ราคาถูกกว่านี้ได้ไหม?” ซุนหยาตงเอ่ยถาม

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของจางเฉียงก็เริ่มเต้นกระหน่ำ เขานึกถึงสิ่งที่ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดกับเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน และสงสัยว่าซุนหยาตงใช่ลูกค้ารายใหญ่คนนั้นหรือไม่?

"โอ้ ผมมีอีกหลายแบบหลายสไตล์เลย ถ้าคุณซื้อเป็นจำนวนมาก ราคาก็ต่อรองกันได้" จางเฉียงยิ้มและเริ่มจะกระตือรือร้นมากขึ้น

ทั้งสองมองไปที่เสื้อผ้า แต่หลังจากนั้นซุนหยาตงขมวดคิ้วเล็กน้อย

เสื้อผ้าที่นี่คุณภาพดีจริงๆ แต่จำนวนมันก็เยอะเกินไป และจางเฉียงก็ตึงมากเมื่อพูดถึงราคา

“บอสซุน ปกติเสื้อผ้าของผมที่นี่ขายดีมาก ถ้าหากว่าไม่มีเรื่องด่วนจริงๆ ผมคงไม่ขายมันในราคาต่ำขนาดนี้แน่นอน คุณเห็นไหมว่ามีกี่ร้านในตลาดค้าส่งที่ขายเสื้อผ้าคุณภาพดีราคาถูกกว่าผม? คนอื่นอาจจะแบ่งขายบ้างนิดหน่อย แต่ผมไม่เหมือนพวกเขาหรอกนะ”

จางเฉียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคุณซื้อเพียงครึ่งเดียว ผมจะลดให้คุณได้นิดหน่อย แต่ถ้าคุณซื้อทั้งหมดนี้ ผมสามารถให้ส่วนลดคุณได้ 15%”

ซุนหยาตงเริ่มถูกล่อลวง หากได้ส่วนลด 15% ราคาต้นทุนของเสื้อผ้าที่เขาขายในราคาพันกว่าหยวนจะอยู่ที่ 300 หยวนเท่านั้น

ด้วยวิธีนี้ ถึงแม้จะขายได้เพียงตัวเดียว กำไรที่ได้ก็จะมากกว่า 700 หยวน!

ต่อให้ในหนึ่งวันพวกเขาจะขายได้แค่สองสามตัว พวกเขาก็จะทำเงินได้มากมาย

แต่การที่จะกินเค้กชิ้นนี้ เขาก็ต้องใช้เงินมากถึง 700,000 หยวน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขามีเงินติดตัวอยู่ทั้งหมดแค่ 400,000 หยวนเท่านั้น

ตอนนี้ร้านค้าเพิ่งเริ่มเปิดกิจการ ทำให้ไม่สามารถนำร้านไปยื่นขอกู้ได้ และเขายังมีซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ต้องดูแล ซึ่งเป็นเงินเก็บของเขามาหลายปีแล้ว

ในใจของซุนหยาตงรู้สึกลังเลเล็กน้อย เขาจึงเล่าให้ลูกชายฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้

ถ้าเขาต้องการซื้อทั้งหมดนี้ เขาจะต้องขอยืมเงิน 300,000 หยวนจากคนอื่น

“โถ่พ่อ ตอนนี้พ่อมัวลังเลอะไรอีก ถ้าหากเราได้เค้กก้อนนี้มา ร้านเราก็จะเต็มไปด้วยเสื้อผ้าราคาแพง ยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นทุกวัน ด้วยกำไรที่สูงขนาดนี้เราจะได้ทุนคืนเร็วมาก!” ซุนเจี้ยนเฉียงกล่าวอย่างรวดเร็ว

เขาเห็นด้วยอย่างยิ่งกับความคิดนี้

เมื่อได้ยินคำพูดของซุนเจี้ยนเฉียง ในที่สุดซุนหยาตงก็ตัดสินใจได้ เขาขอยืม 300,000 หยวนจากเพื่อน เพราะเขามีร้านค้าหลายแห่ง เพื่อนๆเหล่านั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าเขาจะไม่มีเงินจ่ายคืน

เมื่อเห็นว่าซุนหยาตงเต็มใจที่จะซื้อพวกมันทั้งหมดจริงๆ จาง เฉียงก็รู้สึกตื่นเต้นมาก และภายในครึ่งวัน การส่งมอบสินค้าทั้งหมดของพวกเขาก็เสร็จสิ้น

เสื้อผ้าทั้งหมดตกเป็นของซุนหยาตง และเงินทั้งหมดก็ถูกโอนเข้าบัญชีของจางเฉียง

หลังจากที่ซุนหยาตงและคนอื่นๆจากไป เมื่อจางเฉียงได้รับเงินแล้ว เขาก็จากไปทันทีโดยไม่ลังเล ขึ้นรถไฟเพื่อกลับไปยังบ้านเกิดของเขา

...

กลับมาถึงที่ร้านเสื้อผ้าฉีหยุน ซุนเจี้ยนเฉียงรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาเอ่ยว่า "พ่อครับ เรามาเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งหมดกันเถอะ!"

พวกเขาเอาเสื้อผ้าราคาถูกทั้งหมดออกอย่างมีความสุข แล้วโชว์เสื้อผ้าราคาแพงแทน

เมื่อมองไปที่ภาพลักษณ์ใหม่เอี่ยมภายในร้าน ซุนเจี้ยนเฉียงกล่าวด้วยความคาดหวังว่า "ยอดขายของวันนี้ต้องสูงกว่าปกติอย่างแน่นอน!"

ซุนหยาตงก็ยิ้มเช่นกัน เขากำลังรอให้ลูกค้ามาที่ประตูร้าน

(จบตอน)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด