ตอนที่ 1355 มิตรภาพหนักแน่นแข็งแกร่ง
ในเส้นทางโบราณ
ภายในอุโมงค์ห้วงมิติเวลาไม่มีที่สิ้นสุดม่านพลังมิติที่บิดเบี้ยวทำให้มังกรปีศาจซึ่งเป็นพี่ใหญ่ที่ดีถึงกับหลงทาง
ในการเลือกตำแหน่งทิศทางที่น่าพิศวงอารมณ์ของมังกรปีศาจเต็มไปด้วยความมั่นใจตั้งแต่แรกเริ่มว่าต้องเป็นเส้นทางนี้จึงจะถูกต้อง เขาไม่ค่อยแน่ใจอีกครั้ง ‘มันน่าจะเป็นทางนี้ เคยเดินทางผ่านมาเมื่อแสนปีที่แล้ว’ จากนั้นก็พูดว่า ‘ไม่น่าจะผิด เห็นได้ชัดว่านี่คือเส้นทางที่น่าจะผ่านไปได้’ หากระบุตำแหน่งที่ต้องการไปได้ทุกที่แต่ดูเหมือนจะมีจุดหมายเดียวเท่านั้น ในที่สุดเขาก็โมโห ‘ใครช่วยบอกข้าที นี่มันเส้นทางบ้าอะไร? เส้นทางโบราณเหล่านี้อันตรายมากพอแล้วทำไมต้องซับซ้อนขนาดนี้ รู้ไหมว่าข้าไม่ได้ผ่านมาตั้งแสนปีแล้ว จะจำได้ชัดเจนอย่างไรกัน?
“ข้ารู้สึกเหมือนว่าเราเดินวนหรือเปล่า?” ครั้งหนึ่งในตอนที่ศึกษาวิชาเทเลพอร์ตอยู่ในสถาบันเย่ว์หยางลองเทเลพอร์ตไปเพื่อจีบสาวๆ แต่ก็พบว่าเขาเทเลพอร์ตไปผิดทาง
“อย่างนั้นหรือ? มิติในเส้นทางโบราณดูคล้ายกันหมดมันควรจะคล้ายกันด้วยหรือ?” พี่ใหญ่รู้สึกผิด
“บนหินนี้มีเหรียญทอง เจ้าจะอธิบายอย่างไร? อย่าบอกข้านะว่ายุคโบราณมีคนช่างสงสัยเหมือนอย่างข้า เขาทิ้งเหรียญทองไว้ครึ่งหนึ่ง อย่างนั้นเหรียญทองที่เขาทิ้งไว้ก็เหมือนกับของข้า” เย่ว์หยางหยิบเหรียญทองขึ้นมาทันใดนั้นเขาพบว่าเป็นรูปฮุยไท่หลางกำลังเชิดหัวหอนเห็นได้ชัดว่านี่คือเหรียญของทวีปมังกรทะยานที่ทำเป็นพิเศษเพื่อยกย่องผู้ป้องกันการรุกรานจากแดนสวรรค์หลายครั้งฮุยไท่หลาง หมาป่าปีศาจล้างโลกพยายามปกป้องอยู่หลายครั้ง นี่เป็นเหรียญรุ่นหมาป่าปีศาจล้างโลกซึ่งมีอยู่หลายเหรียญ
“ก็ได้, ข้ายอมรับว่าข้าหลงทางไอ้เส้นทางบ้านี่ข้าไม่ได้ผ่านมาตั้งแสนปีแล้ว ข้าจะจำได้ชัดเจนได้อย่างไร!” ผู้เป็นพี่ใหญ่บางคนพยายามปัดความรับผิดชอบ
“แต่ตอนแรกข้าจำได้ว่าดูเหมือนเจ้าไม่ได้พูดอย่างนั้น” เย่ว์หยางจำได้ว่าสีหน้าของผู้เป็นพี่ใหญ่ตอนนั้นมีความมั่นใจมาก
“ในตอนนั้นข้าพบเส้นทางที่แน่นอนมันไม่ได้ยากสำหรับข้าเลย” มังกรปีศาจหดหู่อย่างมาก
เขาต้องการอวดบารมีต่อหน้าผู้เป็นน้องเล็กซึ่งเขาไม่สามารถเอาชนะได้
ใครกันเล่าที่อยากให้เป็นแบบนี้
เย่ว์หยางพูดไม่ออก
โธ่เอ๋ยพี่ใหญ่นี่มันเรื่องเร่งด่วน เจ้าจริงจังกว่านี้ได้ไหม?
ถ้าทำไม่ได้ก็บอกมาตรงๆเสียตั้งแต่ทีแรกจะได้ช่วยกันคิดหาทางอื่นตอนนี้มาถึงครึ่งทางแต่เจ้าก็ไม่สามารถหาเส้นทางที่ถูกต้องได้รู้ไหมว่าทำร้ายจิตใจคนอื่นแค่ไหน? ในตอนแรกเขาอุตส่าห์รวบรวมความกล้าสนับสนุนพี่ใหญ่ด้วยการให้ความไว้วางใจถึงหนึ่งในสิบ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าทำให้คนอื่นต้องผิดหวังอย่างไร้น้ำใจ พี่ใหญ่ทำกันได้อย่างนี้หรือ?
มังกรปีศาจเงื้อมือตบหน้าผากตนเอง“ให้เวลาข้าบ้าง ดูซิว่าข้าจะต้องจำได้แน่นอน
เย่ว์หยางรู้สึกทันทีว่าอาศัยเจ้าผู้นี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่
เจ้าผู้นี้ในหัวมีแต่กล้ามเนื้อ
ต่อสู้ได้ไม่เลว
แต่เรื่องอื่นไม่มีอะไร
เขาจำได้ว่าสามสาวเทวทูตผู้สร้างผู้ทำลายและผู้นิรันดร์พูดไว้ว่าสถิติการฝึกในคัมภีร์เทพที่นานที่สุดในโลกไร้ที่สิ้นสุดใช้เวลาถึงหนึ่งล้านปีเป็นของเจ้าผู้นี้และสติปัญญาเขาค่อนข้าง ‘สูง’ เลยทีเดียว
“ให้ข้านำทางก็ได้!” ตอนนี้เย่ว์หยางคิดว่าครูของเขาเป็นบัณฑิตที่เก่งกาจในด้านเทเลพอร์ตผ่านมิติปัญหาเดียวก็คือพื้นที่มิติของหอทงเทียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งทวีปมังกรทะยานเทียบไม่ได้กับความซับซ้อนในแดนสวรรค์โดยเฉพาะในเส้นทางโบราณ บางทีในหมู่บ้านเล็กๆในชนบทที่มีเส้นทางสองสามทางอย่างทวีปมังกรทะยาน อาจารย์จิ้งจอกเจ้าเล่ห์สุ่ยตงหลิวอาจเป็นผู้เชี่ยวชาญในปฏิบัติการผ่านมิติแต่หากต้องการนำทฤษฎีของเขามาใช้ที่นี่ซึ่งมีเส้นทางแตกต่างกันนับหมื่นตามรูปแบบของแดนสวรรค์นำมาใช้เข้ากับทฤษฎีของเขายิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการฝึกฝนที่มิอาจล้มเหลวได้ ดูเหมือนจะยากกว่าอยู่บ้าง
“เจ้าจะมานำทางหรือ? ถ้าเจ้าต้องการนำเรากลับไปหาเทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิง ข้าค่อยเรียกใช้เจ้า!” มังกรปีศาจหงุดหงิดไม่พอใจแม้ว่าเขาจะจำตำแหน่งทิศทางไม่ได้ แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าเจ้าเด็กนี่เป็นหมื่นเท่าใช่ไหม?
“แล้วเดินวนกลับมาที่เดิมเล่า?” เย่ว์หยางโบกมืออย่างอ่อนแรง “เจ้าไปเถอะ!”
“อะไรของเจ้า?” มังกรปีศาจถลึงตา
“ข้าจะรออยู่ที่นี่” เย่ว์หยางดึงน่องไก่ออกมาและเริ่มกิน “ยังไงก็ตามเดี๋ยวเจ้าก็วนกลับมาตรงนี้อยู่แล้ว!”
“เจ้ายั่วโมโหข้าเด็กน้อยเจ้าหยิ่งเกินไปแล้ว กล้าดูถูกข้าหรือ? ก็ได้ข้าไม่หวงที่จะให้เจ้าได้เห็นมัน ดูให้ดี!” มังกรปีศาจโมโห และเขาเรียกมังกรแสงบาดาลออกมา
ตอนแรกเขาเขียนเครื่องหมายอักษรรูนพิเศษบนหัวมังกรแสงบาดาล
จากนั้นปล่อยออกไปด้วยความมั่นใจ
มันบินออกไปทันที
ในที่สุดเขาเลิกคิ้วมองดูเย่ว์หยางอย่างมีชัย “เห็นไหม? ข้าพบตำแหน่งเส้นทางที่ถูกต้องแล้วนี่คือมังกรแสงบาดาล มันสามารถข้ามผ่านมิติได้อย่างไม่มีปัญหา”
เย่ว์หยางไม่มีอารมณ์จะโกรธ “เจ้ามีอสูรด้วยหรือ? ทำไมไม่ใช้แต่แรกแต่กลับพยายามอวดความทรงจำทั้งที่เวลาเปลี่ยนไป!”
มังกรปีศาจใช้มือตบไหล่เย่ว์หยางค่อนข้างแรงและพูดอย่างจริงจัง “เจ้ายังเด็กเกินไปที่จะออกกำลังเรี่ยวแรงเช่นเดียวกับข้าที่อยู่ในทุกที่ทุกเวลาข้าไม่ลืมออกพลังกายเปลี่ยนความเครียดให้เป็นแรงจูงใจ เปลี่ยนแรงจูงใจให้เป็นความสามารถเพื่อให้ฝีมือก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง! นอกจากนี้ ข้าไม่ได้ทำผิด ข้าทำเพียงเพื่อให้ศัตรูสับสน ข้าตั้งใจวนไปรอบๆ สองสามรอบเพื่อให้ศัตรูสับสนและจำกัดการไล่ตาม! เจ้าก็เห็นว่าเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงถูกข้าหลอกได้ใช่ไหม? เขาไม่สามารถบอกได้ว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่และข้าก็โยนปัญหานี้ออกไปอย่างง่ายดาย
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นคิดว่าการคุยโม้โอ้อวดนี้คงทำให้แดนสวรรค์แตกแน่
เขาหยุดชะงัก “ดีละ ในเมื่อเราสร้างความสับสนให้ศัตรู และข้าก็อยู่ในเส้นทางแล้วแต่ข้าก็ยังรู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อยว่า เรื่องคงจะไม่ง่าย”
ขณะที่มังกรปีศาจพี่ใหญ่เตรียมโม้น้ำลายแตกฟอง
เตรียมพร้อมจะออกเดินทาง
มังกรแสงบาดาลก็กลับมา
ทิศทางที่เจ้านายและเย่ว์หยางเดินผ่านไปเจ้ามังกรกลับมาอย่างรวดเร็วในตอนนี้
“เกิดอะไรขึ้น?”มังกรปีศาจตะลึง “เราเดินเข้าไปใกล้แดนสวรรค์หรือ?” เฉพาะในสถานที่นั้นเท่านั้นที่ทำให้ผู้คนเดินวนซ้ำเส้นทางได้อย่างไม่สิ้นสุด แต่มันไม่ถูกต้องเราไม่ได้เบี่ยงเบนไปไกลมากขนาดนั้น
“ก่อนที่ข้าจะขาดสติและไม่บีบคอเจ้าให้ตายให้ข้าเป็นคนนำทางเป็นไง” เย่ว์หยางยกมือขึ้น
“เจ้าโง่ข้าถูกแล้ว!” มังกรปีศาจร้องขึ้นทันที
“เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีกหรือ?” เย่ว์หยางคว้าคอเขาเหมือนคนโง่ โง่อย่างนี้ควรรีบตายและไปเกิดใหม่เร็วๆ
“ฟังข้าดีๆ ข้าตั้งใจมาที่นี่จริงๆ” มังกรปีศาจรีบอธิบายว่าเขากำลังหลงและเขาถอนหายใจอธิบายให้เย่ว์หยางฟังอย่างอดทน “เรามาถึงที่นี่ได้ง่ายเพราะอะไร? เส้นทางแดนสวรรค์ เส้นทางที่พวกเทพไม่ยินดีจะผ่านมา อย่ากังวล และฟังข้าเพราะไม่มีใครยินดีจะมา จึงไม่ต้องกลัวอะไร ดังนั้นเราปลอดภัยมาก!”
“ปลอดภัยกะผีน่ะสิ!” เย่ว์หยางตัดสินใจไม่เชื่อคำของเขา
“เดี๋ยวก่อน,มีข้อดีอีกอย่างที่มาถึงที่นี่” มังกรปีศาจกลัวเล็กน้อยเมื่อเห็นผู้น้องทำท่าจะกินเลือดกินเนื้อ “เส้นทางโบราณแดนสวรรค์นี้ไม่มีใครสามารถออกไปได้ ใครก็ตามที่มาถึงและไม่สามารถออกไปได้ก็ไม่มีคนอื่นมาถึงได้เป็นธรรมดา ไม่ต้องกังวล ข้าหมายความว่าข้ามาถูกแล้วเราถึงได้มาถึงที่นี่”
“นี่หรือถูก?” เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังฟังคนบอกว่าพระจันทร์เป็นสี่เหลี่ยมคิดว่าเขาโง่อย่างนั้นหรือ?
“ถูกต้อง!” มังกรปีศาจพูดไม่ทันจบเขาถูกเย่ว์หยางรวบตัวทันที
เย่ว์หยางตั้งใจจะฝังเจ้าผู้นี้ทั้งเป็น
ความตายราคาถูก
บัดซบ!
สถานที่ผีสางแบบนี้ทุกคนจะตายที่นี่และไม่มีวันออกไปได้ ทั้งยังบอกว่ามาถูกแล้ว ถ้าไม่ฝังเขาแล้วยังจะรออะไรอยู่อีก
มังกรปีศาจกลัวจนน้ำตาตกรีบร้องบอกทันที “ข้าจริงจังนะ ข้าไม่ได้พูดความจริงหลายครั้งในชีวิตโธ่เว้ย.. พอจะพูดอะไรที่เป็นความจริงหน่อย เจ้ากลับไม่เชื่อ!”
เย่ว์หยางตั้งหน้าตั้งตาขุดหลุมราวกับว่าไม่ได้ยิน
“มีมหาเทพถูกฝังอยู่ในเส้นทางสวรรค์โบราณแม้ว่าจะไม่ใช่มหาเทพในตำนาน แต่ตอนที่ข้ายังเป็นเด็กเล่นโคลนอยู่เขาก็น่ากลัวอยู่แล้ว” มังกรปีศาจพูดจบเย่ว์หยางหยุดและมองด้วยความสงสัยทันที มังกรปีศาจพบว่าได้ผลเขารีบเสริมต่อทันที มาตรงนี้ เรากำลังมองหาสถานที่นั้นอยู่แล้วปลุกให้เขาช่วยส่งเราออกไป เจ้าดูสิ มันง่ายกว่า!”
“เจ้าแน่ใจนะว่ามหาเทพนั้นถูกเราปลุกขึ้นมาแล้วจะไม่โกรธลุกขึ้นมาตบเราจนเป็นเนื้อแหลกเหลว?” เย่ว์หยางสงสัยความเป็นไปได้อื่น
“เหลวไหล,ไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่นอน!” มังกรปีศาจในตอนใช้ท่าทางกวนโมโหอีก “ข้ากับเขาคล้ายกัน คล้ายกันมากแม้ว่าไม่ใช่พี่น้อง แต่ก็เหมือนสหาย และเป็นสหายที่แสนดี!”
“แน่ใจนะว่าเป็นสหายที่แสนดี?” เย่ว์หยางสงสัยเจ้าโง่ผู้นี้มีสหายในแดนสวรรค์ด้วยหรือ?” เป็นไปไม่ได้เลยตามหลักวิทยาศาสตร์
“เป็นมิตรภาพที่แนบแน่นกล้าแกร่ง!” มังกรปีศาจตบอกรับรอง
“งั้นก็รีบเลย!” เย่ว์หยางถอนหายใจโล่งอกในเมื่อเป็นสหาย ไม่ใช่ศัตรู ต่อให้โกรธก็คงไม่ถึงกับใช้มือยักษ์ตบหน้าเขา
“ดี, เจ้าดูนะข้าจะระเบิดพลังเทพก่อนและลองดูว่าจะปลุกเขาได้ไหม!” มังกรปีศาจทำท่าทางไม่เหมือนกับคนที่จะไปปลุกแต่เหมือนกับคนที่ไปเคาะประตูบ้านเพื่อยั่วยุแก้แค้นมากกว่า เย่ว์หยางมองดูอยู่ข้างๆรู้สึกเยือกเย็นจับใจ หรือว่าเขาสะเพร่าเกินไปหลงเชื่อคำผิดๆ ! ตอนนี้เขาได้แต่หวังว่ามหาเทพนี้จะเป็นสหายมีมิตรภาพที่แนบแน่นกับเขาจริงๆ มิฉะนั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายสุดคาดคิด
เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด
เหมือนกับว่าเป็นความฝันร้ายดูเหมือนเขากำลังหาว
อย่างไรก็ตามมีเสียงงัวเงียดังออกมาจากในที่ว่างเปล่าดังมาถึงโสตประสาทของเย่ว์หยาง “เจ้าอีกแล้ว เจ้าเลิกทำอย่างนี้ได้ไหม?”
เย่ว์หยางกระพริบตาโต “ข้า..ทำไม? ข้าเคยอยู่ที่นี่มาก่อนอย่างนั้นหรือ?”
เสียงงัวเงียดังชัดขึ้นมาอีกเล็กน้อย “ก็พวกเจ้ายังอยู่ในระเบียงทางเดินของข้ามาสามวันแล้วไม่ใช่หรือ? พวกเจ้าเดินวนเวียนอยู่ในบ้านข้าและพวกเจ้าก็หนวกหูกวนใจคนอื่นจะนอน นี่มันมากไปหรือเปล่า? มังกรปีศาจ เจ้าหน้าโง่เจ้าไปหอทงเทียนไม่ใช่หรือ? เจ้ามาทำอะไรที่บ้านข้าผู้เป็นเทพนี่?”
“เรากำลังจะไปหอทงเทียนแต่ตอนนี้เราหลงทาง ท่านช่วยเราหน่อยได้ไหม!” มังกรปีศาจขยิบตาให้เย่ว์หยางทำนองว่า เรื่องแบบนี้ง่ายมาก!
“ม่ายเอา!” มหาเทพที่เพิ่งตื่นปฏิเสธโดยไม่ลังเล
“ท่านทำไม่ได้หรือ?” มังกรปีศาจตะลึง
“เพราะ....เราผู้เป็นเทพไม่สนิทกับเจ้าเท่าใดนัก!” มหาเทพที่เพิ่งตื่นกล่าวหาว่ามังกรปีศาจโกหก
“เจ้าบอกว่าเจ้ากับเขามีมิตรภาพที่แนบแน่นมากไม่ใช่หรือ?” เย่ว์หยางโมโห ถ้าเจ้าไม่คุ้นเคยกับเขา เจ้ากล้าไปปลุกคนอื่น ทั้งยังขอให้ผู้อื่นส่งตนเองออกไป หนังหน้าหนาขนาดนี้ช่างบังอาจจริงๆ!
“ฮ่าฮ่าฮ่าเจ้าคิดว่าเจ้าจะมีมิตรภาพแนบแน่นกับนักโทษที่เพิ่งพบกันเมื่อแสนกว่าปีก่อนและไม่ได้พบหน้ามาเป็นเวลาแสนปีหรือ? แม้จะมีเวลาถึงแสนปี แต่ก็เพียงพอทำให้เหล็กผุกร่อนได้! เมื่อได้เห็นการแบ่งปันและความรู้เข้าใจของพวกเจ้าแล้ว เราผู้เป็นเทพนี้ไม่ถือสาความผิดของพวกเจ้า ไปซะเถอะ!” มหาเทพที่เพิ่งตื่นหลับต่อไป
“ถ้าท่านไม่ส่งเราออกไปเราก็จะต้องเถียงกันส่งเสียงดังที่นี่ตลอดเวลาเสียงดังก็ทำให้ท่านหลับไม่ได้อยู่ดี!” มังกรปีศาจกลั้นหายใจ และแม้ว่าจะไม่มีมิตรภาพที่แน่นแฟ้น นั่นเป็นเรื่องน่าขำหรือ? ข้ายังคิดถึงเจ้าได้เลยหลังจากที่เวลาผ่านไปถึงแสนปี
“.....” เย่ว์หยางพูดไม่ออกนี่เขาทำตัวเหมือนพี่ใหญ่หรือเปล่า? ดูแล้วคล้ายอันธพาลมากกว่า!
“ก็ได้เพื่อจะได้นอนหลับอย่างสบายใจ เราผู้เป็นเทพจะส่งเจ้าให้ก็ได้!” มหาเทพผู้ตื่นขึ้นรู้สึกจนใจ เขามีความรู้สึกเช่นเดียวกับเย่ว์หยางถ้าเปลี่ยนเป็นเย่ว์หยาง เขาคงไม่ยอมรับเจ้าขี้โกงนี่เป็นสหาย ทั้งยังคุยโอ้อวดว่ามีมิตรภาพแนบแน่น
“เราไม่ต้องการกลับไปทางหอทงเทียนอาจจะพบกับเทียนอี้รออยู่ มันไม่ปลอดภัย ช่วยส่งเราไปที่ประตูชะตาที!” มังกรปีศาจร้องขอเงื่อนไข
“ยุ่งยากวุ่นวายจริงโว้ยพับผ่า!” มหาเทพที่เพิ่งตื่นยื่นมือขนาดมหึมาออกมาจากความว่างเปล่าและกวาดกดไปทางมังกรปีศาจและเย่ว์หยาง “แต่เราผู้เป็นเทพนี้รู้สึกได้ว่าพวกเจ้าไปไหนก็ไม่มีประโยชน์และแม้ว่าพวกเจ้าจะเข้าประตูแห่งชะตา พวกเจ้าจะยิ่งอันตรายมากขึ้นไปอีกเพราะโลกแห่งแกนสมดุลโลก อยู่ในระหว่างการเผชิญหน้านั่นเป็นชะตากรรมที่คนรุ่นอาวุโสได้ก่อไว้ข้างใน มันยังไม่จบสิ้น เว้นแต่ชะตากรรมจะสิ้นสลายไป ภูเขาจะทลายทะเลมรณะจะระเหยเหือดแห้งไป โชคชะตาเจ้าไม่ได้อยู่ในเงื้อมมือเจ้าทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ปัญหาด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญของเจ้า...”
“ขอผู้อาวุโสช่วยคลี่คลายความสงสัยของข้าด้วย” เย่ว์หยางมีเวลาแค่พูดประโยคนี้และเขารู้สึกว่าโลกหมุนติ้ว เขาถูกเทเลพอร์ตออกไปไกลหลายพันล้านกิโลเมตรทันที
ในความคิดของเขา
คลุมเครือ
มีร่องรอยบ่งชี้ว่าสิ่งที่เทพแสดงนั้นอาจมีอยู่จริงหรือไม่จริงบูชายัญ
เมื่อเย่ว์หยางตื่นขึ้นเขาพบว่าตนเองมายืนอยู่ข้างหน้าประตูเทพยักษ์สูงสามแสนเมตร กว้างสองแสนเมตร
มังกรปีศาจที่ยืนอยู่ด้านข้างปรบมือดีใจ “โอว, เป็นที่นี่เอง สถานที่เราตามหาอยู่มันอยู่ที่นี่เอง! เป็นยังไงบ้างเจ้าเด็กน้อย ประตูชะตายุคโบราณถึงกับทำให้เจ้าตกใจเลยใช่ไหม? ไม่เป็นไร เมื่อมีพี่ใหญ่อย่างข้าคุ้มกันรับประกันความปลอดภัยของเจ้าได้ ทุกอย่างจะราบรื่น!”
เย่ว์หยางควงค้อนยักษ์อยู่ข้างหลังเขาเงียบๆ เขายิ้มและถามอย่างเยือกเย็น “มหาเทพที่เพิ่งส่งเรามาที่นี่คือใคร?”
“เขาคือเกิ้นกู่เป็นเทพพิทักษ์แดนสวรรค์ ข้าไม่รู้ว่าเขามีอายุอยู่มานานแค่ไหนแล้วคาดว่าคงหลายแสนปี เป็นเทพที่ประหลาดและเฉื่อยชาไม่ค่อยอยากทำอะไรเลย งานถนัดที่สุดของเขาก็คือนอนหลับ!” มังกรปีศาจในตอนนี้กล่าวด้วยความยินดี “เด็กน้อย ข้าจะบอกอะไรเจ้า ข้ารู้จักเขามามากกว่าหมื่นปีแล้ว และข้าก็มีมิตรภาพที่ดีกับเขา ถ้าเจ้าไม่พบเจอข้าเขาจะส่งเรามาที่นี่หรือ? อย่างไรก็ตามคนผู้นี้นับวันชอบทำตัวเหมือนเด็กมากขึ้นเรื่อยๆ เขาชอบกลั่นแกล้งคน และนิสัยตลกมาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าข้ากับเขามีมิตรภาพที่ดีต่อกันจริงๆ ... เจ้าทำไมทำท่าอย่างนั้น? อย่าหาเรื่องข้า ไม่เอาๆ ข้ารู้จักเขาจริงๆ”
**** **** ****