ตอนที่ 65: ยานรบรุ่นพิเศษของกองทัพ!
ตอนที่ 65: ยานรบรุ่นพิเศษของกองทัพ!
ยามเช้าตรู่เซี่ยเฟยค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากเตียงพร้อมกับแต่งตัวในเวลาสั้น ๆ จากนั้นเขาก็เดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อเตรียมรับประทานอาหาร
ดาว ACG21 มีขนาดใหญ่ประมาณ 2 เท่าของโลกและใช้เวลาในการโคจรรอบตัวเองวันละ 30 ชั่วโมง ขณะเดียวกันทั่วทั้งดาวก็มีอู่ต่อยานกระจัดกระจายกันอยู่เป็นจำนวนหลายพันแห่ง ดังนั้นการพยายามหายานดี ๆ ซักลำบนดาวเคราะห์ดวงนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายและมันก็จำเป็นที่จะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
อาหารมื้อเช้าของวันนี้แม่ของซันนี่ได้เตรียมขนมปัง, ซุปหัวหอมและไข่ดาวเอาไว้ เมื่อเห็นเซี่ยเฟยเดินลงมาเธอก็หยิบขนมปังมาให้ชายหนุ่มทั้งตะกร้าด้วยความกระตือรือร้น
“กินเยอะ ๆ นะพ่อหนุ่ม วันนี้คุณกับซันนี่ต้องเดินทางทั้งวัน ฉันได้เตรียมอาหารเอาไว้ให้แล้ว พวกคุณจะได้เอาไว้กินระหว่างทาง” แม่ของซันนี่กล่าวพร้อมกับหยิบห่อที่ดูเหมือนกับจะเป็นอาหารว่างขึ้นมาโชว์
“ซันนี่ยังไม่ออกมากินข้าวหรอครับ?” เซี่ยเฟยถามขณะรับประทานอาหาร
แม่ของซันนี่หัวเราะเบา ๆ พร้อมกับกล่าวว่า “ซันนี่กินข้าวและออกไปข้างนอกแต่เช้าแล้ว วันนี้พวกคุณต้องเดินทางทั้งวันและรถของซันนี่ก็เก่ามากจนเกินไป เขาเลยออกไปเช่ารถมาคอยให้บริการคุณ”
เมื่อได้ยินคำตอบเซี่ยเฟยก็พยักหน้ารับ
เมื่อคืนนี้เขาได้ตกลงว่าจ้างให้ซันนี่พาเขาไปยังอู่ต่อย่านขนาดใหญ่ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบตกลง
ครอบครัวของซันนี่เป็นคนดีและน่าเชื่อถือ เขาจึงคิดว่าการมีไกด์นำทางสักคนบนดาวเคราะห์ที่เขาไม่รู้จักก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร
หลังอาหารเช้าเซี่ยเฟยดื่มชาเข้าไปอีก 2 ถ้วยก่อนที่มันจะมีเสียงรถดังขึ้นมาจากหลังบ้าน เมื่อเซี่ยเฟยได้มองผ่านหน้าต่างเขาก็เห็นซันนี่กำลังขับรถรับส่งขนาดเล็กมาจอดเอาไว้
รถที่ซันนี่เช่ามามีขนาดความยาวประมาณ 6 เมตร, มีรูปร่างคล้ายกระสุนปืนและมีปีกสั้นอยู่ทั้งสองข้าง ขณะเดียวกันห้องโดยสารของตัวรถสามารถรองรับผู้โดยสารได้ทั้งสิ้น 4 คน ซึ่งหลังจากที่ซันนี่ได้จอดรถเข้าที่แล้วเขาก็นำผ้าออกมาเช็ดรถด้วยความรัก
“ค่าเช่ารถคันนี้เท่าไหร่?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับเดินไปโดยมีถ้วยน้ำชาภายในมือ
ซันนี่เช็ดตัวรถด้วยความระมัดระวังก่อนที่เขาจะกล่าวตอบกลับมาว่า “ผมรู้จักกับเจ้าของรถมานาน เขาเลยคิดค่าเช่าผมแค่ วันละ 3,000”
“อ๋อ.. แล้วถ้าจะซื้อรถแบบนี้ นายคิดว่ามันมีราคาประมาณเท่าไหร่?” เซี่ยเฟยถาม
“เจ้าหนูนี่คงจะมีราคาประมาณ 300,000 ได้ คุณลองดูมันสิมันช่างน่ารักซะจริง ๆ” ซันนี่กล่าวพร้อมกับยืนชมรถรับส่งสีแดง จากนั้นเขาก็โยนผ้าเช็ดรถออกไปและกล่าวว่า
“เอาล่ะพวกเราไปกันเถอะ”
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับพร้อมกับเตรียมตัวขึ้นรถแต่แม่ของซันนี่ก็เดินออกมาจากบ้านพร้อมกับตะกร้าอาหารภายในมือ
“ซันนี่เอาอาหารไปด้วย! ไส้กรอกกับเบียร์พวกนี้เป็นของตาแก่พอตเตอร์ อย่าลืมพาเซี่ยเฟยไปอู่ต่อยานของตานั่นด้วย อู่ต่อยานของเขามักจะมียานแปลก ๆ กับของดีเข้ามาตลอด” แม่ซันนี่กล่าวพร้อมกับยื่นตะกร้าภายในมือ
ซันนี่หยิบตะกร้าเอาไปวางไว้ที่เบาะหลังก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาว่า “ยานของลุงพอตเตอร์ดีมากแต่เขาก็คิดราคาแพงที่สุดเหมือนกัน นอกจากนี้แม่ก็น่าจะรู้นิสัยแปลก ๆ ของเขาดีกว่าใคร”
เมื่อได้ยินคำตอบจากลูกชายแม่ของซันนี่ก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างไม่ยอมรับก่อนที่เธอจะกล่าวต่อไปว่า “โรงงานของตาแก่พอตเตอร์ดีที่สุดในดาวดวงนี้แล้ว ในเมื่อลูกสัญญาว่าจะช่วยคุณเซี่ยเฟย ลูกก็ควรจะพาเขาไปที่อู่ต่อยานที่ดีที่สุด จำไว้ว่าอย่าพาแขกไปอู่ต่อยานโกโรโกโสพาเขาไปอู่ต่อยานแค่ 4 ที่นั้นก็พอ”
“โอเค ๆ แม่ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ” ซันนี่ตอบรับพร้อมกับโบกมือไปมา
บนท้องฟ้าของดาวดวงนี้ถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยเมฆหมอกสีดำทำให้แม้แต่ในเวลากลางวันบรรยากาศภายในดาวก็ค่อนข้างที่จะมืดครึ้ม
“คุณอยากซื้อยานอวกาศแบบไหน?” ซันนี่ถาม
“ฉันชอบแบบไทนี่ฟอลคอน” เซี่ยเฟยกล่าวตอบกลับไปโดยไม่ต้องคิดเพราะยานอวกาศรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เตะตาเขาตั้งแต่แรกเห็น
“ยานฟริเกตรุ่นไทนี่ฟอลคอนเป็นหนึ่งในยานรบระดับสูง ยานรุ่นนี้พอจะมีอยู่ในดาวของเราบ้างแต่การจะหายานรุ่นนี้สภาพดีไม่ใช่เรื่องง่ายและพวกมันก็มักที่จะมีราคาแพง” ซันนี่กล่าว
เซี่ยเฟยใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะกล่าวถามออกไปว่า “บนดาวนี้มีอู่ต่อยานอยู่กี่ที่หรอ?”
“เยอะมาก! เท่าที่ผมรู้จักก็มีเป็นพันที่แล้ว ถ้าหากคุณต้องการไปอู่ต่อยานทุกที่ผมก็เกรงว่าคุณจะต้องใช้เวลามากกว่า 1 เดือน”
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปอู่ที่ดีที่สุดก่อน ถึงยังไงสิ่งที่ฉันต้องการก็คือยานอวกาศประสิทธิภาพสูงที่สามารถบินระยะไกลได้อย่างรวดเร็ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือส่วนประกอบยานทั้งหมดจะต้องยอดเยี่ยม”
“ได้เลยครับคุณลูกค้า!” ซันนี่กล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม
รถเช่าคันใหม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วถึง 4 กิโลเมตรต่อวินาที มันจึงทำให้ในเวลาเพียงแค่ไม่นานซันนี่ก็พาเซี่ยเฟยมาจนถึงอู่ต่อยานแห่งแรก
เมื่อเคลื่อนที่เข้ามาใกล้อู่ซันนี่ก็ลดความเร็วรถลงพร้อมกับขี่วนรอบอู่ 1 ครั้งทำให้เซี่ยเฟยมองเห็นยานอวกาศหลายร้อยลำที่ถูกจัดวางเอาไว้อย่างสวยงาม
ยานแต่ละลำถูกขัดเงาจนเหมือนใหม่ขณะที่คนงานหลายสิบคนก็กำลังยุ่งอยู่กับยานอวกาศขนาดกลางลำหนึ่ง
“ดูนั่นสิ! มีไทนี่ฟอลคอนอยู่ที่นี่ด้วย!!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นขณะที่ชี้นิ้วไปยังไทนี่ฟอลคอนลำใหม่ที่จอดอยู่
นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยเฟยได้เห็นไทนี่ฟอลคอนของจริงด้วยตาของตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติว่ายานลำนี้ดูใหม่มากจนเกินไปจนทำให้เขารู้สึกได้ถึงการหลอกลวง
“ยานลำนี้ใช้ไม่ได้! อย่าถูกรูปลักษณ์ภายนอกของมันหลอก อันที่จริงโครงสร้างด้านในของมันเต็มไปด้วยสนิมและอายุการใช้งานของมันน่าจะเหลืออีกเพียงแค่ไม่นาน” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น
เมื่อได้ยินคำเตือนเซี่ยเฟยก็พยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับซันนี่ว่า
“ไปที่ต่อไปได้เลย”
“คุณลูกค้า คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญปลอมตัวมาหรือเปล่าเนี่ย!? คุณไม่จำเป็นจะต้องลงไปดู คุณก็แน่ใจได้เลยหรอว่ามันเป็นของไม่ดี?” ซันนี่กล่าวพร้อมกับแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาเล็กน้อย
“ยานพวกนั้นเป็นพวกย้อมแมวขาย ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของพวกมันจะดูสวยงาม แต่สภาพภายในของพวกมันแย่มาก” เซี่ยเฟยกล่าวเลียนแบบคำพูดของอันธ
ซันนี่รู้สึกประหลาดใจมากแต่เขาก็ยกนิ้วโป้งให้ลูกค้าของตัวเองก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า“คุณนี่ตาดีจริง ๆ มันเป็นไปตามที่คุณได้พูดเอาไว้เลยอู่ต่อยานนี้ชอบเอาของมาย้อมแมวขาย ชายอ้วนคนนั้นเป็นเจ้าของที่นี่และเขาก็มีฝีมือห่วยแตกมาก สิ่งที่เขาพอจะทำได้ก็มีเพียงแค่ซ่อมแซมของเก่าเล็ก ๆ น้อย ๆ และตกแต่งภายนอกให้ดูเหมือนใหม่”
“ถ้านายรู้แล้วแล้วนายจะพาฉันมาอู่นี้ทำไม?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
ซันนี่เผยรอยยิ้มให้เห็นฟันเหลืองก่อนที่จะกล่าวตอบออกไปว่า “ผมแค่อยากจะทดสอบสายตาของคุณหน่อย เพราะถ้าหากว่าผมต้องการจะพาคุณมาที่อู่ต่อยานนี้จริง ๆ ผมคงเอารถไปจอดแล้ว ไม่ขับวนรอบอู่แบบนี้หรอก”
อู่ต่อยานแห่งที่ 2 มีไทนี่ฟอลคอนทั้งหมด 3 ลำซึ่งยานแต่ละลำก็มีขนาดใหญ่กว่าอู่แห่งแรกมาก แต่ยานในอู่นี้จัดอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น มันยังไม่ผ่านข้อกำหนดของเซี่ยเฟยทำให้ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายไม่มียานอวกาศลำไหนที่สะดุดตาชายหนุ่มจากโลกเลยแม้แต่ลำเดียว
“ที่ต่อไปคือหนึ่งในอู่ชั้นนำของสุสานยานอวกาศแล้วมันก็เป็นอู่ของลุงพอตเตอร์ที่แม่ผมพูดเอาไว้ในก่อนหน้านี้ แต่เขาค่อนข้างจะมีนิสัยแปลกประหลาดอยู่นิดหน่อยและของที่เขาขายก็แพงมาก!” ซันนี่จงใจเน้นเสียงที่คำว่าแพงมากเพื่อเป็นการเตือนลูกค้าของเขา
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่ได้สนใจคำเตือนแต่เขากลับกล่าวไปว่า “ฉันไม่ได้สนใจเรื่องราคาเท่าไหร่ ตราบใดก็ตามที่ฉันเจอยานที่ฉันพอใจ แพงแค่ไหนฉันก็จะซื้อ”
สถานที่ตั้งอู่ต่อยานของลุงพอตเตอร์ห่างออกไปค่อนข้างไกลและมันก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการเดินทางต่อไปถึงครึ่งชั่วโมง
ในพื้นที่เปิดขนาดเล็กรอบอู่มียานอวกาศถูกจอดเอาไว้หลายสิบลำ โดยยานแต่ละลำถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าใบเพื่อหลีกเลี่ยงน้ำฝนที่จะทำให้โครงสร้างเกิดการผุพัง
บริเวณใกล้เคียงมีอู่ต่อยานอยู่เพียงแค่แห่งเดียวนอกนั้นเป็นพื้นดินอันว่างเปล่าไม่มีที่สิ้นสุด
ซันนี่ขับรถตรงไปยังที่ว่างกลางอู่ก่อนที่เขาจะหยิบตะกร้าจากเบาะหลังแล้วเดินไปยังเวิร์กช็อปที่เดียวของอู่
ในเวิร์กช็อปมียานฟริเกตรุ่นอินคาซัสที่ผลิตโดยบริษัทไกอาจอดอยู่ โดยตัวยานดูคล้ายกับด้วงสีดำที่ถือหอกอยู่ในมือขณะเดียวกันช่างผิวดำหลายคนก็กำลังยุ่งอยู่กับการซ่อมยานลำนี้และท่าทางของแต่ละคนก็จริงจังเป็นอย่างมาก
ตัวอาคารเวิร์กช็อปมีขนาดใหญ่มากจนสามารถนำยานรบเข้ามาจอดได้อย่างไม่มีปัญหา ขณะเดียวกันเครื่องมือที่คนงานแต่ละคนใช้อยู่ก็เป็นเครื่องมือที่ทันสมัย ส่วนทั้งสองด้านของห้องก็มีอุปกรณ์ซ่อมแซมถูกวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ
เพียงแค่เห็นการทำงานของช่างมันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกพึงพอใจและเขาก็แอบให้คะแนนอู่แห่งนี้ถึง 8 เต็ม 10 เลยทีเดียว
“ลุงพอตเตอร์อยู่ไหมครับ?” ซันนี่กล่าวถามด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่นแล้วมันก็ดูเหมือนกับว่าเขาจะค่อนข้างคุ้นเคยกับช่างในเวิร์กช็อปเป็นอย่างดี
เมื่อได้ยินคำถามช่างผิวดำที่สวมกางเกงขาบานก็คลานออกมาจากใต้ยานรบพร้อมกับชี้ไปยังห้องกระจกที่อยู่ฝั่งซ้ายของเวิร์กช็อป “อาจารย์กำลังคุยกับคนของคุณเคอยู่ ว่าแต่นายมาที่นี่ทำไม?”
เซี่ยเฟยมองไปยังทิศทางที่ชายผิวดำคนนั้นชี้และเขาก็เห็นชายฉกรรจ์ 2-3 คนยืนอยู่ในห้องกระจก
ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าวแต่พวกเขาทุกคนกลับแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตที่ติดกระดุมอย่างประณีต
ฝั่งตรงข้ามของชายฉกรรจ์เป็นชายแก่ผิวดำในชุดเอี๊ยม โดยเขามีความสูงมากกว่า 2 เมตร, มีกล้ามเนื้อที่ค่อนข้างแข็งแรง, มีผ้าปิดตาสีดำปิดตาซ้ายเอาไว้คล้ายกับโจรสลัดตาเดียวที่เซี่ยเฟยเคยเห็นในหนังตอนเด็ก ๆ
“คุณเค!? ลุงพอตเตอร์ไปทำธุรกิจกับคนแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?” ซันนี่อุทานออกมาอย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คุณเคส่งคนมาหาอาจารย์หลายครั้งแล้ว” พนักงานผิวดำกล่าวตอบกลับมา
ซันนี่เรียกเซี่ยเฟยมายืนข้าง ๆ ก่อนที่เขาจะกล่าวแนะนำออกมาว่า “ลูกค้าคนนี้ชื่อเซี่ยเฟยเขาเดินทางมาจากดาวดวงอื่นและเขาก็กำลังมองหายานไทนี่ฟอลคอน”
“ส่วนพี่คนนี้ชื่อ ‘โบเดน’ เป็นลูกศิษย์ของลุงพอตเตอร์”
เมื่อทั้งสองฝ่ายได้รู้จักกัน เซี่ยเฟยก็จับมือกับโบเดนอย่างสุภาพขณะที่ซันนี่กล่าวออกมาว่า
“อย่าดูถูกรูปลักษณ์ภายนอกของคุณเซี่ยเฟยหลอกเอาล่ะ ถึงแม้อายุเขาจะยังน้อยแต่เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องยานอวกาศนะ ก่อนหน้านี้ผมพาเขาไปที่อู่ของเจ้าอ้วนจิน แต่เขากลับสามารถบอกได้ในเวลาไม่นานว่ายานพวกนั้นเป็นพวกย้อมแมวขาย”
“จริงหรอ? ไม่น่าเชื่อว่าอายุแค่นี้จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้ว พวกเรามีไทนี่ฟอลคอนที่เพิ่งซ่อมเสร็จอยู่ทางโน้น ชิ้นส่วนอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นของดั้งเดิมพวกเราต้องใช้เวลาในการซ่อมนานกว่า 2 เดือนเต็ม ๆ กว่าจะซ่อมมันเสร็จ” โบเดนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ลองเดินไปดูก่อนสิ แต่อาจารย์จะขายหรือเปล่าอันนี้ฉันไม่รับประกันนะ” โบเดนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
ซันนี่นำมือตบไหล่ของโบเดนพร้อมกับยื่นตะกร้าภายในมือไปให้ จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ผมรู้กฎแปลก ๆ ของลุงพอตเตอร์ดี หวังว่าพี่จะช่วยเกลี้ยกล่อมลุงพอตเตอร์ให้พวกเราบ้างนะ”
โบเดนหยิบตะกร้าพร้อมกับพยักหน้ารับแต่ในขณะที่เซี่ยเฟยกำลังจะเดินออกจากเวิร์กช็อป เขาก็ยินเสียงตะโกนจากโบเดนดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“นี่มันไส้กรอก!”
“ไส้กรอกนั่นมันเป็นของอาจารย์พี่นะ!” ซันนี่ตะโกนออกไปด้วยรอยยิ้ม
อย่างไรก็ตามโบเดนกลับขยิบตาให้ซันนี่ 1 ครั้งก่อนที่จะหยิบไส้กรอกยัดเข้าไปในปาก ขณะเดียวกันพนักงานคนอื่นก็กำลังถูมือไปมาเมื่อพวกเขาได้ยินคำว่าไส้กรอก
“ซันนี่! ที่พี่โบเดนพูดก่อนหน้านี้มันหมายความว่ายังไงหรอ? ที่เขาบอกว่าอาจารย์จะขายไหมก็ไม่รู้?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย
“ลุงพอตเตอร์เป็นคนแปลกมาก เขาจะขายของให้แต่คนที่เขาคิดว่าเหมาะสมเท่านั้น ไม่อย่างงั้นอู่ของลุงแกคงจะใหญ่กว่านี้ไปตั้งนานแล้ว” ซันนี่อธิบาย
“มีคนแบบนี้ด้วยหรอ?” เซี่ยเฟยส่ายหัวไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อเมื่อเขาได้ยินเหตุผลแปลก ๆ จากปากของซันนี่
“ตอนแรกลุงพอตเตอร์มีลูกศิษย์อยู่ 4 คนแต่ตอนนี้เขาเหลือลูกศิษย์อยู่เพียงแค่คนเดียว เพราะลูกศิษย์คนอื่นรู้ว่าพวกเขาสูบเงินจากลุงไม่ได้พวกเขาเลยย้ายไปทำงานที่อื่น” ซันนี่กล่าวขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
ในเวลาไม่นานทั้งสองก็มุ่งหน้าตรงมายังพื้นที่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอู่ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของยานไทนี่ฟอลคอนที่มีรูปร่างคล้ายกับเหยี่ยวหนุ่ม ดังนั้นถึงแม้ว่ายานลำนี้จะถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าใบแต่เซี่ยเฟยก็สามารถจดจำมันได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากทั้งสองนำผ้าใบที่คลุมยานออกเซี่ยเฟยก็พบว่ายานลำนี้มีสภาพประมาณ 80% ทางด้านตัวยานมีกลิ่นน้ำมันลอยออกมาจาง ๆ แต่ไม่ฉุน ขณะที่ผิวของตัวยานก็เปล่งประกายแวววาวอย่างน่าหลงใหล
“อืม.. ยานลำนี้ดูดีใช้ได้เลย แม้แต่ระบบไฮดรอลิกก็ได้รับการปรับปรุง ดูนั่นสิแม้แต่ประตูยานก็ถูกดัดแปลงด้วย” อันธบินไปรอบ ๆ ยานพร้อมกับอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ไม่เพียงแต่ยานลำนี้จะได้รับการซ่อมแซมอย่างสมบูรณ์เท่านั้นแต่ชิ้นส่วนสำคัญของยานยังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย ถึงแม้ว่ายานลำนี้จะไม่ใช่ยานลำใหม่แต่ประสิทธิภาพในการทำงานของมันกลับดีกว่ายานลำใหม่ที่เพิ่งถูกผลิตออกมาจากโรงงานอีก”
“ฉันบอกได้เลยว่าคนที่ซ่อมยานลำนี้ขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยม งานฝีมือของเขาช่างปราณีตจริง ๆ” อันธกล่าวชื่นชมด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเขาก็กล่าวต่อไปว่า
“เซี่ยเฟยฉันว่าฉันพอจะเดาได้แล้วว่าทำไมคนที่ชื่อพอตเตอร์ถึงไม่ขายยานของเขาออกไปสุ่มสี่สุ่มห้า”
"ทำไม?"
“พวกเขาต้องใช้ความพยายามในการซ่อมยานอย่างหนักทำให้ยานพวกนี้ไม่ใช่ยานอวกาศธรรมดาอีกต่อไปแต่มันเป็นเหมือนกับงานศิลปะ ซึ่งการที่จะปรับปรุงยานให้อยู่ในระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่างต้องรู้จักตัวยานเป็นอย่างดีและช่างต้องจินตนาการให้ได้ตั้งแต่แรกว่าพวกเขาต้องการจะปรับปรุงยานไปในทิศทางไหน”
อันธกล่าวชื่นชมออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนทางด้านของเซี่ยเฟยก็ชื่นชอบยานลำนี้มากเขาจึงตัดสินใจที่จะซื้อยานไว้ในใจ
ไม่ไกลจากจุดจอดของไทนี่ฟอลคอนมียานลำหนึ่งถูกจอดอยู่ซึ่งเซี่ยเฟยก็เดินไปรอบ ๆ ตัวยานด้วยความสนใจก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาว่า
“นี่มันยานอะไร?”
ซันนี่ลูบหัวของเขาพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจว่า “แปลกจังทำไมยานลำนี้ถึงดูเหมือนไทนี่ฟอลคอน? แต่เมื่อกี้พี่โบเดนบอกว่าที่นี่มีไทนี่ฟอลคอนแค่ลำเดียว ปกติเขาไม่ใช่คนที่ชอบพูดโกหกนะ”
เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะก่อนที่เขาจะเดินไปเปิดผ้าใบที่คลุมตัวยานอวกาศไว้
“ถ้าเราไม่รู้ก็ลองเปิดดูสิ!”
เมื่อผ้าใบถูกเปิดออกภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าก็คือยานฟริเกตที่ดูคล้ายกับไทนี่ฟอลคอน แต่ความรู้สึกที่มันเปล่งออกมากลับแตกต่างจากไทนี่ฟอลคอนโดยสิ้นเชิง
ใช่แล้วความรู้สึกที่เซี่ยเฟยสัมผัสได้นั่นก็คือความแข็งแกร่ง!
ตัวถังของไทนี่ฟอลคอนลำนี้ถูกเชื่อมเข้ากับชิ้นส่วนขนาดใหญ่หลายส่วนและโครงสร้างของยานก็ถูกผลิตขึ้นมาจากโลหะผสมไททาเนียม!
“นี่มันไม่ใช่ยานสำหรับพลเรือนแล้ว! แต่มันเป็นยานรบของกองทัพ!! ถ้าฉันจำไม่ผิดยานรบลำนี้เป็นยานรุ่นสตีลฟอลคอนซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่กองทัพนำยานรุ่นไทนี่ฟอลคอนไปดัดแปลง เขาไปเอายานลำนี้มาจากไหน!? นี่มันไม่ใช่ของที่คนทั่วไปสามารถครอบครองได้นะ!!!” อันธอุทานออกมาอย่างตกใจ
***************
นี่พี่เฟยเจอสมบัติที่ซ่อนไว้อีกแล้วหรอ?!