ตอนที่ 1354 ชะตาของข้าคือจุดจบของพวกเจ้า!
โจมตี
ชายชราผู้ถือไม้เท้าหัวมังกรหรี่ตาแคบเหมือนเข็มและตวาดอย่างดุดันเขารู้ว่าหากจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเป็นผู้นำลงมือก่อน เชื่อได้ว่าไม่มีใครในที่นั้นสู้ได้ มีแต่ต้องอาศัยจำนวนคนที่ได้เปรียบจึงจะสามารถข่มผู้ทรงพลังนี้ได้ในทุกทิศทุกทาง
เทพมารทุกคนจากค่ายทะเลมรณะก็คิดเช่นเดียวกับเขา
พวกเขามองเห็นจิ๋วซื่อกำลังใกล้เข้ามา
พวกเขารีบชิงเข้าโจมตีทันที
แสงเจิดจ้ามากมายเช่นเดียวกับพลังโจมตีเจี้ยนจางเซิงและเซียะเยี่ยนฮัวในครั้งก่อนยิงออกมาจากทุกทิศทางเจิดจ้าท่วมไปทั้งพื้นฟ้าและท้องทะเล
“ให้ตายเถอะเจ้าพวกนี้อำมหิตและไร้ยางอายทั้งนั้น!” การผนึกพลังโจมตีนี้เป็นที่เข้าใจได้อย่างถ่องแท้โดยเฉพาะเจี้ยนจางเซิงผู้เคยได้รับทุกข์ทรมานจากพลังโจมตีนี้มาก่อน
“เฮอะ!” แม้ว่าจื้อจุนจะไม่เคลื่อนไหวแต่ใจนางยังมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้พลังของเทพมารพวกนี้ลดลง
ไม่สมกับเป็นปีศาจเฒ่าที่มีอายุมาเป็นหมื่นปีเลย
มีทั้งพลังพวกที่มากบวกกับพลังของบัลลังก์เทพความจริงก็คือ...
แล้วจักรพรรดิไร้เทียมทานที่เดินหน้าเข้าหาศัตรูจะรับมืออย่างไร? ต้านทานตรงๆ เหมือนเจี้ยนจางเซิง? หรือว่าวางแผนหลบหลีกและหาโอกาสตอบโต้โจมตี? ไม่เพียงแต่เจี้ยนจางเซิงเท่านั้นที่คาดหวังแม้แต่เทพมารแห่งทะเลมรณะก็ยังมีความสงสัยในใจ
ภายใต้สายตามองดูของทุกคน
จักรพรรดิไร้เทียมทานเหยียดแขนข้างเดียวกางฝ่ามือยกรับพลังโจมตีอย่างไม่จริงจังนัก
การกระทำและท่าทีของเขาเรียบง่ายหมดจดเหมือนกับจักรพรรดิโบกมือขณะนั่งฟังรายงานอยู่บนราชบัลลังก์อย่างเฉื่อยชาถ้าเป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์ก็อาจจะหาวเพิ่มอีกหนึ่งครั้ง
“ปัง!”
พลังเทพโจมตีทั้งหมดรวมลงที่ฝ่ามือของเขาแสงเทพโจมตีรวมเป็นจุดเดียวกัน
จากนั้นพลังทำลายล้างหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่มีการระเบิด ไม่มีแรงระเบิด ไม่มีการทำลายล้าง
ฝ่ามือของจักรพรรดิไร้เทียมทานยังคงเหมือนเดิมแทบจะไม่มีรอยบาดแผลอะไรเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นกับตาตนเองเจี้ยนจางเซิงยังสงสัยอยู่ว่าเขาฝันไปหรือไม่? เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน! พลังทำลายล้างโลกได้ที่เทพทั้งหลายผนึกพลังกันถูกสลายหายไปในที่สุดพลังโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวจากด้านหน้าตรงๆ ถูกจักรพรรดิไร้เทียมทานต้านทานได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ยิ่งไปกว่านั้นนี่ไม่ใช่การป้องกันทั้งหมดแค่เพียงยื่นมือออกมาสลายพลังเหมือนไม่ได้ตั้งใจนี่หรือคือพลังที่แท้จริงของจักรพรรดิไร้เทียมทาน
น่ากลัวจริงๆ!
แม้ว่าเจี้ยนจางเซิงจะไม่ใช่ศัตรูของจักรพรรดิไร้เทียมทานอีกต่อไป แต่ตอนนี้เขายืนอยู่บนเขาศักดิ์สิทธิ์ค้ำโดมฟ้าด้วยมือข้างเดียวแต่หลังจากเห็นภาพนี้แล้วเขาอดขาอ่อนไม่ได้
จื้อจุนเหมือนมองผลงานศิลปกรรมชั้นเอกนางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานจะมีพลังเหนือจินตนาการขนาดนี้
ใช้มือเดียวรับพลังโจมตีทั้งหมดได้ไม่ใช่เพราะศัตรูอ่อนแอ แต่เป็นเพราะจักรพรรดิไร้เทียมทานแข็งแกร่งเกินไป
นอกจากนี้
ไม่มีคำอธิบายอื่น
“เป็นไปได้ยังไง?” เทพผอมสูงร้องด้วยความหวาดกลัว ครั้งนี้หน้าของเขาเหล่าเทพมารจากทะเลมรณะมีสีหน้าเหลือเชื่อสยดสยอง
“ผนึกพลังโจมตียิงตามรูปแบบ!” ชายชราที่ถือคทามังกรเป็นคนเดียวที่ยังสงบนิ่ง เขารู้ซึ้งถึงพลังของจักรพรรดิไร้เทียมทานที่อยู่ต่อหน้าเขาดีกว่าคนอื่นๆ หากเขาไม่ได้ถูกกักขังอยู่ในเจดีย์ดำมาเป็นเวลาหลายหมื่นปีและพลังความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ถึงจุดสูงสุดเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปเขาก็คงไม่กล้าสู้กับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเป็นแน่ การโจมตีตอนนี้เขารู้ด้วยว่าไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้เลย เป็นเพียงคลื่นระเบิดหลอกล่อและการเคลื่อนไหวต่อไปเป็นการโจมตีที่แท้จริง
“ตายซะเถอะ!” เทพแห่งทะเลมรณะที่ถูกปลุกจากภวังค์รวมพลังเทพขนาดใหญ่อย่างบ้าคลั่งไม่ใช่เพราะเพื่อปกป้องสหายของพวกเขาอีกต่อไป
ทุ่มเทพลังทั้งหมด
ไม่มีการเก็บรั้ง
พลังเทพสว่างทั่วท้องฟ้าอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามพลังเทพครั้งนี้กล้าแข็งไม่หละหลวมต่างจากการโจมตีก่อนหน้านี้
ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือนักรบระดับเทพทุกคนต่างใช้ไม้ตายกลอุบายของตนเอง
หอกเทพดาบเทพหรือค้อนเทพปรากฏขึ้นในอากาศหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวภายใต้เจตจำนงของผู้เป็นเจ้านายและในที่สุดรวมตัวกันเป็นเสาเทพขนาดใหญ่ที่สามารถฉีกทำลายทุกอย่างในโลกและกลืนกินสิ่งมีชีวิตได้ทั้งหมด....
ด้วยแรงผลักดันจากเจตจำนงของเทพมารจากทะเลมรณะหลายสิบคนเทพทั้งหลายตนนั้นได้รับพรและคำแนะนำจากระยะไกลมีพลังแห่งการทำลายล้างและความตั้งใจในการสังหารที่พุ่งฝ่าอากาศเข้ามา
ตรงมาที่อกของจักรพรรดิไร้เทียมทาน
จื้อจุนอยู่ที่ด้านหลังไม่มีทางถอยอีกแต่พลังเทพระเบิดกระจายออกมาสร้างเป็นแสงเทพสว่างปกคลุมอย่างเช่นพลังจากประตูเป็นตายก็คอยปกป้องเช่นกัน การโจมตีจากทางอากาศแม้ว่านางจะไม่ใช่เป้าหมายและจุดศูนย์กลางของการโจมตี แต่ก็ทำให้จื้อจุนต้องจริงจังนี่คือการผนึกพลังกันของเทพมารแห่งทะเลมรณะหลังจากเลิกป้องกันและให้ความร่วมมือโดยปริยาย!
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อยังคงยืนหยิ่งทรมง
เขาไม่ตั้งใจจะหลบหลีกแต่อย่างใดและสีหน้าของเขาไม่มีท่าทีจริงจัง ในทางตรงกันข้ามดวงตาของเขายังมีแววเหยียดหยาม
เมื่อสายธารพลังโจมตีระดับเทพรูปดาบเทพหอกเทพและค้อนเทพทุบเข้าที่หน้าอกของจักรพรรดิไร้เทียมทานเขายืดอกรับการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มที่ในเวลาเดียวกันเขาใช้แขนทั้งสองโอบเสาสายธารพลังเทพขนาดใหญ่พลางมองขึ้นบนฟ้าส่งเสียงคำรามกึกก้องสั่นสะท้านไปทั้งทะเลมรณะพร้อมทั้งบีบพลังแสงเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่งจนแตกจากกัน....ดาบเทพ หอกเทพและค้นเทพแหลกสลายเป็นผุยผงถูกทำลายจนมองไม่เห็นในทันที
เพราะพลังเทพสะท้อนสร้างความเสียหายที่ไม่อาจป้องกันต้านทานได้เทพมารฝ่ายทะเลมรณะร่วงล้มลงกับพื้นคนแล้วคนเล่า
เหลือเพียงสองสามคนที่แทบจะยืนไม่อยู่ทั้งที่ใช้พลังเทพ
ในบรรดาคนพวกนี้ชี่ตันจื้อผู้ยืนอยู่ด้านหลังชายชรารู้สึกว่าจุกแน่นที่หน้าออกเขากระอักโลหิตและหมดสติล้มลงกับพื้นทันที
พลังของเขาไม่แข็งแกร่งเท่าสหายแต่เพื่อรักษาหน้าเอาไว้เขาจึงพยายามฝืนยืน และแทบประสบความพินาศครั้งใหญ่ ส่วนอีกคนหนึ่งที่ไม่ล้มก็คือนักสู้ระดับเทพผอมสูงเขาแย่ยิ่งกว่าชี่ตันจื้อ หลังจากเขาหยุดนิ่ง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ในที่สุดก็กระอักโลกหิตออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
“แย่แล้ว!” เจี้ยนจางเซิงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ริมฝีปากสั่นไม่สามารถพูดความรู้สึกของตนเองได้เลยในตอนนี้
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นอัจฉริยะ
เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเขามีพลังพอท้าทายเทพมารจากทะเลมรณะทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นยอดฝีมือระดับเทพมากกว่าสิบคนผนึกกำลังกันเพื่อโจมตีอัจฉริยะไร้เทียมทานที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยจริงๆ! มิน่าเล่าบุรุษผู้นี้จิ๋วซื่อถึงได้กล้าเรียกตัวเองว่าจักรพรรดิไร้เทียมทาน คนผู้นี้มีพลังไม่ธรรมดาจริง
เขาแข็งแกร่งมากกว่าที่เจี้ยนจางเซิงคิดไว้ร้อยเท่า!
เจี้ยนจางเซิงมีความรู้สึกว่าตนเองไร้ความสามารถและเสียใจกับตัวเองเช่นกัน
สิ่งที่น่าเศร้ายิ่งกว่าก็คือเขารอมานานหลายหมื่นปีจึงจะเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของคนผู้นี้ได้ คนอย่างเขาเจี้ยนจางเซิงทั้งที่เป็นอัจฉริยะก็ยังเป็นแค่มดจากแดนสวรรค์หรือ? พระเจ้า ท่านปล่อยให้คนแบบนี้เกิดขึ้นมาในโลกได้อย่างไร!
“ตอนนี้ข้าควรจะทำอย่างไรดี? มีทางเลือกอื่นอีกไหม?” ชี่ตันจื้อมองดูชายชรา และถ้าเขาสามารถยอมแพ้ได้ เขาจะยอมแพ้ทันที แต่ตอนนี้จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อระบุว่าต้องการฆ่าทั้งหมดในเวลานี้สายเกินกว่าจะกล่าวคำยอมแพ้ ชี่ตันจื้ออิจฉาสหายเพียงคนเดียวฝ่ายทะเลมรณะทันที เจี้ยนจางเซิงผู้ที่เขามองว่าสมองตาย แต่อย่างน้อยก่อนตายเขายังได้รับความรักที่คนอื่นใฝ่ฝันและยอมตายโดยไม่เสียใจต่อการกระทำ
มีความเป็นนักรบที่ภาคภูมิใจที่ต่อสู้เพื่อปกป้องศัตรู
มือหนึ่งเขายึดสัญญายอมแบกโดมท้องฟ้าเพื่อคนรักการตายแบบนี้ไม่เพียงแต่ไม่เป็นธรรมเท่านั้นทั้งยังทำให้โลกต้องสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
อย่างไรก็ตามเขาคิดไปเองหรือเปล่า? คนที่ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามของจักรพรรดิไร้เทียมทานในไม่ช้าจะกลายเป็นเหยื่อของการสังหารหมู่ของศัตรู ตอนนี้เขากลับคิดถึงเรื่องการยอมแพ้อย่างน่าอายทำไมถึงมีช่องว่างห่างกันขนาดนี้?
ความคิดของชี่ตันจื้อผุดขึ้นมาเรื่อยๆและเขาอดยิ้มไม่ได้
ทันใดนั้นเขาก้าวไปข้างหน้าและเผชิญกับจักรพรรดิไร้เทียมทานอย่างสงบตามลำพัง “มาเถอะ! ข้ารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปแต่ข้าก็เป็นนักสู้และข้าก็มีความภาคภูมิใจในความเป็นนักสู้ด้วย! แม้ว่าข้าจะไม่อยากตายแต่ความภาคภูมิใจของข้าไม่อนุญาตให้ข้าที่เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มยอมแพ้ด้วยความอับอาย จักรพรรดิไร้เทียมทาน ข้าขอท้าท่านสู้เพียงหนึ่งท่า!”
“หนีไป,เจ้าโง่ชี่ตันจือ จงรีบมุดลงไปในทะเลมรณะทำไมเจ้าต้องเสแสร้งแกล้งกล้าหาญด้วย?” เจี้ยนจางเซิงอดตะโกนด่าไม่ได้
“ข้าต้องการเป็นวีรบุรุษเหมือนกัน!” ชี่ตันจื้อพูดไม่ออก แต่วีรบุรุษทำให้เขาเป็นผู้คนแต่นั่นก็ยังใช้ไม่ได้อยู่ดี
“เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่าวีรบุรุษไม่ทำตัวแบบนี้!” เจี้ยนจางเซิงเศร้าใจจนกระอักโลหิต
เป็นเรื่องง่ายที่คบหาสหาย
เขาไม่คิดว่าเจ้าผู้นี้จะโง่ขนาดนี้
ในตอนนี้มีโอกาสจะได้ทำหน้าที่ผู้กล้าถ้าเขาไม่ลุกขึ้นสู้ตอนนี้ เขาจะได้ชื่อว่าผู้กล้าจากตรงไหนอีก... จิ๋วซื่อเกร็งพลังไร้เทียมทานเตรียมจะเข่นฆ่าเจ้าแทนที่จะไปหาที่ซ่อนไกลๆ แต่เจ้ายังโง่วิ่งเข้ามาเพื่อต้องการสู้กับเขา พระเจ้าฝีมืออย่างเดียวของเจ้าคืออะไร? มดแมลงที่ว่าง่ายแบบนั้น รู้ว่าตนเองมีพลังน้อยนิดก็ยังท้าสู้กับยักษ์ หากเจ้าต้องการเข่นฆ่าก็ไม่ควรนอกลู่นอกทางเจ้าสามารถซ่อนอยู่อย่างเงียบๆ ได้ แต่เจ้ากลับลุกขึ้นและมองหาความตาย ถ้าเจ้าถูกฆ่าก็เป็นเหมือนกับตลกที่โง่เขลาเข้าใจไหม!
แนวคิดของชี่ตันจื้อแตกต่างจากเจี้ยนจางเซิงเขารู้สึกว่ายังไงเขาก็ตายอยู่ดี
ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มอาจทำให้ตายช้าลงเล็กน้อย แต่เขาจะต้องตายอย่างน่าอึดอัด โดยไม่มีความสำคัญ ตอนนี้เขายืนยันให้สู้ตัวต่อตัว เขาจะต้องแพ้ในวินาทีเดียวที่สู้
เขาจะเสียใจมากถ้าเจี้ยนจางเซิงจะกบฏในตอนนี้ ถ้าเขายืนหยัดอยู่ด้วยกันและตอนนี้พวกเขายืนอยู่บนยอดเขาช่วยค้ำฟ้าด้วยกันถ้าพวกเขาตายก็คงตายตาหลับ แต่ถ้าตอนนี้ยังพลาดโอกาสอย่างนี้เวลาคงไม่หวนกลับมาอีก ไม่ทำอะไรในตอนนี้เลยนักสู้ระดับเทพผู้นี้คงเสียใจไปทั้งชีวิต
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อไม่เห็นศัตรูอย่างชี่ตันจื้ออยู่ในสายตา
เขาเป็นเหมือนสิงโตที่คำรามใส่หนูอย่างดุเดือดใส่หนูตัวเดียว
เขาไม่สนใจ
ความเจ็บปวดเสียดแทงหัวใจชี่ตันจื้อเขาพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกศรและมือทั้งสองภายใต้การสนับสนุนของบัลลังก์เทพเขากลั่นสร้างดาบเทพขนาดพันเมตรพุ่งเข้าหาหัวใจของจิ๋วซื่อ
สู้ให้เต็มที่แม้จะไม่ชนะก็ตาม
พุ่งเข้าหาศัตรูอย่างกล้าหาญ!
แม้เขาจะนอบน้อมถ่อมตัวแต่เขาก็คือนักรบคนหนึ่ง และเขายังเป็นนักรบระดับเทพที่เคยปกครองแดนสวรรค์ด้วย!
เมื่อเห็นว่าชี่ตันจื้อสู้อย่างสิ้นหวังเทพนักรบจากทะเลมรณะที่ร่วมมือกันสู้ศัตรู ได้แต่ถอยกลับไปอย่างเงียบๆและแม้แต่เทพผอมสูงที่ก็แปลงร่างเป็นแสงเทพหลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอยเจี้ยนจางเซิงหลับตาลง เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งของสหายคนนี้ดีนับประสาอะไรกับการต่อสู้กับจักรพรรดิไร้เทียมทานที่มีช่องว่างมาก
จื้อจุนไม่มองชี่ตันจื้อ
แต่กลับมองไปที่ตำแหน่งทะเลมรณะห่างออกไป ราวกับว่านางจะกักศัตรูและค้นหาร่องรอยศัตรู
จักรพรรดิไร้เทียมทานยังคงก้าวไปข้างหน้าไม่สนใจชี่ตันจื้อและรอจนดาบเทพของชี่ตันจื้อลอยมาถึงเขาบังคับให้ร่างลอยขึ้นหนึ่งฟุตและย่ำดาบศักดิ์สิทธิ์อย่างหนักจนดาบแตกสลายเป็นชิ้นๆพร้อมกับบัลลังก์เทพ เขาก้าวหน้าเข้าสู่สะพานงูลอยฟ้า
“จงออกมาเทพพิทักษ์ทะเลมรณะ จะหลับหดหัวเป็นเต่าในกระดองอยู่ทำไม! ออกมา วันนี้จะเป็นจุดจบของเทพมารทะเลมรณะ” จักรพรรดิไร้เทียมทานก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่มีใครเทียบ เหล่าเทพแห่งทะเลมรณะที่สู้อย่างกล้าหาญในตอนนี้ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ หลังจากที่ชี่ตันจื้อถูกเหยียบด้วยเท้าเพียงข้างเดียวไม่มีใครกล้าท้าสู้แบบชี่ตันจืออีก
“น่าขัน!”
มีเสียงของบุคคลที่มีสง่างบารมีดังขึ้นที่ปลายสุดสะพานงูลอยฟ้าห่างไกลออกไป
ในส่วนลึกของทะเลมรณะมีร่างรูปปั้นยักษ์ขนาดหลายหมื่นเมตรค่อยๆ ยืนขึ้นเขาก้าวออกมาต้อนรับจักรพรรดิไร้เทียมทาน “จุดจบของโลกแกนสมดุลโลกจะต้องมาถึงในวันที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แบนราบทะเลมรณะก็จะถูกกำจัด แล้วเจ้าจะกล้าปกป้องทะเลมรณะได้อย่างไร! ข้าช่วยไม่ได้จริงๆ จิ๋วซื่อเจ้ากำลังสู้กับสวรรค์ เจ้าจะต้านฟ้าได้อย่างไร หายนะกำลังมาเยือน”
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเปล่งรังสีฆ่าฟันและจ้องมองศัตรูและลอยขึ้นไปบนท้องฟ้ามองไปทางศัตรูของเขาจากระยะไกลดวงตาที่เหมือนดวงสุริยันต์จันทราฉายเป็นประกาย ชะตาข้าคือจุดจบของเจ้า รวมทั้งโลกแกนสมดุลโลก แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้ขั้นแตกหักขั้นสูงสุดของจอมราชันย์ทั้งหมด แม้ว่าเจ้ากับข้าจะเป็นผู้มีคุณสมบัติเข้าร่วมต่อสู้จากรุ่นก่อนแต่ก็ล้มเหลวทั้งคู่ วันนี้ข้าจะมาถึงจุดที่สิ้นสุดทั้งหมดและแก้ไขข้อผิดพาดของข้าให้กลับบสู่แนวทางที่ถูกต้องดั้งเดิม”
“เจ้าอาศัยอะไร”ยักษ์สูงหมื่นเมตรจ้องตอบ
“เพราะข้าคือจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ!”
**** **** ****