บทที่ 80 : ปัญหาของหลิงซาน!
บทที่ 80 : ปัญหาของหลิงซาน!
ณ คฤหาสน์ของโคโมร่า
หง เสี่ยวตง มองดูซากปรักหักพังของคฤหาสน์เบื้องหน้าเขา ศพของนักรบชาวตะวันตกหลายคน รอยการต่อสู้และเลือดในคฤหาสน์…… ทุกสทุกสิ่งทุกอย่างทำให้สมองของเขาปวดร้าว
การที่จะสามารถซื้อคฤหาสน์ในเมืองกวางตุ้งได้เช่นนี้ เเสดงให้เห็นว่าสถานะและภูมิหลังของคนเหล่านี้น่าจะน่าทึ่งมาก……. เเต่ตอนนี้กลับเกิดการฆาตกรรมร้ายแรงขึ้นที่นี่
“คุณรู้ไหมว่ามีคนตายที่นี่กี่คน”
หวง เสี่ยวตง ถาม หลิวฮัว ผู้ช่วยมือขวาของเขา
“การยืนยันเบื้องต้น มีคนตายที่นี่ทั้งหมด 13 ศพ, แต่เหลืออยู่แค่ 3 ศพ…... อีก 10 ศพตายแบบไม่เหลือซาก”
"ยิ่งไปกว่านั้น ศพทั้งสามนี้...ล้วนเป็นซากศพของนักรบขั้นพิเศษระดับสูง" หลิวฮัวกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเครือ
รูม่านตาของ หงเสี่ยวตงก็หดตัวลงเล็กน้อยเช่นกัน "เเล้วตัวตนของพวกเขาล่ะ?"
"หัวหน้า……. คราวนี้อาจมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น คนสองคนที่อาศัยอยู่ที่นี่เมื่อเร็วๆ นี้ เป็นชาวตะวันตกอายุน้อยสองคน"
"คนหนึ่งชื่อโคโมรา-เอิรนส์ ซึ่งมาจากตระกูลเอิร์นส์ 'ห้าราชา' ที่มีชื่อเสียงทางตะวันตก"
"สำหรับอีก 11 คนที่เหลือนั้น เรายังหาที่มาของพวกเขาไม่ได้..." หลิวฮัวกล่าวด้วยความท้อใจ
“เราไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ รายงานเรื่องนี้ไปยังสำนักงานบังคับใช้กฎหมาย!”
จากนั้นหงเสี่ยวตกก็โทรออกทันที
เเละในไม่ช้ากลุ่มนักรบติดอาวุธก็เข้ามาทำงานแทนที่หงเสี่ยวตงและคนอื่นๆ
เเละเป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีความลับในโลก……ข่าวการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นที่นี่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปยังกองกำลังหลักและตระกูลใหญ่ในเมืองฐานกวางตุ้ง
หลายคนตกใจมากเมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของโคโมราเอิร์นส์และลอเรน เมดิชิ
เเละพวกเขารู้ว่าพายุกำลังจะมา
ตระกูลเอิรนส์ และตระกูลเมดิชิ ต่างก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในฝั่งตะวันตก และพวกเขาจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอน
"โคโมราเอิรนส์และลอเรนเมดิชิเสียชีวิตอย่างกะทันหัน……..เรื่องนี้มันจะเกี่ยวข้องกับเขาหรือเปล่านะ"
เมื่อหยางเจิ้นเจินได้ยินข่าวเรื่องนี้เธอก็นึกถึงชูโจวในทันที……. สัญชาตญาณบอกเธอว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับชูโจว, เเต่ปัญหาคือมันไม่สมเหตุสมผลสึกมากนัก
เพราะเธอได้ข่าวมาว่านอกจากโคโมรา เอิรนส์และลอเรนเมดิชิแล้ว ยังมีนักรบชาวตะวันตกอีกสิบเอ็ดคนที่เสียชีวิตที่นั่น
เเละตัวตนของนักรบชาวตะวันตกทั้งสิบเอ็ดคนนี้ได้รับการตรวจสอบโดยสำนักงานบังคับใช้กฎหมายเเล้ว
เเละผลลัพธ์ที่ออกมานั้นน่าทึ่งมาก
นักรบชาวตะวันตกทั้งสิบเอ็ดคนล้วนเป็นนักรบขั้นพิเศษระดับสูงและมากกว่าครึ่งของพวกเขาได้ถึงขีดจำกัดของระดับพิเศษเเล้ว
เธอรู้ว่าชูโจวนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังเเบบนี้, ชูโจวก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตายเท่านั้น!
เป็นเรื่องบังเอิญเช่นกัน เมื่อตงฟางหมิงจูได้ยินข่าวการเสียชีวิตของโคโมรา เอิรนส์และลอเรนเมดิชิ…… ชูโจวก็เป็นคนแรกที่เธอนึกถึงเช่นกัน
เพราะในช่วงบ่าย โคโมราเอิรนส์, ลอเรนเมดิชิ และชูโจวมีเรื่องขัดแย้งกันในโคลอสเซียมโกคู
"เเต่คนตายในคฤหาสน์ ยังมีนักรบขั้นพิเศษอีกสิบเอ็ดคน…...ถ้ามองจากมุมนี้ คนที่ทำได้มันก็ไม่ควรขะเป็นชูโจว..."
… …..
ด้านชูโจว เขากลับมาที่โรงแรมหัวฟู่ด้วยท่าทางสงบ
เขาไม่กลัวการตรวจสอบ…. เพราะเป็นโคโมรา-เอิรนส์และคนอื่นๆ ที่โจมตีเขาก่อน แม้ว่าเขาจะฆ่าโคโมรา-เอิรนส์และคนอื่นๆ ทั้งหมด แต่มันก็ยังถือว่าเป็น "การป้องกันตัวที่สมเหตุสมผล" ตามกฎของฝ่ายพันธมิตร
อย่างไรก็ตาม เขายังคงจำเป็นต้องโทรหาเฉินปาโจวเพื่อเเจ้งข้อมูล
“ชูโจว?”
“ผู้อำนวยการเฉิน มีบางอย่างเกิดขึ้นกับฉัน...”
จากนั้นชูโจวก็อธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เฉินปาโจวรับข้อมูลด้วยอาการตกตะลึง
หลังจากนั้นเขาไม่ได้ตอบกลับชูโจวในทันที แต่โทรหาสำนักบังคับใช้กฎหมายเพื่อถ้าข้อมูลเเละไม่นานเขาก็ได้ทราบรายละเอียด
“นอกจากโคโมราเอิรนส์และลอเรนเมดิชิแล้ว มีนักรับขั้นพิเศษระดับสูงอีก 11 คนถูกสังหาร….. รวมถึงนักรบพลจิตอีกด้วย”
เฉินปาโจวอยู่ในภวังค์ เขาสงสัยว่าเขาได้ยินข้อมูลผิดไปหรือไม่
เขาจำได้ว่า ชูโจวพึ่งได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรบขั้นพิเศษเมื่อวานนี้เองนะ
ตอนที่เขาเพิ่งได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรลขั้นพิเศษ…..เขาสามารถฆ่านักรบขั้นพิเศษคนอื่นๆอย่างง่ายดายเเบบนี้ได้ใหม?
……..
“ไม่ ฉันอ่านเขาผิด!”
“ชูโจว เขาไม่ใช่เเค่อัจฉริยะระดับท็อป!”
"เเต่เขาคือความเย่อหยิ่งที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริง เฉกเช่น ดราก้อน, ธอร์ และอาปาซา"
“ถ้าให้เวลาเขามากพอ เขาอาจจะกลายเป็น 'ดราก้อน' คนต่อไปก็ได้”
ในตอนนี้เฉินปาโจวจะเริ่ทให้ความสำคัญกับชูโจวอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
เเต่เมื่อนึกถึงโคโมรา-เอินส์และคนอื่นๆ ที่ต้องการซุ่มโจมตีชูโจว เขาก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่พักหนึ่ง….. หากโคโมรา-เอิร์นส์และพรรคพวกทำสำเร็จ โรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กของเขาก็จะสูญเสียกำลังรบที่เเข็งเเกร่งที่สุดไป……. หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติทั้งมวลเลยก็ว่าได้……. เเต่โชคยังดีที่สุดท้ายเเล้วชูโจวยังคงปลอดภัย
“ชูโจว คุณยังมีอะไรต้องบอกฉันอีกไหม” เฉินปาโจวถาม
"ช่วงนี้ไม่เรื่องอื่นเเล้ว…….. จะมีก็เเค่, บ่ายวันนี้ฉันได้รับชัยชนะติดต่อกัน 50 ครั้งในการต่อสู้ระดับพิเศษของโกคัโคลอสเซียม….. เรื่องนี้ต้องบอกคุณด้วยใหม?"
ในนาฬิกาสื่อสาร เสียงที่ไม่แยแสของชูโจวเปล่งออกมา และเฉินปาโจวก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
เด็กบ้า!
นักรบขั้นพิเศษอที่ชนะ 50 ครัติดต่อกันด้วยอายุเท่านี้อาจจะทำลายสถิติของโกคูโคลอสเซียมด้วยซ้ำ…… เเล้วมาพูดอย่างเฉยเมยเเบบนี้ได้ยังไง!
ผู้อำนวยการเฉินปาโจวหายใจเข้าลึก ๆ แล้วโทรออกอีกครั้ง
คนที่อยู่ปลายสายของโทรศัพท์หลังจากฟังเรื่องราวของชูโจว, เขาก็เงียบไปสักพัก แล้วตอบกลับมาว่า
"จงฝึกฝนชูโจวด้วยกำลังทั้งหมดของเรา……..หรับปัญหาที่เขาพบ ให้เขาจัดการด้วยตัวเองก่อน ถ้าเขาทำไม่ได้ เราถึงจะเข้าไปช่วย"
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เฉินปาโจวรู้สึกโล่งใจ และกลับมาตอบชูโจวสามคำ
"คุณสบายใจกับเรื่องนี้ได้เเล้ว!"
ชูโจวได้รับคำตอบจากเฉินปาโจวก็ยิ้มและยุติการติดต่อไป
……..
"ฉันใช้เงินไป 600 ล้านเหรียญในการซื้อสารอาหารเสริมพันธุกรรมขั้นสูง 60 ขวด,......เเต่หลังจากการจัดการกับสองคนนั้นฉันได้รับเงินมา 900 ล้านเหรียญ…….. อืม ฉันทำรายได้เพิ่มมา 300 ล้านเหรียญ ไม่เลว ไม่เลว!"
จากนั้นเขานอนลงบนเตียง นึกถึงประสบการณ์ในวันนี้เเละมันมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น…….. ฉันไปพบเฉินปาโจวในตอนเช้า, ไปเยี่ยมหลิวเฉียนๆตอนเที่ยง, ต่อสู้ชนะ 50 ครั้งในตอนบ่าย, พบกับหยวนปิงเหม่ยในตอนเย็น……. แล้วสุดท้ายไปฆ่าโคโมร่าและคนอื่นๆในตอนดึก
ช่างเป็นวันที่วุ่นวายจริงๆ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ชูโจวก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยและหลับลงไปในไม่ช้า
เเละในขณะที่ชูโจวกำลังนอนหลับ, ข่าวการชนะ 50 ครั้งของเขาในโกคูโคลอสเซียมและการสังหารหมู่ในคฤหาสน์ของโคโมร่าก็กระจายไปอย่างรวดเร็วในเมืองฐานกวางตุ้ง
...
วันต่อมา!
อาจเป็นเพราะเมื่อวานเขาเหนื่อยเกินไป ชูโจวจึงหลับลึกจนถึงเที่ยงก่อนจะค่อย ๆ ตื่นขึ้น
"ปัง ปัง ปัง..." ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นทันที
"กัปตันเปิดประตูหน่อย….. หลิงซาน และฉันมาแล้ว" เสียงของซีเหมิงดังขึ้น
“มาเร็วเเฮะ” ชูโจวผงะไปชั่วขณะ จากนั้นก็ลุกขึ้นไปเปิดประตู
ซีเหมิงรีวเข้าไปในห้องทันที ส่วนหลิงซานเดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ
อย่างไรก็ตาม ชูโจวสังเกตเห็นว่าหลิงซานดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติกับเขา
“หลิงซาน นายโอเคไหม!” ชูโจวถามอย่างเป็นห่วง
“ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาในวันนี้ เหมือนกัน…. ตั้งแต่เขามาถึงเมืองฐานกวางตุ้ง คิ้วของเขาก็เหี่ยวย่น ราวกับว่าทุกคนเป็นหนี้เขาหลายร้อยล้าน”
ก่อนที่หลิงซานจะทันได้ตอบ ซีเหมิงก็ตะโกนออกมาเเทน เเละสิ่งนี้ทำให้ชูโจวกังวลมากยิ่งขึ้น
"ไม่ต้องห่วง ฉันสบายดี" หลิงซานตอบเเละยิ้มอย่างไม่เต็มใจให้ชูโจว
ชูโจวแน่ใจว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหลิงซาน….. เเต่อีกฝ่ายไม่อยากพูด มันจึงไม่ง่ายเลยที่เขาจะถาม
"หัวหน้า เมื่อไหร่เราจะได้สัมผัสสระว่ายน้ำไร้ขอบบนดาดฟ้า? ฉันยังไม่เคยสัมผัสเลย!"
ตั้งแต่เห็น ชูโจวเพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำไร้ขอบเมื่อคืนนี้ ซีเหมิงก็หมกมุ่นอยู่กับมันมาก
ชูโจวมองดูเวลา เเละมันเกือบ 11 โมงแล้ว เขาจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนเถอะ"
ชูโจวล้างตัวและไปที่ร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวันกับหลิงซานและซีเหมิง
เเละหลังจากรับประทานอาหารไม่นาน พวกเขาขอให้พนักงานส่งชุดว่ายน้ำให้, จากนั้นจึงตรงไปที่สระว่ายน้ำไร้ขอบบนดาดฟ้า
"จุ๊จุ๊ สวนลอยฟ้า สระว่ายน้ำไร้ขอบ...ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ!"
ซีเหมิงมองไปที่สวนลอยฟ้าที่เต็มไปด้วยต้นมะพร้าว และสระว่ายน้ำไร้ขอบขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวงามหลายคนที่กำลังเล่นอยู่ในสระ ถอนหายใจแล้วกระโดดลงไปในสระพร้อมกับเสียงพึมพำ
ผู้ชายคนนี้ยังคงเป็นเด็กหนุ่ม…. หลังจากลงสระว่ายน้ำ เขาก็ว่ายตรงไปหาสาวงามหลายคนที่กำลังเล่นอยู่ และกลายเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเธออย่างรวดเร็ว
หลิงซานลงมาในสระว่ายน้ำด้วย, อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาลงสระ เขาก็เอนกายลงบนขอบสระโดยตรง มองไปที่เมืองด้านล่างโดยไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ส่วนชูโจวไปนั่งที่เก้าอี้ชายหาดและล้มตัวลงนอน
“ดีดี้...”
ทันใดนั้นนาฬิกาสื่อสารก็ดังขึ้น
ชูโจวเคาะนาฬิกาและภาพสามมิติของตงฟางหมิงจูก็ปรากฏขึ้นในอากาศ
“ชูโจว โคโมร่าและลอเรนถูกสังหารเมื่อคืนนี้ คุณได้ยินข่าวนี้ไหม”
"หืมม……พวกเขาถูกฆ่า?" ชูโจวพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ"
ตงฟางหมิงจูมองไปที่ ชูโจวอย่างสงสัย แต่เมื่อเธอไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไร เธอจึงตัดสินใจมาถามเขาอีกทีเเบบตัวต่อตัว
"งั้นก็ไม่เป็นไร" จากนั้นตงฟางหมิงจูก็วางสาย
เเละหลังจากนั้นไม่นาน หยางเจิ้นเจินก็โทรมาอีกคน
“ชูโจว คุณเป็นคนฆ่าโคโมร่าและลอเรนหรือเปล่า” หยางเจิ้นเจินกล่าวถาม
ชูโจวยิ้มไม่ตอบรับหรือปฏิเสธและพูดว่า "คุณคิดว่ามันเป็นไปได้ไหม?"
หยางเจิ้นเจิน มองชูโจวด้วยสายตาว่างเปล่า….. ถ้าเธอรู้, ทำไมเธอยังจะถามเขาอีก?
จากนั้นท่าทางของหยางเจิ้นเจินก็กลายเป็นจริงจังในทันที และกล่าวว่า
"คนจากตระกูลเอิรนส์และตระกูลเมดิชิได้มาถึงเมืองฐานกวางตุ้งของเราแล้ว"
"เเละเมื่อวานนี้ในโคลอสเซียม มีผู้คนมากมายเห็นโคโมร่าและลอเรนมีปากเสียงกับคุณ..."
“ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นฆาตกรหรือไม่……. ทั้งสองตระกูลนี้จะไม่มีวันปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย…..คุณก็ระวังตัวไว้หน่อยนะ”
“ขอบคุณที่เตือนฉัน” ชูโจวตอบด้วยความขอบคุณเเละกดวางสายไป
“คนจากตระกูลเอิรนส์และตระกูลเมดิชิงั้นหรอ…… ฉันแค่หวังว่าพวกเขาจะมีเงินมากซักหน่อยนะ”
ชูโจววางเเผนการหารายได้ในใจ…..เเต่แน่นอนว่าเขาไม่หยิ่งผยอง
ในตอนนี้เขากำลังจะรอเวลาที่จะสามารถฉีดสารอาหารเสริมพันธุกรรมขั้นสูงที่เหลืออีก 30 ขวดเพื่อทำการปรับปรุงความเเข็งเเกร่งอีกระลอกหนึ่ง
……
"จุ๊จุ๊ นี่มันหลิงซานพี่ชายที่แสนดีของฉันไม่ใช่เหรอ" ทันใดนั้นเสียงขี้เล่นก็ดังมาถึงหูของชูโจว
ชูโจวผงะไปครู่หนึ่งและเงยหน้าขึ้นมองทันที
เขาเห็นเด็กชายและเด็กหญิงอายุสิบห้าหรือสิบหกปีจำนวน 5 คนที่สวมเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ยืนอยู่ข้างสระน้ำ
ในหมู่พวกเขา มีเด็กชายหนึ่งคนที่ดูคล้ายกับหลิงซานเเละกำลังมองดูหลิงซานที่กำลังแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำด้วยใบหน้าขี้เล่น
เมื่อเทียบกับหลิงซานซึ่งมีนิสัยนิ่งสงบเเล้ว……. ชายหนุ่มคนนี้ที่ดูเหมือนหลิงซานเวอร์ชั่นสนุกสนานเลย
"หลิงจือ เขาเป็นพี่ชายของคุณหรือเปล่า….. เเต่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าคุณมีพี่ชาย!"
เด็กชายและเด็กหญิงอีกสี่คนถามเด็กชายที่ดูเหมือนหลิงซานอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอก….. มันเป็นเพียงเมล็ดพันธุ์ที่ชั่วร้ายของพ่อของฉัน” ชายหนุ่มที่คล้ายกับหลิงซานกล่าวเบาๆ
"อ้อ…… เมื่อคุณพูดแบบนั้น ฉันก็นึกถึงข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลหลิงของคุณ" สาวทันสมัยคนหนึ่งกล่าว
"พ่อของคุณ... ดูเหมือนจะมีผู้หญิงคนหนึ่งก่อนที่จะแต่งงานกับแม่ของคุณ……. เป็นไปได้ไหมว่าหลิงซานเกิดจากผู้หญิงคนนั้น"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น, ชายหนุ่มที่ดูเหมือนกับหลิงซานก็พูดตอบอย่างเย็นชา
"ใช่เเล้ว, มันเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ชั่วร้ายของนังนั่น"
"ตูม!!"
หลิงซานซึ่งกำลังแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำ จู่ๆ ก็ระเบิดพลังออกมาอย่างรุนแรงและลมหายใจที่เฉียบขาดก็พัดออกมาจากเขา
สายตาของเขาในตอนนี้เย็นชาราวกับน้ำแข็งและหิมะ
“หลิงจือ เเกอยากตายใช่ไหม” หลิงซานกล่าวอย่างเย็นชา
“ฮ่าฮ่าฮ่า หลิงซาน เจ้าต้องการฆ่าข้าหรือ?” หลิงจือหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่หลิงซานอย่างเย็นชา
"นังนั่นพาเเกออกไปจากเมืองกวางตุ้งในตอนนั้น ทำให้เเกรอดมาได้โดยไม่เป็นอันตราย"
“ไม่คงจะไม่เป็นไรถ้าเเกไม่กลับไปที่เมืองฐานกวางตุ้ง แต่เเกกลับยังกล้าที่จะปรากฏตัวในเมืองนี้…..เเกกำลังขอความตายให้ตัวเอง”
“ดีเลย…… มันเป็นเรื่องน่าขายหน้าสำหรับตระกูลหลิงของเราที่ปล่อยให้คนเเบบเเกมีชีวิตอยู่, เเกกลับมาคราวนี้ก็ไม่ต้องหวังว่าจะได้กลับไป”
……
“ไอ้เด็กเวร……. น้ำเสียงช่างน่ารำคาญเหลือเกิน…. ให้ฉันสอนวิธีการพูดกับผู้ใหญ่ให้เเกหน่อยนะ” ทันใดนั้นเสียงคำรามอันดังสนั่นเเละร่างกายที่กำยำแข็งแรงก็ปรากฏขึ้นจากสระว่ายน้ำ
เขาคือซีเหมิง!
เขาได้ยินการสนทนาระหว่างหลิงจือและหลิงซานมาสักพักเเล้ว
เเละหลิงซานเป็นเพื่อนที่ดีของเขามาหลายปี……ดังนั้นเขาจะปล่อยให้หลิงจือทำให้หลิงซานอับอายเช่นนี้ต่อไปได้อย่างไร?
ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจภูมิหลังของหลิงจือเเละต่อยหนักไปที่เด็กคนนี้โดยตรง
อย่างไรก็ตาม กำปั้นของซีเหมิงกลับถูกสาวทันสมัยที่พูดเมื่อกี้ขวางไว้ได้
“คนเถื่อนมาจากไหน เเถมเขายังแข็งแกร่งมาก” หลังจากรับหมัดของซีเหมิง, สาวทันสมัยพบว่าฝ่ามือของเธอเจ็บปวดเล็กน้อย…… พลังของหมัดของคนๆ นี้ร้ายกาจกว่าที่เธอนจินตนาการไว้
ด้านซีเหมิงก็ตกใจเช่นกัน, สาวทันสมัยที่อยู่ตรงหน้าเขา, น่าจะมีอายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปีหรือสองปีเเต่กลับสามารถป้องกันกำปั้นของเขาได้……. เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นนักรบผู้ปลุกพลัง และความแข็งแกร่งของเธอก็ไม่ได้อ่อนแอ
นักรบผู้ปลุกพลังอายุน้อยเช่นนี้ต้องเป็นสัตว์ประหลาดอัจฉริยะของเมืองกวางตุ้งอย่างแน่นอน
“ฮิฮิ….. เเกมีคนช่วยด้วยเเฮะ”
หลิงจือมองไปที่ซีเหมิง, ยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นหันศีรษะของเขาไปพูดกับชายหนุ่มสี่คนที่เหลือ
"ทุกคน, ถ้าช่วยฉันกำจัดเมล็ดพันธุ์ที่ชั่วร้ายนี้ในวันนี้ ตระกูลหลิงของฉันจะเป็นหนี้บุญคุณพวกคุณ และจะตอบเเทนพวกคุณครั้งใหญ่ในภายภาคหน้า"
ดวงตาของชายหนุ่มทั้งสี่เป็นประกายเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของหลิงจือ
แม้ว่าตระกูลหลิงจะไม่ใช่ราชวงศ์หรือตระกูลมหาเศรษฐี, แต่ก็ยังเป็นตระกูลเก่าแก่ในเมืองฐานกวางตุ้ง และไม่ควรประเมินความแข็งแกร่งของตระกูลนี้ต่ำเกินไป
ดังนั้นหากสามารถทำให้ตระกูลหลิงเป็นหนี้บุญคุณกับพวกเขาได้ในวันนี้……. นี่ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือดูเหมือนว่าการจะเอาชนะ หลิงซาน และ ซีเหมิง นี้ไม่ใช่เรื่องยาก
ฝั่งหนึ่งมีนักรบผู้ปลุกพลังแล้วสองคน แต่ฝั่งพวกเรามีนักรบผู้ปลุกพลังเเล้วถึงห้าคน……. ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังมั่นใจอีกว่าเทคนิคการหายใจ ทักษะการต่อสู้, ที่พวกเขาเชี่ยวชาญนั้นล้วนดีกว่าของหลิงซานและซีเหมิง
“ฉันไม่รู้ว่าพวกหัวรุนแรงนี่มาจากไหน แต่พวกมันกล้าแสดงท่าทีทะนงตนในเมืองฐานของเรา…..หลิงจือเราจะช่วยคุณกำจัดพวกมัน”
ซูเผิง, ฮั่นจุนตู, ซุนเหวิน, เฉินหงคุน, ตอบสนองต่อคำขอของหลิงจือ, โดยปลดปล่อยพลังดั้งเดิมของพวกเขาออกมา
ใบหน้าของ ซีเหมิง เปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขาไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มและหญิงสาวเหล่านี้จะเป็นนักรบผู้ปลุกพลังทุกคน เเถมพลังของพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ
ในกรณีนี้พวกเขากำลังเจอปัญหา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาทั้งสองคนมองเห็นว่า ชูโจว ลุกขึ้นจากเก้าอี้ชายหาด…… สีหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ
เมื่อกัปตันลงมือ, ไม่ว่าพวกมันจะมามากแค่ไหน, ก็จะถูกระงับทั้งหมด
ตูมมมมมม!
เด็กชายและเด็กหญิงทั้งห้าคนถูก ชูโจว ปราบปรามลงในทันทีที่ชูโจวปลดปล่อยพลังออกมา
เเละแทบจะในทันที พวกเขาทั้งหมดก็ถูกกระแทกอย่างแรงด้วยพลังที่มองไม่เห็น……. นอนกองอยู่บนพื้นเหมือนหมาที่ตายไปเเล้ว เเละร่างกายกระตุกด้วยความเจ็บปวด
นอกจากนี้ ชูโจวยังเดินไปเหยียบที่หน้าอกของ หลิงจือและบดขยี้มันอย่างรุนแรง
"อั่คค…"
หลิงจือกระอักเลือดออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นเเค่กลุ่มเด็กเหลือขอ…… กลับกล้าที่จะทำเป็นก้าวร้าวต่อหน้าพวกเรา, ตอนนี้กัปตันของเราเคลื่อนไหวแล้ว, พวกเเกก็หมดสิทธิ์ต่อต้านเเล้ว”
ซีเหมิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และมองเด็กชายและเด็กหญิงทั้งห้าบนพื้นอย่างสนุกสนาน
"ใครกัน?"
หลิงจือและคนอื่นๆ เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจและทันทีที่เห็นรูปลักษณ์ของชูโจวพวกเขาก็ตกตะลึงทันที
"คนๆนี้ดูคุ้นเคยเล็กน้อย!"
พวกเขารู้สึกว่าคุ้นหน้าชูโจวมากราวกับว่าพวกเขาเคยเห็นเค้ามาก่อน
"เเก…….เเกเป็นใคร? กล้าดียังไงมาหาทำร้ายฉัน? ตระกูลหลิงของฉันจะไม่ปล่อยคุณไปอย่างเเน่นอน!"
หลิงจือที่ถูกเท้าของชูโจวทับอยู่ตลอดเวลาและรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก เเต่เขาก็ยังพยายามตะโกนใส่ชูโจวอย่างขมขื่น
“หลิงซาน ให้ฉันกำจัดมันให้ใหม?”
ชูโจวพูดกับหลิงซานอย่างเฉยเมย….. เเต่พวกของหลจือกลับรู้สึกชาที่หนังศีรษะ
คนๆนี้เหี้ยมโหดเกินไปใหม?
การเปิดปากคำเเรกของเขาคือการจะฆ่าหลิงจือ?
เขาไม่รู้หรอว่า, หลิงจือเป็นลูกชายสุดที่รักของหัวหน้าตระกูลหลิง
ถ้าฆ่าหลิงจือ, คุณไม่กลัวการแก้แค้นจากตระกูลหลิงหรอ?
ด้านหลิงจือก็ตกตะลึงจนตัวแข็ง, ถ้า ชูโจวต้องการสังหารเขา, ชีวิตของเขาก็จะจบลงที่นี่……. เเละไม่ว่าตระกูลหลิงจะตอบโต้ชูโจวอย่างไร ก็ไม่มีความหมายสำหรับเขาอีกแล้ว
หลิงซานที่ได้ยินคำนี้ก็มองไปที่หลิงจืออย่างลึกซึ้ง แล้วพูดกับชูโจวว่า
"ปล่อยเขาไป, ฉันจะจัดการเขาเองในอนาคต"
"ตกลง"
ชูโจวเข้าใจว่าหลิงซานต้องการจัดการเรื่องของตระกูลหลิงด้วยตัวเอง เเละเขาก็เคารพความคิดเห็นหลิงซาน ดังนั้นเขาจึงปล่อยเท้าที่กดหลิงจือออก
หลิงจือและคนอื่นๆ รีบลุกขึ้นเเละหันกลับมามอที่ชูโจวด้วยความกลัว และเตรียมจะจากไปโดยไม่กล้าแม้แต่จะกล่าวถ้อยคำที่รุนแรง
ในขณะนั้นเอง ตงฟางหมิงจู และ หยางเจิ้นเจิน ก็เดินมาพร้อมๆกัน
"หลิงจือ ซูเผิง ฮั่นจุนตู ซุนเหวิน เฉินหงคุน พวกเธอมาทำอะไรที่นี่"
ตงฟางหมิงจูขมวดคิ้วเมื่อเห็นเลือดที่มุมปากของ หลิงจือ และคนอื่นๆที่ดูยุ่งเหยิง
เมื่อเห็นตงฟางหมิงจู และ หยางเจิ้นเจิน หลิงจือเเละคนอื่นๆก็ทำราวกับว่าพวกเขาได้พบกับผู้ช่วยชีวิตเเล้ว
“พี่สาวหมิงจู พี่สาวเจิ้นเจิน……. คนๆนั้นอยู่ๆก็มาทำร้ายพวกเรา” สาวทันสมัยชี้ไปที่ร่างของชูโจว
“ชูโจวทำร้ายพวกคุณหรอ” ตงฟางหมิงจูผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปที่หลิงจือทั้งห้าอย่างไม่พอใจ
"ชูโจวเป็นแขกผู้มีเกียรติของฉัน ทำไมพวกเธอถึงไปทำให้เขาขุ่นเคืองใจ"
“ชูโจวปล่อยพวกคุณออกไป รู้ใหมว่าพวกเธอโชคดีเเค่ใหนเเล้ว”
“อย่างไรก็ตาม นี่คือสถานที่ของฉัน เเละพวกเธอทำให้แขกผู้มีเกียรติของฉันไม่พอใจ, ฉันละเลยเรื่องนี้ไม่ได้”
"เห็นเเก่ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังพวกเธอ, ฉันจะยกโทษให้สักครั้ง แต่ในอนาคต พวกเธอห้ามเข้าโรงแรมหงฟู่อีกเด็ดขาด……...ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันหยาบคาย"
ตงฟางหมิงจูพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด, จากนั้นเดินไปหาชูโจวด้วยรอยยิ้ม
ส่วนหยางเจิ้นเจิน, ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอเพียงแค่เหลือบมองหลิงจือและคนอื่นๆ อย่างแผ่วเบาและไม่ได้สนใจพวกเขาเลย
สาวแฟชั่นและคนอื่นๆ ตกตะลึงเมื่อเห็นตงฟางหมิงจูและหยางเจิ้นเจินเดินไปหาชูโจวด้วยรอยยิ้ม
เดิมทีพวกเขาคิดว่าทั้งสจะระบายความโกรธใส่พวกชูโจวและสอนบทเรียน ให้พวกเขา, เนื่องจากความสัมพันธ์ของสมาชิกในตระกูลที่อยู่ในเมืองกวางตุ้ง
เเต่คาดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะกลายเป็นแบบนี้?
ยิ่งเมื่อเห็นตงฟางหมิงจู และ หยางเจิ้นเจิน, กำลังพูดคุยและหัวเราะกับชูโจว…….หนังศีรษะของพวกเขาก็ชาเล็กน้อย
ชูโจวคนนั้นเป็นใคร?
ถึงกับสามารถเป็นเพื่อนกับบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในเมืองกวางตุ้งอย่างตงฟางหมิงจูเเละหยางเจิ้นเจินได้
ในขณะนี้ ซูเผิงและอีกสี่คนซึ่งแต่เดิมต้องการให้ผู้อาวุโสของตระกูลมาล้างเเค้นพวกชูโจวก็ได้ล้มเลิกความคิดนั้นไปเเล้ว
ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังมองไปที่หลิงจืออย่างเเผ่วเบา, ละทิ้งหลิงจือและจากไปทันที
ชูโจวเป็นพวกเดียวกับหลิงซานอย่างเห็นได้ชัด
เเละความขัดแย้งระหว่าง หลิงจือ และ หลิงซาน ดูเหมือนจะไม่สามารถแก้ไขได้เลย
ดังนั้นพวกเขาและ หลิงจือที่เป็นเพียงเพื่อนธรรมดากัน ก็ไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้กับหลิงซานเพื่อหลิงจือ, แล้วทำให้ชูโจว…….บุคคลผู้ลึกลับขุ่นเคือง
หลิงจือกัดฟันเมื่อเห็นร่างของ ซูเผิงและคนอื่นๆ ที่ทิ้งเขาไว้เเละจากไปอย่างรวดเร็ว
…….
ไอ้สารเลวหลิงซานได้กลับมาที่เมืองกวางตุ้งแล้ว เขาจะต้องบอกแม่ของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
………………………..