ตอนที่ 1356 โจมตีมังกรปีศาจ
ภายใต้การข่มขู่ของหมัดและค้อนไซส์พิเศษของเด็กหนุ่มข้ามโลกมังกรปีศาจผู้ที่อ้างว่าตนเองเป็นพี่ใหญ่ก็ระลึกถึงความลับของเทพเจ้าโบราณได้
ไม่ง่ายเลย!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การควบคุมดูแลของผู้น้องที่มีความอดทนเป็นศูนย์สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าพลิกเปิดหนังสือ ความทรงจำมากมายเมื่อแสนปีที่แล้วถูกขุดคุ้ยออกมาจากสมองด้วยความยากลำบากไม่แพ้การขุดคุ้ยสมบัติลับที่ไม่รู้จักภายใต้สายตาของเทพแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์
ประตูเทพโบราณถูกเปิดออกได้สำเร็จและมังกรปีศาจก็หันกลับไปโม้กับเย่ว์หยางอีก “ดู เปิดได้แล้ว มันเปิดได้จริงๆ... เจ้าคิดดูสิใครจะมีความสามารถเปิดประตูแห่งชะตาได้จริงๆ ? คนธรรมดาไม่สามารถเปิดมันได้ ต้องเป็นคนไม่ธรรมดา และต้องเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ! อย่างข้าไง! เกิดอะไรขึ้น? มีคนสู้กันอยู่ข้างในได้อย่างไร? โอว ไม่นะเป็นจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ เจ้านั่น เจ้านั่นอยู่ข้างในด้วย!”
พลังเทพที่คุ้นเคยทำให้มังกรปีศาจสะดุ้งกลัวจนตัวลอย
เขาไม่เข้าใจเลยว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อฉลาดขนาดคำนวณได้ว่าเขาจะพาเย่ว์หยางมาที่นี่และจงใจมาซุ่มรอโจมตีที่นี่
เย่ว์หยางก็ตกใจเช่นกันจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่ออยู่ที่นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจที่สุดแต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจที่สุดก็คือเบื้องหลังประตูเทพโบราณนี้มีใครบางคนที่กำลังต่อสู้กับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ ในท่ามกลางพลังชักนำมีพลังเทพของสุดยอดนักสู้ไร้เทียมทานกระตุ้นให้เขาใช้พลังเทพที่กราดเกรี้ยวแก้แค้นทั้งโลก
“จะเข้าไปจริงๆหรือ?” ตอนนี้กลับเป็นมังกรปีศาจที่ลังเล
เขากังวลว่าเมื่อเขาพาเย่ว์หยางเข้าไป เขาจะมีชะตากรรมที่ไม่อาจย้อนกลับได้จริงๆ
ที่สำคัญจักรพรรดิไร้เทียมทานอยู่ข้างใน และยังมีบุคคลที่มีฝีมือยอดเยี่ยมระดับเดียวกับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่ออยู่ข้างในซึ่งแตกต่างไปจากที่คิดในตอนแรกอย่างสิ้นเชิง
เย่ว์หยางสงบจิตใจได้และพยักหน้าอย่างมั่นคง ตอนนี้ชะตากรรมมาถึงแล้วก็ต้องสู้ต่อไป ตัดสินใจไปแล้วไม่ว่ายังไงก็ตามไม่ว่าจะพบเจอสิ่งท้าทายใดๆ ก็ตามก็ต้องลองทดสอบดู โชคชะตาของตนเองก็ต้องลิขิตด้วยตนเอง! ไม่, ยังมีโชคชะตาของทุกคนทุกคนล้วนมอบชะตาให้อยู่ในมือของเขา ความสำเร็จของเทพจอมราชันย์ การปลดปล่อยตนเองให้พ้นจากชะตากรรมที่เป็นอยู่ นี่คือเป้าหมายในอนาคตของเขา!
หลังจากเข้าประตูเทพโบราณไปแล้ว
สายตาทั้งของมังกรปีศาจและเย่ว์หยางมองเห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอยู่แต่ไกล
เป็นเทพร่างยักษ์ใหญ่ที่มีความสูงอย่างน้อยหกหมื่นเมตรมีสามหัวหกกรและมีรูปลักษณ์ที่สง่างามมากบัลลังก์เทพที่อยู่ด้านหลังมีลักษณะเหมือนทุ่งหญ้าที่มีไฟลุกโชน นอกจากนี้ใต้เท้าของเทพยักษ์นี้ยังมีรัศมีเหมือนทะเลโลหิตและทุกครั้งที่มีคลื่นปรากฏขึ้น โลกทั้งใบจะมีความรู้สึกถึงการหายใจที่จมอยู่ใต้ทะเลเลือด
ร่างยักษ์ใหญ่มือถืออาวุธเทพถึงสี่อย่างส่วนอีกสองมือควบแน่นพลังสร้างพลังเทพสองกลุ่ม
หนึ่งสีแดงหนึ่งสีทอง
แสงเทพทั้งสองกลุ่มนี้ไม่เหมือนกันพวกมันล้วนดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์
เย่ว์หยางเห็นแล้วแทบจะโห่ร้องเพราะแสงเทพทั้งสองกลุ่มนี้ได้รับการขัดเกลาจนใกล้ถึงขีดจำกัดของพลังมันนั้นคือแสงเทพห้าสีที่เย่ว์หยางรวบรวมด้วยความพยายามอย่างหนักแต่ไม่มีอะไรเลย พูดให้ถูกก็คือนี่คือแสงเทพแดงและแสงเทพทองของแสงเทพห้าสี
เดิมทีเย่ว์หยางมีแสงเทพสีเขียวในในแสงเทพห้าสีอยู่แล้ว
หลังจากการผจญภัยในตำหนักเทพจักรพรรดิอวี้เขาก็ได้แสงสีดำ
น่าเสียดายที่เป็นของปลอม
เขาค้นหาอย่างหนักจนกระทั่งบุรุษลึกลับในโลกดินแดนฝึกฝีมือปรากฏตัวขึ้นเย่ว์หยางต่อสู้จนถึงขีดจำกัดร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของบุรุษลึกลับถูกทำลายโดยยักษ์ชะตาและเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากซ่อนวิญญาณของเขาไว้ในแสงดำในแสงห้าสีเพราะสายเกินกว่าจะหลบหนี จึงเป็นเรื่องง่ายที่เจะยึดเอาแสงสีดำไว้ แม้ว่าเย่ว์หยางจะถือแสงเทพถึงสองสีจากห้าสีแต่เขาไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงของแสงเทพห้าสีได้ วันนี้เขาประหลาดใจที่ได้เห็นแสงเทพห้าสีในรูปแบบอื่น
ในรูปแบบของแสงเทพนิรันดร
พลังของมัน
ถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด
แม้ว่าจะมีเพียงแสงเทพสองสีไม่ใช่ห้าสีรวดเดียว แต่ก็เกินความรู้ความเข้าใจและจินตนาการของเย่ว์หยาง....
“ไม่มีทาง”สิ่งที่ทำให้มังกรปีศาจตกตะลึงไม่ใช่เทพผู้ยิ่งใหญ่หรือแสงเทพห้าสี แต่เป็นจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ
ถ้าเทพอุปถัมภ์ภูเขากวงหมิงมีร่างเทพสูงถึงสี่หมื่นเมตรศัตรูที่ตอนนี้กำลังสู้กับจิ๋วซื่อมีความสูงถึงหกหมื่นเมตร และมีร่างสามเศียรหกกรที่น่าเกรงขาม ถึงมีศัตรูอย่างนี้แต่จักรพรรดิไร้เทียมทานก็สามารถพัวพันได้โดยไม่พ่ายแพ้แล้วอย่างนี้จะไม่ให้มังกรปีศาจตกใจได้อย่างไร
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักจากเมื่อก่อนมีแต่เพียงบัลลังก์เทพพิเศษเท่านั้นที่อยู่เบื้องหลังเขา
แต่เขาสามารถต้านทานศัตรูที่แข็งแกร่งด้วยพลังเทพที่ทรงพลัง
ไม่เพียงแต่สู้กับเทพยักษ์ที่สูงถึงหกหมื่นเมตรอย่างดุเดือดเท่านั้นด้านข้างของเขายังมีเทพอีกหลายร้อยคน ร่างเทพมีอยู่ทั่วไปในระดับหกพันเมตรหรือมากกว่าหมื่นเมตรและพวกเขากำลังปิดล้อมด้วยกำลังทั้งหมดของพวกเขา
“ไสหัวไปให้หมด!” จักพรรดิไร้เทียมทานตวาดดังลั่นหลังจากที่เขาต่อสู้และกระแทกยักษ์ใหญ่กลับไปเขายกแขนและกวาดพลังไปทั่วทั้งสนามรบด้วยมือเดียว ผู้ที่สัมผัสล้วนถูกกระแทกถอยกลับไปมีเทพตนหนึ่งขนาดราวๆ แปดกิโลเมตรยังเล็กและเตี้ยมากกว่าจิ๋วซื่อมากถอยช้าไปเล็กน้อยถูกจักรพรรดิไร้เทียมทานจับได้ และถูกฉีกร่างทั้งเป็น ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือแม้ว่าจะรู้จักเทพที่ถูกจับ ชะตากรรมจะเหมือนกับสหายก่อนหน้านี้ที่ล้มหายตายจากไป ในมือของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อภายใต้เจตจำนงของเขาเทพผู้ถูกจับจะเข้าสู่เส้นทางแห่งการสูญสลายทันที แต่ไม่มีใครกล้าเสี่ยงอันตรายนี้ก้าวเข้าไปช่วยเหลือ
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อจงใจยกร่างเทพผู้นั้นขึ้น
ในท่ามกลางสายตาที่ทุกคนมองเห็น
เขาประหารศัตรู
เขาไม่สนใจศัตรูทรงพลังมากมายจัดการฉีกแขนขาและเท้าของศัตรูอย่างไม่ใส่ใจและสุดท้ายจับศีรษะของศัตรูบิดโดยค่อยๆเพิ่มพลังเทพทีละน้อยๆ
พวกกลุ่มเทพเฝ้าดูอยู่ห่างๆด้วยความสยดสยอง
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
“ถ้าพวกเจ้าคิดว่าการรุมล้อมนั้นมีผลกับข้าจิ๋วซื่อเจ้าก็จงทำต่อไป เทพที่ตกอยู่ในเงื้อมมือข้าจิ๋วซื่อจะเป็นตัวอย่างให้พวกเจ้าเห็น!” จักรพรรดิไร้เทียมทานส่งเสียงตวาดลั่นและระเบิดพลังเทพออกก่อนที่เทพยักษ์ใหญ่จะถูกสังหารระเบิดศีรษะและทำลายวิญญาณและประกายเทพของอีกฝ่ายหนึ่ง
บัลลังก์เทพของเทพผู้นั้นก็ช่วยไม่ทันและสลายหายไป
ทันใดนั้นพลังเทพที่บริสุทธิ์และกว้างใหญ่ก็ถูกยับยั้งโดยเจตจำนงและพลังกฎสวรรค์ชนิดหนึ่งและถูกดึงออกไปอย่างรวดเร็วรุนแรง
ในพริบตาเดียวก็เปลี่ยนเป็นสีดำในโลกสีดำและสีขาวขนาดเล็กที่มีชีวิตอีกแบบคล้ายกับบัลลังก์เทพ...ดวงตาของเย่ว์หยางแทบถลนจากเบ้า เพราะเขาเห็นจื้อจุนที่ขอบสนามรบ
นางใช้พลังลับพิเศษเพื่อดึงดูดพลังของเทพฝ่ายศัตรูที่กำลังจะสลายไป
ทุกครั้งที่จักรพรรดิไร้เทียมทานสังหารเทพนางจะดูดซับพลังจากบัลลังก์เทพที่กำลังสลายไป
ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้
เพื่อสร้างบัลลังก์เทพสีดำ
“จิ๋วซื่อ! เจ้าไม่ต้องทำหยิ่งผยองชะตาของเจ้าถูกตัดสินไปแล้ว สถานที่ตายของเจ้าถูกกำหนดไว้ที่นี่แล้ว!” สุดยอดนักสู้ระดับเทพไม่สนใจนักสู้ระดับเทพคนอื่นที่ถูกฆ่าเขามุ่งเน้นให้ความสนใจที่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเท่านั้น ตราบใดที่เขาสังหารจักรพรรดิไร้เทียมทานได้เขาก็จะชนะทั้งโลกและแม้กระทั่งอนาคตทั้งหมด
“จุดเริ่มต้นของชะตาข้าก็เป็นจุดจบของเจ้าเช่นกัน!” จักรพรรดิไร้เทียมทานหัวเราะเมื่อพบเจอศัตรูที่ไม่ยอมแพ้
“ทำไมท่านมาที่นี่? ยิ่งไปกว่านั้นยังอยู่ในสถานที่อันตรายอย่างนี้!” เย่ว์หยางรีบแซงขึ้นหน้าไปก่อนด้วยความที่ไม่เคยโกรธนาง เขาได้แต่จ้องมองดูนางอย่างตกตะลึงเล็กน้อย อีกด้านหนึ่งมังกรปีศาจโมโหจ้องมองจักรพรรดิไร้เทียมทาน “เจ้า..บัดซบกล้าออมฝีมือตัวเองตอนสู้กับข้า เจ้ากล้าดูถูกข้าหรือ? จิ๋วซื่ออย่างนั้นอย่าได้ตำหนิข้าว่าโกรธเจ้า!”
มังกรปีศาจเตรียมจะเข้าร่วมกับกลุ่มนักรบที่เผชิญหน้ากับจิ๋วซื่อ
แน่นอนว่าเป้าหมายของเขาคือจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อที่ตกอยู่ภายใต้การรุมล้อมจู่โจมของศัตรู
เย่ว์หยางกำลังจะตายด้วยความคลั่งใจ พี่ใหญ่ผู้นี้หยุดสร้างปัญหาได้เสียทีได้ไหม? ตอนนี้ถ้าเจ้าไม่รู้ว่าใครเป็นศัตรูใครเป็นมิตร หาเรื่องสู้อย่างเดียวเจ้าสมควรเป็นพี่ใหญ่ต่อไปหรือไม่? เจ้ารู้ไหมว่าทำเรื่องอย่างนี้ มันทำให้ทุกคนหมดแรง? นอกจากนี้แม้ว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อจะไม่ใช่คนดี แต่ก็ดูไม่ดีนักเมื่อมองอีกด้านหนึ่งเจ้ากลับไปช่วยอีกฝ่ายอย่างนั้นหรือ? ย้อนกลับไปหมื่นปีก่อนเจ้าต้องรู้ไว้ก่อนว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อแข็งแกร่งมาตั้งแต่หมื่นปีก่อนเจ้ากลับเลือกเวลาไปหาเรื่องสู้กับเขาตอนนี้ สมควรหรือไม่?
“ข้ามาแล้วข้ามาแล้ว!” มังกรปีศาจเหมือนกับผีพนันเมื่อเห็นวงพนันแล้วรู้สึกคันหัวใจยากจะเกา
ร่างเทพของเขาสูงหมื่นเมตร
เขาคำรามราวกับสายฟ้าและเข้าร่วมต่อสู้
หมัดของเขาต่อยใส่บัลลังก์เทพไม่หยุดทั้งต่อยใส่เกราะของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อการเพิ่มเข้ามาของมังกรปีศาจทำให้เหล่าเทพจำนวนมากล่าถอยออกมาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็เข้าใจความจริงที่ว่าบุรุษที่เพิ่งเดินทางมาถึงนี้เป็นไอ้บ้าคนหนึ่งแน่นอน
จักรพรรดิไร้เทียมทานใช้ไหล่กระแทกเขาอย่างรุนแรงและใช้หมัดเสยปลายคางมังกรปีศาจจากนั้นเข่าใส่มังกรปีศาจจนตัวงอและเตะมังกรปีศาจลอยขึ้นไปในอากาศ
เทพยักษ์ใหญ่เห็นมังกรปีศาจตลอด
เขากวาดแขนวุ่นวาย
อาวุธเทพทั้งสี่และแสงเทพทั้งสองโจมตีใส่มังกรปีศาจทั้งหมด
เย่ว์หยางทนมองไม่ได้ ได้แต่เอามือปิดหน้า เขาเห็นคนโง่มามากแต่ไม่เคยเห็นใครโง่บัดซบอย่างนี้มาก่อน
“เจ็บเป็นบ้า” มังกรปีศาจลุกขึ้นด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกแม้ว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรง แต่ไม่ส่งผลต่อการกระทำของเขาเลยเขาคำรามใส่เทพยักษ์ใหญ่ราวกับฟ้าร้อง “อย่านึกว่าเจ้าตัวใหญ่กว่าข้าเล็กน้อยและเจ้าจะมีความสำคัญมากและทำร้ายผู้อื่นได้ตามอำเภอใจ อาการปวดเมื่อยปวดบวมแค่นี้พวกเจ้าคิดว่าจะทำให้ข้าตกใจได้หรือ? เด็กๆ แถวนี้ยังไม่กลัวเลย เจ้ารู้จักอายหรือไม่!”
“เจ้าตัวโง่เอ๊ย!” เทพยักษ์ใหญ่ต่อยมังกรปีศาจเสร็จจากนั้นตะลุยโจมตีใส่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อต่อ
“เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?” เย่ว์หยางพบว่ามังกรปีศาจดูเหมือนจะบาดเจ็บหนักไม่เบา
“แผลเล็กนิดหน่อยจะทำอะไรข้าได้!” มังกรปีศาจเห็นเย่ว์หยางทำท่าอึดอัดใจเขารีบกระโดดขึ้นและทำท่าทางเท่ “ล้อเล่นน่า! ข้าคิดว่าพวกเขาเป็นเด็กรุ่นหลังก็เลยออมมือให้ท่าสองท่าไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพวกนั้นร้องไห้บ่นหาว่าข้ารังแกผู้เยาว์! น้องสะใภ้ที่อยู่ข้างๆและเย่ว์หยางพวกเจ้าไปอยู่ห่างๆ หน่อย เดี๋ยวเผลอโดนลูกหลงโดยไม่รู้ตัว!” คำพูดว่า ‘น้องสะใภ้’ ทำให้จื้อจุนโกรธ มองดูมังกรปีศาจ มังกรปีศาจจำเด็กสาวคนนี้ได้ว่าโดดเด่นจากกลุ่ม เขารู้สึกผิดได้แต่หัวเราะแก้เก้อ
“ถ้าอย่างนั้นเจ้ารีบไปกลั่นแกล้งพวกเขาเลย ข้าคิดว่าคนผู้นี้ถ้าไม่ได้ถูกทุบตีจนร้องไห้มานานแล้ว เจ้าต้องให้ความทรงจำที่ลึกซึ้งกับเขา” เย่ว์หยางชี้ไปที่เทพยักษ์ เขาพูดก็แค่เพื่อยั่วยุพี่ใหญ่ให้โมโห
“สิ่งที่เจ้าบอกถ้าข้าต้องใช้ไม้ตายจริงๆ และโลกนี้พังทลายไป เจ้าอย่ามาโทษข้าเชียวนะ?” มังกรปีศาจเมื่อได้ยินอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
“ไม่โทษท่านแน่นอน ถ้ามันพังข้ารับประกันซ่อมให้เอง!” เย่ว์หยางรู้สึกว่าพี่ใหญ่คนนี้มีความสามารถในการเอาชนะศัตรูได้จริงๆ และไม่ว่าผลลัพธ์จะเลวร้ายแค่ไหนเทียบดูแล้วน่าจะแข็งแกร่งกว่าปัจจุบันร้อยเท่าแน่นอน
“เออดีเจ้าคืออนาคตเทพจอมราชันย์ ข้าเชื่อคำพูดเจ้า” มังกรปีศาจก้มศีรษะกางนิ้วและแตะเย่ว์หยาง “เฮ้, ในฐานะเทพจอมราชันย์อย่างนั้นเจ้าจงแสดงปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดให้ข้าดู” เย่ว์หยางตะลึงเป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่แน่ใจว่าสมองเจ้าไม่ได้ถูกศัตรูทำร้าย? สำนึกเทพของเจ้ามีปัญหาหรือเปล่า?จะให้เราคุณชายปล่อยพลังแบบนี้ เขาไม่ใจ
แม้ว่าคำพูดของพี่ใหญ่จะฟังดูไม่สมเหตุสมผลก็ตาม
แต่เมื่อเห็นว่าเขาต้องการแบบนี้เขาระเบิดพลังปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดแทงใส
**** **** ****