ตอนที่ 24 : วันที่ 1 มิถุนายน
หลังจากเก็บรูปแบบการรวบรวมโชคลาภกลับคืนแล้ว ฉินหยุนก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เขามองไปยังร้านเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็หันหลังและจากไป
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของฉินหยุน ซึ่งดูเหมือนกำลังสิ้นหวัง ในใจของซุนเจี้ยนเฉียงรู้สึกมีความสุขมาก
‘ฮ่าฮ่า.. ฉินหยุน ถึงภายนอกแกจะแกล้งทำเป็บสงบ แต่ภายในใจ แกต้องกำลังโกรธมากอยู่แน่นอน’
ฉินหยุนต้องโกรธมากแน่ เมื่อร้านค้าที่เปิดเองธุรกิจกำลังไปได้ดี แต่ต้องถูกบังคับให้ออกจากพื้นที่ของเขา
“โกรธสิ โกรธไปเลย อีกไม่กี่วันจะสอบเข้ามหาลัยแล้ว ถ้ามันส่งผลกับการสอบเข้ามหาลัยคงดีกว่านี้” เขาคิดในใจอย่างเป็นสุข
...
ภายในร้านใหม่ จ้าวเหมยและคนอื่นๆ กำลังยุ่งอยู่กับการจัดของและแขวนเสื้อผ้าทีละตัว
ในที่สุด ป้ายชื่อร้านเทียนหยุน ก็ได้รับการติดตั้งใหม่
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นก็เป็นเวลาดึกแล้ว
“บอส”
จางชิงและคนอื่นๆ มองไปที่ฉินหยุนด้วยสีหน้ากังวล
เป็นเวลากว่าครึ่งเดือนแล้วที่พวกเขายุ่งมากในร้าน แต่ทุกคนก็มีความสุขมาก
เนื่องจากฉินหยุนกำหนดฐานเงินเดือนของพวกเขาให้ใหม่ เงินเดือนพื้นฐานคือ 3,000 หยวน ค่าเข้างานอีก 500 หยวน และโบนัสต่างๆอีก 1,500 หยวน
เงินเดือนที่สูงขนาดนี้เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะปฏิเสธได้
ท้ายที่สุดแล้ว ในเขตชิงหวู่ เงินเดือนทั่วไปของพนักงานร้านขายเสื้อผ้าอยู่ที่ประมาณ 3,000 หยวน เผลอๆยังน้อยกว่าสามพันหยวนด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านี้เงินเดือนของจางชิงน้อยกว่าสามพันหยวนอีก
ในความเป็นจริง พนักงานของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนมักจะยุ่งอยู่เสมอตั้งแต่เริ่มงานจนถึงเวลาเลิกงาน ซึ่งแตกต่างจากร้านเสื้อผ้าอื่น ๆ ร้านนี้ไม่มีเวลาให้แอบอู้เลย ดังนั้นฉินหยุนจึงกำหนดฐานเงินเดือนให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย
แน่นอน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้สูงมากเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว ธุรกิจในร้านไปได้ดีเพราะการรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง เมื่อมีสิ่งนี้อยู่ จะไม่มีทางส่งผลกระทบต่อความนิยมของธุรกิจของร้านค้าเลย แม้ว่าคุณรับสมัครพนักงานแบบลวกๆ
"วันนี้กลับไปก่อน พรุ่งนี้ตอนบ่ายค่อยมาทำงานอีกที" ฉินหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม
ในไม่ช้า พนักงานในร้านหลายคนก็กลับไป เหลือเพียงจ้าวเหมย ฉินซวน และคนอื่นๆใร้านอีกไม่กี่คน
เมื่อเห็นสีหน้ากังวลของจ้าวเหมย ฉินหยุนก็ยิ้มและพูดต่อว่า "แม่ คิดมากไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว มารอดูผลวันพรุ่งนี้กันเถอะครับ"
จิตใจของเขากระตุก และจุดแสงในมือของเขาก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
มีลวดลายซับซ้อนมากมายปรากฎขึ้น และเข้าครอบคลุมทั่วทั้งร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนแห่งใหม่ในทันที
จัดวางรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งเสร็จสิ้น!
...
ในบ้านเช่าหลังหนึ่ง จางชิงเปิดประตูเข้ามาแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ทันที
"กลับมาแล้วเหรอ?"
ซุนถิงถิงเดินออกมาจากห้องพอดี เมื่อเห็นท่าทางซึมๆของจางชิงเธอจึงถามต่อ "เสี่ยวชิง เป็นอะไรไป ทําไมเธอถึงดูไม่สดชื่นเลย"
"เพราะเรื่องที่ร้านขายเสื้อผ้านั่นแหละ!" เมื่อได้ยินคําถามของซุนถิงถิง จู่ๆจางชิงก็พูดด้วยความโมโห "เจ้าของที่คนนั้นไม่ใช่ตัวดีอะไรเลย เมื่อเห็นว่าร้านเสื้อผ้าของเราขายดี เขาจึงขอขึ้นค่าเช่าที่มากกว่า 20,000 หยวน บอสทำได้เพียงแค่ยอมแพ้และหาเช่าที่ร้านใหม่"
ทุกคนที่บริหารกิจการเองจะรู้ดีว่า บางครั้งเมื่อเราเปลี่ยนสถานที่ตั้งร้านกระทันหัน ธุรกิจก็อาจจะดิ่งลงเหวได้ทันที
“ร้านใหม่จะเปิดในวันพรุ่งนี้แล้ว ฉันไม่รู้เลยว่าธุรกิจจะเป็นยังไงต่อ” จางชิงพูดด้วยความกังวล
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซุนถิงถิงก็ยิ้มและพูดว่า "เสี่ยวชิง เมื่อก่อนไม่เห็นเธอเคยมีความรู้สึกกังวลต่อร้านเสื้อผ้าร้านอื่นแบบนี้มาก่อนเลยนี่นา"
"ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้สึกกังวล แต่บอสของร้านก่อนๆเขาให้เงินเดือนฉันแค่นิดเดียวเอง” จางชิงดื่มโค้กเข้าไปอึกใหญ่ และเรอออกมาอย่างสบายใจ
“บอสบอกว่าเงินเดือนจะออกในวันที่ 3 และฉันจะได้รับเงินเดือนในอีก 2 วันนี้เอง แต่ยังไม่รู้ว่าฉันจะได้รับเท่าไร ยังมีเสื้อผ้าอีกมากมายที่ฉันต้องการซื้อ”
สำหรับจางชิง เธอไม่อยากฟังคนอื่นหรือว่าเธอเองพูดถึงเรื่องของเป้าหมายในชีวิต อุดมคติของเธอคือการมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องทำงาน
หากได้รับเงินเดือนที่มากพอ เธอก็จะมีความรู้สึกร่วมกับที่ทำงานโดยธรรมชาติ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซุนถิงถิงก็ไม่อยากขัดเธอ เธอรู้ว่าฐานเงินเดือนของจางชิงคือ 3,000 หยวน ค่าเข้างาน 500 หยวน โบนัสอีก 1,500 หยวน มีรางวัลโบนัสให้ให้ แต่จำนวนเงินโบนัสนั้นขึ้นอยู่กับคำพูดของบอส และยังมีความไม่แน่นอนมากเกินไป
แต่เมื่อเห็นว่าจางชิงคาดหวังไว้สูง เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
...
สิ่งที่จางชิงกังวลคือธุรกิจในร้านจะได้รับผลกระทบและเงินเดือนของเธอจะลดลง แต่สำหรับจ้าวเหมย ฉินซวนและคนอื่นๆ พวกเขากังวลเกี่ยวกับอนาคตของร้านมากกว่า
พวกเขานอนไม่หลับกันทั้งคืน ส่วนฉินหยุนคือคนที่กังวลน้อยที่สุด
เขาหลับไปภายในหนึ่งนาทีหลังจากหัวถึงหมอน ตื่นเช้า พูดคุยกับจ้าวเหมยนิดหน่อยหลังอาหารเช้า และจากนั้นก็ตรงไปโรงเรียน ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับร้านค้าเลย
จ้าวเหมยและฉินซวน มาถึงร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุนที่เพิ่งเปิดใหม่ในตอนเช้าตรู่ และกำลังรอที่จะเปิดประตูร้านตอน 7 โมงเช้า
"เสี่ยวซวน ลูกคิดว่าเราสามารถรักษายอดขายของร้านไว้เหมือนเดิมได้ไหม?" จ้าวเหมยอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
หลังจากใช้ชีวิตที่ยุ่งวุ่นวายมาครึ่งเดือน รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็เพิ่มมากขึ้น
ครอบครัวของเธอมีเงินหมุนเวียนต่อวันมากกว่า 10,000 หยวน ค่าผ่อนบ้าน และเงินที่ขอยืมมาต่างๆ ดูเหมือนว่าเธอจะมีความหวังที่จะชำระคืนให้หมดได้ในเร็ววันนี้ และเธอปรารถนาที่อยากจะให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ
สิ่งที่เธอหวังอยากให้สำเร็จมากที่สุดในตอนนี้คือการชำระหนี้ทั้งหมดของครอบครัว เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องกังวลกับสิ่งใดๆในอนาคตอีกต่อไป
แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
"แม่ เป็นไปได้อย่างแน่นอน เราต้องเชื่อในตัวเสี่ยวหยุน" ฉินซวนพูดด้วยรอยยิ้ม
แต่ถึงกระนั้น แววตาของเธอก็มีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"วันนี้ตอนเช้า เสี่ยวหยุนพูดอะไรบ้างเหรอแม่?" ฉินซวนถาม
"เสี่ยวหยุนไม่ได้พูดอะไรเลย" จ้าวเหมยนึกถึงลูกชายของเธอ และพูดอย่างช่วยไม่ได้ "เขาไปโรงเรียนหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จทันที"
พวกเธอวิตกกังวลกันอย่างมาก แต่ฉินหยุนกลับทำตัวปกติราวกับว่าเรื่องของร้านค้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเลยแม้แต่นิด
"หืมม?"
ทันใดนั้น จ้าวเหมยและฉินซวนก็มองไปยังร้านขายเสื้อผ้าแห่งใหม่ที่อยู่ไม่ไกลจากร้านของพวกเธอ
"ร้านเสื้อผ้าฉีหยุน!"
นั่นคือที่ตั้งของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนร้านเก่า ในเวลานี้เอง พวกเธอเห็นซุนหยาตงมาพร้อมกับคนสองสามคนพอดี
“ซุนหยาตงผู้นี้น่ารังเกียจเกินไป หวังว่าธุรกิจของพวกเขาจะเจ๊งจนต้องปิดตัวลง!” ฉินซวนถึงกับกัดฟันพูด แม้แต่เธอที่อารมณ์ดีอยู่ตลอด ก็อดไม่ได้ที่จะด่าออกมา
ซุนหยาตงที่ถูกเธอด่า ตอนนี้เขากำลังรู้สึกภูมิใจในตัวเอง
เมื่อเปิดประตูร้านขายเสื้อผ้าฉีหยุน หญิงสาว 5 คนที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัย 20 ปี กำลังยุ่งอยู่ พวกเธอเป็นพนักงานในร้านนั่นเอง
สำหรับเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ในร้าน รวมทั้งการตกแต่งทั้งหมดก็เหมือนกับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก่อนหน้าทุกประการ โดยพื้นฐานแล้วแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
"ใกล้จะเปิดแล้ว ถ้าธุรกิจยังคงร้อนแรงเหมือนก่อนหน้านี้ ฉันจะทำเงินได้มากเท่าไหร่กัน!" ในเวลานี้ซุนหยาตงรู้สึกคาดหวังมาก
ยกเว้นความแตกต่างของชื่อที่ป้ายร้าน ซึ่งมีเพียงคำเดียวที่ขาดหายไป ร้านขายเสื้อผ้าฉีหยุนแห่งนี้เหมือนกับร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุนก่อนหน้าทุกประการ
แม้ว่าเขาจะไม่มีความมั่นใจมากนักว่าจะรักษาธุรกิจที่เฟื่องฟูก่อนหน้านี้ไว้ได้หรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้เสมอ ซุนหยาตงยังคงตั้งตารอ
หากว่ามันเหมือนเดิมกับก่อนหน้านี้ เขาก็จะสามารถสร้างรายได้มากกว่าหนึ่งล้านหยวนต่อปี
ในความเป็นจริง ใบอนุญาตประกอบธุรกิจร้านค้าของเขายังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะเวลากระชั้นชิดเกินไป อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่ค่อยเข้มงวดมากนักภายในเขตชิงหวู่ ตัวอย่างเช่น บางคนเช่าที่เปิดร้านค้าและมีค่าเช่าที่ต้องจ่ายทุกวันหลังจากลงนามในสัญญาเช่า ถ้าหากว่ารอใบอนุญาตประกอบธุรกิจเสร็จ ก็จะเสียเวลาเปล่าๆไปหลายวันกว่าจะได้เปิดร้าน ดังนั้นจึงสามารถเปิดได้ก่อนแล้วค่อยไปยื่นเอกสารทีหลังได้
เขาไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว หากว่ารอให้ทุกอย่างเข้าที่ ความเสี่ยงอาจมีมากมาย
ตอนนี้เป็นเวลาเพียง 8:30 น. แต่ร้านเสื้อผ้าทั้งสองร้านได้เปิดทำการแล้ว เริ่มมีคนเดินผ่านไปมาอยู่บนถนน มีคนสองคนเดินผ่านมาพอดี และทันใดนั้นก็หยุดฝีเท้าของพวกเขาลง จากนั้นมองไปยังร้านขายเสื้อผ้าฉีหยุนที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขา
(จบตอน)