บทที่ 35: ไม่รู้สึกขนลุกบ้างหรือไง?
เมื่อหลงเหยาได้ยินคำพูดของหลงจง เขาก็ดิ้นจนหลุดออกจากอ้อมแขนของหลงหลิงเอ๋อเพื่อบินไปขวางหน้าหูเจียวเจียว และแยกเขี้ยวใส่คนพูดจาไม่ดีด้วยความไม่พอใจ
"แฮ่!"
ปากเล็กของเจ้ามังกรน้อยอ้ากว้างแสดงถึงการข่มขู่
ท่าทางนั้นมันไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงที่หญิงสาวเคยเลี้ยงในเกมออนไลน์ที่กำลังพยายามขู่ผู้คนให้กลัวเลยสักนิด
สถานการณ์ ณ ตอนนี้ทำให้หูเจียวเจียวรู้สึกปวดหัวแทบจะระเบิดเนื่องจากเรื่องมันเริ่มบานปลายไปกันใหญ่แล้ว
เธอจำได้ว่าวายร้ายตัวน้อยทั้ง 5 ในหนังสือมีความสามัคคีมีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน
แล้วจู่ ๆ เหตุใดหลงเหยาถึงกัดหลงจงที่เป็นพี่ชายของตัวเอง?
มันจะเป็นได้ไหมว่าในโลกที่เธอเข้ามาอยู่นี้มีอะไรแตกต่างไปจากสิ่งที่เขียนลงในหนังสือ?
ถัดมา แม่จิ้งจอกจับหางของหลงเหยาแล้วดึงมาตรงหน้าเธอ ถึงแม้ว่าการกระทำนั้นจะดูอุกอาจไปหน่อย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวเล็กได้รับบาดเจ็บ
“เหยาเอ๋อ อย่ากัดคนอื่นแบบนั้นสิลูก!” เธอดุมังกรน้อยจอมเกรี้ยวกราด
หลงเหยาที่โมโหจนขาดสติก่อนหน้านี้หันมากะพริบตามองผู้เป็นแม่ด้วยท่าทางโศกเศร้า พร้อมกับกระดิกหางประหนึ่งว่าเขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด
ก็ในเมื่อแม่คอยปกป้องเขาอยู่เสมอ เขาก็ต้องการปกป้องแม่ด้วยเหมือนกัน
ไม่เห็นมีอะไรผิดตรงไหนเลยนี่นา?
ถ้าจะหาคนทำผิด คนที่ผิดควรจะเป็นพี่สามที่มาต่อว่าแม่ก่อน เขาเลยเอาคืนอีกฝ่ายด้วยการกัดก็แค่นั้น!
ยามนี้สายตาเว้าวอนที่ถูกส่งมาจากมังกรตัวเล็กทำให้หูเจียวเจียวใจอ่อนยวบ เธอจึงเปลี่ยนทิศเดินไปหยุดยืนด้านข้างหลงอวี้ ก่อนจะจับมือของหลงจงไว้แน่นโดยไม่ให้อีกฝ่ายสะบัดออก
“ท่านจะทำอะไรน้องสาม?”
เมื่อพี่ชายคนโตเห็นการเคลื่อนไหวของแม่ใจมาร สีหน้าของเขาก็เย็นชาพลางรีบพุ่งไปขวางตรงหน้าอีกฝ่ายทันที
ตอนนี้นางกำลังจะแสดงธาตุแท้ของตัวเองออกมาใช่ไหม นางคงทนไม่ไหวแล้วจึงจะตีหลงจงที่ชอบต่อต้านนางเสมอ!
“นังชาติชั่ว ปล่อยข้านะ! ถ้าอยากฆ่าข้าก็รีบฆ่าซะ ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเจ้าแน่ พี่ใหญ่ พาพวกเขาหนีไป!”
หลงจงตะโกนออกมาเสียงดัง ในขณะที่เขารู้สึกว่าหูเจียวเจียวนั้นแรงเยอะมากจนเขาสะบัดมือตัวเองให้หลุดพ้นจากมือของนางไม่ได้เลย ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงหันไปบอกให้หลงอวี้พาพี่น้องคนอื่นหนีไปก่อน
ปล่อยให้เขาถูกตีคนเดียวก็พอแล้ว!
ในขณะนี้เด็กชายผู้มีแผลเป็นครึ่งใบหน้าพยายามหนีออกห่างจากถังน้ำ แต่แม่จิ้งจอกก็ดึงเขากลับมาแล้วใช้น้ำล้างแผลที่มือ จากนั้นเธอก็ดึงเขาเข้าไปในบ้านอีกครั้งโดยใช้โอกาสในตอนที่หนุ่มน้อยไม่ทันสังเกตเห็นหยิบแอลกอฮอล์ล้างแผลกับยาออกมาจากมิติผ่านความคิดเพียงเท่านั้น
ปัจจุบันหูเจียวเจียวยังคงไม่สนใจเสียงตะโกนโวยวายของหลงจง เนื่องจากเด็กคนนี้ขาดสารอาหารมานานจนมีร่างกายที่ผอมแห้ง เธอถึงขั้นสามารถอุ้มอีกฝ่ายได้ด้วยมือเดียว เพราะแรงเพียงน้อยนิดของเขานั้นไม่สามารถทำอะไรเธอได้หรอก
ต่อมา หญิงสาวหยิบแอลกอฮอล์มาเช็ดล้างแผลของลูกชายอย่างระมัดระวัง
"โอ๊ย…"
หลงจงร้องด้วยความเจ็บปวด และรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขาก็ย่นเข้าหากัน
หูเจียวเจียวชำเลืองมองเด็กหนุ่มจอมดื้อรั้นพลางแอบขำในใจ
“เมื่อกี้เจ้ายังทำเป็นเก่งอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงเจ็บแล้วล่ะ?”
พอสิ้นเสียงคนเป็นแม่ หลงจงก็ตวัดตามองคนพูดด้วยสายตาโกรธเคือง พร้อมกับที่ทั่วทั้งใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ "ข้าไม่ได้เจ็บ ไม่เลยสักนิด!"
ผู้หญิงสารเลวอยากจะเยาะเย้ยเขา เพราะฉะนั้นเขาจะปล่อยให้นางทำสำเร็จไม่ได้!
"เอ๋? ที่แท้จงเอ๋อแข็งแกร่งมากจนไม่กลัวความเจ็บปวด ถ้าอย่างนั้นแม่ก็ไม่ต้องอ่อนโยนด้วยใช่ไหม?"
หูเจียวเจียวถามหนุ่มน้อยด้วยสีหน้าครุ่นคิด
เธอจำได้ว่าในหนังสือเคยเขียนอธิบายว่าภูตมังกรเป็นราชาโดยกำเนิด แม้ว่าพวกเขาจะกัดเบา ๆ แต่ฟันที่แหลมคมก็มีน้ำลายที่สามารถเพิ่มความเจ็บปวดได้ เช่นเดียวกับพิษที่สามารถทำให้เส้นประสาทเป็นอัมพาต ใครก็ตามที่ถูกมังกรกัดจะทุกข์ทรมานกว่าปกติถึงร้อยเท่าพันเท่าเลยทีเดียว
ประกอบกับการใช้แอลกอฮอล์สัมผัสกับบาดแผล เด็กคนนี้ต้องรู้สึกปวดแสบปวดร้อนอยู่แล้ว
อีกทั้งพิษจากน้ำลายมังกรของหลงเหยาก็ค่อนข้างออกฤทธิ์นาน
ขณะที่หูเจียวเจียวเอ่ยถาม เธอรีบเปิดขวดยาก่อนจะเทผงยาลงบนแผลของเด็กหนุ่ม จากนั้นก็พันแผลด้วยผ้าก๊อซแล้วมัดเป็นโบว์สวยงาม
การกระทำดังกล่าวข้างต้นเสร็จสิ้นในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ
ส่วนหลงจงที่อยู่ข้าง ๆ กำลังมีเหงื่อไหลจากหน้าผากเพราะความเจ็บปวด เขาพยายามกัดริมฝีปากแน่นไม่ให้ตัวเองส่งเสียงอะไรออกไป
ผู้หญิงคนนี้ต้องตั้งใจทรมานเขาแน่ ๆ!
ใช่แน่นอน!
เขาจะไม่ปล่อยให้นางทำสำเร็จ!
ครั้นพอเด็กคนอื่นวิ่งเข้ามาในบ้าน หูเจียวเจียวก็เพิ่งพันแผลให้ลูกชายคนที่ 3 เสร็จ
เมื่อเด็ก ๆ เห็นหลงจงนั่งอยู่บนพื้นในสภาพที่ไม่บุบสลาย พวกเขาก็พากันชะงักค้างไป
ก่อนหน้านี้แม่ใจยักษ์ลากหลงจงเข้ามาในบ้านไม่ใช่เพราะว่านางอยากจะทำร้ายเขาหรือ?
แค่ช่วยพันแผลเนี่ยนะ นางจำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือไง?
หลังจากที่จิ้งจอกสาวเห็นลูกอีก 3 คนกำลังตกตะลึง เธอก็ยืนขึ้นและโบกมือให้หลงเหยาที่คลานตัวลีบตามหลังพี่น้องคนอื่นมา
"เหยาเอ๋อ มานี่สิ"
ดวงตาของเด็กที่ถูกเรียกเป็นประกาย แล้วเขาก็บินไปหาคนเป็นแม่ในทันที
"เหยาเอ๋อ ไปขอโทษจงเอ๋อเดี๋ยวนี้"
"ฮะ?"
หลงเหยาที่ได้ยินคำพูดของหูเจียวเจียวรีบหยุดจนตัวโก่งด้วยความตกตะลึง
ในเวลาเดียวกัน เด็กที่เหลือก็มองผู้เป็นแม่อย่างสงสัย ตอนนี้ไม่มีใครเข้าใจว่าเธอกำลังจะทำอะไรกันแน่
“ขอโทษเร็ว” หญิงสาวย้ำอีกครั้งด้วยใบหน้าจริงจัง
เจ้ามังกรน้อยจึงบินคอตกไปอยู่ด้านหน้าหลงจงอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะย่นจมูก ชี้หางขึ้น แล้วแตะแขนของพี่ชายเบา ๆ จากนั้นก็บินออกมาอีกทางอย่างรวดเร็ว
ถัดมา เขาก็หันไปมองแม่จิ้งจองพลางกะพริบตาราวกับพูดว่า
ข้าขอโทษเสร็จแล้ว ท่านพอใจแล้วใช่ไหม?
ตอนนี้ใบหน้าของหูเจียวเจียวอ่อนโยนขึ้น และเธอก้าวไปข้างหน้าเพื่อลูบหัวของเขา "เหยาเอ๋อเป็นเด็กดี แม่รู้ว่าเหยาเอ๋ออยากจะปกป้องแม่ แต่จงเอ๋อเป็นพี่ชายของเจ้า พวกเจ้าเป็นพี่น้องกัน พี่น้องต้องสามัคคีกันไว้ อย่าทำร้ายกันเลยนะ"
“ถ้าเจ้ากัดมือพี่ชาย มันจะทำให้เขาเจ็บปวดมาก เหยาเอ๋อไม่อยากให้พี่ชายต้องเจ็บตัวใช่ไหม เหมือนกับที่เหยาเอ๋อเองก็อยากปกป้องแม่”
การละทิ้งความรักในครอบครัวเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในจุดจบอันน่าเศร้าของวายร้ายตัวน้อยหลังจากเข้าสู่ด้านมืด
แม้ว่าพี่น้องทั้ง 5 จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันในช่วงแรก แต่ผลสุดท้ายเด็กพวกนี้ก็เข่นฆ่ากันเอง เธอจะต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
อย่าให้มันมีโอกาสได้เติบโต!
เมื่อหลงเหยาฟังคำพูดของผู้เป็นแม่แล้ว เขาก็หันไปมองนิ้วที่มีผ้าพันแผลของหลงจง
ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กจะเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด เขาจึงก้มหัวลงอย่างสำนึกผิดและพยักหน้ารับ
ทันใดนั้น เขาก็บินไปที่ด้านข้างของพี่สามอีกครั้ง ก่อนจะใช้หัวเล็ก ๆ ดุนไปที่คอของอีกฝ่าย
ท่าทางนั้นทำให้หัวใจของหลงจงอ่อนลงในทันใด ความโกรธที่ถูกน้องชายหักหลังก็หายไปด้วยเช่นกัน และแม้แต่บาดแผลก็ดูเหมือนจะไม่เจ็บอีกต่อไปแล้ว
ทว่าเขายกมืออีกข้างหนึ่งผลักหลงเหยาออก โดยคำพูดที่เอ่ยออกไปก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เอาล่ะ เจ้าเป็นผู้ชาย จะเอามาหัวถูอ้อนแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน ไม่รู้สึกขนลุกบ้างหรือไง..."
หากเป็นผู้ชายคนอื่น พวกเขาคงจะไม่ใส่ใจกับคำพูดหรือการกระทำของหลงจงมากนัก แต่สำหรับเจ้ามังกรตัวนี้ มันทำให้เขาก้มหน้างุดด้วยความเสียใจ
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นลูกทั้ง 2 กลับมา ‘ปรองดองเหมือนเดิม’ เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เธอไม่แน่ใจว่าจะห้ามไม่ให้เด็ก ๆ เข้าสู่ด้านมืดได้ไหม แต่ตราบใดที่เธอรักษาความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องไว้ได้ อย่างน้อยเธอก็สามารถเปลี่ยนจุดจบอันน่าเศร้าของพวกเขาได้…ใช่ไหม?
“เด็ก ๆ ออกมากินข้าวกันเถอะ ไม่งั้นอาหารจะเย็นเอา” แม่จิ้งจอกเอ่ยชวนเด็ก ๆ ไปทานมื้อค่ำ
วันนี้หญิงสาวตักข้าวใส่ชามพร้อมกับผัก แล้วหั่นขาแกะย่างด้วยท่าทางปกติราวกับว่าเรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น
ส่วนเหล่าเด็กทั้ง 5 ก็นั่งเรียงกันเป็นแถวรออยู่ในลานบ้าน
จากนั้นพวกเขาก็เห็นว่าควันสีขาวลอยมาจากด้านข้างบ้านไม้ ไม่ใช่เพราะบ้านไฟไหม้ และไม่ใช่ว่าหูเจียวเจียวกำลังจะเผาหลงเซียวให้ตายทั้งเป็น
“มันคืออะไรหรือท่านแม่ ทำไมเอาเนื้อไปไว้ในควันแบบนั้น เนื้อจะไม่เหม็นเอาหรือ?”
หลงอวี้ขมวดคิ้วมองแล้วถามด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“ท่านแม่อย่าทำให้เนื้อเหม็นเลยนะ ไม่งั้นเราจะไม่มีอะไรกิน!”
หลงหลิงเอ๋อมองไปที่หูเจียวเจียวด้วยสายตาอ้อนวอน
ปกติแล้วภูตไม่รู้วิธีถนอมอาหาร ประกอบกับแต่ละครั้งที่พวกเขาออกล่าก็จับเหยื่อได้ไม่มากนัก หากโชคดีจับเหยื่อได้เยอะหรือเก็บอาหารได้ในฤดูหนาว พวกเขาก็ทำได้เพียงปล่อยให้เหยื่อเน่าเปื่อยไปทั้งแบบนี้ แล้วก็เอามันมากินไม่ว่าเนื้อนั้นจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเนื้อจะเน่าไปแล้วก็ตาม
ตั้งแต่เล็กจนโต เนื้อที่เด็กทุกคนได้มาล้วนแต่มีกลิ่นเหม็นหรือกลายเป็นเนื้อเน่าไปแล้ว
เมื่อหลงหลิงเอ๋อได้ยินสิ่งที่หลงอวี้พูด นางก็คิดว่าเป็นเพราะหูเจียวเจียวไม่ต้องการให้อาหารดี ๆ แก่พวกนาง