ตอนที่ 26 ราชาอสูรสายเลือดราชา
หลินเซินระงับความตื่นเต้นในใจของเขาและดูทักษะที่แสดงอยู่ที่หน้าต่างสถานะ
[การเผาไหม้ในเปลวเพลิง]: เมื่อถูกโจมตีจะเพิ่มระดับของสถานะ [เผาไหม้] ให้กับศัตรู ศัตรูที่อยู่ในสถานะ [เผาไหม้] จะถูกโจมตีด้วยเปลวเพลิงที่เผาผลาญวิญญาณและร่างกายทุก ๆ วินาทีเป็นเวลาสิบวินาที สามารถซ้อนทับสถานะ [เผาไหม้] ได้สูงสุดสามระดับ
[ดุษฎีเพลิง]: ใช้พลังจิตหนึ่งร้อยถึงหนึ่งพันจุดเพื่อโจมตีด้วยเปลวไฟที่ทรงพลังภายในรัศมีสามร้อยเมตรหรือโจมตีศัตรูในรัศมีหนึ่งพันเมตร มันสามารถเพิ่มระดับของสถานะ [เผาไหม้] ให้กับศัตรูได้
[ฟืน]: ลดความเสียหายที่ศัตรูอยู่ในสถานะ [เผาไหม้] 60%
ทักษะทั้งสามนี้ปรากฏขึ้นบนระบบของเขา
นอกจากนี้ยังเป็นความสามารถหลักของราชาอสูรเพลิง ถ้ามันถูกเลือกเพียงแค่อย่างเดียว พวกมันก็อาจจะเป็นแค่ทักษะธรรมดา ๆ
แต่เมื่อมันอยู่ด้วยกัน การสะท้อนความเสียหาย ความเสียหายวงกว้างและลดความเสียหาย พวกมันก็จะกลายเป็นทักษะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
มันทำให้ราชาอสูรเพลิงกลายเป็นเต่าเหล็กในเกราะหนาม ที่ไม่มีใครเอาชนะหรือหนีจากมันได้และต้อวตายเพราะทักษะของมัน
ตราบเท่าที่เขามีทักษะทั้งสามนี้ หลินเซินก็จะกลายเป็นราชาอสูรเพลิงอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว
“เฮ้อ ฉันต้องการทั้งสาม แต่ฉันเลือกได้เพียงทักษะเดียวและมูลค่าของทักษะเหล่านั้นก็จะลดลง”
หลินเซินถอนหายใจเบา ๆ
[ความเมตตา จักรพรรดิ์] ทำให้เขาแย่งชิงความสามารถเพียงหนึ่งเดียวจากทั้งหมดของสัตว์อสูรเท่านั้น
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยอมแพ้ในการรวบรวมทักษะทั้งสาม
มีเพียงเด็กเท่านั้นที่จะตะโกนบอกว่าต้องการพวกมันทั้งหมด
เขารู้ดีว่าการโลภมากเกินมันไม่ดีต่อตัวเขา
“ฉันสามารถเอาทักษะ [ระดับทอง] ตอนนี้ได้ไหม”
หลินเซินมองไปที่ทักษะอื่น ๆ และลูบคางของเขาขณะที่เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับทางเลือกของเขา
“แต่ฉันมี [หญ้าดาบ] อยู่แล้วและมันก็สามารถฆ่าสัตว์อสูรระดับทองได้เป็นอย่างดี มันคงจะเปล่าประโยชน์ถ้าฉันเลือกมัน”
ในที่สุดหลินเซินก็มองไปที่ทักษะสุดท้าย
[ราชา]: ทักษะติดตัว; ได้รับพลังเผาผลาญทุกสิ่งให้เป็นขี้เถ้า ในการต่อสู้ค่าร่างกายและวิญญาณจะเพิ่มหนึ่งร้อยจุดในทุกวินาที สูงสุดห้าพันจุดและจะสลายหายไปหลังจบการต่อสู้
ยิ่งเขาต่อสู้นานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น การต่อสู้เพียงเวลาห้าสิบวินาทีก็สามารถเพิ่มค่าร่างกายและวิญญาณได้ถึงห้าพันจุด
นี่คือสิ่งที่หลินเซินต้องการมากที่สุด
เพิ่มค่าร่างกายและวิญญาณห้าพันจุดอย่างน่าเหลื่อเชื่อ
หากทักษะนี้ถูกใช้กับคนธรรมดาที่ไม่มีอาชีพ เมื่อความสามารถนี้ถูกใช้งาน คน ๆ นั้นก็สามารถเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับเงินสูงสุดที่มีทักษะที่แข็งแกร่งหรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับทอง
เนื่องจากฉันไม่สามารถทักษะทั้งสามนั่นได้ ฉันก็ต้องเลือกทักษะที่ซึ่งจะเพิ่มค่าสถานะของฉัน
“ฉันเลือก [ราชา]”
ดิง !
“โฮสต์ได้เลือกทักษะ [ราชา] [ความเมตตา จักรพรรดิ์] กำลังชิงทักษะ... สำเร็จ”
“ขอแสดงความยินดีโฮสต์ ทักษะ [ราชา] ถูกติดตั้งอยู่ในแถบทักษะ”
ชื่อ:หลินเซิน
อาชีพ: ชาวนา
ระดับ: เงิน 1
ทักษะเหล็ก: [เงาโลหิต] (จากนักเวทย์โครงกระดูก)
ทักษะทองแดง: [ราชา] (จากราชาอสูรเพลิง)
ทักษะเงิน: ไม่มี
ด้วยทักษะอันทรงพลัง หลินเซินยิ่งรู้สึกว่าทักษะ [ความเมตตา จักรพรรดิ์] เป็นทักษะแห่งสวรรค์อย่างแท้จริง
เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีทั้งค่าสถานะและทักษะ
ในช่วงแรก หลินเซินไม่มีทักษะที่ดีมากนัก
เมื่อเผชิญหน้ากับงูปฐพีและจระเข้ยักษ์ที่มีค่าสถานะที่เทียบเท่ากับเขา เขาต้องทนทุกข์ทรมานมาก
เขาถูกพวกมันกลืนเข้าไปและตกอยู่ในอันตรายถึงสองครั้ง
จนกระทั่งการปรากฏตัวของ [ชุดคนเลี้ยงแกะศักดิ์สิทธิ์] และ [หญ้าดาบ] สถานการณ์จึงดีขึ้น
ตอนนี้เขามีอิสระที่จะเลือกใช้ทักษะต่าง ๆ ในช่องทักษะทั้งสามช่อง และช่องทักษะอีกมากมายก็จะเปิดขึ้นในอนาคต
หลังจากสถานะของเขาดีขึ้น ข้อบกพร่องที่ใหญ่ที่สุดของหลินเซินก็ได้รับการชดเชยและเขาก็ได้ก้าวไปสู่ระดับความแข็งแกร่งที่
ด้วยทักษะเหล่าทั้งนี้ หลินเซินมั่นใจว่าต่อให้เขาจะเพิ่งหลอมรวมกับต้นไม้แห่งชีวิตคับบาลาห์หรือเพิ่งมีทักษะ [มงกุฎ] เขาก็ยังสามารถเอาชนะงูปฐพีและจระเข้ยักษ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในอนาคต เขาจะต้องมีทักษะที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และในเวลานั้น ความแข็งแกร่งของเขาก็คงจะเพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล
“ได้เวลาหาประตูมิติที่ใจกลางดันเจี้ยนแล้ว”
“ฉันอยู่ในดันเจี้ยนมาเกือบสี่วันแล้ว ฉันต้องรีบกลับไปที่เขตปลอดภัยคานาอัน มิฉะนั้นพี่สาวจะเป็นกังวลมากแน่ ๆ”
หลังจากเก็บศพของราชาอสูรเพลิงไว้ในฟาร์มเพื่อเป็นปุ๋ยแล้ว หลินเซินก็ไม่ลืมเป้าหมายหลักของเขา
เขาพุ่งผ่านสัตว์อสูรไปทุกที่ ไม่ว่าเขาจะผ่านไปที่ใด สัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนก็ตายในทันทีและพลังจิตของพวกมันก็ถูกดูดกลืนโดยต้นไม้แห่งชีวิตคับบาลาห์
ในเวลาเดียวกัน บนแท่นกิ่งก้านของต้นไม้แห่งชีวิตคับบาลาห์
“แข็งแกร่งมาก !”
พ่อบ้านฟู่ถงได้เห็นฉากที่น่าตกตะลึงของหลินเซินที่สังหารราชาอสูรเพลิงระดับทองขณะที่เขาอยู่เพียงระดับเงิน
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจที่ไม่สามารถปกปิดได้
ด้วยมือที่สั่นเทา เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อและเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก
จากนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่างได้และทันใดนั้นก็หันไปถามหวังเหยียนหรัน
“คุณหนูสิ่งที่คุณพูดกับคุณหลินเมื่อสามวันก่อนเป็นความจริงหรือไม่”
หวังเหยียนหรันไม่ทันได้ตั้งตัวและหน้าแดง ๆ ของเธอก็ปรากฏขึ้น เธอแยกเขี้ยวและกวัดแกว่งเล็บเหมือนแมวที่โกรธ
“ฟู่ถง คุณกำลังพูดถึงอะไร แน่นอนว่า...”
“จริง”
พ่อบ้านฟู่ถงยิ้มและพูดอย่างจริงจัง
“คุณหลินเป็นคู่ที่ดี ถ้าเขาเป็นลูกเขย นายท่านจะต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน”
“อย่างไรก็ตาม คุณคงจะมีคู่แข่งมากมายสำหรับผู้ชายที่โดดเด่นอย่างคุณหลิน คุณต้องคว้าโอกาสนี้ไว้”
“ฉันควรฉวยโอกาสไหม...”
หวังเหยียนหรันกัดริมฝีปากและพึมพำกับตัวเอง
“ฮัดชิ้ว”
หลินเซินจามและขณะที่เฉือน [หญ้าดาบ] ในมือของเขา สังหารสัตว์อสูรจำนวนมาก เขาสงสัยว่า
“ฉันมีค่าร่างกายเกือบห้าพันจุด ฉันจะจามได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าพี่สาวกำลังพูดถึงฉันเหรอ ?”
“รีบออกจากดันเจี้ยนดีกว่า”
หลินเซินข้ามระยะทางกว่าหนึ่งหมื่นเมตรได้อย่างง่ายดาย
เขามาถึงหอคอยสีเขียวตระหง่าน
แทนที่จะเรียกมันว่าหอคอย มันเหมือนปราสาทสูงมากกว่า
เมืองที่วุ่นวายและประตูมิติที่มืดสลัวบนยอดหอคอยสูงร้อยเมตรทำให้หลินเซินรู้สึกผิดปกติ
“อืม ?”
“เจ้ามนุษย์ผู้อ่อนแอ… เจ้ากลายเป็นราชาอสูรเพลิงได้อย่างไร”
เสียงที่ไม่แน่นอนดังมาจากบนยอดหอคอย
หลินเซินหรี่ตาและมองขึ้นไปเห็นสัตว์ประหลาดตัวสูงที่มีร่างกายท่อนบนเหมือนมนุษย์และมีท่อนล่างเหมือนม้า
ชื่อ: ราชาอสูรเมตา
ระดับ: ทอง 8
สายเลือด: ราชา
สัตว์อสูรระดับทอง 7 ที่มีสายเลือดราชา !
“ฉันเข้าใจแล้ว ในตอนท้ายของสังเวียนมักจะมีบอสลับเสมอ”
“เพราะฉะนั้นฉันควรจะรีบเผชิญหน้ากับมันและฆ่ามันเดี๋ยวนี้”